พระพายสุดจะทนเปิดประตูลงจากรถ หญิงสาวอยู่ในชุดสูทสีขาวพร้อมรองเท้าสีแดงสดส้นเข็มสูงสามนิ้วที่ช่วยเสริมให้คนตัวสูงขาเรียวยาวมากยิ่งขึ้น
“โว๊ะ! ออกไป”
มอ~~มอ~~
“มออะไร ออกไปโว้ย!” ระหว่างที่เธอกำลังทะเลาะกับฝูงวัวอยู่ สายตาก็พลันเห็นร่างสูงที่กำลังก้มๆ เงยๆ อย่างไม่ทุกข์ร้อน
“นี่นาย! คุณตรงนั้นนะ หูตึงรึไง!” สองเท้าเรียวก้าวฉับๆ แหวกทางเดินผ่านฝูงวัว หยุดยืนตรงด้านหลังชายคนดังกล่าว
“นาย! ช่วยบอกให้วัวของนายเดินออกไปให้พ้นทางหน่อยได้มั้ย”
“มีปากก็บอกมันเองสิ”
“ฉันเป็นคนนะ จะคุยกับวัวรู้เรื่องได้ยังไง”
“ฉันก็คน หรือเธอเห็นว่าฉันหล่อเข้าหน่อยเลยคิดว่าเป็นเทวดาสิท่า”
“เหอะ! หลงตัวเองไปหน่อยมั้ย หน้านายฉันก็ยังไม่เห็นสักนิด แน่จริงก็หันหน้ามาสิ” เธอจับไหล่ของเขาเพื่อให้หันกลับมา ทว่าวัวตัวหนึ่งกำลังวิ่งมาทางเธอ ทำให้พระพายตกใจเสียหลักสะดุดขาตัวเองไถลลงทุ่งนาหน้าคว่ำลงน้ำเสียงดังตูม
อาชาที่เห็นเช่นนั้นรีบวิ่งไปคว้าร่างบางให้นอนหงาย พระพายสำลักพ่นน้ำในคันนาออกมาจากปาก
แค่ก! แค่ก!
ชายหนุ่มนึกขำกับท่าทางของเธอ ที่ตอนนี้กลายเป็นผู้ประสบภัยเป็นที่เรียบร้อย
“หัวเราะบ้าอะไร! แค่ก! แค่ก!” เธอพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้น แต่ก็ลุกไม่ขึ้นอยู่ดี จนเธอต้องนั่งจมปลักอยู่ตรงนั้นต่อ
“ร้อนเหรอครับคุณผู้หญิง”
“หึ! เอาฉันขึ้นไปหน่อย” น่าอายชะมัดที่คนสวยอย่างพระพายต้องมานอนจมน้ำขังในทุ่งนาแบบนี้
หมดกันชุดสวยๆ ของฉัน สีขาวซะด้วยจะซักออกมั้ยเนี่ย
*****
“หน้าคุ้นๆ นะ” อาชาที่เอาผ้าขาวม้ามาพันปิดจมูก ปิดปากเอาไว้แสร้งเอ่ยทักเหมือนไม่รู้จักคนตรงหน้า
“ฉันไม่เห็นคุ้น เห็นฉันสวยไม่ได้จะมาโมเมว่ารู้จักกัน ไม่มากไปหน่อยเหรอ”
“เนี่ยนะสวย?” คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน นึกขำร่างบางตรงหน้า เธอคงไม่ได้มองกระจกจึงไม่รู้ตัวว่าสภาพตัวเองตอนนี้จะไปหาความสวยมาจากไหนเจอก่อน
ชุดสูทสีขาวเปื้อนโคลน ผมยาวสลวยที่ผ่านการเซตทรงมาอย่างดีเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ ใบหน้าสวยที่เคยผ่านการแต่งเติมมาเป็นอย่างดีก็ไม่เหลือ
“อร้ายยย~~” เมื่อยกมือขึ้นเช็ดน้ำที่กำลังจะไหลเข้าตาเธอจึงได้รู้ความจริงว่าตอนนี้สภาพหน้าของเธอเละขนาดไหน พระพายกรีดร้องด้วยความหัวเสีย เธอจะไม่ยอมเป็นคนเดียวที่เลอะขี้โคลนแน่
ว่าแล้วมือเรียวก็ยกขึ้นขอความช่วยเหลือพร้อมท่าทางขอร้อง ซ่อนความเจ้าเล่ห์เอาไว้ภายในดวงตา
“ช่วยฉันขึ้นไปหน่อยเถอะนะ พลีสสส~”
“ก็ได้”
ตูม!!
เสียงน้ำกระเด็น อาชาถูกดึงให้ล้มลงไปตามแรงถึงแม้เขาจะรู้อยู่แล้วว่าหญิงสาวจะมาไม้นี้แต่ก็ยังยอมเล่นตามน้ำไป
“สมน้ำหน้า! คิดจะเต๊าะคนสวยอย่างฉัน คนเลี้ยงวัวอย่างนายรอชาติหน้าไปแล้วกันนะ”พระพายที่กำลังพยุงตัวเองลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล ทว่าเอวคอดของเธอกลับถูกมือหนาของอาชาคว้าไว้เสียก่อน
“ปล่อยฉันนะ!” พระพายดิ้นตัวไปมาท่ามกลางน้ำโคลนสีขุ่น ในที่สุดเธอก็หลุดออกมาจากคนฉวยโอกาสได้ ปีนคันนาขึ้นมายืนเท้าสะเอวอยู่บนถนนดินแดงมองร่างสูงอย่างคาดโทษ
“ฝากไว้ก่อนเถอะ” พระพายหันหลัง สองมือถือรองเท้าคู่สวย สองเท้าเปล่าเดินมุ่งไปยังรถที่จอดอยู่
“เวรเอ๊ย! สภาพนี้จะขึ้นรถได้ยังไง ลูกแม่ก็เปื้อนหมดสิ”
“ให้ไปส่งมั้ยคนสวย” อาชาตะโกนบอกหลังจากเขาปีนขึ้นจากคันนา
“เงียบปากนายไปเลยไอ้คนเลี้ยงวัว เพราะนาย! กับวัวของนาย! ดูสภาพฉันสิ”
“หึ!” อาชานึกขำขึ้นมาอีกครั้ง ร่างสวยก่อนหน้ากลายเป็นร่างโคลนอย่างช่วยไม่ได้
“นี่! คนเลี้ยงวัว บ้านยายจันทราไปทางไหนรู้มั้ย” ก่อนหน้าเธอโดนจีพีเอสหลอกมาแล้ว ลองถามคนในพื้นที่ดูคงไม่เสียหาย จะได้ไม่เสียเวลาและเธอก็อยากล้างตัวเต็มทน
“เป็นอะไรกับยายจันทราเหรอ”
“เสือก! ค่ะ”
“งั้นก็ไปเอง”
“เอ้า! เดี๋ยวก่อนสิไอ้คนเลี้ยงวัว”
“อะไรอีก! ฉันจะเอาวัวไปกินหญ้า ไม่ว่างมาเสวนากับสาวเมืองกรุงมารยาทแย่”
“นายนะสิมารยาทแย่ ทั้งคน ทั้งวัว” แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเธอเองก็ทำมารยาทแย่จริงอย่างที่เขาว่า แต่แล้วไง...เธอไม่ยอมรับซะอย่างคนตรงหน้าก็ไม่มีสิทธิ์มาด่า
หญิงสาวหันหลังเดินสะบัดก้นไปเปิดประตูลูกรัก ทิ้งตัวกระแทกลงนั่งบนเบาะด้วยความโมโห ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้วัวฝูงนี้กับเจ้าของปากเสียนั่น เธอก็คงไม่ต้องตัวเปื้อนโคลนอย่างนี้
ก๊อก!! ก๊อก!!
ระหว่างที่พระพายกำลังนั่งสงบสติอารมณ์ระงับความโกรธของตัวเองอยู่นั้น เสียงเคาะกระจกรถก็ดังขึ้นจนเธอต้องยอมเลื่อนกระจกรถลงด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงไม่อยากจะเสวนากับชายหนุ่มตรงหน้าอีก
“มีอะไรอีกมิทราบ”
“กลับรถแล้วเลี้ยงซ้าย”
“ขอบคุณ...ค่ะ” เธอเอ่ยบอกพร้อมกับกดเลื่อนกระจกรถขึ้นจนปิดสนิท ถ้าเขายอมบอกเธอตั้งแต่แรกก็จบเรื่องกันไปนานแล้ว ไม่ต้องมาต่อล้อต่อเถียงกันอยู่แบบนี้
คนบ้าอะไรมัวแต่ยืนเก๊กหล่อเถียงเธออยู่ได้ แต่จะว่าไปรูปร่างหน้าตาไอ้หนุ่มเลี้ยงวัวนั่นมันก็คุ้นตา เหมือนเธอเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เธอพยายามคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ยังจำไม่ได้ว่าใบหน้าที่เปื้อนโคลนนั่นเหมือนเคยเห็นที่ไหน จนกระทั่งตัดสินใจเลิกคิดแล้วกลับรถขับไปตามทางที่ชายหนุ่มบอกมา จนในที่สุดเธอก็เดินทางมาถึงบ้านของคุณยายจันทราสำเร็จ