ตอนที่ 4 นับศูนย์

1663 คำ
ในที่สุดวันที่มุมกระดาษโพสต์อิทถูกกำกับไว้ด้วยเลขศูนย์ก็มาถึง พีชมนมองดูกระดาษโพสต์อิทสีเหลืองแผ่นนั้นถูกขยำทิ้งลงถังขยะ จากนั้นเธอก็ทำตามหน้าที่ของตัวเองรายงานตารางงานของเขา ก่อนที่จะเดินออกมาแล้วนั่งนิ่งอยู่บนโต๊ะทำงานของตนเองครู่หนึ่ง มือเรียวเอื้อมไปหยิบซองสีขาวอยู่ในช่องลิ้นชักออกมา เธอได้กรอกข้อมูลลงไปอย่างครบถ้วนแล้ว และถึงเวลาที่เธอจะทำให้ทุกอย่างยุติลงในทันที หญิงสาวไปที่แผนกบุคคลพร้อมด้วยจดหมายลาออก ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเป็นคนรับจดหมายด้วยตนเอง แล้วถามถึงเหตุผลที่เธอลาออกพอเป็นพิธี เพราะในใบลาออกนั้นมีลายเซ็นของเจ้าของบริษัทรับทราบแล้ว หน้าที่ที่จะรั้งหรือจูงใจให้อยู่ต่อจึงเป็นเพียงแค่การทำตามขั้นตอนเท่านั้น “ในนี้ระบุว่าให้คุณลาออกได้เลยทันที แต่ในใบลาออกคุณพีชบอกว่าจะอยู่ช่วยงานต่อจนถึงเย็นวันพุธหน้า” ผู้จัดการฝ่ายบุคคลถามเพื่อความแน่ใจ “ใช่ค่ะ วันนี้คือวันทำงานวันสุดท้าย แต่ว่าพีชจะอยู่ช่วยจัดงานวันเกิดของคุณกวินก่อนน่ะค่ะค่อยไป ยังไงก็งานสุดท้ายแล้วก็เลยกะว่าจะทำให้ออกมาดีที่สุด” เธอตอบด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มไม่ได้มีอาการเศร้าหรือเสียดายตำแหน่งของตนเองแต่อย่างใด “ตกลงครับ” ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเก็บใบลาออกนั้นเข้าแฟ้มด้วยตนเอง เรื่องนี้เขาไม่จำเป็นต้องรายงานกวิน เพราะในใบลาออกก็มีลายเซ็นของคนที่มีอำนาจสูงสุดในบริษัทนี้แล้ว ซึ่งก็คือตัวของกวินเอง พีชมนกลับมาเคลียร์งานของเธอที่โต๊ะแล้วตรวจดูคู่มือที่เธอจัดทำว่าเสร็จสมบูรณ์ดี ก่อนที่จะมอบคู่มือนั้นให้จารวีดูแลแทนชั่วคราว ในช่วงที่เธอยังอยู่หากมีอะไรสงสัยก็จะได้สอบถาม เพราะมีเวลาในการสอนงานเพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น “เสียดายนะคะที่คุณพีชลาออก” “ทุกบริษัท ทุกตำแหน่งก็มีหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปค่ะ วันนี้พีชไม่ออก วันอื่นก็คงต้องลาออกอยู่ดี” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติ ใบหน้ายิ้มแย้มกับเพื่อนร่วมงาน “แล้วคุณพีชได้งานทำที่ไหนคะ” จารวีถามต่อ “ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ อาจจะอยู่ดูแลคุณยายก่อน ช่วงนี้ท่านก็ไม่สบายอยู่ด้วย เรื่องงานยังไม่คิดจะไปสมัครที่ไหนในตอนนี้” เธอตอบตามความจริง ฐานะบ้านเธอแม้ไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็ถือว่ามีสมบัติเก่าอยู่พอประมาณ หลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุเธอก็เหลือเพียงคุณยายวัยชราที่ดูแลเธอมาตลอดหลายปี มันคงถึงเวลาที่เธอจะดูแลท่านในวาระสุดท้าย ************************ ในวันหยุด พีชมนตื่นเช้าอย่างเช่นทุกวัน บ้านหลังนี้เธออยู่กับคุณยายและมีพยาบาลพิเศษที่จ้างให้มาดูแลคุณยายตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง แรกๆ ก็จ้างเพียงแค่ช่วงเวลาที่เธอไม่อยู่ในตอนกลางวัน แต่ปีนี้อาการของคุณยายละมุนไม่ค่อยสู้ดีนัก เธอจึงขอให้มาดูแลและพักที่บ้าน ทำให้บ้านหลังนี้มีสมาชิกทั้งหมดสามคน เปิ้ล หรือ ปวีณา พยาบาลสาวโส ในวัยสามสิบต้นๆ ดูแลคุณยายเป็นอย่างดี แล้วยังรับหน้าที่เป็นแม่ครัวรวมไปถึงทำงานบ้านให้อีกด้วย ทำให้พีชมนรู้สึกขอบคุณเธอไม่น้อย ค่าจ้างเพียงสองหมื่นต่อเดือนแต่ก็ทำงานแทบทุกอย่างภายในบ้านโดยเฉพาะงานดูแลผู้ป่วยติดเตียง แต่ปวีณาก็ไม่เคยเรียกร้องเงินเพิ่ม แล้วยังบอกว่าอยู่ที่นี่เธอไม่ต้องจ่ายค่าเช่า ค่าอาหารก็ไม่ได้จ่าย จึงไม่ได้เรียกเงินเพิ่ม ทำให้พีชมนรู้สึกขอบคุณมาก เธอมองดูข้าวต้มหม้อใหญ่ที่อยู่ในครัวแล้วตักมานั่งกินคนเดียว จนกระทั่งกินเสร็จเธอจึงเดินเข้าไปดูคุณยาย พบว่าพยาบาลสาวกำลังคะยั้นคะยอให้คุณยายกินอาหารให้เยอะๆ พีชมนจึงอาสาที่จะป้อนคุณยายละมุนเอง “ให้พีชช่วยป้อนดีไหมคะ” “ยายไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ ยายกินเองได้” คุณยายละมุนพูด มือที่ถือช้อนสั่นเล็กน้อยขณะที่ตักข้าวต้มเข้าปาก แม้จะไม่อยากกิน แต่เมื่อมีหลานสาวนั่งมองดูอยู่ก็ตักกินอีกสองสามคำจึงวางช้อนลง สักพักปวีณาก็เอายาหลังอาหารให้คุณยายกิน จากนั้นทั้งสองก็ออกมานอกห้องให้คุณยายได้พักผ่อน ซึ่งช่วงเวลานี้ปวีณาก็ต้องรีบทำธุระส่วนตัวให้เสร็จ แล้วจึงจะกลับเข้าไปดูอาการคุณยายทุกๆ ครึ่งชั่วโมง “ถ้าวันไหนคุณพีชอยู่ด้วยคุณยายจะกินข้าวเยอะมากกว่าทุกวัน แบบนี้ต้องให้คุณพีชมานั่งให้กำลังใจคุณยายกินข้าวทุกวันแล้วนะคะ” พยาบาลสาวพูดหยอกเย้าอย่างอารมณ์ดี ขณะที่เธอกำลังนำถ้วยชามไปเก็บในครัว “วันพฤหัสฯ พีชก็ไม่ได้ไปทำงานแล้วค่ะพี่เปิ้ล น่าจะหยุดอยู่บ้านเลย จะได้ช่วยดูแลคุณยาย” “แบบนี้พี่ก็ตกงานสิคะ” “ยังหรอกค่ะพีชยังต้องรบกวนพี่เปิ้ลไปอีกนาน คุณยายต้องมีคนดูแลอย่างใกล้ชิด พีชเองถึงไม่ได้ไปทำงานแต่ก็ว่าจะรับงานมาทำที่บ้าน น่าจะดูแลคุณยายได้ไม่เต็มที่” ปวีณารู้ดีถึงอาการของคุณยายละมุนซึ่งมีแต่ทรุดลงทุกวัน หากถึงเวลานั้นเธอก็คงจะต้องไปจากบ้านหลังนี้ไป แม้จะไม่อยากให้วันนั้นมาถึง แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ไกลตัวและต้องเตรียมพร้อมรับมือเอาไว้ “คุณพีชตัดสินใจลาออกเพราะว่าอยากอยู่กับท่านในช่วงวาระสุดท้ายใช่ไหมคะ” ปวีณาถามตามตรง หญิงสาวยิ้มเศร้าแล้วพยักหน้า นั่นก็เป็นอีกเหตุผลที่เธอลาออกแล้วยังไม่คิดจะไปทำงานที่ไหน เพราะวาระสุดท้ายของคุณยายใกล้มาถึง ถึงอย่างนั้น เธอยังไม่สามารถที่จะทำให้ท่านสมหวังในเรื่องหลานเขยได้ แม่คุณยายละมุนจะไม่ได้โกรธเธอและปล่อยวางเรื่องนี้แล้ว แต่ลึกๆ ในใจหญิงสาวก็ยังรู้สึกติดค้างในคำขอของคุณยายอยู่ดี “จากนี้ไปยังไงก็รบกวนพี่เปิ้ลด้วยนะคะ ช่วยดูแลคุณยายให้ดีที่สุด” “ได้เลยค่ะคุณพีช พี่เองก็นับถือคุณยายเหมือนญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ทั้งคุณยายและคุณพี่น่ารักมาก พี่จะดูแลท่านให้ดีที่สุดค่ะ” พยาบาลสาวพูดด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ ก่อนที่จะเดินไปทำหน้าที่ของตนต่อ ************************ เช้าวันจันทร์พีชมนชงกาแฟไปวางไว้บนโต๊ะ ครั้งนี้ไม่มีโน้ตใดๆ วางมากับจานรองถ้วยกาแฟอีกแล้ว กวินมองผ่านๆ แล้วก็ไม่ได้สนใจอะไร เขารู้สึกว่าโล่งใจเสียด้วยซ้ำ และไม่ได้กล่าวถึงกระดาษโพสต์อิทของเธอแม้แต่น้อย “วันนี้ไม่มีประชุมนะคะ” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ ใบหน้าเรียบนิ่ง ก่อนที่จะก้าวถอยออกไป นับตั้งแต่วันเสาร์ที่ทุกอย่างเป็นศูนย์ เธอก็ถอดใจจากความพยายามนี้ และค่อยๆ ทำใจให้เข้มแข็ง “เดี๋ยวก่อน” เสียงทุ้มต่ำของเขาดังขึ้นมาจากด้านหลัง หญิงสาวหันหลังไปพร้อมด้วยแววตาที่ไม่ได้มีประกายกระตือรือร้น หรือว่ายิ้มแย้มอย่างที่เคยพยายามทำอยู่ตลอด “เรื่องงานวันเกิดของผมไปถึงไหนแล้ว” “เรียบร้อยดีค่ะ ทุกอย่างอยู่ในแฟ้มสีน้ำเงินด้านขวามือของคุณกวินค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงที่รักษาระดับ เขามองแฟ้มที่เธอว่าแล้วหยิบขึ้นมาเปิดดู “อืม ไม่มีอะไรแล้วออกไปทำงานเถอะ” เขาพูดพร้อมกับคิดว่าเธอดูแปลกไป ปกติเขาไม่ต้องถามก็รายงานทุกอย่างจนน่ารำคาญไปหมด “ค่ะ” เธอตอบรับ จากนั้นก็หันหลังเดินออกไปด้วยใบหน้าที่สงบนิ่ง ไม่ได้ฝืนยิ้มอย่างที่เธอมักจะทำ ตอนนี้เธอไม่จำเป็นต้องฝืนทำอะไรอีกต่อไปแล้ว ภาณุเดินสวนกับพีชมนเข้ามาในห้อง จากนั้นเขาก็ยื่นแฟ้มเอกสารให้แก่กวินโดยตรง มือของผุ้บริหารหนุ่มที่กำลังถือถ้วยกาแฟขึ้นมาจะจิบก็ตัดสินใจวางลง เขารู้สึกถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไป และมันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด “คุณกวินครับนี่เป็นใบ…” “เอาไปไว้กับเลขาฯ” ผู้บริหารหนุ่มพูดเสียงเรียบ ภาณุกำลังจะบอกว่านี่คือใบสมัครงานของตำแหน่งเลขานุการที่จะให้เขาคัดเลือก แต่เมื่อดูสีหน้าที่ดูหงุดหงิดของเจ้านายจึงเดินเอาออกไปวางไว้ให้พีชมนเป็นคนจัดการ “คุณพีชครับ ใบสมัครงานตำแหน่งเลขาฯ ฝากให้คุณกวินดูด้วยนะครับ” “อ้าว เมื่อกี้คุณภาณุเอาเข้าไปให้ คุณกวินไม่ได้ดูเหรอคะ” “ไม่ครับ อยู่ๆ ก็ดูเหมือนจะหงุดหงิดนิดหน่อย บอกให้ผมเอาออกมาไว้กับคุณพีช” หญิงสาวมองแฟ้มนั้นด้วยสายตาที่นิ่งงัน ก่อนจะพูดเสียงเรียบ “งั้นก็ให้เขาอารมณ์สงบลงกว่านี้ก่อนเถอะค่ะค่อยให้เขาดู หรือไม่ก็ให้ผ่านช่วงงานวันเกิดไปก่อนก็ได้ มีคุณจารวีทำหน้าที่แทนพีชอยู่ เขาน่าจะไม่รีบ” เป็นครั้งแรกที่ภาณุได้ยินหญิงสาวเรียกกวินด้วยสรรพนามที่ฟังดูห่างเหิน แต่เขาก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร “เอาแบบนั้นก็ได้ครับ” ภาณุเห็นด้วย เพราะเชื่อว่าคนที่รู้ใจกวินมากที่สุดก็เป็นคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าตอนนี้นี่เอง ************************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม