พอพวกเราแยกย้ายกันเสร็จ ฉันก็ชวนอีอาร์ตและอีมิ้งมานอนเป็นเพื่อน ตั้งวงอยู่กลางเตียง ผ้าห่งผ้าห่มที่มีก็ถูกเอามาคลุมทั้งตัวเหลือโผล่มาแต่เสี้ยวหน้าพอให้เห็นหน้ากัน ฉันหรี่สายตาก่อนจะเป็นคนเริ่มประเด็น “แก ฉันว่ามันใช่แน่” “อีหวาน แกอย่ามาพูดตอนกลางค่ำกลางคืนแบบนี้สิ ฉันกลัวนะ!” อีอาร์ตโวยวายขณะที่มันพลิกนาฬิกาสีดำขึ้นมาให้พวกฉันดูว่ามันตีเข็มที่สามนาฬิกาห้านาที เป็นเวลาที่สมควรจะนอนได้แล้ว แต่ไม่มีใครกล้าหลับลง หลังจากที่ฉันเล่าสิ่งที่ฉันเจอ และเอามารวมกับที่เซฟและหลินเล่า ฉันก็เข้าใจได้อย่างเดียวคือ... ผี! ผีแน่ๆ! “แกว่าเจมันจะรู้มั้ยวะ” ฉันตั้งโต๊ะถกพร้อมกับฟาดหน้าแข้งตัวเองหนึ่งทีเพื่ออรรถรสในการเม้าส์ พวกเราสามคนนั่งจ้องตากันปริบๆ ท่ามกลางความเงียบและเสียงหวีดเบาๆ ของแอร์คอนดิชั่น อื้อหือ ณ จุดนี้ อีหวานบอกเลยว่าเพิ่มความหลอนเข้าไปอีกสิบระดับ “ก็เป็นไปได้นะแก คำพูดนางดูมีเลศนัยอ่

