(วูฟ...)
"ฮะฮัลโหลวูฟ!"
ติ๊ด!
"อึ่ก.."
ฉันกลั้นเสียงร้องของตัวเองไว้พร้อมกับมือตัวเองที่กำลังกุมท้องไว้แน่นเพราะมันกำลังบีบรัดอยู่ ฉันกัดริมฝีปากตัวเองไว้แน่นเพราะความปวดที่มันกำลังเล่นงานฉันจนฉันไม่สามารถเดินได้ และถ้าเมื่อกี้ฉันได้ยินไม่ผิดฉันได้ยินเสียงผู้หญิงที่ดังออกมาจากปลายสายก่อนที่เขาจะตัดสายไป ฉันหลับตาลงช้าๆพร้อมกับน้ำตาของตัวเองที่มันกำลังไหลลงฉันไม่รู้ว่า เพราะฉันปวดท้องหรือมันปวดที่หัวใจแล้ว...เขาไม่สนใจจะฟังฉันเลยว่าฉันกำลังจะพูดว่าอะไร ไม่สนเลยว่าตอนนี้ฉันกำลังแย่แค่ไหน
ฟึ้บ!
"อ๊ะ!"
ฉันที่พยายามจะลุกไปหยิบกุญแจรถตัวเองนั่งลงกับโซฟาอีกครั้งเพราะมันไม่สามารถลุกขึ้นได้ ฉันกดท้องตัวเองที่มันกำลังบิดเกร็งทรมานอย่างทำอะไรไม่ถูกตอนนี้ฉันต้องไปโรงบาลแต่ฉันกลับทำอะไรไม่ได้มากกว่านั่งอยู่ที่โซฟา ฉันตัดสินใจยกโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้งเพื่อจะกดเบอร์โทรโรงบาล
ติ๊ดๆ
"วะวูฟ!"
(ไม่ใช่หรอก...พี่เอง)
"พะพี่ชินน์?"
ฉันขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัยก่อนจะเอาโทรศัพท์ที่กำลังแนบหูออกมาดูอีกครั้งและพบว่ามันไม่ใช่เบอร์วูฟจริงๆเขาไม่ได้โทรกลับมาหาฉันแต่กลับเป็นพี่ชินน์ที่โทรมา
(หายปวดท้องรึยัง? พี่เห็นเราจับท้องตลอดตอนซ้อม)
ฉันเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะสูดหายใจเข้าปอดช้าๆเพราะมันกำลังปวดขึ้นมาอีกครั้ง ฉันกำโทรศัพท์แน่น
"พะ พี่ชินน์ว่างไหมคะ?"
(อืม...ว่าแต่เราเป็นอะไรทำไมเสียงดูแปลกๆ)
"มิวปวดท้องอ่ะพี่ ลุกไปไหนไม่ได้เลย"
(ห๊ะ! แล้วทำไมไม่รีบบอกตอนนี้อยู่ไหน!?)
"อยู่คอนโดค่ะ"
(ห้องเดิมใช่ไหมเดียวพี่ไปหา)
"ค่ะ"
(ทนหน่อยนะ)
ฉันพยักหน้าตอบกลับไปแทนเพราะมันเริ่มจะปวดจนพูดไม่ได้พร้อมกับสายที่โดนตัดไป ฉันค่อยๆนอนลงไปกับโซฟาพร้อมกับนอนขดมันอยู่แบบนั้นเพราะท้องที่มันเกร็งปวดจนฉันน้ำตาไหล...ทำไมคนที่ฉันต้องการในเวลาแบบนี้เขากลับไม่เคยหันมาสนใจ ฉันต้องการเขาในตอนนี้ที่สุดแต่เขากลับไม่คิดจะหันมามองด้วยซ้ำ นี่ฉัน...ฉันมันโง่จนถึงขนาดทำร้ายตัวเองมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ฉันทำไมถึงโง่งมอยู่กับความรักที่มันเป็นไปไม่ได้ของตัวเองมากถึงขนาดนี้
14/01/20xx
10.12 น.
"อื้อ..."
ฉันค่อยๆลืมตาช้าๆก่อนจะหลับลงและลืมขึ้นใหม่อีกครั้งเพราะตาที่มันกำลังเบลอ ฉันมองเพดาลสีขาวตรงหน้าด้วยสายตานิ่งเรียบก่อนที่ฉันจะมองไปรอบๆห้อง
ฟึ้บ..
"ตื่นแล้วหรอเป็นไงบ้าง ยังเจ็บท้องอยู่ไหม?"
"เอ่อ..."
"ยังไม่ต้องพูดก็ได้ เดียวพี่เอาน้ำให้กิน"
ฉันพยักหน้าช้าๆพร้อมกับมองพี่ชินน์ที่ช่วยปรับเตียงให้ฉันนั่งได้สบายๆและหันไปเทน้ำใส่แก้วให้ฉันดื่ม ฉันค่อยๆอ้าปากดูดน้ำขึ้นจากหลอดที่พี่ชินน์กำลังป้อนช้าๆ
"...ขอบคุณนะคะที่พามา เมื่อคืนมิวคงรบกวนพี่มาก"
"เฮ้ย ไม่เป็นไรพี่ดิต้องรู้สึกผิดเล่นพามิวซ้อมแล้วไม่ได้ดูเลยว่าเราปวดท้อง"
"ไม่ใช่ความผิดพี่หรอกค่ะ มิวเองนี่แหละที่ไม่ยอมบอก"
"เอาเถอะไม่มีใครผิดหรอกนะ...แต่ครั้งหน้าเป็นอะไรต้องบอกพี่ก่อนเข้าใจไหม?"
"ค่ะ แต่ยังไงก็ขอบคุณพี่จริงๆนะ"
พี่ชินน์ไม่ได้ตอบอะไรกลับเขาเพียงแค่เอื้อมมือตัวเองขึ้นมาลูบหัวฉันเบาๆอย่างปลอบประโลม เมื่อคืนนี้ฉันต้องขอบคุณพี่ชินน์จริงๆเพราะหากไม่ได้เขาฉันคงปวดกระเพาะตายอยู่ห้องน่ะที่ฉันรู้เพราะมันเป็นโรคประจำตัวฉันและเพราะฉันที่กินข้าวไม่ตรงวลาฉันจึงปวดกระเพาะอย่างที่เห็น....ฉันก็เกือบแย่แล้วถ้าไม่ได้พี่ชินน์
ก๊อกๆ แกร๊ง...
"ยัยมิว!"
"แกเป็นไงบ้างว่ะ!?"
ฉันที่กำลังคุยกับพี่ชินน์อยู่ชงักนิดๆเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูพร้อมกับยัยนินิวและยัยเหมียวที่เดินเข้ามาภายในห้องด้วยสีหน้าเป็นห่วง พวกมันเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับพูดขึ้นมาพร้อมกันเสียงดังจนฉันอดจะยิ้มออกมาไม่ได้
"ใจเย็น...ฉันยังไม่ตายหรอก ^^"
"ให้ตาย! ถ้าพี่ชินน์ไม่บอกพวกฉันพวกฉันจะรู้ไหมว่าแกเข้าโรงบาล!"
"เออ มีอะไรทำไมไม่บอกกันว่ะ!?"
"ขอโทษๆ ฉันแค่ไม่อยากให้พวกแกเป็นห่วง"
เสียงของฉันเอ่ยขึ้นเบาๆพร้อมกับสายตาฉันที่กำลังมองเพื่อนสนิทตัวเองด้วยสายตาสำนึกผิดอย่างเห็นได้ชัด มันทั้งสองคนที่อยู่ในชุดนักศึกษาถอนหายใจออกมาเสียงดัง
"เออๆทีหลังห้ามเลยนะ เป็นอะไรโทรมาหาฉันเลย"
ฉันพยักหน้าพร้อมกับยิ้มออกมาบางๆเมื่อยัยนินิวว่าขึ้นมาแบบนั้น มันเดินเข้ามามองดูฉันอย่างสังเกตอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจออกมาขณะที่ยัยเหมียวก็เดินมาดูฉันเช่นกัน
"ยังไงก็ขอบคุณพี่ชินน์จริงๆนะคะที่ดูแลยัยมิวให้ ถ้าไม่ได้พี่เหมียวก็ไม่รู้ว่ายัยบ้านี่จะเป็นไง"
"ครับ ^^"
"ว่าแต่ พี่ชินน์คงยังไม่ได้พักเลยงั้นพี่กลับไปพักก่อนก็ได้นะคะเดียวพวกหนูเฝ้ามันเอง"
"อืม...งั้นเดียวพี่มาเยี่ยมอีกทีตอนเย็นล่ะกันนะ ยังไงก็ฝากมิวสิคด้วยล่ะ ^^"
"ค่ะ ไว้เจอกันนะคะพี่ชินน์ ^^"
"ครับ พี่ไปนะมิว"
"ค่ะ ขอบคุณนะคะ ^^"
ฉันยิ้มให้พี่ชินน์บางๆพร้อมกับมองเขาที่ส่งยิ้มกลับมาและเดินออกจากห้องไป อันที่จริงฉันค่อนข้างเกรงใจพี่ชินน์มากเลยนะเพราะเมื่อคืนพี่เขาก็เฝ้าฉันที่เจ็บท้องทั้งคืนไม่ได้พักแล้ววันนี้ได้ยินว่าพี่เขามีงานอีก...เฮ้อ ฉันนี่มันจริงๆเลย!
พรึ่บ!
"เหนือเรื่องที่แกปวดท้องคือพี่ชินน์เขาไปรับแกได้ไงไหนพูด!!"
"เออ จริงค่ะอันนี้กูเห็นด้วยพูดมา!"
ฉันมองเพื่อนตัวเองสลับกันไปมาช้าๆด้วยแววตาเอือมๆนางทั้งสองคนเดินไปลากเก้าอี้มาข้างขนาบข้างเตียงไว้พร้อมกับมองมาที่ฉันเป็นตาเดียวจนฉันที่โดนจ้องอยู่แบบนั้นเริ่มทำอะไรไม่ถูก
"ก็พี่ชินน์โทรมาเขาเห็นฉันแปลกๆตั้งแต่ซ้อมน่ะ"
"เชรด! อีเหมียวมึงคิดเหมือนกูไหมว่ะ!?"
"เออ ใครมันจะไม่คิดว่ะผู้ชายมาค่อยเป็นห่วงเป็นใยแบบนี้ตั้งแต่ปีหนึ่ง...นี่กูว่าบางทีเพื่อนเราน่าจะโดนของนะที่มองไม่เห็นอะไรที่ดีในชีวิตน่ะ!"
"เออ อย่างน้อยก็ควรจะเห็นความดีของพี่ชินน์หน่อยถูกมะ?"
"พูดให้ฉันขนาดนี้ตบหน้ากันเลยไหมล่ะ?"
"ได้หรอ!?"
"ดีเลยจะได้ตบให้ตามึงเจอแสงสว่างในชีวิตบ้าง!"
ฉันถอนหายใจออกมาช้าๆพร้อมกับมองเพื่อนทั้งสองที่พูดขึ้นแบบนั้นอย่างเอือมๆ เหมียวและนินิวมองมาที่ฉันด้วยสายตาตำหนิอย่างเห็นได้ชัดก่อนที่มันจะเปลี่ยนเป็นสายตาห่วงใยที่มีแค่เพื่อนเท่านั้นที่มีให้กันได้
"มันไปไหนตอนมึงเป็นงี้?"
นินิวถามขึ้นเสียงนิ่งหลังจากที่พวกเราเงียบกันมานาน มือของฉันกำเข้าหากันแน่นพร้อมกับสายตาตัวเองที่หลุบลงต่ำเพราะไม่กล้ามองหน้าหรือสบตาเพื่อนทั้งสอง
"มันไม่รู้หรอว่ามึงกระเพาะกำเริบ...อ่อเดียวสิมันเคยรู้ไหมว่ามึงเป็นโรคกระเพาะ??"
ฉันเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นพร้อมกับพยายามกลั้นน้ำตาตัวเองที่มันกำลังเอ่อคลอรอบดวงตาอย่างยากลำบากเพราะขอบตาที่กำลังร้อนแผ่วของฉันมันทำให้มือของฉันสั่นไปด้วย
"...กูโทรหามะอึ่ก กูโทรหามันแต่มันตัดสายกูมันไม่ฟังกูเลยว่ากูกำลังจะพูดอะไร"
"มิว..."
"อึ่ก...มันอยู่กับผู้หญิง มันอยู่กับใครไม่รู้ตอนกูโทรไป!"
พรึ่บ!
"ร้องเลย มึงร้องออกมาให้หมดในวันนี้แล้วพรุ่งนี้พรุ่งนี้พวกกูขอให้มึงเริ่มต้นใหม่เริ่มใหม่โดยที่ไม่มีมันในชีวิตสักที!"
น้ำตาของฉันยิ่งไหลลงมามากขึ้นพร้อมกับเสียงสะอื้นของฉันที่ดังขึ้นอย่างไม่คิดจะห้ามมัน ตอนนี้ฉันอ่อนแอเกินกว่าจะทนอะไรได้หัวใจฉันมันเจ็บจนทนไม่ไหว...วูฟไม่เคยเลยเขาไม่เคยเห็นค่าฉัน ไม่มีสักครั้งที่เขาทำเหมือนฉันเป็นคนสำคัญ ฉันกอดนินิวที่กอดปลอบฉันไว้แน่นพร้อมกับร้องไห้มันอยู่แบบนั้น ฉันไม่รู้ว่าฉันร้องไห้นานแค่ไหนแต่ฉันแค่รู้ว่าครั้งนี้มันสุดจะทนจริงๆฉันไม่สามารถทนกับอะไรแบบนี้ได้อีกต่อไป...ฉันรักเขาต่อไปไม่ได้แล้วเขามองฉันเป็นแค่ของเล่นของเขาที่เมื่อเขาอยากจะเล่นเขาก็มาแต่พอเขาเบื่อเขาก็ไป ฉันควรจะหยุดความรักบ้าๆของตัวเองที่ทุ่มเททุกอย่างให้เขาสักทีจบมันสักทีกับเรื่องนี้!
15/01/20xx
15.36 น.
"เฮ้..เฮ้มิวสิค!"
"โอ๊ะ!"
ฉันสะดุ้งสุดตัวพร้อมกับเบิกตากว้างมองอาจารย์ที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าฉันอย่างตกใจ ท่านขมวดคิ้วเข้าหากันพร้อมกับกอดอกมองมาที่ฉันด้วยสายตาตำหนิอย่างเห็นได้ชัด
"จารย์ไม่โอนะครับถ้าหนูจะเหม่อแล้วคล่อมจังหวะแบบนี้!"
"เอ่อ หนูขอโทษค่ะอาจารย์คือหนู..."
"พอๆจารย์ไม่ต้องการคำอธิบายอะไรทั้งนั้นแต่อาจารย์อนุญาติให้วันนี้หนูไปพักก่อน วันหลังค่อยมาซ้อมกับเพื่อนโอเคไหม??"
ฉันเม้มริมฝีปากเข้าหากันอย่างรู้สึกผิดก่อนจะค่อยๆลุกจากที่นั่งตัวเองพร้อมกับหันไปขอโทษเพื่อนๆร่วมวงไปด้วยซึ่งพวกเขาก็ไม่ว่าอะไรฉัน ฉันหันมาหาอาจารย์อีกครั้งพร้อมกับโค้งให้ช้าๆ
"ขอโทษนะคะ ครั้งหน้าหนูจะไม่เหม่ออีก"
"อืม จารย์เข้าใจว่าเธอมีอะไรในใจแต่อย่าลืมล่ะว่าเราเป็นนักดนตรีแค่จับคอร์ดผิดมันก็สามารถทำให้ทุกอย่างพังได้แล้วเพราะฉะนั้นกลับไปตั้งสติก่อนเข้าใจไหม?"
"ค่ะ ขอบคุณนะคะ"
เสียงของฉันเอ่ยขึ้นอีกครั้งก่อนที่ฉันจะเดินออกมาจากห้องพร้อมกับเก็บกีตาร์ของตัวเองเข้ากระเป๋าและสะพายมันที่หลังตัวเองก่อนที่ลมหายใจร้อนๆของฉันจะถูกพ่นออกมาอีกครั้ง ฉันมองไปข้างหน้าด้วยสายตานิ่งเรียบแต่ภายในใจมันกลับตีกันรวนไปหมด ฉันเพิ่งออกจากโรงบาลเมื่อเช้าน่ะและที่จริงหมอก็ให้พักแหละแต่ฉันต้องมาซ้อมกับเพื่อนที่คลาสเพราะมันเป็นวิชาเอกแต่สุดท้ายก็ถูกอาจารย์ให้ไปพักอยู่ดี
"แล้วฉันจะไปไหนดีล่ะ?"
ฉันเอ่ยขึ้นอย่างเลื่อนลอยพร้อมกับเดินไปข้างหน้าอย่างเบื่อๆจะให้กลับห้องก็เบื่อห้องจะให้ไปหาเพื่อน เพื่อนฉันก็ติดเรียนทั้งสองฉันก้าวเดินเล่นภายในมอด้วยความรู้สึกเลื่อนลอยก่อนที่ฉันจะเดินไปที่สวนของมหาลัยและนั่งลงอย่างเพลียๆ ฉันหยิบกีตาร์ตัวเองขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับดีดมันเบาๆอย่างไม่สนใจคอร์ดเสียงเพลงที่ดังออกมาจากกีตาร์ของฉันมันให้ความรู้สึกเศร้าๆอย่างบอกไม่ถูก
ปรื้น...!!
"..."
สายตาของฉันเหลือบมองไปที่ถนนทันทีที่หูตัวเองได้ยินเสียงรถที่คุ้นหูเอามากๆและไม่กี่วิต่อมาสิ่งที่ทำให้ฉันสงสัยก็คลายเมื่อรถสีขาวคันใหญ่ของวูฟที่ขับเข้ามาตรงถนนทางเข้าสวนพร้อมกับใครอีกคนที่นั่งชนท้ายมาด้วย ทั้งสองคนเป็นจุดสนใจของคนที่อยู่ในบริเวณนี้ทันทีเมื่อร่างบางที่ลงมาจากรถเขาค่อยๆถอดหมวกกันน็อคออกโดยได้รับความช่วยเหลือจากวูฟ
"..."
มือของฉันกำกีตาร์ไว้แน่นพร้อมกับสายตาของฉันที่กำลังมองทั้งสองคนไม่ล่ะสายตาเมื่อวูฟเปิดกระจกตัวเองขึ้นพร้อมกับมือของเขาที่ค่อยๆยกขึ้นเกลี่ยผมให้นะนลินอย่างอ่อนโยนพร้อมกับริมฝีปากของเขาที่กำลังยิ้มออกมาด้วยท่าทีเอ็นดู...สายตาที่เขามองนลินมันดูอบอุ่นและเต็มไปด้วยความรักที่เขามีต่อเธออย่างเห็นได้ชัด มันชัดมากจนฉันทนมองไม่ไหวและหันกลับลงมามองกีตาร์ในที่ตัวเองจับมันอยู่พร้อมกับน้ำตาของฉันที่มันหยดลงที่หลังมืออย่างควบคุมไม่ได้
"อึ่ก..."
อีกแล้วสุกท้ายฉันก็ควบคุมตัวเองไม่ให้ไม่ร้องไห้อีกไม่ได้ ทำไมฉันจะต้องพาตัวเองมาเจ็บเพราะคนอย่างเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาไม่เคยรู้อะไรเลยเขาไม่เคยได้รับรู้ว่าฉันที่รักเขาหมดใจตอนนี้มันเจ็บไปหมดขนาดไหนที่ต้องทนมองภาพบาดตาแบบนั้น...นี่หรอสำหรับสิ่งที่ฉันควรที่จะได้รับ?
22.15 น.
ติ๊ดๆๆ
ฉันที่กำลังจะนอนขมวดคิ้วนิดเมื่อจู่ๆเสียงโทรศัพท์ตัวเองมันดังขึ้น ฉันเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมาดูสายที่โทรเข้าก่อนที่สายตาฉันจะเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งทันทีที่เห็นว่าใครโทรมา ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆพร้อมกับตัดสายเขาและกดปิดเครื่องทันทีและนี่ก็เป็นครั้งที่เท่าไหนแล้วก็ไม่รู้ที่เขาโทรมาหาฉันแต่ฉันก็ไม่ยอมรับสายสักที วูฟทั้งโทรและส่งข้อความมาแต่สิ่งที่ฉันทำฉันทำแค่เข้าไปอ่านแต่ไม่ตอบโทรศัพท์ก็ปล่อยให้มันดังอยู่แบบนั้นโดยไม่คิดที่จะรับจนเขาตัดสายไปเอง และล่าสุดฉันรู้สึกรำคาญมันจึงปิดมันไปเลย
"นอนมิวสิค นอนสักที"
ใช่สิ่งที่ฉันควรจะทำและมันควรจะทำมาตั้งนานแล้วคือมันต่อจากนี้ ฉันควรจะรักตัวเองให้มากขึ้นและฉันควรขอบคุณตัวเองที่วันนั้นมันเจ็บจนทนไม่ไหวจนมันทำให้ฉันคิดได้...ถ้าฉันไม่รู้จักรักตัวเองแล้วใครมันจะมารักฉันพอแล้วต่อจากนี้ฉันจะดูแลตัวเองและเขาถึงตอนนี้ฉันจะยังทำใจไม่ได้แต่ฉันคิดว่าเวลาจะช่วยฉันได้ มันไม่ยากที่จะหยุดรักใครสักคนแต่สิ่งที่อย่าคือการตัดใจและตัดเขาออกไปจากชีวิตต่างหากที่ยาก
15/01/20xx
16.45 น.
ฟึ้บ...
"ให้ตายย ทำไมมันเหนื่อยงี้เนี้ย!"
เสียงของฉันดังขึ้นลั่นห้องพร้อมกับร่างฉันที่ทิ้งตัวลงที่โซฟากลางห้องอย่างเพลียๆหลังจากเรียนเสร็จและเพิ่งกลับมาถึงห้อง ฉันบิดขี้เกียจไปมากับโซฟาพร้อมกับถอนหายใจออกมาเสียงดังก่อนจะหลับตาลงเพื่อที่จะงีบหลับสักหน่อยฉันง่วงอ่ะเรียนมาตั้งแต่เช้าแล้ว
ติ๊งต่องๆๆๆ
"ไรเนี้ย?"
ฉันลุกขึ้นนั่งทันทีที่ได้ยินเสียงออดห้องตัวเองที่มันกำลังดังรั่วลั่นเหมือนคนที่กำลังกอดออดอารมณ์เสียอยู่ ฉันสูดหายใจเข้าปอดพร้อมกับลุกเดินไปที่ประตูหน้าห้องพร้อมกับส่องตาแมวเพื่อดูว่าใครมาก่อนที่ฉันจะหลับตาลงแน่นเพื่อตั้งสติ...ถึงฉันจะไม่อยากจะเจอแต่สุดท้ายแล้วยังไงวันนี้ก็ต้องมาถึงสินะ ฉันค่อยๆเอื้อมมือไปที่ลูกบิดประตูและเปิดมันออก
แกร๊ง...
"ทำไมไม่รับโทรศัพท์!!?"
"..."
"ผมทั้งโทรทั้งไลน์หา แต่มันกลับขึ้นแค่ว่าอ่านนี่มันแปลว่าไงว่ะมิวสิค!!?"
ฉันสบสายตากับวูฟที่ก้าวเข้ามาในห้องฉันพร้อมกับระเบิดเสียงดังลั่นอย่างหัวเสีย เขาที่อยู่ในชุดดำทั้งตัวมองมาที่ฉันด้วยสายตาแข็งกร้าวอย่างเห็นได้ชัดแต่สิ่งที่ฉันตอบกลับไปมีเพียงสายตานิ่งเรียบ วูฟถอนหายใจออกมาเสียงดังพร้อมกับมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า
"โกรธผมที่วันนั้นผมตัดสาย? นี่งอนผมถึงขนาดที่ตัดการติดต่อกันเลยรึไง!?"
"..."
"ผมถาม...ผมถามก็ตอบมิวอย่ามาเงียบใส่!"
"พูดจบรึยัง?"
"...?"
"ถ้าพูดจบแล้วฉันจะได้พูดบ้าง"
"หมายความว่าไง?"
ฉันสบสายตาที่กำลังมองมาที่ฉันอย่างสงสัยด้วยสายตานิ่งเรียบ ฉันว่าตอนนี้ฉันพร้อมแล้วล่ะฉันพร้อมแล้วจริงๆ...ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ
"ฉันว่าฉันคงไปกับนายต่อไม่ได้แล้วล่ะ"
"...มิวกำลังจะพูดอะไร?"
"ฉันแค่ต้องการหยุดน่ะ หยุดทุกอย่างที่ฉันเคยทำและทุกๆความสัมพันธ์ที่มีต่อนาย"
"..." วูฟมองมาที่ฉันนิ่งนานนับนาทีก่อนที่เจ้าตัวจะหัวเราะออกมาเบาๆเหมือนเมื่อกี้ฉันเพิ่งพูดเรื่องตลกกับเขา "นี่พี่งอนผมขนาดนี้เลยหรอว่ะ...เอาเป็นว่าผมขอโทษจริงๆนะมิวผมกะจะมาชวนพี่ไปเที่ยวกันเลยนะเสาร์อาทิตย์นี้อ่ะ ^^"
"ฉันไม่ได้งอนไม่ได้อะไรทั้งนั้นและตอนนี้...ฉันว่าฉันไม่มีความรู้สึกอะไรต่อนายแล้วล่ะวูฟ"
ฉันเงยหน้ามองวูฟที่กำลังยิ้มอยู่นิ่งและเมื่อเขาเห็นว่าฉันพูดออกมาแบบนั้นเจ้าตัวก็ค่อยๆหุบยิ้มลงพร้อมกับจ้องมองมาที่ฉันด้วยสายตาแข็งๆนั้นอย่างไม่พอใจทันที
"พี่เล่นอะไรอยู่?"
"ฉันไม่เคยเล่น ฉันไม่ใช่พวกที่ชอบเล่นกับความรู้สึกคนเหมือนนายหรอกวูฟ!!"
"อะไรกันนักกันหนาว่ะแค่ไม่ได้รับโทรศัพท์ผมก็มาง้อแล้วไงจะเอาอะไรอีก!!"
เพี๊ยะ!!
"แล้วมึงรู้ไหมว่าวันนั้นกูต้องการมึงขนาดไหนวูฟ!!?"
เกิดความเงียบขึ้นระหว่างฉันกับวูฟทันทีเมื่อฉันฟ้าดมือใส่แก้มเขาอย่างแรงจนวูฟหน้าหัน เจ้าตัวค่อยๆยกมือตัวเองขึ้นแตะที่มุมปากก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยเสียงหยันๆเมื่อเห็นว่าตอนนี้ตัวเองเลือดออกวูฟเหลือบสายตาขึ้นมองฉันด้วยสายตานิ่งเรียบ
"อย่าเอาแต่ตัวเองเป็นใหญ่เพราะมึงไม่เคยรู้จักกูจริงๆหรอกวูฟ"
"ไปเจออะไรที่มันดีกว่าผมมางั้นสิถึงได้กล้าถึงขนาดนี้?"
"ใช่...ไม่งั้นฉันจะอยากจบเรื่องนี้ทำไมล่ะ ^^"
ฉันเหยียดยิ้มออกมาช้าๆพร้อมกับสบสายตาคนตรงหน้าอย่างท้าทาย วูฟแสยะยิ้มมุมปากพร้อมกับก้าวเข้ามาหาฉันอย่างเชื่องช้าด้วยท่าทีคุกคามจนฉันจำต้องถอยหลังช้าจนหลังฉันสัมผัสกับเสา ฉันค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองเขาที่เดินมาหยุดยืนห่างจากฉันไม่มากด้วยสายตาที่พยายามนิ่งเรียบเช่นเคย
"มันเด็ดขนาดไหนล่ะ เด็ดกว่าผมอีกงั้นสิ!?"
พรึ่บ!!
"อ๊ะ อื้ออ!!"
ฉันยกมือขึ้นดันวูฟที่คว้าท้ายทอยฉันเข้าไปหาพร้อมกับประกบจูบลงมาที่ริมฝีปากฉันด้วยความรุนแรงเหมือนสัตว์ปากมันทั้งรุนแรงและหยาบคายจนฉันรู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือดแต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่ยอม ฉันพยายามสบัดตัวออกจากเขาด้วยแรงทั้งหมดที่มีแม้ว่าริมฝีปากตัวเองกำลังถูกวูฟครอบครองอยู่
พลั่ก! เพี๊ยะ!!
"เลว!!"
"เออเลวก็ผัวมึงไง!!"
"มึงอย่ามาพูดแบบนี้วูฟ เพราะมึงไม่ใช่!"
"อ่อหรอ แล้วปกติคนเอากันเนี้ยเขาเรียกว่าอะไร?"
"อย่ามาถามหาคำเรียกเพราะมึงไม่เหมาะสมมันสักคำนอกจากคำว่าเลว!"
"เฮอะ!"
เสียงหัวเราะของวูฟดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับริมฝีปากเขาที่มีเลือดไหลลงมาเพราะฉันที่ตบเขาอีกครั้ง วูฟดันฉันเข้ากำแพงห้องโน้มใบหน้าร้ายๆของตัวเองลงมาหาฉันพร้อมกับสบสายตากับฉันนิ่ง ฉันกล้ำกลืนความเจ็บปวดของตัวเองลงคอพร้อมกับกำมือเข้าหากันแน่น
"ออกไป แล้วอย่ากลับเข้ามาอีกเพราะกูจะไม่มีวันเปิดรับมึงเข้ามาอีกต่อไปแน่!"
"นี่ไล่? ใครกันแน่ว่ะเป็นคนชวนผมเข้ามาแล้วตอนนี้...ดูสิเธอกำลังไล่ผม??"
"ชวนเข้ามาก็ไล่ออกไปได้วูฟ นายก็ไม่ได้อยากจะเข้ามาอยู่แล้วนิเพราะงั้นออกไปสิ"
"..."
"ในเมื่อมึงไม่เคยรักกูมึงก็ออกไป!!"
"..."
พลั่ก!!
ฉันเซไปเล็กน้อยเมื่อวูฟพลักฉันเข้ากับกำแพงพร้อมกับเขาที่มองหน้าฉันนิ่ง เขาค่อยๆยกหลังมือเช็ดเลือดออกจากมุมปากตัวเองโดยที่สายตานั้นมันไม่ล่ะออกจากฉันเลย...สายตาที่กำลังเจ็บปวดของฉันจ้องมองเขาไปที่สายตาแข็งๆนั้นเพื่อจะดูว่ามันจะมีความรู้สึกอะไรไหมแต่สิ่งที่ฉันได้เจอมันกลับมีเพียงความว่างเปล่า เจ้าของสายตาแข็งกร้าวตรงหน้าสบสายตากับฉันนิ่งก่อนที่เขาจะเหยียดยิ้มออกมาและพยักหน้าช้าๆ
"...ได้"
เสียงทุ้มต่ำของเจ้าตัวดังขึ้นพร้อมกับสายตาแข็งกร้าวนั้นที่มองมาที่ฉันอีกเสี้ยววินาทีก่อนที่ร่างสูงของเขาจะเดินหันหลังออกไปโดยไม่หันกลับมามองฉันอีก
แกร๊ง! ปั่ง!!
ฟึ้บ...
"อึ่ก..."
ร่างของฉันทรุดลงกับพื้นทันทีที่ได้ยินเสียงปิดประตูที่ดังสนั่นห้องพร้อมกับน้ำตาของฉันที่มันไหลลงมาเหมือนเขื่อนแตกเสียงร้องไห้ของฉันดังไปทั่วห้องพร้อมกับฉันที่สันเข่าขึ้นพร้อมกับฟุ่บใบหน้าร้องไห้มันอยู่อย่างนั้น...มันจบแล้ว และเขาก็เดินออกไปจากฉันแล้วเช่นกันมันเจ็บนะเจ็บที่สุดท้ายแล้วฉันต้องมาจบความสัมพันธ์กับเขาลงอย่างนี้แต่มันก็ใช่ว่าจะไม่ดี มันต้องดีขึ้นแม้ในวันนี้ฉันจะอ่อนแอแต่วันข้างหน้าฉันสัญญาว่าฉันจะก้าวเดินไปข้างหน้าโดยที่ไม่มีเขาให้ได้