ตอน อกหักทั้งๆที่มีผัวเป็นตัวเป็นตน
ใครจะไปคิดว่า... ผู้หญิงที่เพียบพร้อมอย่างฉัน ริสา สะใภ้ตระกูลอัครเดชา จะกลายเป็นคนเสพติดเซ็กส์ เล่นชู่สู่ชายจนถอนตัวไม่ขึ้น
หลังจากวันนั้น กิจวัตรประจำวันของฉันก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากที่เคยไปฟิตเนสสัปดาห์ละ 3 วัน กลายเป็นว่าฉันต้องขับรถออกจากบ้าน "ทุกวัน" ในเวลาเดิม คือสิบโมงเช้า โดยอ้างกับคุณหญิงแม่และสามีว่าฉันจ้างครูฝึกส่วนตัวเพื่อฟิตหุ่นเตรียมพร้อมสำหรับการมีลูกอย่างจริงจัง
แต่ความจริงคือ... ฉันไม่ได้เฉียดกรายเข้าไปใกล้อุปกรณ์ออกกำลังกายเลยแม้แต่นิดเดียว
รถสปอร์ตของฉันมุ่งหน้าตรงไปยังโรงแรมที่นัดหมายกับ "เก่ง" ทุกวัน ห้องพักหมายเลขเดิม เตียงเดิม และกลิ่นเดิมๆ กลายเป็นวิมานฉิมพลีที่ฉันโหยหา
ความสัมพันธ์ของเราพัฒนาก้าวข้ามแค่เรื่องบนเตียงไปไกล เก่งทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กสาววัยรุ่นที่เพิ่งมีแฟนคนแรก หลังจากที่เราพลอดรักกันอย่างดุเดือดจนเหงื่อท่วมเตียง เสร็จสมกันไปคนละสองสามน้ำ เราไม่ได้รีบแยกย้ายกันเหมือนวันแรกๆ
เราเริ่มนอนกอดก่ายคุยกัน สั่งอาหารรูมเซอร์วิสมาทานบนเตียง ป้อนกันไปมา นอนดูหนังจากเน็ตด้วยกันโดยที่ร่างยังเปลือยเปล่า ฉันซุกหน้าลงกับอกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขา ฟังเสียงหัวใจที่เต้นตุบๆ มันช่างอบอุ่นและปลอดภัยอย่างน่าประหลาด
ฉันหลงใหลในความดิบเถื่อนแต่ขี้อ้อนของเขา หลงใหลในแท่งเอ็นที่แข็ง ตึงเปรี๊ยะ และพร้อมจะสนองตอบตัณหาของฉันได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ฉันเริ่มซื้อของขวัญแพงๆ ให้เขา นาฬิกา เสื้อผ้าแบรนด์เนม เพียงเพราะอยากเห็นรอยยิ้มดีใจของเขา
ฉันกำลัง... "อิน" กับบทบาทชู้รัก จนลืมความจริงที่ว่าฉันมีผัวเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว
...
บ่ายวันศุกร์ที่แสนสดใส
หลังจากเสร็จกิจกามอันเร่าร้อนรอบเช้า เราอาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จเรียบร้อย วันนี้เก่งไม่มีสอนช่วงบ่าย เขาอ้อนวอนขอให้ฉันไปเดินเที่ยวเป็นเพื่อนเขา
"ไปเดินห้างกันนะครับริสา ผมอยากกินชาบู แล้วก็อยากดูหนังเรื่องใหม่ด้วย ไปกับผมนะ นะครับคนดี" เก่งจับมือฉันแกว่งไปมา ทำตาปริบๆ เหมือนลูกหมาตัวโต
ใจฉันอ่อนยวบยาบ ทั้งที่รู้ว่ามันเสี่ยง แต่ความประมาทและความสุขที่บังตาทำให้ฉันตอบตกลง
"ก็ได้ค่ะ แต่ห้ามเดินจับมือนะ เดี๋ยวคนเห็น" ฉันกำชับ
เราขับรถไปที่ห้างสรรพสินค้าหรูใจกลางเมือง ฉันสวมแว่นกันแดดอันใหญ่เพื่อปกปิดใบหน้าครึ่งหนึ่ง คิดในใจว่าคงไม่มีใครจำฉันได้หรอก เพราะปกติฉันไม่ค่อยออกงานสังคม และรูปในโซเชียลก็มีแต่รูปที่แต่งเต็มยศ ไม่ใช่ลุคสาวจนๆแบบนี้
เราเดินเลือกซื้อของและทานชาบูกันอย่างมีความสุข เก่งคอยตักอาหารให้ฉัน ดูแลเอาใจใส่จนฉันเผลอยิ้มออกมาไม่หุบ ความรู้สึกสดชื่นเหมือนดอกไม้แห้งที่ได้รับน้ำฝนชโลมใจ มันทำให้ฉันลืมโลกความจริงไปชั่วขณะ
แต่แล้ว... ฟ้าก็ผ่าลงมากลางห้าง
ขณะที่เรากำลังเดินออกจากโรงหนัง เก่งเดินเคียงข้างฉัน เราหัวเราะคุยกันเรื่องมุกตลกในหนัง จู่ๆ ก็มีเสียงแหลมสูงตะโกนดังลั่นมาจากด้านหลัง
"ไอ้เก่ง!!"
