[ ไอริณ ]
เช้าวันต่อมา.......
“โอ้ยยยย ปวดหัววววว”
เช้านี้ฉันตื่นขึ้นมาด้วยอาการแฮงค์แบบสุดๆ ไปเลย จะเรียกว่าเช้าก็คงไม่ได้เพราะนี่มันเกือบเที่ยงเข้าไปแล้ว ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องนอนของตัวเองพร้อมกับเสื้อผ้าที่ถูกเปลี่ยนเป็นชุดนอนเรียบร้อยแล้ว เมื่อคืนกลับมาถึงบ้านยังไงยังไม่รู้เลย
ฉันลุกขึ้นนั่งอยู่บนเตียงพร้อมกับยกมือขึ้นนวดขมับของตัวเองไปด้วย จำได้ว่าเมื่อคืนเมามากแล้วก็ทะเลาะกับพี่เธียร์อยู่ที่ลานจอดรถของร้านเหล้า ดูเหมือนเขาจะรู้ความรู้สึกของฉันแล้วด้วยแล้วจากนั้นก็โดนเขาจูบ... เออ...จูบ... จูบแรกของฉัน ...เขินตอนนี้ทันไหมว่ะ?... โอ้ยๆๆ อยากจะบ้าตายไอริณทำอะไรลงไปว่ะเนี้ย!!
ติ้ง!! ในขณะที่ฉันกำลังนั่งคิดทบทวนเรื่องเมื่อคืนนี้อยู่ๆ เสียงแจ้งเตือนไลน์ก็ดังขึ้น ฉันรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูทันทีและก็เป็นมะนาวกับแพรดาวที่ไลน์มา
มะนาว : ไอริณวันนี้แกไม่มาเรียนรึไง? เป็นอะไรไม่สบายหรือเปล่า?
แพรดาว : นั่นสิ... ปกติไม่เห็นเคยขาดเรียนนี่หว่า
มะนาว : ตอบด้วยไอ้เพื่อนบ้า!!
แพรดาว : เป็นห่วงนะเว้ย ว่างแล้วก็ตอบด้วยนะยัยตัวดี
มะนาว : เดี๋ยวเย็นนี้ฉันกับแพรดาวไปหาที่บ้านนะ บายเพื่อนรัก
เฮ่ออออ!! อ่านข้อความจบฉันก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ โดดเรียนโดยไม่ได้ตั้งใจสินะไอริณ บ้าเอ้ยไม่น่าเมาขนาดนั้นเลย!....
ไอริณ : ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากแค่ไม่สบายนิดหน่อยน่ะ... ขอบใจนะเว้ย ตอนเย็นจะมาที่บ้านใช่ไหมเดี๋ยวทำอะไรไว้ให้กินละกันนะเพื่อนรัก ^_^
ตอบกลับข้อความเพื่อนพร้อมสติ๊กเกอร์ยิ้มกลบเกลื่อนความผิด เสร็จแล้วก็ลุกเดินเข้าห้องน้ำทันที พอจัดการอาบน้ำสระผมเสร็จฉันก็เดินเอาผ้าเช็ดตัวออกไปตากที่ระเบียงห้องแต่ก่อนจะออกไปฉันก็หยุดชะงักเท้าของตัวเองไว้ก่อนแป๊ปนึงพลางแอบมองไปยังระเบียงห้องของบ้านข้างๆ ด้วย ดูให้มั่นใจว่าเขาไม่ได้ยืนอยู่ที่ระเบียงห้องจริงๆ เพราะตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้าพี่เธียร์ พอดูจนมั่นใจว่าไม่มีเขาฉันก็รีบพุ่งตัวออกไปตากผ้าเช็ดตัวแล้วรีบหมุนตัวกลับเข้ามาในห้องนอนทันทีก่อนจะพาตัวเองเดินลงมาชั้นล่างของบ้าน
วันนี้บ้านเงียบเป็นพิเศษไม่รู้ว่าแม่อยู่บ้านหรือเปล่า เดินเข้าไปในห้องครัวก่อนจะหาอะไรกินเพราะตอนนี้รู้สึกหิวมาก... จัดการกินเข้าเช้าบวกข้าวเที่ยงไปด้วยเสร็จฉันก็เดินออกมานั่งอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขก นั่งไปสักพักได้ยินเสียงแม่กับป้าบัวเดินคุยกันเข้ามา
“แม่ ไปไหนมาค่ะ?” ฉันหันไปยิ้มกว้างให้แม่ก่อนที่จะรีบหุบยิ้มเพราะสายตาที่แม่มองมามันดูน่ากลัวเอามากๆ
“ยังจะยิ้มหน้าระรื่นอีก เมื่อคืนก่อเรื่องอะไรไว้จำได้รึเปล่า?!” แม่ว่าพลางเดินตรงมาหาฉันก่อนจะนั่งลงข้างๆ พร้อมกับยื่นมือมาหยิกแขนฉันเบาๆ
“โอ้ยยย!! แม่หนูเจ็บ หยิกหนูทำไมค่ะ?” ว่าพลางย่นจมูกแล้วก็ลูบแขนตรงที่โดนแม่หยิกไปด้วย
“เมื่อคืนจำได้รึเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้น? เป็นผู้หญิงแต่กลับปล่อยตัวจนเมาไม่ได้สติ ทำตัวแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะไอริณ!!” จบประโยคของแม่ฉันก็นิ่งไปเลยเพราะรู้ตัวดีว่าเมื่อคืนตัวเองเมาแค่ไหน
“ขอโทษค่ะ ต่อไปจะไม่ทำตัวแบบนี้อีกแล้วค่ะ” ฉันยกมือไหว้แม่ก่อนจะสวมกอดท่านหลวมๆ ...อ้อนไว้ก่อนเผื่อรอด...
“เรานี่นะ เฮ่อออ... แล้วเมื่อคืนหนูออกไปกับองศาไม่ใช่เหรอแล้วทำไมขากลับถึงได้กลับกับเธียร์ได้หละ?” แม่ดันฉันออกห่างเล็กน้อยก่อนจะถามคำถามออกมาพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากัน
“คือ... พอดีเจอพี่เขาที่ร้านน่ะค่ะ ก็เลยกลับมาด้วยกัน”
“นี่ดีนะที่เป็นเธียร์น่ะ หนูเมาขนาดนั้นถ้าไปเจอคนไม่ดีเข้าจะทำยังไง ต่อไปแม่คงอนุญาติให้หนูออกไปเที่ยวไม่ได้แล้วหละ”
“โธ่แม่ค่ะ หนูเมาแค่นิดเดียวเองค่ะ ยกโทษให้ลูกสาวนะค่ะ” ว่าพลางซบหน้าลงไปกับไหล่ของแม่เชิงออดอ้อนแต่มันก็ได้ผลทุกครั้ง
“อ้อนตลอด... ถ้ายังมีครั้งต่อไปอีกแม่จะโทรไปฟ้องพ่อกับพี่อาร์ตให้มาจัดการเรา” แม่หันมายิ้มให้ฉันพร้อมกับคำขู่ ฉันเองได้แต่เบ้หน้าเพราะแค่นึกถึงว่าพ่อกับพี่อาร์ตจะบ่นอะไรฉันบ้างก็ขนลุกแล้ว.....
ช่วงบ่ายแม่กับป้าบัวอบคุกกี้กันเพราะมีออเดอร์เข้ามาเกือบห้าสิบกล่องฉันจึงต้องไปช่วยเป็นลูกมือด้วย แล้วก็เลยถือโอกาสทำเค้กช็อกโกแลตให้พี่ธูร์ด้วย เพราะที่สัญญากับเขาไว้ว่าจะทำขนมให้กินตอนพี่เขากลับมาไทยตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ทำอะไรให้พี่เขาเลย...
ฉันเริ่มขั้นตอนทำเค้กช็อกโกแลตด้วยตัวเองเพราะแม่เคยสอนไว้และฉันเองก็ทำเป็นมันไม่ได้ยากอะไร ลงมือทำทุกอย่างเสร็จพร้อมกับอบเรียบร้อย นั่งรอเวลาอีกประมาณสี่สิบนาทีเค้กก็เสร็จก่อนจะพักเนื้อเค้กไว้แล้วหันไปเตรียมช็อกโกแลตซอสต่อ... สรุปฉันใช้เวลารวมเกือบสองชั่วโมงในการทำเค้กช็อกโกแลตและตกแต่งหน้าเค้กด้วยสตรอร์เบอรี่ลูกใหญ่ของโปรดของพี่ธูร์ เสร็จก็เก็บใส่กล่องแช่ไว้ในตู้เย็น...
