ตอนที่ 11 เกมซ่อนหา 2

1358 คำ
คืนนั้น หลังจากที่ครามออกไปแล้วลลิษานอนไม่หลับเลยแม้แต่น้อย ความกลัวเกาะกินใจจนแทบจะหายใจไม่ออก เธอรู้ว่าครามอยู่เฝ้าหน้าห้องเธอทั้งคืน แต่ความรู้สึกถูกจับตามองยังคงไม่หายไป รุ่งเช้า เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามา ลลิษาตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงอย่างเชื่องช้า ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้ไม่ใช่ความเหนื่อยล้า แต่เป็นความผิดปกติบางอย่าง เธอกวาดสายตาไปรอบห้อง และหัวใจก็หล่นวูบ บนโต๊ะเครื่องแป้ง...กิ๊บติดผมลายผีเสื้อที่เธอทำหายไปเมื่อหลายเดือนก่อน วางอยู่ข้างเครื่องสำอางอย่างจงใจ และที่แย่ไปกว่านั้น...ชุดชั้นในลูกไม้สีดำตัวโปรดของเธอที่แขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้า กลับถูกนำมาวางพาดไว้บนหมอนข้างเตียง ราวกับมีใครบางคน "จัดเตรียม" ไว้ให้เธออย่างจงใจ ลลิษาสั่นสะท้านไปทั้งตัว ไม่ใช่แค่เห็น...แต่เธอรู้สึกถึงสัมผัสที่ถูกทิ้งไว้ ความรู้สึกว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวที่สุดของเธอ ยิ่งไปกว่านั้น มันคือ การบอกเป็นนัยๆ ว่าเขารู้ทุกอย่าง...เห็นทุกอย่าง...แม้กระทั่งเสื้อผ้าชิ้นในที่สุดของเธอ เธอรีบวิ่งไปเปิดประตูห้อง และพบว่าครามยังคงยืนอยู่ที่เดิม สายตาของเขาดูเหนื่อยล้าเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเต็มไปด้วยความระแวดระวัง “คราม!” ลลิษาแทบจะร้องออกมา เธอโผเข้ากอดเขาแน่นอย่างลืมตัว ร่างกายสั่นเทิ้มด้วยความกลัว ครามตกใจกับการกระทำของเธอ แต่ก็โอบกอดตอบแน่น เขาสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวที่แผ่ออกมาจากเธอ “เกิดอะไรขึ้นครับคุณหนู” เสียงเขาหนักแน่น ลลิษาผละออกเล็กน้อย ชี้ไปที่ชุดชั้นในบนเตียงด้วยมือที่สั่นเทา และกิ๊บติดผมบนโต๊ะเครื่องแป้ง ครามมองตามที่เธอชี้ ดวงตาของเขาคมกริบขึ้นทันที ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “เขาเข้ามาในห้องคุณหนูได้ยังไง...” เสียงเขาเย็นเยียบ ราวกับเปล่งออกมาจากก้นบึ้งของความโกรธ ครามก้าวเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว ตรวจสอบทุกซอกทุกมุม สายตาของเขาจ้องมองไปที่กิ๊บติดผม และชุดชั้นในที่วางอยู่ เขารับรู้ได้ถึง "การเย้ยหยัน" ที่ภาคย์ส่งมาให้ “เขาต้องการอะไร” ลลิษาถามเสียงแผ่ว ใบหน้าซีดเผือด ครามเดินกลับมาหาเธอ จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเดือดดาลที่พยายามเก็บซ่อน “เขาต้องการให้คุณหนูกลับไปมองเขา...ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม” คำพูดนั้นทำให้ลลิษารู้สึกเหมือนถูกแช่แข็ง ความน่ากลัวของภาคย์ไม่ใช่แค่การคุกคามทางกาย แต่เป็นการคุกคามทางจิตใจ ที่กำลังพยายามช่วงชิงเธอไปอย่างช้าๆ ครามดึงลลิษาเข้ามากอดอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่แค่การปลอบประโลม แต่มันคือการประกาศความเป็นเจ้าของ สายตาของเขาจ้องมองออกไปนอกประตูห้อง ราวกับจะทะลุผ่านกำแพงไปหาใครบางคน “ผมจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องคุณหนูได้อีก” ครามกระซิบเสียงต่ำ ลมหายใจร้อนผ่าวรดรินอยู่ข้างหูของเธอ "เราจะไม่ปล่อยให้ใครเข้ามาขวางเราได้อีก" ในยามเช้าที่ควรจะสดใส บัดนี้กลับเต็มไปด้วยเงาของภัยคุกคาม และความเร่าร้อนที่ถูกเร่งเร้าด้วยความหวาดกลัว... เกมซ่อนหาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และครามกับลลิษาต่างรู้ดีว่า นี่คือการต่อสู้ครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเขา ครามที่มีไหวพริบอยู่เสมอ ถึงแม้ความโกรธจะพลุ่งพล่านจนแทบกลืนสติ แต่เขาก็รู้ดีว่าศัตรูที่น่ากลัวที่สุด ไม่ใช่คนที่ควงปืน แต่คือคนที่ "นิ่งเงียบ" และภาคย์...ก็คือแบบนั้น “มันไม่ใช่แค่คุกคาม” ครามพูดพลางหันไปล็อกประตูหน้าห้องด้วยตัวเอง ก่อนจะเดินไปเช็กกล้องวงจรปิดที่ซ่อนอยู่เหนือกรอบรูป “เขากำลังเล่นเกมกับเรา” “เกมอะไร...?” ลลิษาเอ่ยเบาๆ น้ำเสียงแผ่วเหมือนลมหายใจ “เกมที่เขาเป็นคนกำหนดกฎเอง...และคาดว่าเราจะเดินตาม” ครามตอบ ทั้งที่มือยังคงกดรีโมตเรียกจอมอนิเตอร์พับเล็กที่ซ่อนไว้ในลิ้นชักออกมา ภาพจากกล้องเมื่อคืนเริ่มฉายช้าๆ แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ... “มันถูกลบ...” ครามขบกรามแน่น ภาพช่วงเวลาเที่ยงคืนถึงตีสาม กลับกลายเป็นเพียงหน้าจอสีดำสนิท “และไม่มีใครในทีมผมทำได้...เว้นแต่จะมีคีย์โค้ดระดับสูงกว่านั้น” “หมายความว่า...เขามีคนใน?” ลลิษาถาม น้ำเสียงสั่น “หรือไม่ก็เขาคือคนที่เราคิดว่าไว้ใจได้” ครามตอบเสียงนิ่ง แววตาเย็นจนเหมือนน้ำแข็ง ลลิษาเงียบงัน ดวงตาเบิกกว้าง ในหัวเธอเริ่มไล่ชื่อทีละคน พ่อบ้าน? แม่บ้าน? คนขับรถ? หรือแม้แต่ใครบางคนที่ดู “ไม่มีพิษภัย” มากที่สุด... “ลิษา” ครามหันกลับมาจับไหล่เธอแน่น ดวงตาของเขาไม่สั่นไหวเลยแม้แต่น้อย “จากนี้ไป...คุณหนูห้ามอยู่ลำพังเด็ดขาด ไม่ว่าจะที่ไหน แม้แต่ในห้องน้ำ หรือขณะหลับ” “แต่...ฉันจะอยู่ยังไง...” เธอพูดอย่างหมดแรง “อยู่กับผม” ครามตอบทันควัน “ผมจะไม่ไปไหนอีกแล้ว ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน” และเป็นครั้งแรกที่ลลิษาไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นแค่บอดี้การ์ดของเธอ... เขาคือกำแพงสุดท้าย คือไออุ่นเดียวที่ยืนหยัดท่ามกลางความมืดมิดที่กำลังคลืบคลานเข้ามา ครามดึงเธอมากอดแน่นอีกครั้ง คราวนี้หัวใจของเธอกระเพื่อมแรงขึ้น... ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เพราะ "เขา" กลายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในโลกของเธอไปแล้ว โดยไม่รู้ตัว ...และเกมซ่อนหากำลังเริ่มต้นจริงๆ ในแบบที่ไม่มีใครเตรียมใจทัน ครามนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งหลังจากพบว่าภาพจากกล้องถูกลบ เขาไม่พูดอะไร แต่กลับเดินไปยืนกลางห้อง หันหน้าเข้าหากล้องอีกตัวที่ยังเปิดอยู่ “กล้องตัวนี้...ยังไม่ถูกลบ” เขากระซิบเบา ๆ ราวกับบอกใครบางคนที่กำลังเฝ้าดูอยู่ในความมืด แล้วเขาก็หันมามองลลิษา แววตาของเขาเปลี่ยนไป จากเงียบเย็น กลายเป็นร้อนแรง กร้าวลึก จากการปกป้อง กลายเป็นการ ท้าทาย “คุณหนูเชื่อผมไหม” เสียงเขาแหบต่ำ “เชื่อ...” เธอตอบเบา ๆ แต่หัวใจเต้นแรงราวกับจะทะลุอก ครามไม่พูดอะไรอีก เขาเดินเข้ามาหาเธอ จับมือเธอแน่น แล้วดึงเธอเข้ามาแนบชิด ริมฝีปากเขาประกบลงบนเรียวปากของเธออย่างแนบแน่น เร่าร้อน ลมหายใจของทั้งคู่ปะทะกัน และไม่มีใครหลบตาใคร มือของเขาสอดไปยังแผ่นหลังลลิษา ดึงเธอเข้าไปแนบชิดทุกสัดส่วน ปลายนิ้วแตะขอบเอวของเธอแล้วลูบไล้ขึ้นช้า ๆ ราวกับต้องการบอกกับ ใครก็ตามที่กำลังดูอยู่ ว่า เธอเป็นของเขา ริมฝีปากเขาขบเม้มซอกคอของเธอ เสียงหายใจของลลิษาสะท้อนเบา ๆ กลับไปทั่วห้อง แต่ครามไม่หยุด มือของเขาเลื่อนมาถอดชุดคลุมของเธอออกอย่างแผ่วเบา เผยให้เห็นผิวเนียนที่ยังมีรอยสั่นสะท้านจากเหตุการณ์เมื่อเช้า แต่คราวนี้ เธอไม่ได้กลัว เธอรู้ว่า...การตอบรับสัมผัสของเขา คือการ “ยืนหยัด” คือการ “ไม่ยอมแพ้” คือการประกาศว่าเธอไม่ใช่ของเล่นของใครทั้งนั้น ครามกระซิบข้างหูเธอด้วยเสียงต่ำและหนักแน่น “มองมาดี ๆ ถ้าแกกล้าดู...ก็จดจำไว้ด้วย ว่าเธอจะไม่มีวันกลับไปหามึงอีก” ลลิษาหลับตาแน่น ปล่อยให้ร่างกายและหัวใจหลอมรวมกับชายตรงหน้าอย่างเต็มใจ ไม่มีอีกแล้วความลังเล ไม่มีอีกแล้วการซ่อนตัว บนเตียงที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของเธอเพียงลำพัง บัดนี้ กลายเป็นสนามรบของความรู้สึก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม