เว่ยหยางกงสือ

2200 คำ
​ ตอนที่ 4 เว่ยหยางกงสือ ซือเหลียนพยุงร่างกายของตัวเองให้ลุกขึ้น หญิงสาวนอนหายใจเหนื่อยหอบภายหลังถูกจอมมารทั้งสองนั้นรังแก พวกเขารุนแรงและดูดดื่มโลหิตนางจนแทบจะครองสติไว้ไม่ได้ แต่เมื่อปลดปล่อยความต้องการจนหมดสิ้นแล้ว ก็ทิ้งร่างอันบอบช้ำของนางเอาไว้ที่ห้องตำรา มือบางรีบแกะผ้าปิดตาออกและก้มลงมองสภาพของตัวเอง “เห็นข้าเป็นอะไรกัน เหตุใดจึงใจร้ายยิ่ง” นางรีบจัดการแต่งตัวใหม่ ก่อนมองคราบคาวขุ่นที่เลอะจนไหลย้อยลงพื้นจึงรีบใช้ผ้าขัดและเข็ดอย่างเจ็บใจ และโกรธที่ตัวเองนั้นยอมพวกเขา สายตาเหลือบไปมองตำราเล่มหนึ่งที่ดูจะไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีนัก แต่ปกสีหวานก็ดึงดูดความสนใจให้นางรีบหยิบขึ้นมาและยัดใส่อกเสื้อก่อนเดินออกจากห้องตำราไป หงจิ่นมองร่างของนางบำเรออย่างซือเหลียนที่ค่อย ๆ เปิดประตูห้องออกมาด้วยสภาพอิดโรยก็ทำหน้านิ่ง “รีบเดินตามข้ามา” นางกำนัลอาวุโสว่า หญิงสาวจึงรีบเดินตามนางไปอย่างเงียบ ๆ เมื่อมาถึงหน้าห้องพักหงจิ่นก็ยื่นขวดยาเล็ก ๆ ออกมาให้ ซือเหลียนรับมันแม้ไม่รู้ว่าข้างในคือยาอะไร “นี่คือยาห้ามครรภ์กินทุกครั้งหลังจากร่วมเตียงกับนายท่าน” หงจิ่นอธิบาย หญิงสาวมองขวดยาก็เม้มปากแน่น “ขอบคุณท่านป้าเจ้าค่ะ” ซือเหลียนกล่าวขอบคุณเสียงเบา หงจิ่นจึงมองหน้าหญิงสาวรุ่นลูกอย่างแปลกใจ แม้นายท่านจะเคยมีสตรีที่รักแต่นางไม่เคยถูกกล่าวขอบคุณเช่นนี้มาก่อน “พรุ่งนี้ปลายยามอิ๋น (03.00 – 04.59 น.) เจ้าต้องไปจ่ายตลาดพร้อมอันอัน เพื่อเตรียมอาหารให้นายท่านทั้งสอง รีบเข้านอนได้แล้ว ส่วนยาแก้ฟกช้ำข้าจะฝากอันอันเอามาให้” พูดเสร็จนางก็เดินจากไป ซือเหลียนได้แค่ทำหน้าไม่เข้าใจ เขาไม่มีพ่อครัวคอยทำให้หรืออย่างไร เป็นถึงจอมมารแต่กลับให้นางที่ไม่มีความสามารถด้านนี้ทำหรือ หญิงสาวจึงพาร่างของตัวเองกลับเข้าไปในห้อง ก็พบว่าเจ้าจิ้งจอกขนแดงนั้นวิ่งเข้ามาหานางพร้อมทำสีหน้าห่วงใย นางอาจจะคิดไปเองก็ได้ “เสี่ยวโหย่วอี้ ขอบคุณที่ไม่หนีจากข้าไปไหนนะ” ร่างเล็กก้มลงลูบหัวมันอย่างเบามือ ก่อนรีบวางขวดยาไว้บนโต๊ะ และตำราที่เก็บมาด้วย เมื่อจิ้งจอกเห็นขวดยานั่นนัยน์ตาสีเขียวมรกตก็เปล่งประกายด้วยความไม่ชอบใจพร้อมกระโดดชนจนขวดนั้นตกลงมาแตก “ตายจริง นั่นมันยาของข้านะเสี่ยวโหย่วอี้!” ซือเหลียนรีบก้มลงหมายจะเก็บแต่ยาเม็ดเล็ก ๆ นั้นละลายจนหมดแล้ว นางจึงมองหน้าจิ้งจอกน้อยที่ดูจะไม่ได้รู้สึกผิดแม้แต่น้อย ก็ได้ “เจ้านี่นะ เสี่ยวโหย่วอี้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าสามารถไปอาบน้ำได้ที่ไหน” แม้จะอ่อนเพลียแต่นางคิดว่าตัวเองควรจะอาบน้ำได้สักที คราวก่อนอันอันพาไปอาบที่ส่วนของนางกำนัลซึ่งเวลานี้คงปิดไปแล้ว จิ้งจอกขนแดงจึงเดินนำทางไปยังสถานที่ที่นางไม่คุ้นตา ห้องอาบน้ำที่ดูเป็นส่วนตัว มันถูกตั้งไว้ใกล้ ๆ กับต้นกุ้ยฮวา [1] และสวนหินภายใต้แสงจันทร์แต่กลับให้ความรู้สึกผ่อนคลาย “น้ำในถังยังอุ่นอยู่เลย ขอบใจเจ้ามากนะเสี่ยวโหย่วอี้” ซือเหลียนยิ้มอย่างดีใจ ก่อนส่งยิ้มให้จิ้งจอกน้อยที่กำลังเดินออกไป นางคิดว่ามันคงจะปล่อยให้ตัวนางได้มีความเป็นส่วนตัวจึงรีบปลดอาภรณ์ออกไป แต่ไม่ทันที่จะได้ก้าวลงในถังน้ำร่างเล็กก็ถูกดึงเข้าไปหาอ้อมกอดของบุรุษที่สวมชุดสีแดงเพลิง นางพยายามจะเงยหน้าขึ้นมองแต่ถูกเขากอด คล้ายมีมนตร์สะกดให้นางมองเห็นใบหน้าเขาแค่รางเลือน ก่อนจะถูกคนตัวโตประกบปากลงมาบดเบียดริมฝีปากของนาง จุมพิตที่อ่อนโยนทำให้หญิงสาวอ่อนระทวย มือหนาลูบไล้ต้นขาเรียวแล้วส่งบางอย่างเข้าไปที่ช่องทางด้านหลัง “อ๊า..” ปากเล็กเผยอครางเมื่อเจ้าสิ่งนั้นมันขรุขระและดูจะคล้ายแท่งหยกที่นางเคยถูกสอดใส่ “เด็กดี ของเล่นชิ้นนี้พี่คิดว่ามันเหมาะกับเจ้า” เว่ยหยางกงสือบอกก่อนมองของเล่นชิ้นใหม่สีอ่อนหวานในช่องรักทางด้านหลังของนาง เมื่อเห็นสีหน้าแดงระเรื่อ และดูเจ็บแม้ในใจจะอยากเล่นกับนางอีกนิด แต่กลัวว่านางจะบุบสลายจึงยอมดึงมันออกมา และปล่อยให้ร่างเล็กทรุดกายลง “เหลียนเอ๋อร์ เจ้าต้องเป็นเด็กดีรู้ไหม” เขาพูดก่อนเชยคางมนขึ้นมาแล้วอุ้มนางขึ้นลงวางในถังน้ำอุ่น ประทับจุมพิตบนหน้าผากมนแล้วเดินออกไป “ข้าเกลียด เกลียดตัวเอง ฮึก” ซือเหลียนร้องไห้โฮ นางไม่สมควรจะมีชีวิตต่อไปอีกแล้ว นางเป็นเทพธิดาแต่กลับถูกจับมาเป็นนางบำเรอ เป็นของเล่นให้พวกเขาเหตุใดชะตาของนางจึงอาภัพยิ่งนัก นางไม่ต้องการให้ใครได้เห็นร่องรอยที่แสนจะน่าอาย พวกเขาฝากรอยรักบนกายของนาง ลิ้มเลียกลืนกินโลหิตของนางราวเป็นอาหารอันโอชะ มือเล็กเริ่มถูตัวเองอย่างแรงเมื่อนึกรังเกียจความใจง่ายของตน จนตอนนี้ผิวขาวเนียนนั้นเริ่มแดง แม้มหาเทพจะบอกนางว่าเขาจะมารับหากนางหาจุดอ่อนนั้นได้ แค่อีกเพียงหนึ่งสัปดาห์นางก็ถูกทรมานจนแทบบ้าแล้ว แต่นางมีเจ้าจิ้งจอกและอันอันที่ดีกับนาง หากเจอกันที่โลกมนุษย์คงจะดีกว่านี้ หญิงสาวแช่น้ำอยู่นานจนน้ำเริ่มเย็น ซือเหลียนคิดว่าหากตัวเองหนาวตายตอนนี้คงจะดีกว่า ร่างงามจึงนอนแช่น้ำเย็นอยู่เช่นนั้นจนผ่านไปหนึ่งชั่วยาม “ไม่!! อย่ายุ่งกับข้านะ” นางรู้สึกถึงสายตาหนึ่งคู่ที่มองนาง และพลังงานที่แสนจะกดดันกำลังเดินตรงมาหานาง ซือเหลียนหลับตาลงเพราะคิดว่าคงจะถูกพวกเขาจับนางกินอีกแน่ ฝ่ามือร้อนคู่นั้นอุ้มร่างเล็กขึ้นมาจากถังน้ำ มีผ้าขนแกะนุ่มมาห่อหุ้มกายงาม ซือเหลียนไม่อยากจะลืมตามองเขาแล้ว แต่ร่างสูงศักดิ์ไม่ได้เอื้อนเอ่ยสิ่งใดเมื่ออุ้มร่างเล็กที่แช่น้ำจนร่างสั่นมาจนถึงห้องพักของนาง ก่อนวางร่างของนางลงบนฟูกนอนแข็งกระด้าง “หากยังดื้อดึง อย่าหวังจะได้พัก” เว่ยหยางกงจวิ้นบอก หญิงสาวเม้มปากเมื่อถูกสั่งก่อนลืมตาขึ้นก็พบว่าไม่มีร่างของเขาแล้ว นางเจอแค่เสี่ยวโหย่วอี้เท่านั้น “เสี่ยวโหย่วอี้เจ้าเล่ห์นักนะ ข้าจะไม่เดินตามเจ้าแล้ว!” เมื่อนึกถึงว่าตัวเองนั้นถูกรังแกนางจึงคาดโทษเจ้าจิ้งจอกที่นำทางไปพบเจอคนที่เพิ่งรังแกนาง จิ้งจอกตัวน้อยทำตาใส ก่อนรีบกระโดดขึ้นมาข้างกายนางมันใช้หัวคลอเคลียนาง จนซือเหลียนจั๊กจี้และกลั้นขำ ความโกรธที่มีอยู่น้อยนิดก็มลายหาย นางดึงมันขึ้นมาอุ้มโดยยังไม่ทันได้สวมอาภรณ์อะไร เพราะคิดว่าเจ้าก้อนขนสีแดงตัวนี้เวลาอยู่ใกล้แล้วสบายใจอย่างบอกไม่ถูก จึงยังไม่เห็นว่ามันแอบหน้าแดง และยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ยามสัมผัสกับอกอวบนิ่ม ปลายยามอิ๋น (03.00 – 04.59 น.) อันอันรีบเข้ามาเคาะห้องพี่สาวเทพธิดา และทำหน้าที่จ่ายตลาดในยามเช้า แต่เพราะคิดว่าซือเหลียนนั้นพักที่ห้องเก็บฟืนเพียงคนเดียวเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับนางจึงถือวิสาสะเปิดห้องเข้ามา “คราวหลังอย่าได้เปิดเข้ามาโดยพลการอีก” เสียงทุ้มดังขึ้น อันอันรีบก้มหน้าแล้วคุกเข่าลงเมื่อนายท่านทั้งสองมานั่งอยู่ในห้อง “ขออภัยเจ้าค่ะ!” อันอันรีบก้มศีรษะโขกกับพื้นเย็น “อันอัน เป็นอะไร” หญิงสาวงัวเงียเมื่อเห็นว่านางกำนัลตัวน้อยนั้นนั่งอยู่ที่พื้น อันอันไม่ตอบอะไรรีบจัดแจงพานางเดินตามออกจากตำหนักของผู้เป็นจักรพรรดิมารไปยังด้านนอกทันที ตลาดนอกตำหนักเป็นสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับซือเหลียน หญิงสาวในชุดนางกำนัลสีเหลืองนวลเดินตามอันอัน อาจเพราะรูปโฉมที่งดงาม และกิริยาท่าทางอ่อนหวาน ผิวกายเนียนราวไข่มุก แม้นางพยายามจะไม่เป็นจุดเด่นแต่กลับดึงดูดสายตาของเหล่าปีศาจที่มาจับจ่ายซื้อของอยู่ไม่น้อย นางพยายามมองหาประตูเมืองที่อาจจะนำพาไปยังโลกมนุษย์ แต่ดูเหมือนที่ตลาดแห่งนี้จะอยู่ใจกลางเมือง “พี่สาว นี่คือรายการที่ท่านต้องไปสั่งเจ้าค่ะ เมื่อเราจ่ายเงินแล้วพวกเขาจะนำวัตถุดิบเข้าไปส่งเองเจ้าค่ะ” อันอันว่า ก่อนยื่นกระดาษที่มีรายชื่อวัตถุดิบที่ต้องซื้อ หญิงสาวจำใจต้องรับมันมา มีทั้งผักและเนื้อสดที่ดูเป็นวัตถุดิบที่ปกติ จะว่าไปแล้วที่นี่ก็ไม่ต่างจากโลกมนุษย์นัก เพียงแต่ที่นี่คือโลกของปีศาจก็เท่านั้น สายตานางอ่านรายการของวัตถุดิบก่อนสะดุดตากับรายชื่อของขนมหวานหลายประเภท อิงกั่ว [2] และอิงเถา [3] “อันอัน ขนมหวานพวกนี้ของเด็ก ๆ ในตำหนักหรือ” นางเอ่ยถามก่อนมองเหล่ารายการขนมหวานที่มีหลากหลายแบบแถมสั่งซื้อจำนวนมากอีกด้วย “นั่นของนายท่านกงสือเจ้าค่ะ นายท่านชอบขนมหวาน ส่วนท่านเทพมารนั้นชอบผลไม้สองอย่างเจ้าค่ะ” อันอันตอบ ซือเหลียนจึงจดจำเอาไว้ และไม่แน่ใจว่าอาหารที่พวกเขาชอบนี่เรียกว่าเป็นจุดอ่อนหรือไม่ นางเดินตามอันอันไปยังร้านต่าง ๆ ที่พวกเขานั้นยิ้มแย้มให้แกนางไม่น้อย “สตรีนางนั้นหรือคือเทพธิดาบุปผา” “นางงดงามขนาดนี้ ไม่แปลกที่ถูกส่งมาที่นี่” “เทพธิดางดงามแต่ต้องมาเป็นนางกำนัลก็น่าสงสารนะ” “หึ พวกเทพน่ะชอบรังแกพวกเรา เจ้าอย่าได้หลงกลความงามของนางเชียว” ซือเหลียนได้ยินทุกคำพูดที่เอ่ยถึง แต่นางไม่เข้าใจเหตุใดจึงคิดว่าเทพนั้นจะรังแกปีศาจกัน นางได้แต่เก็บไว้ในใจ “อันอัน ข้าขอถามได้ไหม เทพเคยมารังแกปีศาจด้วยหรือ” ระหว่างทางที่เดินกลับตำหนัก นางจึงถือโอกาสถามนางกำนัลตัวน้อย อันอันหยุดก่อนกำมือแน่น “บิดาและมารดาของข้าถูกเทพจับไปรีดโลหิตจนตายเจ้าค่ะ ข้าเป็นปีศาจงู พวกเขาคิดว่าโลหิตจะช่วยเสริมอิทธิฤทธิ์คนในหมู่บ้านก็ถูกจับไปจนหมด ฮึก... ” อันอันตอบก่อนพยายามซ่อนน้ำตา หากไม่ได้นายท่านเว่ยหยางกงจวิ้น นางคงไม่รอด ซือเหลียนเมื่อรู้ว่าได้ถามคำถามที่ทำร้ายจิตใจไปจึงดึงมือเล็กมากุมเอาไว้ นางคิดว่าเทพที่อันอันพูดถึงคงเป็นเทพชั้นเซียนที่อยากเสริมพลังแน่แท้ คงต้องบอกให้พี่เทียนเสวี่ยจัดการ แดนสวรรค์ โลหิตแดงฉานไหลชุ่มลานด้านหลังในตำหนักของเทพ แม้กลิ่นคาวคละคลุ้ง แต่ผู้เป็นเจ้าของตำหนักดูจะชอบใจ "ปีศาจตนนี้ นำมันไปเคี่ยวจนเหลือเพียงเถ้ากระดูกข้าจะได้ทำยาเสริมพลัง" เสียงทุ้มพร้อมใบหน้าที่มักจะดูอบอุ่นสั่งนางกำนัลสองคน พวกนางรีบจัดการตามที่สั่ง นางกำนัลที่เป็นเซียนชั้นต่ำ แต่พวกนางก็มองไม่เห็น พูดไม่ได้เพราะถูกทำให้ตาบอด และตัดลิ้นทำได้แค่ได้ยินเสียงและทำตามคำสั่งของเทพที่เป็นนาย เทพชั้นสูงที่มีใบหน้าอันหล่อเหลาเดินเข้ามาในห้องลับที่ปิดซ่อน ร่างของสตรีที่ดูบอบบาง แต่ซีดเซียวหันกลับมามองเขาด้วยสายตาตัดพ้อ "ยะ อย่านะ" นางหลีกหนีการเกาะกุมของเขา แต่เปล่าประโยชน์เพราะเขาจับนางตรึงเอาไว้ "ซือเหลียนยิ่งโตก็ยิ่งเหมือนเจ้า" เขากระซิบบอก หญิงสาวรีบจับแขนเสื้อเขาเอาไว้ทันทีที่รับรู้ "ข้าส่งนางไปเป็นเครื่องสังเวยของพวกเขาแล้ว... อยากรู้จริงว่าหากมันรู้ว่านางเป็นอันใดกับเจ้า นางจะรอดพ้นหรือไม่ ฮวา..." [1] กุ้ยฮวา หอมหมื่นลี้ [2] แอปเปิล [3] เชอร์รี่ ​
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม