ตอนที่ 1 ดวงซวย

1327 คำ
“อ้าวอีน้ำค้าง อีไอริน พวกแกวิ่งหน้าตาตื่นอะไรกันมา” เฟญ่าจ่ายเงินเสร็จก็ออกมายืนรอที่รถตามที่น้ำค้างบอก เพียงไม่นานก็เห็นทั้งสองคนทำท่าเหมือนกับวิ่งหนีอะไรกันมาจึงรีบเอ่ยถาม “ก็ยัยน้ำค้างน่ะสิไปกระโดดถีบใครก็ไม่รู้” “ก็แกบอกว่าใส่เสื้อดำ เจาะหู ห้อยสร้อยเกียร์ ฉันก็เห็นผู้ชายคนนั้นตรงกับที่แกบอกทุกอย่าง ก็เลย…” น้ำค้างเอ่ยกับไอริน รู้ว่าผิดคนก็น่าจะบอกกันให้เร็วกว่านี้หน่อย แล้วนี่เธอไปกระโดดถีบใครก็ไม่รู้ ดีที่ไม่ตามมาเอาเรื่อง “ก็แกไม่ถาม จู่ ๆ ก็เข้าไป แล้วฉันจะห้ามทันได้ยังไง” “เออ ๆ ช่างเถอะ ยังไงก็คงไม่ซวยเจอกันอีก” น้ำค้างบอกปัด เรื่องมันเกิดขึ้นแล้วจะมัวมาเถียงกันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา “ขอให้เป็นอย่างนั้นนะยะ” เฟญ่าส่ายหัวให้เพื่อนสาวทั้งสอง น้ำค้างเป็นคนไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบหรือรังแกได้ง่าย ๆ ยิ่งเป็นเรื่องของเพื่อนรัก เธอยิ่งไม่ยอม หลังจากไปส่งเพื่อนทั้งสองคนน้ำค้างก็ขับรถกลับที่พัก เธอย้ายออกมาอยู่คอนโดแห่งนี้ตั้งแต่ลงเรียนภาคฤดูร้อนของปีหนึ่ง ครอบครัวของเธอทำธุรกิจโรงแรม แต่พ่อแม่ก็เลือกแยกกันคนละทางและจดทะเบียนหย่าตอนเธอเรียนมัธยมปลาย เมื่อปีก่อนผู้เป็นพ่อก็ได้แต่งงานใหม่ พาภรรยาและลูกติดเข้ามาอยู่ในบ้าน เธอรู้สึกราวกับว่าถูกสองแม่ลูกนั้นกลั่นแกล้งทำให้ทนอยู่ในบ้านหลังนั้นไม่ได้ จึงตัดสินใจขอพ่อย้ายมาอยู่คอนโดที่แม่ซื้อเอาไว้ให้ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับญาติที่ประเทศออสเตรเลีย ***** วันต่อมา ฉลามลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก เขาลุกขึ้นนั่งหย่อนขาลงข้างเตียง เอียงคอซ้ายทีขวาทีเพื่อไล่ความปวดเมื่อย ก็รู้สึกเจ็บหน้าอกขึ้นมานิดหน่อย พลันทำให้นึกถึงใบหน้าของหญิงสาวเมื่อคืน “สวยซะเปล่า แต่แม่งโหดแบบนี้ไม่น่ามีใครเอาทำเมีย” เขาลุกออกจากเตียงไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วสวมเสื้อช็อปสีแดงเลือดหมูทับกับเสื้อยืดสีดำ ก่อนจะคว้าโทรศัพท์มาโทรหาเพื่อนรักที่อยู่ข้างห้อง “วันนี้มึงมีเรียนกี่โมง” (เก้าโมง) ทะเลเป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกันตั้งแต่ชั้นมัธยมปลาย แต่ตอนนี้ลงเรียนคนละคณะ บ้านของทั้งสองอยู่ไม่ไกลกันมาก เวลากลับบ้านก็มักจะกลับพร้อมกัน เรียนอยู่ที่นี่ก็เช่าคอนโดอยู่ห้องติดกัน มักจะกินข้าวด้วยกันบ่อยครั้ง แต่ส่วนใหญ่เข้าเรียนและเลิกเรียนกันคนละเวลา เลยต่างคนต่างเดินทางด้วยรถของตัวเอง “กูขอติดรถมึงไปด้วย” (อือ) วางสายได้ไม่นานเพื่อนของเขาก็มาเคาะประตูเรียก สองหนุ่มพากันไปกินข้าวที่ร้านหน้าคอนโด ก่อนจะเดินทางไปมหาวิทยาลัย “วันนี้นึกยังไงถึงขอมาด้วย” ทะเลเอ่ยถาม “รู้สึกไม่สบายตัว เลยขี้เกียจขับรถมาเอง” สิบนาทีต่อมา “ขอบใจมากเพื่อน เดี๋ยวตอนเย็นกูกลับพร้อมไอ้นายน์” ไปถึงมหาวิทยาลัยฉลามก็บอกลาเพื่อน ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินไปยังตึกคณะของตัวเอง ขณะเดินผ่านตึกของสาขาการจัดการโรงแรม ดวงตาคู่คมเหลือบไปเห็นหญิงสาวที่มัดผมน่ารัก ติดกิ๊บและโบว์สีชมพู ต่างจากลุคที่เขาเจอเมื่อคืนอย่างสิ้นเชิง กำลังเดินเลียบทางด้านข้างตัวอาคารมาตามลำพัง เพราะด้านหลังเป็นลานจอดรถ ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มอย่างมีแผนการ ก่อนจะเดินเข้าไปแล้วหยุดอยู่ตรงหน้า ปึก! “ขอโทษค่ะ” คนเดินมาดี ๆ มาขวางทางทำไมไม่ทราบ แทนที่จะเดินอีกฝั่งเพราะกำลังเดินสวนทางกับเธออยู่ แม้หญิงสาวจะเอ่ยขอโทษออกไปแต่ในใจก็กลับต่อว่าอย่างไม่พอใจ ทว่าพอเธอเงยหน้าขึ้นก็พบกับชายหนุ่มที่วิ่งหนีเขาไปเมื่อคืน “หัดมองทางบ้างดิน้อง ไม่ใช่มองแต่โทรศัพท์” ฉลามเอ่ยพร้อมกับคว้าโทรศัพท์เครื่องหรูที่อยู่ในมือของหญิงสาวมาทันทีด้วยความอยากแกล้ง อยากเอาคืน ฟ้าก็ช่างเป็นใจให้มาเจอกันเสียจริง “ใครเป็นน้องนาย เอาโทรศัพท์ฉันคืนมานะ” “หึ อยากได้ก็มาแย่งไปสิ” น้ำค้างขมวดคิ้วโมโหกับน้ำเสียงแค่นหัวเราะที่ดังขึ้น คนยิ่งรีบไปหาเพื่อน ข้าวก็ยังไม่ได้กิน แถมยังดวงซวยมาเจอคนกวนประสาทแต่เช้าอีก เธอยื่นมือออกไปแย่งโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของหนุ่มวิศวะ แต่เขาก็ดึงมือหลบไม่ยอมคืนให้แต่โดยดี “เอาคืนมา” น้ำเสียงของหญิงสาวแสดงถึงความไม่ชอบใจปนแง่งอนราวกับเด็กถูกขัดใจ ฉลามได้ทีตอนที่เธอเขย่งปลายเท้ายื่นมือจนสุดแขนเพื่อแย่งโทรศัพท์ที่เขาชูขึ้นเหนือศีรษะจนลืมระวังตัว นำโทรศัพท์ของเธอใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงด้านหลัง ใช้มืออีกข้างคว้าข้อมือของสาวสวยหมุนตัวดันแผ่นหลังของเธอแนบชิดกับผนังตึก คนตัวสูงไม่ปล่อยให้สาวสวยได้ตั้งตัว โน้มใบหน้าลงทาบทับกับริมฝีปากอวบอิ่มที่กำลังจะอ้าปากต่อว่า บดเบียดกับความนุ่มหยุ่นที่พยายามส่ายหน้าต่อต้านเพื่อถ่วงเวลา แล้วหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมากดถ่ายรูป แชะ! ใบหน้าหล่อเคลื่อนออกพร้อมกระตุกยิ้มมุมปาก ยักคิ้วยียวนส่งให้คนโดนขโมยจูบ น้ำค้างหายใจเข้าออกอย่างหนักหน่วงข่มอารมณ์ขุ่นเคืองที่ปะทุขึ้น ก่อนจะง้างฝ่ามือตบเข้าที่ข้างแก้มของเขา เพียะ! “ไอ้คนฉวยโอกาส นายบ้าไปแล้วเหรอถึงได้กล้าทำกับคนที่ไม่รู้จักแบบนี้” ชายหนุ่มใช้ลิ้นดุนดันกระพุ้งแก้ม ตัวเล็กแค่นี้แต่แรงเยอะใช้ได้ เขากระตุกยิ้มใส่เธออย่างไม่รู้สึกรู้สา “หึ คงบ้าไม่เท่าเธอเมื่อคืนหรอก โดนเอาคืนแค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ” ฉลามแค่นหัวเราะชูโทรศัพท์ที่ปรากฏภาพถ่ายของคนทั้งสองด้วยใบหน้ายียวน น้ำค้างยื่นมือหมายจะแย่งมือถือของเขา แต่ก็ถูกฉลามดึงมือหลบ แล้วตัวเขาสูงขนาดนั้นเธอจะไปแย่งมาได้อย่างไร ฉลามนำโทรศัพท์เลื่อนลงไปเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงด้านหน้า ก่อนจะหยิบมือถือของหญิงสาวส่งคืนเจ้าของ แต่ดูเหมือนว่าเธอยังคงไม่พอใจ “ลบรูปเดี๋ยวนี้เลยนะ” “จ้างให้ก็ไม่ลบหรอก จะว่าไปมุมด้านข้างตอนที่เธอโดนจูบนี่ก็สวยใช้ได้เหมือนกันนะ” ฉลามเอ่ยพลางโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้พวงแก้มสีแดงปลั่ง หมายจะลงโทษคนปากดีอีกครา ทว่ากลับโดนหญิงสาวยกมือขึ้นดันแผงอกของเขา “หยุดนะ” น้ำค้างส่งเสียงคัดค้านหันหน้าหนีไปด้านข้าง ส่งผลให้ลมหายใจของหนุ่มวิศวะเป่ารดข้างแก้ม แต่แล้วดวงตาที่วูบไหวก็เห็นชายหนุ่มที่เธอรู้จักเป็นอย่างดีเดินมาทางนี้พอดี จึงได้ออกแรงผลักตัวของฉลามออก อาศัยจังหวะนั้นวิ่งเข้าไปคว้าท่อนแขนของเคนมาสวมกอดราวกับต้องการความช่วยเหลือ ก่อนจะหันไปเอ่ยกับคนที่ขโมยจูบเธอไปหน้าด้าน ๆ “ฉันมีแฟนแล้ว” “หึ ก็แค่แฟน ไม่ใช่ผัวสักหน่อย” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ มองตามแผ่นหลังของคนทั้งสองที่เดินจากไปทันทีเมื่อน้ำค้างพูดจบ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม