ตอนที่ 4 เว่ยหยางกงสือ
ซือเหลียนพยุงร่างกายของตัวเองให้ลุกขึ้น หญิงสาวนอนหายใจเหนื่อยหอบภายหลังถูกจอมมารทั้งสองนั้นรังแก พวกเขารุนแรงและดูดดื่มโลหิตนางจนแทบจะครองสติไว้ไม่ได้ แต่เมื่อปลดปล่อยความต้องการจนหมดสิ้นแล้ว ก็ทิ้งร่างอันบอบช้ำของนางเอาไว้ที่ห้องตำรา มือบางรีบแกะผ้าปิดตาออกและก้มลงมองสภาพของตัวเอง
“เห็นข้าเป็นอะไรกัน เหตุใดจึงใจร้ายยิ่ง”
นางรีบจัดการแต่งตัวใหม่ ก่อนมองคราบคาวขุ่นที่เลอะจนไหลย้อยลงพื้นจึงรีบใช้ผ้าขัดและเข็ดอย่างเจ็บใจ และโกรธที่ตัวเองนั้นยอมพวกเขา สายตาเหลือบไปมองตำราเล่มหนึ่งที่ดูจะไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีนัก แต่ปกสีหวานก็ดึงดูดความสนใจให้นางรีบหยิบขึ้นมาและยัดใส่อกเสื้อก่อนเดินออกจากห้องตำราไป
หงจิ่นมองร่างของนางบำเรออย่างซือเหลียนที่ค่อย ๆ เปิดประตูห้องออกมาด้วยสภาพอิดโรยก็ทำหน้านิ่ง
“รีบเดินตามข้ามา”
นางกำนัลอาวุโสว่า หญิงสาวจึงรีบเดินตามนางไปอย่างเงียบ ๆ เมื่อมาถึงหน้าห้องพักหงจิ่นก็ยื่นขวดยาเล็ก ๆ ออกมาให้ ซือเหลียนรับมันแม้ไม่รู้ว่าข้างในคือยาอะไร
“นี่คือยาห้ามครรภ์กินทุกครั้งหลังจากร่วมเตียงกับนายท่าน”
หงจิ่นอธิบาย หญิงสาวมองขวดยาก็เม้มปากแน่น
“ขอบคุณท่านป้าเจ้าค่ะ”
ซือเหลียนกล่าวขอบคุณเสียงเบา หงจิ่นจึงมองหน้าหญิงสาวรุ่นลูกอย่างแปลกใจ
แม้นายท่านจะเคยมีสตรีที่รักแต่นางไม่เคยถูกกล่าวขอบคุณเช่นนี้มาก่อน
“พรุ่งนี้ปลายยามอิ๋น (03.00 – 04.59 น.) เจ้าต้องไปจ่ายตลาดพร้อมอันอัน เพื่อเตรียมอาหารให้นายท่านทั้งสอง รีบเข้านอนได้แล้ว ส่วนยาแก้ฟกช้ำข้าจะฝากอันอันเอามาให้”
พูดเสร็จนางก็เดินจากไป ซือเหลียนได้แค่ทำหน้าไม่เข้าใจ
เขาไม่มีพ่อครัวคอยทำให้หรืออย่างไร เป็นถึงจอมมารแต่กลับให้นางที่ไม่มีความสามารถด้านนี้ทำหรือ
หญิงสาวจึงพาร่างของตัวเองกลับเข้าไปในห้อง ก็พบว่าเจ้าจิ้งจอกขนแดงนั้นวิ่งเข้ามาหานางพร้อมทำสีหน้าห่วงใย
นางอาจจะคิดไปเองก็ได้
“เสี่ยวโหย่วอี้ ขอบคุณที่ไม่หนีจากข้าไปไหนนะ”
ร่างเล็กก้มลงลูบหัวมันอย่างเบามือ ก่อนรีบวางขวดยาไว้บนโต๊ะ และตำราที่เก็บมาด้วย เมื่อจิ้งจอกเห็นขวดยานั่นนัยน์ตาสีเขียวมรกตก็เปล่งประกายด้วยความไม่ชอบใจพร้อมกระโดดชนจนขวดนั้นตกลงมาแตก
“ตายจริง นั่นมันยาของข้านะเสี่ยวโหย่วอี้!”