เราทั้งคู่สะดุ้งสุดตัว หันขวับไปมองต้นเสียง
หญิงสาววัยรุ่นรูปร่างผอมเพรียว หน้าตาสะสวยแบบพริตตี้ที่ผ่านมีดหมอมาครบเซ็ต ผิวขาวโอโม่จนเกือบเรืองแสง ยืนจ้องหน้าเราด้วยดวงตาที่ลุกโชนไปด้วยไฟโทสะ เธอสวมชุดเดรสสั้นกุดโชว์นมตู้ม
"นุ่น..." เก่งหน้าซีดเผือด ปล่อยมือที่เผลอจับแขนฉันออกทันที
"พี่บอกหนูว่าติดสอน! แล้วอีป้านี่ใคร!"
ผู้หญิงที่ชื่อนุ่น สาวพริตตี้แฟนสาวของเก่ง ปรี่เข้ามาหาพวกเราอย่างรวดเร็ว เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นดัง ตึก ตึก ตึก เหมือนเสียงระฆังมรณะ
"นุ่น... ใจเย็นๆ ก่อน นี่ลูกค้า..." เก่งพยายามแก้ตัวเสียงสั่น
"ลูกค้าอะไร ลูกค้าที่ไหนเดินเบียดนมกันขนาดนี้! พี่นอกใจหนูใช่ไหมพี่เก่ง!"
นุ่นไม่ฟังเสียง เธอผลักอกเก่งจนเซ แล้วหันขวับมาจ้องหน้าฉัน สายตาของเธอมองสำรวจฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความเหยียดหยาม
"ไม่มีปัญญาหาผัวเองเหรอ ถึงมาแย่งผัวชาวบ้าน!"
คำด่าของเธอเหมือนน้ำร้อนสาดหน้า ฉันชาไปทั้งตัว ความกลัว แล่นแปล๊บ เข้าสู่หัวใจ ไม่ใช่กลัวโดนตบ แต่กลัวคนจะมุงดู กลัวความลับจะแตก
"น้องคะ เข้าใจผิดแล้วค่ะ พี่แค่..."
เพี๊ยะ!!!
ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบ ฝ่ามือเรียวสวยที่ติดเล็บเจลยาวเฟื้อยของนุ่นก็ฟาดลงบนใบหน้าของฉันเต็มแรง
แรงตบของเด็กสาววัยรุ่นที่เต็มไปด้วยความหึงหวงทำให้หน้าฉันสะบัดไปตามแรง ใบหน้าซีกซ้ายชาหนึบ รสเค็มปร่าของเลือดซึมออกมาที่มุมปาก ฉันเซถลาจนเกือบล้มลงไปกองกับพื้น ดีที่เกาะราวระเบียงไว้ทัน
ผู้คนรอบข้างเริ่มหยุดเดินและหันมามอง บางคนยกมือถือขึ้นมาถ่ายคลิป
"หยุดนะนุ่น! อย่าทำคุณริสา!" เก่งพยายามเข้ามาห้าม แต่ก็โดนนุ่นทุบตีไม่ยั้ง
วินาทีนั้น สมองของฉันประมวลผลอย่างรวดเร็ว
ถ้าฉันสู้... เรื่องจะบานปลาย ตำรวจอาจจะมา นักข่าวอาจจะมา
ถ้าคลิปนี้หลุดออกไป แล้วมีคนจำได้ว่าฉันคือ ภรรยาของคุณเหม...สะใภ้หมึ่นล้าน
ชีวิตฉันจบสิ้นแน่!
สามีจะฆ่าฉัน แม่สามีจะเหยียบซ้ำสังคมจะประณาม และฉันจะถูกถีบหัวส่งออกจากตระกูลโดยไม่เหลืออะไรเลย แม้แต่ศักดิ์ศรี
ฉันตัดสินใจกลืนความเจ็บปวดและความโกรธแค้นลงคอ ยกกระเป๋าถือใบหรูขึ้นมาปิดบังใบหน้า แล้วหันหลังวิ่งหนีออกจากจุดเกิดเหตุทันที
"เฮ้ย! จะหนีไปไหน อีเมียน้อย! กลับมานะ!" เสียงนุ่นตะโกนไล่หลังมา แต่ฉันไม่หันกลับไปมอง
ฉันวิ่ง... วิ่งอย่างไม่คิดชีวิต วิ่งทั้งที่น้ำตาไหลพราก วิ่งผ่านสายตาผู้คนที่มองมาด้วยความสมเพช ฉันวิ่งไปที่ลานจอดรถ มือสั่นเทาควานหากุญแจรถ กดปลดล็อกแล้วแทรกตัวเข้าไปนั่งในรถสปอร์ตคันหรู
ทันทีที่ปิดประตูรถ โลกภายนอกก็เงียบสงบลง เหลือเพียงเสียงลมหายใจหอบถี่และเสียงสะอื้นของฉัน
ฉันมองกระจกมองหลัง เห็นแก้มซ้ายตัวเองบวมแดงเป็นปื้น รอยนิ้วมือชัดเจน เลือดซิบที่มุมปาก สภาพดูไม่ได้เลย
"ฮึก... ฮือ..."
ฉันฟุบหน้าลงกับพวงมาลัยรถ ร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น ความเจ็บปวดที่หน้าเทียบไม่ได้เลยกับความเจ็บปวดที่ใจ
ฉันเป็นถึงคุณนายหมื่นล้าน... มีคนนับหน้าถือตา มีเกียรติยศชื่อเสียง แต่กลับต้องมาโดนเด็กพริตตี้ตบหน้ากลางห้าง แล้วต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนเหมือนสุนัขจนตรอก เพียงเพราะความมักมากในกามของตัวเอง
ฉันขับรถกลับบ้านด้วยความระมัดระวัง ขอบคุณสวรรค์ที่ไม่มีใครรู้จักหน้าฉันจริงๆ จังๆ เพราะฉันเก็บตัวเงียบมาตลอด
เมื่อถึงคฤหาสน์ ฉันรีบวิ่งขึ้นห้องนอน ล็อกประตูแน่นหนา ทรุดตัวลงนั่งหน้ากระจกเครื่องแป้ง มองดูร่องรอยความอัปยศบนใบหน้า
ฉันหยิบน้ำแข็งมาประคบแก้ม ร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนอกหัก ทั้งๆที่มีสามีเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว
ฉันเสียใจ... เสียใจที่ปล่อยใจไปรักเก่ง เสียใจที่ลดตัวลงไปเกลือกกลั้วกับคนที่สถานะต่างกัน และเสียใจที่เกือบจะทำลายชีวิตตัวเอง
"พอแล้ว... พอสักที ริสา"
ฉันพูดกับตัวเองในกระจก ปาดน้ำตาทิ้งอย่างแรง
ความเจ็บปวดครั้งนี้เป็นบทเรียนที่สาสมแล้ว ความรักความหลงใหลแบบชู้สาวมันคือนรกบนดิน มันนำมาซึ่งความหายนะ
ฉันสูดหายใจลึก แววตาที่เคยอ่อนไหวกลับมาแข็งกร้าวอีกครั้ง
จากนี้ไป... จะไม่มีคำว่า "รัก" หรือ "ความผูกพัน" ในสมรภูมิการล่าน้ำรักของฉันอีก
เก่ง... เป็นแค่อดีต เขาทำหน้าที่ของเขาจบแล้ว และเขาก็พาปัญหามาให้ฉัน ฉันจะตัดเขาออกจากชีวิตทันที
เป้าหมายของฉันมีเพียงอย่างเดียว คือ "การตั้งท้อง"
ฉันจะไม่หา "แฟน" หรือ "ชู้รัก" อีกต่อไป... ฉันจะหาแค่ "พ่อพันธุ์"
ผู้ชายคนต่อไปที่จะเข้ามาในชีวิตฉัน จะเป็นเพียงแค่เครื่องมือทางชีวภาพ เป็นแค่ท่อนเนื้อที่มีหน้าที่ฉีดน้ำเชื้อ แล้วก็จบกันไป ไม่มีกินข้าว ไม่มีดูหนัง และไม่มีความรู้สึกใดๆ เข้ามาเจือปน
ฉันลุกขึ้นยืน แต่งหน้ากลบรอยช้ำ เตรียมตัวลงไปทำอาหารไว้รอสามีที่แสนดี ด้วยหัวใจที่ด้านชาและเป้าหมายที่ชัดเจนยิ่งกว่าเดิม