แม่กับป้าบัวก็ยังทำคุกกี้กันอยู่ ที่บ้านของฉันส่วนของห้องครัวด้านหลังพ่อต่อเติมออกไปเป็นอีกห้องหนึ่งที่กว้างพอสมควรสำหรับวางอุปกรณ์ทำขนมของแม่และพวกเตาอบขนาดใหญ่ด้วย...
ฉันเดินเข้าไปนั่งอยู่ที่โต๊ะกลางห้องครัวก่อนจะเริ่มลงมือช่วยป้าบัวจัดคุกกี้ใส่กล่องพร้อมกับพูดคุยกับแม่ไปด้วย
“ทำเค้กให้พี่ธูร์เขาเสร็จแล้วเหรอลูก?”
“ค่ะ เสร็จแล้ว หน้าตาออกมาใช้ได้แต่รสชาติต้องลุ้นอีกทีค่ะ” ฉันว่าขำๆ มันก็แอบลุ้นจริงๆ นั่นแหละก็ฉันไม่ได้ทำมานานแล้วนี่นาแต่สูตรของแม่เป๊ะอยู่นะ น่าจะอร่อยแหละ....มั้ง? หึๆ
“แล้วของพี่เธียร์หละ? หนูไม่ทำอะไรให้พี่เขาเหรอ?” แม่หันมามองฉันพร้อมกับสายตากรุ่มกริ่มเหมือนว่าท่านกำลังค้นหาคำตอบบางอย่างอยู่
“ไม่ทำหรอกค่ะ เขาไม่ได้ขอนี่ค่ะ”
“แต่เมื่อคืนเขาอุตส่าห์พาหนูกลับมาบ้านนะแถมยังอุ้มขึ้นไปบนห้องด้วย แม่ว่าหนูทำคุกกี้อัลมอนด์ของโปรดพี่เขาหน่อยดีไหม” แม่ว่ายิ้มๆ นี่ถ้าแม่รู้ว่าเมื่อคืนเขาร้ายกาจแค่ไหนแม่จะไม่พูดแบบนี้เลยจริงๆ ฉันทำแค่ยิ้มแหย่ๆ แล้วลุกขึ้นไปเตรียมอุปกรณ์ จริงๆ แล้วก็แค่ลุกไปหยิบอัลมอนด์ที่แม่อบใส่โหลใสไว้แล้วเอามาแปะลงบนหน้าคุกกี้ที่แม่เตรียมไว้เท่านั้นแหละค่ะ ฉันนั่งทำไปสองถาดใหญ่เพราะทำเผื่อมะนาวกับแพรดาวด้วย พอนึกขึ้นได้ว่าเพื่อนจะมาบ้านก็เลยรีบบอกแม่
“วันนี้มะนาวกับแพรดาวจะมาหาหนูที่บ้านนะค่ะแม่”
“อ้าวเหรอ งั้นทำอะไรไว้ให้เพื่อนหนูกินดีนะ”
“หมูกะทะไหมค่ะ หนูอยากกินหมูกะทะค่ะ ไม่ได้กินนานแล้วด้วย” ฉันฉีกยิ้มกว้างทันที
“ก็ดีนะ เออ! หนูลองชวนพี่แฝดมาด้วยสิ ตั้งแต่กลับมาเรายังไม่ได้เลี้ยงต้อนรับเขาเลยนะ”
“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ตอนจะไปไม่เห็นจะบอกลา ตอนกลับมาทำไมต้องทำอะไรให้ด้วยหละค่ะ” พูดมาถึงตอนนี้ก็รู้สึกโมโหพี่เธียร์ขึ้นมา ชิ!!
“หนูโกรธอะไรพี่เขาหรือเปล่า?” แม่เอียงคอมองหน้าฉันเหมือนกำลังจับผิด
“เปล่านี่ค่ะ หนูกับพี่ธูร์ไม่ได้โกรธอะไรกัน”
“แม่หมายถึงเธียร์” จบคำของแม่ทำเอาฉันเงียบไปเลย
“แม่รู้นะว่าหนูกับเธียร์เหมือนมีอะไรที่ยังไม่เข้าใจกัน แม่พูดถูกใช่ไหม?” แม่ว่าพลางเดินมานั่งลงข้างๆ ฉันด้วย
“......” เงียบ ฉันทำได้แค่เงียบจริงๆ มือสองข้างผสานเข้าหากันแน่น
“โกรธที่พี่เขาไปเรียนต่อแล้วไม่ได้บอกเราใช่ไหม?”
“......”
“แม่ว่าพี่เขาคงมีเหตุผลของเขานะ แม่ไม่อยากให้หนูมีปัญหากับพี่เขานะ” แม่ยื่นมือมาจับมือของฉันไว้พร้อมกับจ้องตาฉันนิ่งๆ ใบหน้าของท่านเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มบางๆ
“ค่ะ เรื่องนั้นหนูคุยกับพี่เขาแล้วค่ะ ตอนนี้ก็ไม่ได้โกรธอะไรแล้ว เรื่องมันผ่านมานานแล้วค่ะ... ตอนนี้หนูอยากเดินไปข้างหน้าแล้วไม่อยากคิดเรื่องเก่าๆ อีก”
“หมายความว่าไง เดินไปข้างหน้า?...”
“เออ....” ตายแล้วไอริณดันเผลอโป๊ะให้แม่รู้ซะได้ เอาไงดีเนี้ย ฉันรีบเบื้อนหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาจับผิดของแม่
“หนูชอบเธียร์ใช่หรือเปล่า?”
“แม่!!” คำถามของแม่ทำเอาฉันเบิกตากว้างเลย แต่แม่กลับยิ้มกรุ่มกริ่มมองหน้าฉัน
“เอาเถอะ ถ้ายังไม่อยากบอกแม่ตอนนี้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าพร้อมเมื่อไรต้องบอกแม่นะ” ว่าแล้วแม่ก็ยิ้มกว้างก่อนลุกเดินไปทำคุกกี้ต่อ ฉันที่ตอนนี้เหมือนจะสติหลุดไปชั่วครู่รีบสะบัดหน้าแรงๆ ก่อนจะหันมาตั้งใจทำงานตรงหน้าต่อ เสร็จแล้วก็จัดการแยกตามออเดอร์ แต่พออ่านรายชื่อลูกค้าในมือก็ต้องชะงักเพราะหนึ่งในนั้นมีชื่อของพี่วินด้วยน่ะสิ เรื่องของพี่เธียร์ฉันถือว่าเคลียร์แล้วเพราะเขารู้แล้วว่าฉันรู้สึกยังไงกับเขา แต่กับพี่วินนี่สิฉันต้องทำยังไงถึงจะปฏิเสธเขาได้แบบที่ไม่ทำร้ายน้ำใจของเขา...
นั่งคิดอะไรไปเพลินๆ เสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้นเป็นเบอร์แปลกที่ฉันไม่ได้เมมชื่อไว้เลยตัดสินใจตัดสายทิ้งเพราะกลัวจะเป็นพวกโรคจิตเพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีแบบนี้โทรมา แต่ไม่นานเบอร์เดิมก็โทรเข้ามาใหม่ฉันเลยต้องตัดสินใจรับสาย
“สวัสดีค่ะ” กรอกเสียงใสลงไป แต่พอได้ยินปลายสายตอบกลับมาเท่านั้นแหละทำเอาฉันนิ่งไปเลย
“(ตัดสายทิ้งทำไม!)”
“พี่เธียร์!!”
“(ใช่ พี่เอง คิดว่าใคร!?” เขาตอบกลับมาเสียงราบเรียบ
“เห็นเบอร์แปลกคิดว่าพวกโรคจิต” ฉันตอบกลับเขาไปทำเอาปลายสายเงียบไปเลย ถ้าเดาไม่ผิดคงกำลังโมโหฉันอยู่แหละที่ได้ยินแบบนั้น ฮ่าๆ
“(เธอนี่มันจริงๆ เลยนะยัยเด็กบ้า!!)”
“จะโทรมาด่าแค่นี้เหรอค่ะ งั้นแค่นี้นะค่ะไอมีธุระจะต้องไปทำ”
“(เดี๋ยว!!.... เย็นนี้ว่างไหม?)” ก่อนจะวางสายเสียงพี่เธียร์ก็แทรกขึ้นมาซะก่อน
“ไม่ว่างค่ะวันนี้เพื่อนจะมาหาที่บ้าน พี่มีอะไรค่ะ?”
“(งั้นเหรอ... ถ้างั้นก็ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวตอนเย็นพี่ไปหาที่บ้านแล้วกัน)”
“ไอบอกว่าไอไม่ว่าง เพื่อนจะมาหาที่บ้านพี่ไม่ได้ฟังเหรอค่ะ?!!”
“(แล้วไง ไว้เจอกันที่บ้าน แค่นี้แหละ)” พูดจบก็วางสายไปเลย ฮึ้ย!! แล้วฉันจะทำอะไรได้หละนอกจากโมโหฟึดฟัดกับโทรศัพท์ เหลือบไปเห็นแม่ที่กำลังอมยิ้มมองฉันอยู่ด้วย ฉันเลยต้องรีบหนีออกมาจากตรงนั้นก่อนจะกดส่งไลน์ไปบอกมะนาวกับแพรดาวว่าวันนี้จะกินหมูกะทะกัน พวกนั้นก็ตอบรับเออ ออ
“แม่ค่ะงั้นเดี๋ยวหนูออกไปซื้อของทำหมูกะทะที่ตลาดนะค่ะ” คุยกับเพื่อนเสร็จฉันก็เดินกลับเข้าไปในครัวเพื่อบอกแม่ว่าจะออกไปซื้อของ
“อ้าว ให้ป้าบัวไปเป็นเพื่อนไหมลูก”
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูไปคนเดียวดีกว่าไม่น่าจะซื้ออะไรเยอะเพราะที่บ้านมีผักใช่ไหมค่ะ?”
“ผักบุ้งมีในสวนหลังบ้าน งั้นหนูซื้อพวกเนื้อสัตว์กับผักที่อยากกินมาก็แล้วกัน”
“โอเคค่ะ” พูดจบฉันก็เดินขึ้นชั้นสองไปเพื่อจะไปหยิบเสื้อคลุมแขนยาวกับกระเป๋าสตางค์ พอเตรียมตัวเสร็จก็เดินออกมาหน้าบ้าน ตลาดที่ว่าอยู่ไม่ไกลจากบ้านฉันเท่าไรเพราะมันอยู่แค่หน้าหมู่บ้านเอง มันเป็นตลาดสดที่ใหญ่พอสมควรเพราะแถวนี้มีหมู่บ้านอยู่หลายที่ตลาดนี้เลยเหมือนเป็นศูนย์กลางสำหรับจับจ่ายซื้อของของคนแถวนี้ ฉันเลือกวิธีเดินเท้าเอารู้สึกอยากออกกำลังกายขึ้นมา ฮ่าๆ... เอาไว้ขากลับค่อยใช้บริการพี่วินมอไซด์แล้วกัน....
เดินผ่านรั้วบ้านของพี่แฝดมาด้วยหัวใจที่เต้นระรัวไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ...นี่แค่เดินผ่านบ้านของเขาเฉยๆ นะใจยังเต้นรัวขนาดนี้เลยยัยไอริณเอ้ย...
ตอนนี้บ่ายสามเกือบบ่ายสี่แล้วแดดไม่แรงเท่าไรแต่ฉันก็ยังพกร่มกันแดดมาด้วย เดินก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ในมือไปด้วยจนได้ยินเสียงแตร่รถที่ดังไล่หลังมาทำเอาฉันสะดุ้งเลย รถยนต์คันใหญ่สีดำแล้วก็ติดฟิมล์ดำด้วยแทบจะมองไม่เห็นด้านในเลยว่าเป็นใคร ก่อนที่รถคันนี้จะขับมาเทียบฟุตบาทแล้วลดกระจกลงจึงเห็นว่าด้านในเป็นใคร
“จะไปไหน!?” พอลดกระจกลงพี่เธียร์ก็ตะโกนถามออกมา ฉันที่เห็นหน้าเขาก็เลิ่กลั่กทันที ก็ฉันยังไม่พร้อมจะเจอเขาน่ะสิคิดถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วก็รู้สึกเขิน ก็โดนเขาจูบนี่นาไม่เขินก็บ้าแล้ว
“ไปทำธุระค่ะ” ตอบกลับเขาแต่ก็ยังไม่หยุดเดิน พี่เธียร์เองก็ขับรถเลียบไปกับฟุตบาทช้าๆ
“ขึ้นรถเดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ไม่เป็นไรค่ะ ไอไปเองได้”
“อย่าดื้อ! ขึ้นรถมาเดี๋ยวนี้”
“ไอบอกว่าไม่เป็นไรไงค่ะ ไอไปเองได้ไม่อยากรบกวนพี่” ฉันเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นแต่จู่ๆ พี่เธียร์ก็ขับรถไปจอดด้านหน้าก่อนที่เจ้าตัวจะเดินลงมาแล้วจับเข้าให้ที่ข้อมือฉัน
“พี่บอกให้ขึ้นรถไง ทำไมถึงชอบดื้อนัก!” คำพูดของเขาเหมือนจะดุแต่น้ำเสียงกลับนุ่มทุ้มแล้วไหนจะแววตานั่นด้วยที่มันไม่มีแววแข็งกร้าวเลย
“แต่ว่า.....”
“ไม่มีแต่ ขึ้นรถ!” ว่าแล้วก็ยัดฉันเข้าไปในรถทันทีก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปนั่งประจำที่คนขับแล้วเอื้อมมือมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้ พอมาถึงตอนนี้ฉันก็นึกถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาตอนที่เขาทำแบบนี้ให้แล้วโดนเขาขโมยจูบเอา ฉันเอี้ยวตัวหลบไปตามสัญชาตญาณแต่คนตรงหน้ากลับอมยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะพูดคำพูดแสนกวนออกมา
“หลบทำไม กลัวโดนจูบอีกเหรอ” เขาว่ายิ้มๆ แต่มันกลับทำให้ฉันรู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาเลย
“พี่เธียร์!!” ฉันถลึงตาใส่เขาทันทีแต่เจ้าตัวกลับไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านอะไรแถมยังยิ้มไม่หุบอีกต่างหาก แล้วยังพูดประโยคที่ทำเอาฉันหน้าร้อนผ่าวหนักกว่าเดิมออกมาอีกด้วย
“เอาไว้วันหลังพี่สอนให้ว่าจูบจริงๆ เขาทำกันยังไง หึๆ” แล้วก็โยกตัวกลับพร้อมกับยักคิ้วให้ฉันทีนึงก่อนจะขับรถออกไปจากตรงนี้
“ว่าแต่จะไปไหน?” เขาหันมามองฉันที่ตอนนี้ทำตัวไม่ถูกเพราะคำพูดของเขา ก่อนจะตั้งสติได้แล้วตอบเขาไป
“ไปตลาดหน้าหมู่บ้านค่ะ”
“อืม” เขาตอบกลับมาแค่นั้นแล้วก็ขับรถต่อ ไม่นานพวกเราก็มาถึงตลาด พี่เธียร์ขับรถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถก่อนจะเดินตามฉันลงมาจากรถด้วย
“ขอบคุณนะค่ะ ไอไปหละ”
“เดี๋ยวพี่ไปด้วย”
“ห๊ะ???” ฉันถึงกับงงเลย เขาจะตามฉันไปด้วยเหรอ?
“งงอะไรพี่จะไปเดินตลาดด้วยไง ไปกันได้แล้ว” ว่าแล้วก็จับมือฉันให้เดินตามตัวเองเข้าไปในตลาด ฉันเองก็เดินตามไปอย่างงๆ ผ่านสายตาของผู้คนที่บ้างก็หันมามองเราสองคน คงเป็นเพราะสะดุดตากับผู้ชายตัวสูงหน้าตาหล่อเหลาของพี่เธียร์นั่นแหละ แล้วอีกอย่างเขาก็ไม่เคยมาเดินแถวนี้ด้วย
“จะซื้ออะไรบ้าง?” พี่เธียร์เดินช้าลงพลางหันมามองฉัน
“ซื้อของไปทำหมูกะทะค่ะ วันนี้เพื่อนไอจะมาที่บ้าน”
“อืม... แล้วมันต้องใช้อะไรบ้าง” เขาหยุดเดินพลางขมวดคิ้วเหมือนใช้ความคิด
“ไม่รู้แล้วยังกล้าเดินนำหน้าอีกนะค่ะ” ฉันเบ้ปากใส่เขา เขาเองก็ส่งสายตาดุมาให้ทันที แต่แล้วไงใครสน พร้อมกับยักไหล่ไปให้เขาด้วยจากนั้นฉันก็เป็นฝ่ายเดินนำหน้าเขาแทน ฉันเดินไปเลือกซื้อผักสดก่อนอย่างแรก เลือกแต่ผักที่ตัวเองชอบโดยมีพี่เธียร์ยืนอยู่ข้างๆ ด้วย
“อ้าวหนูไอริณวันนี้มาซื้อของกับแฟนเหรอจ้ะ แฟนหล่อไม่เบาเลยนะ” ป้าร้านขายผักเจ้าประจำของที่บ้านฉันเอ่ยถามพร้อมกับส่งยิ้มให้คนที่ยืนอยู่ข้างๆ ฉันด้วย
“เปล่าค่ะ ไม่ชะ....”
“ครับ วันนี้มาเป็นเพื่อนไอริณซื้อของครับ” ฉันยังไม่ทันจะพูดจบพี่เธียร์ก็แทรกขึ้นมาซะก่อนพร้อมกับรอยยิ้ม ฉันหันขวับไปหาเขาทันที แต่เจ้าตัวกลับยักคิ้วให้ฉันแทน
“มองพี่ทำไม?” เขาก้มลงมากระซิบเบาๆ ที่ข้างหู
“พี่ไปยอมรับกับป้าเขาทำไม ไอไม่ใช่แฟนพี่ซะหน่อย!” ฉันเองก็กระซิบกลับ
“ตอนนี้ไม่ อีกหน่อยไม่แน่” ว่าแล้วก็ยกยิ้มกวนมาให้ ฉันที่ตอนนี้รู้สึกได้ถึงหัวใจที่มันกำลังเต้นโครมครามจนแทบจะทะลุอกออกมาอยู่แล้วได้แต่ก้มหน้าก้มตาเลือกผักต่อ ขี้เกียจจะเถียงกับเขาเพราะเถียงไปก็ไม่เคยชนะเลย ชิ!!... พอถึงเวลาจ่ายเงินพี่เธียร์ก็แย่งฉันจ่ายแล้วก็ลากฉันเดินออกมาจากร้านทันที
“เดี๋ยวๆ พี่มาจ่ายเงินค่าของให้ไอทำไม ไอจ่ายเองได้ค่ะ”
“แต่พี่อยากจ่าย”
“อะไรของพี่เนี้ย?” ฉันไม่ค่อยเข้าใจกับท่าทางของเขาวันนี้สักเท่าไร เพราะมันดูแปลกไปจากทุกวันมาก
เขาไม่พูดอะไรต่อ จากนั้นเขาก็จับมือฉันพาเดินไปยังร้านขายอาหารทะเล ฉันเองทำได้แค่ส่ายหน้าไปมาแล้วก็หันไปสนใจเลือกซื้อของสดแทน พอได้เนื้อสัตว์ตามที่ต้องการแล้วฉันก็เดินนำพี่เธียร์ไปร้านขายของหวานก่อนจะสั่งขนมหวานสามสี่อย่าง แล้วก็ลากเขาไปซื้อน้ำต่อเพราะในตลาดอากาศค่อนข้างอบอ้าวแล้วคนตัวโตที่เดินถือของตามฉันไปทั่วตลาดก็เริ่มมีเหงื่อผุดซึมตามกรอบหน้าแล้ว ฉันเลือกซื้อน้ำมะพร้าวสองแก้วพร้อมกับยื่นให้เขาไปแก้วนึ่งแต่เขากลับยืนนิ่งไม่ได้รับแก้วน้ำไป
“ทำไมไม่รับค่ะ?”
“จะให้พี่เอามือที่ไหนรับอ่ะ” ว่าพลางยกมือทั้งสองข้างที่มีถุงพะลุงพะลังเต็มไปหมดชูขึ้นให้ฉันดู เห็นแบบนั้นฉันก็หลุดขำออกมาทันที ผู้ชายตัวโตหน้าตาหล่อเหลาที่ตอนนี้ตามเนื้อตัวแทบจะเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“ขำอะไร ป้อนน้ำเดี๋ยวนี้พี่หิว เร็วๆ” เขาทำหน้าดุแถมสั่งเสียงเข้ม แต่มันไม่ได้น่ากลัวเลยสำหรับฉันน่ะ ฉันยังไม่หยุดขำแต่ก็ป้อนน้ำให้เขาตามที่ขอนั่นแหละ
จากนั้นฉันกับพี่เธียร์ก็เดินกลับมาที่รถ จัดของใส่หลังรถแล้วก็ขับรถกลับบ้านกัน พี่เธียร์ขับรถมาจอดที่หน้าบ้านของฉันก่อนจะช่วยฉันถือของเข้าไปในบ้านด้วย แม่ที่เดินออกมาจากบ้านหยุดชะงักเท้าแล้วมองเราสองคนสลับกันไปมาพร้อมกับอมยิ้มไปด้วย
“ขอบคุณนะค่ะ” ฉันว่าพลางยื่นมือไปรับถุงจากพี่เธียร์แต่เขากลับไม่ยอมส่งมาให้
“เดี๋ยวพี่ช่วยถือไปข้างใน”
“ยังไงเนี้ยเราสองคน ทำไมพี่เขาถึงได้มาช่วยเราถือของได้หละไอ” แม่เอ่ยถามฉันแล้วหันไปมองพี่เธียร์
“คือ...” กำลังจะอธิบายให้แม่ฟังแต่คนข้างๆ กลับแทรกขึ้นมาซะก่อน
“ผมเจอน้องที่หน้าบ้านน่ะครับก็เลยอาสาพาไปส่งที่ตลาด แล้วก็เลยถือโอกาสเดินเล่นด้วยเลย” พี่เธียร์ตอบคำถามของแม่พร้อมกับรอยยิ้ม
“อ้อ... จ้ะ เออ! เย็นนี้เธียร์ว่างไหมจ้ะ พอดีบ้านเราจะทำหมูกะทะกัน น้าอยากชวนเธียร์กับธูร์มาด้วย ถ้าว่างน่ะนะ”
“แม่!!” ฉันหันไปหาแม่ทันที
“ทำไมหละ พี่เขาอุตส่าห์พาเราไปซื้อของแถมยังช่วยถือของอีกต่างหาก แล้วอีกอย่างถือซะว่าเลี้ยงต้อนรับธูร์กับเธียร์กลับจากต่างประเทศไปด้วยเลยไง” แม่พูดกับฉันแต่หันไปยิ้มให้พี่เธียร์ รายนั้นพอแม่พูดแบบนี้ก็ยิ้มกว้างเชียว
“ได้ครับ เดี๋ยวผมบอกไอ้ธูร์ให้นะครับ” ไม่พูดเปล่ายกยิ้มกวนมาให้ฉันด้วย แล้วฉันจะทำอะไรได้หละนอกจากเดินถือของเข้าบ้านไปและตามมาด้วยพี่เธียร์ที่เดินตามมาติดๆ หลังจากนั้นเขาก็ขอตัวกลับไปก่อน
ตอนนี้ในครัวก็เหลือแค่ฉันกับแม่เพราะป้าบัวไปเก็บผ้าที่ตากไว้หลังบ้านและไปเก็บผักบุ้งในสวนหลังบ้านด้วย
“ค่าของหมดไปเท่าไรน่ะลูก” แม่เดินตามเข้ามาดูของที่ฉันซื้อมา
“ไม่รู้ค่ะ พี่เธียร์เป็นคนจ่าย” ฉันตอบแม่ไปแต่มือก็เปิดดูถุงไปเรื่อยพลางดูดน้ำมะพร้าวที่ซื้อมาด้วย ก่อนจะละสายตามามองแม่ที่ดูเหมือนท่านจะจ้องฉันอยู่นานแล้ว
“อะไรค่ะ??” เลิกคิ้วเป็นเชิงถามเพราะแม่เอาแต่อมยิ้มไม่หยุด
“เปล่า... แค่คิดว่าลูกสาวแม่นี่มีดีอะไรนะถึงได้มีแต่หนุ่มๆ ตามจีบ” สิ้นเสียงแม่เท่านั้นแหละฉันสำลักน้ำมะพร้าวทันที
“แค่กๆๆ แม่พูดอะไร ใครจีบ! ไม่มีใครจีบซะหน่อยค่ะ!” เพราะนอกจากพี่วินแล้วก็ไม่เห็นมีใครจีบฉันอีกเลย
“ฮ่าๆ” แล้วแม่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อเอาแต่หัวเราะร่วน ตอนนี้รู้สึกเลยว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าวๆ อ่ะ ......