ซือเหลียนรีบก้มลงหมายจะเก็บแต่ยาเม็ดเล็ก ๆ นั้นละลายจนหมดแล้ว นางจึงมองหน้าจิ้งจอกน้อยที่ดูจะไม่ได้รู้สึกผิดแม้แต่น้อย ก็ได้
“เจ้านี่นะ เสี่ยวโหย่วอี้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าสามารถไปอาบน้ำได้ที่ไหน”
แม้จะอ่อนเพลียแต่นางคิดว่าตัวเองควรจะอาบน้ำได้สักที คราวก่อนอันอันพาไปอาบที่ส่วนของนางกำนัลซึ่งเวลานี้คงปิดไปแล้ว จิ้งจอกขนแดงจึงเดินนำทางไปยังสถานที่ที่นางไม่คุ้นตา ห้องอาบน้ำที่ดูเป็นส่วนตัว มันถูกตั้งไว้ใกล้ ๆ กับต้นกุ้ยฮวา [1] และสวนหินภายใต้แสงจันทร์แต่กลับให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
“น้ำในถังยังอุ่นอยู่เลย ขอบใจเจ้ามากนะเสี่ยวโหย่วอี้”
ซือเหลียนยิ้มอย่างดีใจ ก่อนส่งยิ้มให้จิ้งจอกน้อยที่กำลังเดินออกไป นางคิดว่ามันคงจะปล่อยให้ตัวนางได้มีความเป็นส่วนตัวจึงรีบปลดอาภรณ์ออกไป แต่ไม่ทันที่จะได้ก้าวลงในถังน้ำร่างเล็กก็ถูกดึงเข้าไปหาอ้อมกอดของบุรุษที่สวมชุดสีแดงเพลิง นางพยายามจะเงยหน้าขึ้นมองแต่ถูกเขากอด คล้ายมีมนตร์สะกดให้นางมองเห็นใบหน้าเขาแค่รางเลือน ก่อนจะถูกคนตัวโตประกบปากลงมาบดเบียดริมฝีปากของนาง จุมพิตที่อ่อนโยนทำให้หญิงสาวอ่อนระทวย มือหนาลูบไล้ต้นขาเรียวแล้วส่งบางอย่างเข้าไปที่ช่องทางด้านหลัง
“อ๊า..”
ปากเล็กเผยอครางเมื่อเจ้าสิ่งนั้นมันขรุขระและดูจะคล้ายแท่งหยกที่นางเคยถูกสอดใส่
“เด็กดี ของเล่นชิ้นนี้พี่คิดว่ามันเหมาะกับเจ้า”
เว่ยหยางกงสือบอกก่อนมองของเล่นชิ้นใหม่สีอ่อนหวานในช่องรักทางด้านหลังของนาง เมื่อเห็นสีหน้าแดงระเรื่อ และดูเจ็บแม้ในใจจะอยากเล่นกับนางอีกนิด แต่กลัวว่านางจะบุบสลายจึงยอมดึงมันออกมา และปล่อยให้ร่างเล็กทรุดกายลง
“เหลียนเอ๋อร์ เจ้าต้องเป็นเด็กดีรู้ไหม”
เขาพูดก่อนเชยคางมนขึ้นมาแล้วอุ้มนางขึ้นลงวางในถังน้ำอุ่น ประทับจุมพิตบนหน้าผากมนแล้วเดินออกไป
“ข้าเกลียด เกลียดตัวเอง ฮึก”
ซือเหลียนร้องไห้โฮ นางไม่สมควรจะมีชีวิตต่อไปอีกแล้ว นางเป็นเทพธิดาแต่กลับถูกจับมาเป็นนางบำเรอ เป็นของเล่นให้พวกเขาเหตุใดชะตาของนางจึงอาภัพยิ่งนัก นางไม่ต้องการให้ใครได้เห็นร่องรอยที่แสนจะน่าอาย พวกเขาฝากรอยรักบนกายของนาง ลิ้มเลียกลืนกินโลหิตของนางราวเป็นอาหารอันโอชะ มือเล็กเริ่มถูตัวเองอย่างแรงเมื่อนึกรังเกียจความใจง่ายของตน จนตอนนี้ผิวขาวเนียนนั้นเริ่มแดง แม้มหาเทพจะบอกนางว่าเขาจะมารับหากนางหาจุดอ่อนนั้นได้
แค่อีกเพียงหนึ่งสัปดาห์นางก็ถูกทรมานจนแทบบ้าแล้ว แต่นางมีเจ้าจิ้งจอกและอันอันที่ดีกับนาง หากเจอกันที่โลกมนุษย์คงจะดีกว่านี้
หญิงสาวแช่น้ำอยู่นานจนน้ำเริ่มเย็น ซือเหลียนคิดว่าหากตัวเองหนาวตายตอนนี้คงจะดีกว่า ร่างงามจึงนอนแช่น้ำเย็นอยู่เช่นนั้นจนผ่านไปหนึ่งชั่วยาม
“ไม่!! อย่ายุ่งกับข้านะ”
นางรู้สึกถึงสายตาหนึ่งคู่ที่มองนาง และพลังงานที่แสนจะกดดันกำลังเดินตรงมาหานาง ซือเหลียนหลับตาลงเพราะคิดว่าคงจะถูกพวกเขาจับนางกินอีกแน่ ฝ่ามือร้อนคู่นั้นอุ้มร่างเล็กขึ้นมาจากถังน้ำ มีผ้าขนแกะนุ่มมาห่อหุ้มกายงาม ซือเหลียนไม่อยากจะลืมตามองเขาแล้ว แต่ร่างสูงศักดิ์ไม่ได้เอื้อนเอ่ยสิ่งใดเมื่ออุ้มร่างเล็กที่แช่น้ำจนร่างสั่นมาจนถึงห้องพักของนาง ก่อนวางร่างของนางลงบนฟูกนอนแข็งกระด้าง
“หากยังดื้อดึง อย่าหวังจะได้พัก”
เว่ยหยางกงจวิ้นบอก หญิงสาวเม้มปากเมื่อถูกสั่งก่อนลืมตาขึ้นก็พบว่าไม่มีร่างของเขาแล้ว นางเจอแค่เสี่ยวโหย่วอี้เท่านั้น
“เสี่ยวโหย่วอี้เจ้าเล่ห์นักนะ ข้าจะไม่เดินตามเจ้าแล้ว!”
เมื่อนึกถึงว่าตัวเองนั้นถูกรังแกนางจึงคาดโทษเจ้าจิ้งจอกที่นำทางไปพบเจอคนที่เพิ่งรังแกนาง จิ้งจอกตัวน้อยทำตาใส ก่อนรีบกระโดดขึ้นมาข้างกายนางมันใช้หัวคลอเคลียนาง จนซือเหลียนจั๊กจี้และกลั้นขำ ความโกรธที่มีอยู่น้อยนิดก็มลายหาย นางดึงมันขึ้นมาอุ้มโดยยังไม่ทันได้สวมอาภรณ์อะไร เพราะคิดว่าเจ้าก้อนขนสีแดงตัวนี้เวลาอยู่ใกล้แล้วสบายใจอย่างบอกไม่ถูก จึงยังไม่เห็นว่ามันแอบหน้าแดง และยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ยามสัมผัสกับอกอวบนิ่ม
ปลายยามอิ๋น (03.00 – 04.59 น.)
อันอันรีบเข้ามาเคาะห้องพี่สาวเทพธิดา และทำหน้าที่จ่ายตลาดในยามเช้า แต่เพราะคิดว่าซือเหลียนนั้นพักที่ห้องเก็บฟืนเพียงคนเดียวเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับนางจึงถือวิสาสะเปิดห้องเข้ามา
“คราวหลังอย่าได้เปิดเข้ามาโดยพลการอีก”
เสียงทุ้มดังขึ้น อันอันรีบก้มหน้าแล้วคุกเข่าลงเมื่อนายท่านทั้งสองมานั่งอยู่ในห้อง
“ขออภัยเจ้าค่ะ!”
อันอันรีบก้มศีรษะโขกกับพื้นเย็น
“อันอัน เป็นอะไร”
หญิงสาวงัวเงียเมื่อเห็นว่านางกำนัลตัวน้อยนั้นนั่งอยู่ที่พื้น
อันอันไม่ตอบอะไรรีบจัดแจงพานางเดินตามออกจากตำหนักของผู้เป็นจักรพรรดิมารไปยังด้านนอกทันที
ตลาดนอกตำหนักเป็นสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับซือเหลียน หญิงสาวในชุดนางกำนัลสีเหลืองนวลเดินตามอันอัน อาจเพราะรูปโฉมที่งดงาม และกิริยาท่าทางอ่อนหวาน ผิวกายเนียนราวไข่มุก แม้นางพยายามจะไม่เป็นจุดเด่นแต่กลับดึงดูดสายตาของเหล่าปีศาจที่มาจับจ่ายซื้อของอยู่ไม่น้อย นางพยายามมองหาประตูเมืองที่อาจจะนำพาไปยังโลกมนุษย์ แต่ดูเหมือนที่ตลาดแห่งนี้จะอยู่ใจกลางเมือง
“พี่สาว นี่คือรายการที่ท่านต้องไปสั่งเจ้าค่ะ เมื่อเราจ่ายเงินแล้วพวกเขาจะนำวัตถุดิบเข้าไปส่งเองเจ้าค่ะ”
อันอันว่า ก่อนยื่นกระดาษที่มีรายชื่อวัตถุดิบที่ต้องซื้อ หญิงสาวจำใจต้องรับมันมา มีทั้งผักและเนื้อสดที่ดูเป็นวัตถุดิบที่ปกติ จะว่าไปแล้วที่นี่ก็ไม่ต่างจากโลกมนุษย์นัก เพียงแต่ที่นี่คือโลกของปีศาจก็เท่านั้น สายตานางอ่านรายการของวัตถุดิบก่อนสะดุดตากับรายชื่อของขนมหวานหลายประเภท อิงกั่ว [2] และอิงเถา [3]
“อันอัน ขนมหวานพวกนี้ของเด็ก ๆ ในตำหนักหรือ”
นางเอ่ยถามก่อนมองเหล่ารายการขนมหวานที่มีหลากหลายแบบแถมสั่งซื้อจำนวนมากอีกด้วย
