นางบำเรอ NC​ 3P

1489 คำ
“อืม หนักจังเสี่ยวโหย่วอี้ เจ้ามานอนทับข้าหรือ” หญิงสาวงัวเงียเมื่อรู้สึกว่าตัวเองถูกบางอย่างทับบนตัว เมื่อพยายามลืมตากลับพบแต่ความมืด นางถูกปิดตา ก่อนรีบดันกายให้ลุกขึ้นมือบางพยายามจะแกะที่ผ้าผูกตาออก แต่ถูกมือหนาของบุรุษจับนางเอาไว้ “อย่าได้คิดจะแกะมันออก” นางจำได้ดีว่าเสียงของบุรุษผู้นี้คือผู้ใด หญิงสาวสัมผัสถึงฟูกนุ่มต่างจากในห้องของนางก็รู้ได้ทันทีว่านางไม่ได้อยู่ที่ห้องของตนแล้ว “ยะ อย่าทำข้าเลย พวกท่านกินข้าไปแล้วนี่ ฮึก” น้ำเสียงอ้อนวอนของซือเหลียนทำให้นัยน์ตาสีมรกตหม่นแสงลง มือหนาแตะลงบนแก้มนุ่มที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตา ไม่ชอบน้ำตาของนางจริง ๆ “อย่าร้อง..” ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงบอก เขาใช้ริมฝีปากของตนแตะปากงามอย่างนุ่มนวล ‘เว่ยหยางกงสือ’ จอมมารผู้เป็นพระอนุชารู้สึกร้อนรุ่มเมื่อเห็นท่าทางที่ดูไร้เดียงสาของนาง “ปล่อยข้าไปได้หรือไม่” ร่างเล็กว่า มือของนางพยายามกำชายแขนเสื้อของเขาไว้แน่น “หากอยากจะไปจากที่นี่ข้าย่อมช่วยเจ้าได้ แต่เจ้าเล่าไม่รู้สึกสงสารเจ้าจิ้งจอกตัวนั้นหรือ” เว่ยหยางกงสือบอกน้ำเสียงเย็นชา นางไม่มีทางได้กลับแดนสวรรค์เพราะนางเป็นของเขา “จิ้งจอก มันอยู่ที่ไหน ท่านไม่ได้ฆ่ามันใช่หรือไม่!” ซือเหลียนตกใจก่อนคว้าปกเสื้อของเขาจนทำให้คนที่ตัวโตกว่าคร่อมอยู่บนร่างเล็ก หากนางออกไปจากที่นี่ไม่ได้ก็คงถูกพวกเขาเบื่อสักวัน แต่เจ้าจิ้งจอกตัวนั้นมันคือเพื่อนของนาง จะทำให้มันตกอยู่ในอันตรายไม่ได้ “ข้าจะไม่ทำร้ายมันหากเจ้ายอมเชื่อฟังข้า” คนตัวโตบอก หญิงสาวจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วจึงพยักหน้าเพื่อบอกให้เขารู้ว่านางจะเชื่อฟังเขา “เช่นนั้นก็เรียกข้าว่าพี่กงสือ” “พี่กงสือ..อ๊ะ” ซือเหลียนข่มใจเรียกเขาว่าพี่กงสือ บุรุษผู้เป็นพระอนุชาของเทพมารเว่ยหยางกงจวิ้น เมื่อถูกเรียกว่าพี่กงสือ เขาจึงโน้มกายลงจุมพิตนางทันที ปลายนิ้วเรียวแตะลงบนเรือนร่างที่สวมชุดนางกำนัล ลูบไล้ผ่านชายกระโปรง สอดเข้าไปข้างในเพื่อแตะลงบนกลีบบุปผาที่ยังคงบวมจากการร่วมรักกับพวกเขาเมื่อคืน “ข้ายังเจ็บอยู่ ท่านพี่กงสือได้โปรดอย่าทำข้าเลยนะเจ้าคะ” หญิงสาวโน้มน้าวเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน มือบางพยายามดันตัวเขาให้ออกห่าง เขาไม่ได้หยุดการกระทำแต่ค่อย ๆ ส่งนิ้วเรียวเข้าไปทักทายโพรงร้อนกลางกายนาง นิ้วเรียวกดบีบบี้ติ่งที่รับไวต่อความรู้สึกไปพร้อม ๆ กัน “อ๊า” นิ้วเรียวสอดแทรกและขยับไปมา จนนางรู้สึกว่าภายในของตนนั้นตอบรับนิ้วของเขาขนาดนั้น จึงได้ส่งเสียงที่น่าอายออกมา มือเล็กจึงปิดปากตนเองเอาไว้ “อย่ากัดปาก ปล่อยมันออกมา” เว่ยหยางกงสือกระซิบบอกนาง ที่ร่างกายกำลังตอบสนองการกระทำของเขาแม้ปากจะร้องห้าม แต่น้ำหวานกลับไหลรินออกมาไม่หยุด ในขณะที่มืออีกข้างเลื่อนขึ้นมาบีบเคล้นปทุมทันคู่งาม แม้จะมีอาภรณ์ปิดบังเอาไว้แต่มันกลับทำให้หญิงสาวรู้สึกซ่านเสียวอยู่ไม่น้อย “อ๊ะ..” ปากงามร้องครางเสียงหวานเมื่อมือที่ใช้ปิดปากกลั้นเสียงครางถูกบุรุษอีกคนดึงออกมา ก่อนที่ปากเล็ก ๆ ของนางจะถูกแท่งหยกสีสดส่งเข้าไปในปากของนาง และกลางกายก็มีอีกอันที่กำลังถูไถกลีบอวบอูมอยู่ “อื้อ..” ซือเหลียนรับรู้ว่าสิ่งที่อยู่ในปากคืออะไร นางเคยเห็นเหล่าเทพธิดาใช้กันเมื่อมีความต้องการ เว่ยหยางกงจวิ้นมองร่างเล็กของนางด้วยสายตายากที่คาดเดาเมื่อปากเล็ก ๆ นั้นรับแท่งหยกเขาปาก ยิ่งเมื่อพบว่าพระอนุชาของตนใช้ปลายแข็งอีกอันบดเข้ากับเม็ดทับทิมเล็กที่ไวต่อความรู้สึก เขาจึงจับมันโยนทิ้งไปก่อนจับตัวตนที่แข็งขึงจ่อมายังกลีบปากงาม “กินมัน” คำสั่งของผู้เป็นเชษฐาต่างจากพระอนุชาจนซือเหลียนสั่นสะท้านปากเล็กยอมอ้ารับตัวตนที่แข็งและร้อนเข้าไปในปาก “อื้มม ค่อย ๆ เลียมัน” หญิงสาวจึงค่อย ๆ อมส่วนหัวที่มีสีชมพูระเรื่อ ลิ้นเล็กแตะลงส่วนปลายที่มีน้ำรสเฝื่อนไหลซึมออกมา นางค่อย ๆ ดูดกลืนมัน แต่ร่างบางก็สะดุ้งเมื่อมันขยับขึ้นลงได้ราวมีชีวิต ก่อนก้มเลียมันอีกครั้ง คราวนี้นางเลียที่ปลายหยักอย่างแรง สอดลิ้นร้อนลงบนความแข็งขึงของเขา ปากเผยอดูดมันราวกินหวานเย็น นางไม่รู้ว่าการกระทำของนางนั้นทำให้เว่ยหยางกงจวิ้นใช้มือจับศีรษะงามแล้วเด้งตัวตนเข้าไปในปากอย่างรุนแรง เมื่อถูกเขาทำรุนแรงจนร่างเล็กแทบจะอาเจียนเมื่อส่วนนั้นของเขาเข้ามาลึกเกินไป “อ่าห์ เจ้านี่มันสตรีไร้ยางอายจริง ๆ ! ร่านร้อนไม่สมเป็นเทพ อ๊า..” เขายิ้มร้ายก่อนเร่งจังหวะในปากนาง มือเล็กเกาะต้นขาเขาไว้แน่น ก่อนถูกเขาปลดปล่อยเมล็ดพันธุ์อุ่นร้อนเข้ามาในโพรงปากของนาง มันไหลเยิ้มออกมาจนเลอะคางเรียว “อึก ปล่อยข้านะ!” ซือเหลียนแทบอยากจะคายทิ้งเมื่อความอุ่นร้อนอยู่ในปากนางแต่กลับถูกเขาบีบปากและบังคับในนางกลืนมันลงท้อง “อ๊า!” ยังไม่ทันไรเมื่อบุรุษผู้เป็นพระเชษฐายอมถอยออกไปหยิบของเล่นมาเพิ่มความสนุก เว่ยหยางกงสือที่นั่งมองภาพอภิรมย์ก็ส่งของเล่นเข้าไปในกลีบบุปผาที่บวมช้ำ “พี่กงสือ อึก” ร่างของหญิงสาวสั่นอย่างทรมาน เมื่อเขาดันของเล่นเข้าไปในอีกช่องทางรัก “ข้าชอบจัง ที่เจ้าเชื่อฟัง หึ เทพอย่างเจ้าช่างโง่นัก” เขากระซิบบอก ซือเหลียนทั้งเจ็บและจุกจนพูดไม่ออก นางถูกบุรุษที่เป็นจอมมารผู้น้องจับของเล่นหลากชนิดยัดเข้าไปในร่างของนาง ทั้งขยับเข้าออก ส่วนอกงามก็ถูกจอมมารผู้พี่ดูดกลืน และขบเม้ม จนคราบน้ำหวานนั้นเหนอะหนะไปทั่วทั้งผ้าปูเตียง “อื้ออ” หญิงสาวถูกแท่งร้อนของสองจอมมารผลัดเปลี่ยนเข้ามาในโพรงปากหวาน เช่นกันกับช่องทางรักด้านล่างที่ถูกของเล่นเสียบคาไว้ “หึ ทำได้ไม่เลว” เว่ยหยางกงจวิ้นเมื่อมองร่างเล็กของเทพธิดาบุปผานอนสลบไสลเมื่อเขาและน้องชายเล่นกับร่างกายของนางจนพอใจ “ท่านพี่ข้าจะไปส่งนางที่ห้อง” เว่ยหยางกงสือบอก ก่อนอุ้มร่างบางที่นอนหลับไปแล้วขึ้นแนบอก “กงสือ จำคำที่พี่เคยบอกเจ้าได้หรือไม่” ดวงตาแดงเพลิงเอ่ยบอกผู้เป็นอนุชาด้วยความห่วงใย แม้จะหลับใหลเพราะจำศีลแต่เรื่องเมื่องสองร้อยปีที่เกิดกับน้องชายตัวเองเขาย่อมรับรู้ “ข้าไม่ได้รักนางนะท่านพี่ อย่าเอานางไปจากข้าและท่านเลยนะขอรับ” เขารีบปฏิเสธพร้อมกระชับอ้อมกอดร่างบางให้แน่นขึ้น “เช่นนั้นก็อย่าทำดีกับนาง อย่าได้สนใจนาง นางมีหน้าที่อะไรเจ้าย่อมรู้ดีแก่ใจ” ผู้เป็นเชษฐาพูดก่อนหันหลังเดินออกไป เว่ยหยางกงสือทอดมองร่างของซือเหลียนในอ้อมกอดแล้วรีบพานางกลับไปยังห้องพักที่เป็นห้องเก็บฟืนด้วย “เจ้าอย่าขุ่นเคืองข้าและพี่ชายเลยนะ ข้าไม่มีวันทำร้ายเจ้า” เข้าลูบใบหน้างามก่อนถอดชุดนางกำนัลออก มือหนาหยิบอ่างใบเล็กขึ้นมาใช้ผ้าชุบน้ำบิดมันแล้วค่อย ๆ เช็ดคราบคราวที่เปรอะเปื้อน ไล่ลงมาจนถึงเนินอกที่ขาวราวหิมะ แต่งแต้มด้วยรอยช้ำจากปากของเขาและพระเชษฐา ลูบไล้แตะลงมาจนถึงกลางกายสาวที่ยังแบะอ้าเพราะถูกเขาสอดใส่ของเล่น คนตัวโตรีบสลัดความคิดในหัวทิ้ง แล้วรีบเปลี่ยนเป็นชุดนอนให้กับนาง ก่อนห่มผ้าผืนหนาให้เพราะอากาศในนี้ทั้งชื้น และมีไอเย็นมาก บุรุษในชุดสีแดงจึงนอนตะแคงลงข้างกายนาง เพื่อจ้องมองซือเหลียนที่หลับใหลเพราะความเพลีย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม