เมีย(ลับ)วิศวะร้าย บทที่ 2
"พี่เบียร์โทรมาทำไมคะ" หลังจากวางสายต้นหยกก็ถามเพราะเธอไม่ได้ยินที่ทั้งสองพูดคุยกัน แต่ก็พอจับใจความได้ว่าเป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่ง
"เขาโทรมาถามว่าผู้หญิงคนนั้นรู้จักกับหรรษาได้ยังไง"
"หรรษา? น้องสาวของพี่คิมหันต์เหรอคะ"
"ใช่"
"ผู้หญิงคนนั้นคือคนที่มาซื้อกระเป๋าใช่ไหมคะ"
"ใช่"
"แล้วไปเกี่ยวอะไรกับน้องสาวของพี่ล่ะคะ"
"พี่ก็ยังไม่แน่ใจ เดี๋ยวพี่โทรถามหรรษาดูก่อนนะ" คิมหันต์ก็สงสัยเหมือนกันเลยกดโทรออกหาน้องสาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน
หลังจากที่วางสายมันก็ยิ่งสร้างความสงสัยให้คิมหันต์มากเพิ่มขึ้นไปอีก
"ว่ายังไงบ้างคะ" ต้นหยกก็รอคำตอบอยู่เพราะเธอมีความสงสัยไม่ต่างจากเขาเลย
"ผู้หญิงคนนั้นชื่อนับดาวเป็นเพื่อนของหรรษา"
"เป็นเพื่อนหรือคะ?"
"ใช่เป็นเพื่อนกัน" ประโยคนี้คิมหันต์พูดออกมาเบามากเพราะเขาใช้ความคิดไปด้วย ถ้าผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้หญิงลับๆ ของอาเขาจริง แสดงว่าคุณอาจะเอาเพื่อนลูกสาวตัวเองทำเมียงั้นเหรอ
หลังจากที่ส่งต้นหยกกลับบ้านแล้วคิมหันต์ก็มาขอคุยกับหรรษาที่บ้าน
"ทำไมพี่ต้องถามถึงนับดาวด้วยล่ะคะ" หรรษาแปลกใจแล้วเพราะเมื่อตอนกลางวันพี่ชายก็โทรมาถามครั้งหนึ่ง ช่วงบ่ายยังมาถามหาเพื่อนของเธออีก "พี่อย่าลืมนะว่าตัวเองมีคู่หมั้นแล้ว"
"เราคิดอะไรอยู่เนี่ย"
"จะไม่ให้ษาคิดได้ยังไงล่ะคะ ก็พี่เล่นถามหาแต่เพื่อนของษา" จะไม่ให้คิดก็ไม่ได้เพื่อนของเธอหน้าตาดีมาก ยิ่งวันนั้นแต่งเนื้อแต่งตัวเข้าไปแล้วก็ยิ่งสวยเด่น
"ตัดเรื่องนั้นไปได้เลย แต่พี่ยังจะถามถึงเรื่องเพื่อนเราอยู่" คิมหันต์บอกน้องสาวตัดเรื่องชู้สาวไปได้เลยเพราะเขาคงไม่มองผู้หญิงคนอื่นอีกแล้ว
"โอเคค่ะตัดก็ตัด ว่าแต่พี่จะถามอะไรล่ะคะ"
"เราเรียนที่เดียวกันเหรอ"
"ใช่ค่ะ"
"ฐานะทางบ้านเพื่อนเราเป็นยังไง"
"เรื่องนี้ษาก็ไม่แน่ใจค่ะ" เพราะนับดาวไม่ค่อยเล่าเรื่องของตัวเองให้เพื่อนฟังเลย
"เอาตามที่เรามองเห็น อย่างเช่นของแบรนด์เนมเพื่อนเรามีใช้ไหม"
"ไม่มีนะคะ"
"แล้วรถล่ะเพื่อนเราขับรถอะไร"
"เคยเห็นไปยืนรอรถที่ป้ายรถเมล์ค่ะ"
ชัดเลยถามแค่นี้ก็พอจะเดาออกแล้วว่ากระเป๋าแบรนด์เนมที่เธอคนนั้นมาซื้อต้องเป็นเงินของเสี่ยคนใดคนหนึ่ง
"พี่สงสัยอะไรหรือเปล่าคะ" ทีแรกหรรษาก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกแต่พอพี่ชายถามถึงเรื่องพวกนี้เธอก็เริ่มคิดแล้ว
"เปล่าหรอกพี่เห็นไปวันงานเลี้ยงด้วยกันไม่ใช่เหรอ"
"นั่นไงพี่สนใจเพื่อนษาจริงๆ ด้วย" วันนั้นเพื่อนเธอแต่งตัวแซ่บมาก ผู้ชายหลายคนมองเหลียวหลังเลยล่ะ แต่ตอนจะกลับหาเพื่อนไม่เจอไม่รู้ว่าออกไปจากงานตอนไหน
"พี่ก็บอกแล้วไงว่าตัดเรื่องนั้นไป"
"มันตัดไม่ได้แล้วล่ะพี่ถามซะขนาดนั้น อย่าลืมนะว่ากว่าพี่จะสมหวังกับคุณหยกได้เลือดตาแทบกระเด็น"
"พี่บอกให้ก็ได้เพื่อนพี่คนหนึ่งมันสนใจพี่เลยถามให้" เรื่องนี้จะบอกน้องไปตรงๆ ก็ไม่ได้ เพราะคนนั้นคือพ่อ ถ้าน้องรู้ต้องเสียความรู้สึกมากแน่ เลยต้องเอาเพื่อนมาแอบอ้างสักหน่อย
"เพื่อนพี่คนไหนเหรอ"
"ไม่ต้องรู้หรอกน่า"
"เพื่อนพี่มีทั้งหมดสี่คน สองคนมีเมียไปแล้วตัดออกไปก่อน ยังเหลือพี่น้องอีกสองคนแสดงว่าหนึ่งในสองคนนั้นใช่ไหม" พี่น้องสองคนที่หรรษาพูดถึงก็คือจักรวาลและวัฏจักร เธอไม่เคยพบหน้าทั้งสองตรงๆ หรอก แต่ก็เคยเห็นอยู่กับพี่ชาย และก็เคยแอบถามพี่ชายเรื่องของเพื่อนเขามาบ้าง
"รู้ดีนักนะเรา" คิมหันต์เอื้อมไปขยี้ผมน้องสาวเบาๆ ก่อนจะเดินกลับบ้านของตัวเอง เพราะบ้านทั้งสองอยู่ในเขตรั้วเดียวกัน
"พี่เค้ามาคุยอะไรกับเราหรือลูก" คล้อยหลังของคิมหันต์ สาวิตรีแม่ของหรรษาก็เดินเข้ามาถามลูกสาว
"แม่ได้ยินด้วยเหรอคะ"
"แม่ก็อยู่แถวนี้"
"เพื่อนพี่เค้าน่ะสิคะ ชอบเพื่อนของษา"
"เพื่อนษาคนไหนเหรอ" คนเป็นแม่ถามเหมือนไม่ได้ใส่ใจแต่จริงๆ แล้วตั้งใจรอคำตอบมาก
"นับดาวค่ะ คนที่แม่บอกให้ษาชวนไปงานเลี้ยงด้วยคืนนั้นไงคะ"
"อ๋อหรือจ๊ะ" ถ้ามองแววตาของแม่ก็จะเห็นอะไรซ่อนอยู่ด้านใน นางรอแค่ความคืบหน้าจากนักสืบที่จ้างไป ถ้าเป็นแบบที่สงสัยจริงสามีก็สามีเถอะจะเอาให้ล่มจมกันไปข้างหนึ่งเลยคอยดูสิ