“นั่นของนายท่านกงสือเจ้าค่ะ นายท่านชอบขนมหวาน ส่วนท่านเทพมารนั้นชอบผลไม้สองอย่างเจ้าค่ะ”
อันอันตอบ ซือเหลียนจึงจดจำเอาไว้ และไม่แน่ใจว่าอาหารที่พวกเขาชอบนี่เรียกว่าเป็นจุดอ่อนหรือไม่ นางเดินตามอันอันไปยังร้านต่าง ๆ ที่พวกเขานั้นยิ้มแย้มให้แกนางไม่น้อย
“สตรีนางนั้นหรือคือเทพธิดาบุปผา”
“นางงดงามขนาดนี้ ไม่แปลกที่ถูกส่งมาที่นี่”
“เทพธิดางดงามแต่ต้องมาเป็นนางกำนัลก็น่าสงสารนะ”
“หึ พวกเทพน่ะชอบรังแกพวกเรา เจ้าอย่าได้หลงกลความงามของนางเชียว”
ซือเหลียนได้ยินทุกคำพูดที่เอ่ยถึง แต่นางไม่เข้าใจเหตุใดจึงคิดว่าเทพนั้นจะรังแกปีศาจกัน นางได้แต่เก็บไว้ในใจ
“อันอัน ข้าขอถามได้ไหม เทพเคยมารังแกปีศาจด้วยหรือ”
ระหว่างทางที่เดินกลับตำหนัก นางจึงถือโอกาสถามนางกำนัลตัวน้อย อันอันหยุดก่อนกำมือแน่น
“บิดาและมารดาของข้าถูกเทพจับไปรีดโลหิตจนตายเจ้าค่ะ ข้าเป็นปีศาจงู พวกเขาคิดว่าโลหิตจะช่วยเสริมอิทธิฤทธิ์คนในหมู่บ้านก็ถูกจับไปจนหมด ฮึก... ”
อันอันตอบก่อนพยายามซ่อนน้ำตา หากไม่ได้นายท่านเว่ยหยางกงจวิ้น นางคงไม่รอด ซือเหลียนเมื่อรู้ว่าได้ถามคำถามที่ทำร้ายจิตใจไปจึงดึงมือเล็กมากุมเอาไว้ นางคิดว่าเทพที่อันอันพูดถึงคงเป็นเทพชั้นเซียนที่อยากเสริมพลังแน่แท้
คงต้องบอกให้พี่เทียนเสวี่ยจัดการ
แดนสวรรค์
โลหิตแดงฉานไหลชุ่มลานด้านหลังในตำหนักของเทพ แม้กลิ่นคาวคละคลุ้ง แต่ผู้เป็นเจ้าของตำหนักดูจะชอบใจ
"ปีศาจตนนี้ นำมันไปเคี่ยวจนเหลือเพียงเถ้ากระดูกข้าจะได้ทำยาเสริมพลัง"
เสียงทุ้มพร้อมใบหน้าที่มักจะดูอบอุ่นสั่งนางกำนัลสองคน พวกนางรีบจัดการตามที่สั่ง นางกำนัลที่เป็นเซียนชั้นต่ำ แต่พวกนางก็มองไม่เห็น พูดไม่ได้เพราะถูกทำให้ตาบอด และตัดลิ้นทำได้แค่ได้ยินเสียงและทำตามคำสั่งของเทพที่เป็นนาย
เทพชั้นสูงที่มีใบหน้าอันหล่อเหลาเดินเข้ามาในห้องลับที่ปิดซ่อน ร่างของสตรีที่ดูบอบบาง แต่ซีดเซียวหันกลับมามองเขาด้วยสายตาตัดพ้อ
"ยะ อย่านะ"
นางหลีกหนีการเกาะกุมของเขา แต่เปล่าประโยชน์เพราะเขาจับนางตรึงเอาไว้
"ซือเหลียนยิ่งโตก็ยิ่งเหมือนเจ้า"
เขากระซิบบอก หญิงสาวรีบจับแขนเสื้อเขาเอาไว้ทันทีที่รับรู้
"ข้าส่งนางไปเป็นเครื่องสังเวยของพวกเขาแล้ว... อยากรู้จริงว่าหากมันรู้ว่านางเป็นอันใดกับเจ้า นางจะรอดพ้นหรือไม่ ฮวา..."
[1] กุ้ยฮวา หอมหมื่นลี้
[2] แอปเปิล
[3] เชอร์รี่