บทที่ 6 พบกันอีกครา

1672 คำ
บทที่ 6 พบกันอีกครา ฟางเมี่ยวขมวดคิ้วมุ่นเมื่อได้เห็นท่าทีที่ต่างไปจากเดิมของหลี่เยี่ยนเฉิน แววตาของเขาที่มองนางดูคล้ายไม่เหมือนเดิม ทุกคราที่ได้พบกัน แววตาของเขาช่างกระจ่างใสและบริสุทธิ์ เป็นแววตาของเด็กหนุ่มที่ไร้เดียงสา มีทั้งความอบอุ่นและอ่อนโยนมอบให้แก่นาง แต่เหตุใดครั้งนี้นางจึงรู้สึกว่าแววตาของเขาดูเย็นชาและตัดพ้อนางในคราเดียวกัน แต่ทว่าเมื่อหันไปมองอีกคราก็พบว่าหลี่เยี่ยนเฉินได้จากไปพร้อมกับขบวนกองทัพแล้ว เขาไม่แม้แต่จะส่งยิ้มทักทายให้นางเลยแม้แต่น้อย ฟางเมี่ยวคร้านจะคิดสิ่งใดให้มากความอีก บางทีหลี่เยี่ยนเฉินอาจจะเดินทางเหนื่อยจึงไม่มีเวลาทักทายนาง หรือบางคราการเดินทางกลับอาจจะต้องรีบเร่งตามคำสั่งของฮ่องเต้เขาจึงไม่มีเวลาส่งจดหมายมาบอกนาง แค่นางต้องสะสางเรื่องในจวนก็เหนื่อยมากพอแล้ว นางไม่มีเวลามาคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก เอาเถิด อย่างไรเขากับนางย่อมต้องได้พบเจอกันอีกเป็นแน่ ฟางเมี่ยวหยิบผ้าที่วางอยู่ขึ้นมาเช็ดมือ ก่อนจะเดินออกมาจากห้อง นางกวาดสายตามองไปโดยรอบคราหนึ่ง ยามนี้โรงน้ำชาค่อนข้างคึกคักไม่น้อยแล้ว ผู้คนต่างแวะเวียนเข้ามาลองชิมชาชั้นดีและขนมเลิศรสที่โรงน้ำชาของนาง นับว่าตระกูลของท่านแม่วางรากฐานการค้าเอาไว้ได้ดีไม่น้อย ทำเลที่ตั้งก็จัดว่าอยู่ในสถานที่ที่ดีมาก "ลู่ชิง กลับจวน ข้าง่วงแล้ว" "เอ่อ คุณหนูเจ้าคะ คือว่า.." "มีอันใด" ฟางเมี่ยวหันไปมองลู่ชิงคราหนึ่งด้วยความสงสัย ลู่ชิงยิ้มตาหยีก่อนจะเอ่ย "คือว่า คุณหนูไม่แวะไปดื่มสุราที่หอสุราเฉียวเป่าก่อนหรือเจ้าคะ เสร็จแล้วก็ไปเล่นไพ่นกกะจอกที่โรงพนันดีหรือไม่เจ้าคะ เผื่อว่ามือจะขึ้น" เมื่อได้ยินลู่ชิงเอ่ยเช่นนั้น ฟางเมี่ยวก็จำขึ้นมาได้ในทันที นางในชาติก่อน นอกจากจะวิ่งตามยั่วยวนเย่จิ้นหยางอย่างบ้าคลั่งแล้ว นางยังขึ้นชื่อว่าเป็นสตรีที่เข้าออกโรงพนันเป็นว่าเล่น อีกทั้งยังติดสุราจนมือสั่น วันใดไม่ได้ดื่มก็จะทุรนทุรายทุบตีบ่าวไพร่ทำลายข้าวของในจวน และนางยังจำได้ดีว่าอนุซางเอ่ยกับนางเช่นไร "เร็วเข้า รีบไปนำสุรามาให้คุณหนู เอามาเยอะๆ อย่าให้คุณหนูต้องโมโห มิเช่นนั้นพวกเจ้าจะถูกสั่งโบย!!!" ฟางเมี่ยวแค่นเสียงเหอะในลำคอ บัดซบจริงๆ นอกจากไม่พานางไปรักษาแล้วยังเพิ่มสุราที่มีรสชาติแรงให้นางขึ้นเรื่อยๆ ใจคอต้องอำมหิตเพียงใดถึงได้สั่งสอนให้เด็กสาวอายุเพียงสิบห้าปีติดสุราจนเมามายเช่นนั้น อนุซางนี่น่าจะฆ่าให้ตายไม่น่าลงโทษเพียงไล่นางออกไป จะว่าไปก็รู้สึกหิวเหล้าขึ้นมาบ้างไม่น้อยแล้ว!!! ถุยๆๆๆ ชาตินี้ข้าจะต้องเป็นคนดีสิ โชคดีที่ชาตินี้นางยังไม่ได้ติดสุราถึงขั้นขาดมันไม่ได้ ร่างกายจึงไม่ได้ทรมานเช่นชาติก่อนอีกยามที่ไม่ได้ดื่ม "ลู่ชิง" "เจ้าคะ" "หากเจ้าเอ่ยถึงโรงสุราและโรงพนันข้าจะตัดลิ้นเจ้าเสีย" "บ่าวไม่กล้าแล้วเจ้าค่ะ" ลู่ชิงหวาดกลัวไม่น้อย ในใจพลางคิดว่าระยะนี้คุณหนูของนางดูแปลกไปไม่น้อยเลย "กลับจวน" ฟางเมี่ยวคลี่พัดสีขาวขึ้นมาพัดให้ตนเอง ก่อนจะเดินลงมาชั้นล่างของโรงน้ำชา เมื่อกำลังจะเดินออกมาที่หน้าประตู นางก็ได้พบกับสตรีนางหนึ่งเข้า สตรีนางนั้นที่นางเคยวางแผนกลั่นแกล้งสารพัด เพียงเพราะความริษยา จางเสวี่ยฮุ่ย! "ท่านอ๋อง!!ทรงทำเช่นนี้จะไม่ดูโหดร้ายไปหน่อยหรือเพคะ" ภาพในวันนั้นทำให้ฟางเมี่ยวเริ่มหายใจติดขัด ร่างกายโงนเงน จนลู่ชิงต้องช่วยประคอง จางเสวี่ยฮุ่ยที่ได้เห็นเช่นนั้นก็มีสีหน้าตกใจไม่น้อย ใบหน้าซีดเซียวแต่ทว่างดงามของนางช่างดูน่าทะนุถนอมเป็นอย่างมาก นางเดินเข้ามาช่วยประคองฟางเมี่ยวเอาไว้ พลางเอ่ยอย่างเป็นมิตร "แม่นาง เจ้าเป็นอันใดหรือไม่?" เสียงที่คุ้นเคยทำให้ฟางเมี่ยวได้สติกลับคืนมา ก่อนจะหันไปมองจางเสวี่ยฮุ่ยที่ยามนี้กำลังมองนางด้วยความห่วงใย ใบหน้าของจางเสวี่ยฮุ่ยคล้ายคมมีดที่กรีดลึกลงมาที่กลางใจของฟางเมี่ยว ชาติก่อนนางชั่วช้าเหลือเกิน ถึงขนาดกล้าแย่งสามีและรังแกจางเสวี่ยฮุ่ยสารพัด แต่จางเสวี่ยฮุ่ยกลับไม่เคยโต้ตอบนางเลย จางเสวี่ยฮุ่ยไม่ได้ทำผิด เป็นนางที่เดินเข้าหาความตายเอง นางเลือกทางเดินที่ผิดเอง เมื่อคิดได้เช่นนั้น นางจึงเอ่ยกับจางเสวี่ยฮุ่ยด้วยน้ำเสียงที่ประหม่าเล็กน้อย "ข้าไม่เป็นอันใด ขอบคุณแม่นางมาก" "แน่ใจหรือ ใบหน้าของเจ้าดูซีดเซียวไม่น้อย อ้อ ข้ามียาบำรุงอยู่หนึ่งห่อ บังเอิญได้มาจากท่านหมอน่ะ ข้ากินแล้วดีมาก แม่นางรับเอาไว้เถอะ" "เอ่อ.." "รับไว้เถอะ" "ขอบใจเจ้ามากนะ" จางเสวี่ยฮุ่ยยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ย "ไม่เป็นอันใด ข้าชื่อจางเสวี่ยฮุ่ยนะ เป็นบุตรสาวจวนราชครู เจ้าเล่า" ฟางเมี่ยวกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย "ข้าชื่อฟางเมี่ยว บุตรสาวจวนตระกูลฟาง" "อ้อ" ฟางเมี่ยวยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะหันไปเอ่ยกับลู่ชิง "ไปบอกผู้ดูแลร้านว่าให้นำใบชาชั้นดีมามอบให้คุณหนูจางด้วย" "เจ้าค่ะ" จางเสวี่ยฮุ่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบส่ายหน้าไปมาทันที ฟางเมี่ยวยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะรับห่อใบชามายัดใส่มือให้จางเสวี่ยฮุ่ย "แลกกันอย่างไรเล่า ข้ารับของของเจ้ามามือเปล่าไม่ได้หรอกนะ" "เช่นนั้นก็ได้" จางเสวี่ยฮุ่ยรับใบชาชั้นดีไปถือเอาไว้ ฟางเมี่ยวปรายตามองข้อมือของจางเสวี่ยฮุ่ยคราหนึ่งก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น นางไม่เคยรู้มาก่อนว่าจางเสวี่ยฮุ่ยจะผอมบางถึงเพียงนี้ แขนของสตรีนางนี้แทบจะหักได้อยู่แล้ว ราวกับว่านางไม่ได้กินอิ่มอย่างไรอย่างนั้น "พี่ใหญ่ ชักช้าอยู่ไยกัน ข้ารอนานแล้วนะ ไหนเล่าใบชาของท่านแม่ข้าน่ะ!!!" "อ้อ ข้ากำลังจะไปซื้อ" "แล้วที่อยู่ในมือท่านนั่นคือสิ่งใด อ้อ นี่ท่านคิดจะแอบเก็บใบชาชั้นดีเอาไว้ต้มดื่มคนเดียวใช่หรือไม่ คอยดูเถิด ข้าจะฟ้องท่านพ่อให้ลงโทษท่าน!!!" "ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ไม่ใช่ เอ่อ ฟางเมี่ยวข้าไปก่อนนะ ขอโทษเจ้าด้วย" "อืม" จางเสวี่ยฮุ่ยลนลานจากไป ฟางเมี่ยวมองตามนางจนลับสายตา ก่อนจะครุ่นคิด ดูจากสถานการณ์เมื่อครู่แล้ว นางพอจะเดาออกแล้วว่าเหตุใดจางเสวี่ยฮุ่ยจึงดูผอมบางราวกับคนไม่ได้กินอิ่มเช่นนั้น นางถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง เรื่องของผู้อื่นอย่าไปใส่ใจเลย อย่างไรนางกับจางเสวี่ยฮุ่ยย่อมไม่ได้เกี่ยวข้องกันอีก นี่เป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น ยามนี้จางเสวี่ยฮุ่ยยังคงเป็นสาวน้อยไม่ได้แต่งเข้าจวนอ๋องเป็นพระชายาสินะ แต่ทว่าอีกไม่นานจางเสวี่ยฮุ่ยย่อมต้องได้แต่งงานกับเย่จิ้นหยางอย่างแน่นอน ส่วนนางก็จะต้องแต่งกับหลี่เยี่ยนเฉินให้ได้ นางจะไม่เดินซ้ำรอยเดิมอีก ยามนี้นางเริ่มจะปล่อยวางเรื่องในกาลก่อนได้บ้างแล้ว นางจะไม่เป็นชายารองหรืออนุของผู้ใด นางจะไม่แย่งสามีของผู้ใด นางจะต้องมีชีวิตที่ดีกว่าชาติก่อนให้ได้!!! เมื่อคิดได้เช่นนั้น นางจึงหันไปเอ่ยกับลู่ชิงทันที "กลับจวนกันเถิด" "เจ้าค่ะคุณหนู" "อ้อ ระหว่างทางแวะร้านตำราให้ข้าด้วย" "คุณหนูจะซื้อบทละครงิ้วมาอ่านหรือเจ้าคะ?" "ไม่ ข้าอยากได้ตำราคุณธรรมหญิงและตำราอาหารมาอ่าน" "หา!!!คุณหนูอ่านรู้เรื่องหรือเจ้าคะ!!" "หากถามอีก ข้าจะตบเจ้าจนฟันหน้าเจ้าหลุดแน่นอน!!!" ฟางเมี่ยวรีบก้าวเดินขึ้นรถม้า ก่อนจะตรงไปร้านตำราในทันที หลี่เยี่ยนเฉินที่ยืนหลบอยู่ในมุมหนึ่งไม่ไกลมากนัก เขามองตามรถม้าของฟางเมี่ยวไปจนลับสายตา ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น เขาเห็นทั้งหมด เมื่อครู่ฟางเมี่ยวสนทนากับจางเสวี่ยฮุ่ยที่ยามนี้ยังเป็นเพียงบุตรสาวจากจวนราชครู ไม่ใช่พระชายาเอกจวนชินอ๋อง ฟางเมี่ยวมีท่าทีเป็นมิตรกับจางเสวี่ยฮุ่ยอย่างยิ่ง นี่เขาตาฝาดไปหรือไม่ อีกทั้งนางยังไม่ได้ทาแป้งผัดหน้าจนหนาราวกับนางเอกงิ้วอีกด้วย เหตุใดการที่เขาย้อนกลับมาเกิดใหม่ครานี้ทุกอย่างจึงดูผิดแปลกไปหลายอย่างกันเล่า หรือว่าที่ฟางเมี่ยวทำดีกับจางเสวี่ยฮุ่ยเพราะมีแผนการชั่วช้าอยู่ในใจ!!! ไม่ได้การ เขาจะต้องจับตาดูนางเอาไว้ ว่าแต่เมื่อครู่เขาได้ยินนางเอ่ยว่าจะไปร้านตำราอย่างนั้นหรือ? นางไม่ไปหอสุราแล้วหรือ? นางจะไม่ลงแดงเอาหรือ?
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม