เปลวเพลิงแห่งความโกรธแค้นได้แปรเปลี่ยนพลังแห่งแสงที่บริสุทธิ์ของเซียวหลันให้กลายเป็นพลังทำลายล้างที่รุนแรง นางรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่หลั่งไหลเข้ามาจากบาดแผลของหลี่หยาง และนั่นยิ่งทำให้พลังในตัวนางปะทุขึ้นราวกับเปลวเพลิงที่กำลังโหมกระหน่ำ ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ผมดำขลับสยายยาวราวกับสายน้ำที่ถูกสาดด้วยแสงเรืองรอง
"พวกเจ้า... กล้าดียังไงมาทำร้ายเขา!" เซียวหลันตะโกนสุดเสียง เสียงของนางไม่ได้อ่อนหวานอย่างที่เคยเป็น แต่กลับแหบพร่าและเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือกที่น่ากลัว
กลุ่มคนในชุดคลุมสีดำที่เห็นการเปลี่ยนแปลงของเซียวหลันก็ตกตะลึง พวกเขาไม่เคยพบเห็นพลังที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อน พวกเขาที่เคยดูถูกพลังของนาง บัดนี้กลับรู้สึกหวาดกลัวอย่างจับใจ
"เจ้า... เจ้าเป็นใคร" ชายชุดดำคนหนึ่งอุทานด้วยความตกใจ
เซียวหลันไม่ตอบ นางพุ่งเข้าใส่กลุ่มคนชุดดำอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด นางใช้พลังแสงสีแดงเข้มที่พุ่งออกจากฝ่ามือโจมตีเข้าใส่พวกเขาอย่างบ้าคลั่ง พลังที่รุนแรงของนางทำให้พวกเขาไม่อาจตั้งรับได้ทันท่วงที
"อ๊ากกก!" เสียงกรีดร้องดังขึ้นเมื่อชายชุดดำคนหนึ่งถูกโจมตีเข้าเต็มแรง ร่างของเขาลอยกระเด็นออกไปกระแทกกับกำแพงอย่างรุนแรง
หลี่หยางที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น มองภาพเซียวหลันที่กำลังต่อสู้อย่างดุดัน เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่บาดลึกเข้าไปถึงกระดูก แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่ไหลเวียนเข้าสู่หัวใจ
เซียวหลันจัดการกับชายชุดดำไปทีละคนอย่างรวดเร็ว พวกเขาที่เคยโอหังบัดนี้กลับไม่สามารถต้านทานพลังที่รุนแรงของนางได้เลย
ในขณะที่การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด เฉินเหวินก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับทหารองครักษ์จำนวนมาก เขาเห็นภาพของเซียวหลันที่เต็มไปด้วยพลังที่น่ากลัว และเห็นหลี่หยางที่นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด
"หยุดเดี๋ยวนี้!" เฉินเหวินตะโกนสุดเสียง "หากพวกเจ้ายังไม่หยุด ข้าจะฆ่าพวกเจ้าทั้งหมด!"
กลุ่มคนชุดดำหยุดการต่อสู้ในทันที พวกเขามองไปยังเฉินเหวินด้วยสายตาที่เคียดแค้น
"เฉินเหวิน... เจ้ากล้าขัดขวางพวกเรางั้นรึ" ชายชุดดำคนหนึ่งกล่าวเสียงห้าว "เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าเรามีข้อตกลงอะไรกันไว้"
"ข้อตกลงนั้นไม่มีผลแล้ว" เฉินเหวินตอบเสียงเรียบ "หากพวกเจ้ายังไม่ถอยออกไปจากที่นี่... ข้าจะไม่ไว้ชีวิตพวกเจ้า!"
ชายชุดดำหัวเราะเยาะ "เจ้าคิดว่ากำลังคนของเจ้าจะสามารถสู้กับพวกเราได้งั้นหรือ"
ทันใดนั้นเองเสียงหวีดหวิวของกระบี่เล่มหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากด้านหลังของเฉินเหวิน หลี่หยางค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ แม้ร่างกายของเขาจะบาดเจ็บสาหัส แต่ดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะปกป้องเซียวหลัน
"พวกเจ้า... เป็นคนของสำนักอัคคีทมิฬใช่หรือไม่" หลี่หยางถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
"เจ้า... รู้ได้อย่างไร" ชายชุดดำอุทานด้วยความตกใจ
“เพราะข้าจะล้างแค้นให้ครอบครัวของข้า!!” หลี่หยางกล่าว ก่อนจะพุ่งเข้าใส่ชายชุดดำด้วยความเร็วที่เหนือกว่าเดิม เขาใช้พลังอัคคีที่เหลือทั้งหมดในตัวฟันเข้าใส่ชายคนนั้นอย่างบ้าคลั่ง
เซียวหลันมองการต่อสู้อย่างตกตะลึง นางไม่เคยเห็นหลี่หยางต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายถึงเพียงนี้มาก่อน เปลวเพลิงแห่งความแค้นได้โหมกระหน่ำในใจของเขา และมันก็ทำให้พลังของเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ
ในที่สุด การต่อสู้ก็จบลง... กลุ่มคนชุดดำถูกจัดการจนสิ้น ส่วนหลี่หยางก็ล้มลงกับพื้นด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส เซียวหลันรีบวิ่งเข้าไปหาเขาด้วยความร้อนรน
"หลี่หยาง! หลี่หยาง!" เซียวหลันตะโกนสุดเสียง "ท่านต้องไม่เป็นไรนะ"
"ข้า... ไม่เป็นไร" หลี่หยางกล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าของเขาซีดเผือดราวกับกระดาษ
เซียวหลันใช้พลังแสงที่เหลืออยู่ทั้งหมดในตัวเพื่อรักษาเขา แต่นางรู้สึกว่าพลังของเธอยังไม่พอที่จะรักษาเขาให้หายขาดได้
ในขณะที่เซียวหลันกำลังพยายามรักษาหลี่หยางอยู่นั้น เฉินเหวิน ก็เดินเข้ามาหาพวกเขา เขามองเซียวหลันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตกใจและความสนใจ
"เจ้า... เป็นใครกันแน่" เฉินเหวินถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "พลังของเจ้า... มันคือพลังอะไร"
เซียวหลันเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาของนางยังคงมีร่องรอยของความโกรธที่ยังไม่จางหายไป นางตระหนักได้ว่าเธอกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่อันตรายที่สุด และเธอไม่สามารถหลีกหนีได้อีกต่อไปแล้ว