บทที่ 3 - 1/2

1150 คำ
ภูผาก้าวลงจากรถตู้ของบริษัทที่มาส่งถึงหน้าบ้านด้วยสีหน้านิ่งขรึม แต่ในหัวของเขากลับไม่ยอมอยู่นิ่งตาม เพราะยังคงวนเวียนกับคำพูดของ ยัยเตี้ยตาโต ที่พูดใส่เขาเมื่อวันก่อน หลังจากจบการอัดรายการเพลงชื่อประหลาดนั่นไป ตอนนั้นเขาโกรธมาก...โกรธจนแทบอยากเดินหนีออกจากสตูฯ ไปให้ไกลจากเสียงของเธอ แต่พอเวลาผ่านไป เขากลับนั่งคิดซ้ำไปซ้ำมา...แล้วก็ค่อย ๆ ยอมรับอย่างพ่ายแพ้ในใจว่า ยัยนั่นพูดถูกทุกอย่าง “ในเมื่อคุณรับงานแล้ว ก็ช่วยมีความรับผิดชอบหน่อยเถอะ ทำให้สุดความสามารถ ไม่ใช่มายืนเฉย ๆ แบบนี้ ถ้าคุณไม่ตั้งใจจริง ก็ลาออกไปซะ...” เสียงใส ๆ ของเธอยังดังก้องอยู่ในหัว ไม่ว่าจะพยายามสลัดออกแค่ไหนก็ตาม เขาถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก็แค่โดนเด็กผู้หญิงตัวเล็กว่ากลับไม่กี่คำ ทำไมถึงรู้สึกเหมือนโดนตีแสกหน้าแบบนี้ก็ไม่รู้ สุดท้าย...เขาก็ต้องยอมจำนนต่อความจริง ภูผาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาพี่โชค ผู้จัดการส่วนตัวที่ดูแลเขามาตั้งแต่เข้าวงการ พี่ชายอีกคนที่รู้จักนิสัยเขาดีที่สุด “พี่โชคครับ...ส่งสคริปต์เทปต่อไปมาให้ผมหน่อยนะครับ” เสียงเขานิ่งแต่แน่วแน่กว่าทุกครั้ง หลังจากวางสาย เขาเผลอยกมุมปากขึ้นนิด ๆ อย่างขัดใจตัวเอง “หึ...ยัยเตี้ยตาโต ปากจัดขั้นเทพเลย...คราวนี้ฉันจะทำให้ดูเลยว่าฉันก็ทำได้เหมือนกัน และจะทำได้ดีกว่าเธอแน่นอน” ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ในใจกลับมีบางอย่างแปลก ๆ เหมือนรู้สึกอยากเอาชนะก็จริง...แต่ก็แอบอยากเห็นเธอยิ้มชมเขาสักครั้งด้วยเหมือนกัน ... และแล้ว...วันศุกร์แสนบันเทิง ก็มาถึง! อันอันตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่ทันขัน มานั่งท่องบทพูดของรายการสดที่จะอัดในคืนนี้อย่างขะมักเขม้น ถึงขั้นท่องบทของตัวเอง แถมบทของตาซันซัน ไปด้วย กลัวเหลือเกินว่าคุณชายจะมานั่งทำตาปรือแล้วไม่ได้ท่องบทมาอีกเหมือนคราวก่อน ไม่นานนัก เจ๊หวานก็ขับรถตู้คู่ใจมารับตามเวลานัดเหมือนทุกที พอขึ้นรถได้ เจ๊ก็เปิดประเด็นทันที เสียงใสแจ๋วไม่แพ้ดีเจมืออาชีพ “เมื่อกี้เจ๊เพิ่งคุยกับคุณโชค ผู้จัดการของน้องซันสุดหล่อมา เขาบอกว่างานคืนนี้ฉลุยแน่นอน! น้องซันท่องบทมาครบทุกคำ ไม่ต้องห่วงเลยนะน้องอันของพี่ วันนี้ไม่ต้องเหนื่อยเหมือนเทปที่แล้วแล้วจ้า~” พูดจบ เจ๊ก็ส่งสายตาหวานฉ่ำพร้อมทำเสียงยานคางตอนพูดคำว่า “น้องซันสุดหล่อ” อันอันได้แต่ลอบกลอกตามองบน แหม~ ทีอย่างนี้ละเสียงอ่อนเสียงหวานเชียวนะเจ๊! ผู้ชายมาทีไร ฉันนี่ตกกระป๋องทุกทีสิน่า! เธอแอบเบ้ปากใส่กระจกบังลมรถ ก่อนตอบกลับเสียงงัวเงียปนประชดเล็กน้อย “ก็ขอให้จริงเถอะเจ๊! นี่อันยังอุตส่าห์ท่องบทเผื่อเขามาด้วยนะ กลัวใจเหลือเกินว่าเจ้าชายใบ้จะไม่ท่องบทมาอีก” เจ๊หวานหัวเราะเสียงดัง “ไม่ต้องห่วงจ้ะ คุณโชคเขายืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะเลย งานนี้ไม่มีพลาดแน่นอน!” เมื่อรถตู้มาถึงสตูดิโอ ทั้งคู่ก็รีบลงจากรถอย่างคนคุ้นเคยกับกลิ่นเครื่องสำอางและแสงไฟสตูดิโอ อันอันยิ้มกว้างทันทีเมื่อเห็นชุดที่ทีมงานเตรียมไว้ให้...ชุดนางฟ้าสีขาวระยิบระยับพร้อมปีกนางฟ้าข้างหลังสมใจอยาก! “โอ๊ยยย ชุดนี้แหละที่ฉันรอคอย!” เธอพูดเสียงใสพลางหมุนตัวหน้ากระจกไปมา ราวกับตัวเองเป็นนางฟ้าที่กำลังจะบินขึ้นเวทีสวรรค์ ในหัวอันอันเริ่มจินตนาการภาพตัวเองในชุดนี้บนเวที เสียงเพลง เสียงกรี๊ด และแสงไฟที่ส่องต้องปีกสีขาวสะท้อนระยิบระยับ... เธอยิ้มหวานกับเงาตัวเองในกระจกก่อนพูดพึมพำเบา ๆ “คืนนี้... นางฟ้าอันอันพร้อมแล้วค่ะ!” … เสียงดนตรีเปิดรายการสดดังขึ้นพร้อมไฟเวทีสว่างวาบทั่วสตูดิโอ กลางเวทีนั้น “อันอัน” ในชุดนางฟ้าสีขาวระยิบระยับยืนยิ้มสดใสอยู่ข้าง ๆ “ซันซัน” ชายหนุ่มในสูทดำหางยาวเรียบหรู หนึ่งในสมาชิกบอยแบนด์ดาวรุ่งที่กำลังมาแรงสุด ๆ ในตอนนั้น “สวัสดีค่า~ ยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการ เพลงเพลินบันเทิงใจ! กับอันอัน~” เธอกล่าวเสียงใส พร้อมโบกมือทักทายผู้ชม ยิ้มหวานกลบความตื่นเต้นที่ซ่อนอยู่ในอก ซันซันยิ้มบาง ๆ ก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงเรียบแต่แฝงแววขี้เล่น “แล้วก็ผม...ซันซันครับ วันนี้นางฟ้าตัวน้อยของพวกเรา...” เขาหยุดเว้นจังหวะเล็กน้อย ก่อนกวาดสายตามองอันอันตั้งแต่หัวจรดเท้า สายตาแอบหยุดอยู่ที่ปีกสองอันด้านหลังนานกว่าปกติ แล้วเอ่ยต่อช้า ๆ พร้อมยิ้มมุมปากอย่างยียวน “...ดูจะ สูงกว่าปกติ นะครับ” เสียงหัวเราะจากผู้ชมระเบิดขึ้นทันที อันอันชะงัก หันขวับไปมองเขาตาโตปานลูกแมวโดนแย่งอาหารไปต่อหน้า อีตานี่! หาว่าฉันเตี้ยเหรอ!? 165 เซนฯ นี่ถือว่ามาตรฐานสาวไทยเลยนะยะ! จะให้สูง 185 เซนฯ เท่าเสาไฟฟ้าอย่างนายหรือไง!? เธอแอบบ่นในใจอย่างเข่นเขี้ยว แต่บนใบหน้ายังประดับรอยยิ้มหวานสู้กล้องไว้เต็มพิกัด ซันซันยิ้มมุมปาก เลิกคิ้วนิด ๆ เหมือนจะยั่วต่ออีกหน่อย อันอันเลยหันกลับมายิ้มกล้องพลางพูดเสียงหวานปนประชด “วันนี้ คุณซันซันของเราก็น่ารักเหมือน...นกเพนกวิน เลยนะคะ~” เสียงฮาและเสียงปรบมือดังสนั่นทั่วสตูดิโอ ผู้ชมต่างหัวเราะกันลั่นกับการโต้ตอบสดที่ดูเหมือนด้นสด แต่กลับเข้าขากันอย่างน่าประหลาด ซันซันหน้าเหวอไปเสี้ยววินาทีก่อนหัวเราะออกมาเบา ๆ ส่วนอันอันก็พยายามกลั้นยิ้มจนแก้มพอง ทั้งคู่ยืนเคียงกันกลางเวทีท่ามกลางแสงไฟระยิบระยับ...ภาพนั้นเหมือนถูกโชคชะตาขีดไว้ให้เป็น “โมเมนต์พิเศษ” ที่ใครได้เห็นก็ต้องยิ้มตาม ระหว่างที่เสียงหัวเราะยังไม่จาง อันอันเหลือบมองซันซันอีกครั้ง... แววตาเขาดูมีชีวิตชีวาเหมือนเด็กซนที่ได้แกล้งเพื่อนสำเร็จ แต่ในแวบนั้นเอง หัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล ใครจะคิด... ว่าการแซวเล่น ๆ บนเวทีวันนั้น จะกลายเป็นภาพจำที่ยังชัดเจนในหัวใจเธอ แม้จะผ่านไปเป็นสิบปีแล้วก็ตาม... …
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม