"อื้อ...ปล่อยค่ะ" นายน้อยใช้แรงอันน้อยนิดของตนผลักแผงอกกว้างให้ออกห่าง พิงพยายามรวบรวมสติที่เตลิดไปไกลเพราะกลิ่นหอมของเธอให้กลับมา เขาดึงมือเรียวมากุมไว้และพาเดินกลับไปยังห้องทำงานทันที
"ทำไมถึงยังไม่กลับ" พิงเอ่ยถามเมื่อเห็นอันนายังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานหน้าห้องทำงาน
"นาแค่จะรอถามว่าวันไหนคุณจะกลับไปที่คอนโด พอดี... นาลืมของไว้ที่นั่นค่ะ" คำถามของเลขาสาวทำให้หม่อมหลวงสรันตรีกระจ่างชัดต่อท่าทีของหล่อน มือเรียวที่ถูกพิงกุมไว้กำลังพยายามแกะออกโดยมืออีกข้างหนึ่งทว่าไม่เป็นผล
"หึ! เธอก็มีปัญญาเข้าไปที่นั่นเองอยู่บ่อยๆ ทำไมไม่ไปเองล่ะ จะรอฉันทำไม?" พิงโกรธที่เลขาสาวจงใจพูดเช่นนี้ต่อหน้านายน้อยของเขา
"ก็ได้ค่ะ นาไปเอาเองก็ได้ค่ะ" เลขาสาวพูดจบก็สะบัดหน้าเดินออกไปด้วยความเจ็บใจ
"เขาเป็นภรรยาคุณหรือคะ เพราะแบบนี้หรือคะเขาถึงได้มองฉันด้วยสายตาแบบนั้น" หม่อมหลวงสรันตรีมองพิงด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป เธอดิ้นแรงจนข้อมือเล็กเกิดรอยแดง
"อย่าหึงออกนอกหน้าสิ!"
"ไม่ได้หึง!"
"อาการเมื่อกี้เรียกว่าหึง!"
"แล้วฉันจะไปหึงคุณทำไมคะ!"
"หึ! ก็ถามตัวเองดูสิ นี่ขนาดยังไม่ได้แต่งยังหึงขนาดนี้เลย" พิงกล่าวหา หม่อมหลวงสรันตรีไม่เข้าความรู้สึกหงุดหงิดใจของตนเอง
"ตกลงว่าเขาเป็นภรรยาของคุณใช่มั้ยคะ?"
"ไม่ใช่! ไม่เคยมีเมีย" พิงรั้งเอวบางมากอดไว้และพาเดินเข้าไปในห้องทำงานของตน
"คอยดูนะ ถ้าฉันต้องแต่งงานกับคุณ ฉันจะหนีไปไม่ยอมให้ใครตามตัวเจอเลย" คนตัวเล็กดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนแกร่งของพิง
"ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำไมไม่ทำใจยอมรับที่จะอยู่กับสิ่งที่กำลังจะเกิดให้ได้ล่ะ ผมไม่ได้เลวร้ายขนาดที่คุณจะต้องยอมทิ้งทุกอย่างแล้วก็หนีไปหรอก!" พิงตัดพ้อต่อคำพูดของเธอ เขาแสดงอารมณ์ความรู้สึกของตนเองออกมามากมายอย่างลืมไว้ท่าทีแสนเย็นชาของตน
"แต่ฉันไม่อยากแต่งงานกับคุณ!" พิงแน่นิ่งไปกับประโยคสุดท้ายที่นายน้อยพูดออกมา เขาครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะยอมปล่อยเธอออกจากอ้อมเเขนและเดินไปยังโต๊ะทำงานของตน
"ไม่อยากแต่งแต่ก็ต้องแต่ง" พิงพูดพลางหยิบปากกามาจรดลายเซ็นของตนเองบนเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน นายน้อยเงียบไปเมื่อเหลือบเห็นก้อนเมฆสีอึมครึมกำลังปกคลุมแสงจากพระอาทิตย์
"กรี๊ดดดดด!" เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังแข่งกับเสียงฟ้าร้องที่ดังสนั่นลั่นกรุงเทพมหานคร พิงรีบหยัดกายลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานและกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหาคนตัวเล็กที่กำลังนั่งปิดหูและขดตัวอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางหวาดกลัว
"กลัวฟ้าร้องหรอ?"
"กลัวสิ ฮืออออ ไม่อยากได้ยินเสียงแบบนี้" นายน้อยพูดทั้งที่ยังคงก้มหน้าซุกหัวเข่าของตนเองอยู่ พิงถือวิสาสะช้อนร่างบางขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนและพาเธอเข้าไปในห้องนอนซึ่งอยู่ในห้องทำงานของเขา
ชายหนุ่มวางร่างบางลงบนที่นอนนุ่มและเดินไปปิดประตูเพื่อไม่ให้นายน้อยของเขารับรู้ว่าฟ้ากำลังร้องและฝนกำลังกระหน่ำลงมาอย่างหนัก
"ห้องนอนของคุณกับเลขาคนนั้นหรือคะ?" แม้จะรู้ว่าไม่ควรถามแต่ปากก็ถามออกไปแล้ว
"ไม่เคยเอากับใครในนี้ อยากเป็นคนแรกของเตียงนี้หรือเปล่าล่ะ?" พิงเลิกคิ้วถาม เขาเป็นคนใช้คำพูดตรงไปตรงมา แต่กลับใช้ความรู้สึกกับผู้หญิงแบบตรงไปตรงมาไม่เป็นเสียอย่างนั้น
"คนบ้า พูดจาหยาบคาย!" เธอว่าเขาและยังรีบคว้าผ้าห่มผืนหนามาคลุมตัวไว้
"หึ! อย่ามาทำเป็นโลกสวย อย่าทำเหมือนไม่เคย และก็อย่าทำเหมือนเรื่องบนเตียงเป็นเรื่องน่าอายหรือผิดธรรมชาติ!" พิงพูดถึงเรื่องนี้ก็นึกถึงนายตำรวจหนุ่มหน้าหล่อคนนั้นด้วยความหงุดหงิดใจ เขากำลังอิจฉาผู้ชายทุกคนที่เคยสัมผัสร่างกายหอมนุ่มของเธอ
"หยุดพูดเรื่องนี้แล้วก็ออกไปได้แล้วค่ะ" เธอออกปากไล่เขาเพราะลืมไปเสียสนิทว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องนอนของตน
พิงไม่ทำตามคำบอกของเธอทว่าเขากลับนั่งลงบนเตียงนอนจนร่างบางต้องถอยร่นขึ้นไปตรงหัวเตียง
"อย่าคิดหนีคนอย่างพิง คุณไม่มีทางหนีผมพ้นหรอก!" เขาเตือนเธอด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจังมากเกินกว่าจะคิดว่าเขาแค่กำลังขู่
"ออกไปนะ" น้ำตาหยดใสไหลอาบแก้มนวลหลังจากที่ได้ฟังเช่นนั้น นายน้อยรู้สึกอึดอัดที่ทำอะไรไม่ได้และยังโดนเขาขู่ด้วยน้ำเสียงที่น่าหวาดกลัวอีก
"ร้องไห้ทำไม?" พิงเบือนหน้าหนีเมื่อเห็นน้ำตาที่กำลังไหลออกมาบนพวงแก้มหอมหวานของว่าที่ภรรยา
"อยากกลับบ้าน อึก ฮืออ..."
"เรื่องมาก! ฝนตกหนักขนาดนี้ ป่านนี้น้ำคงท่วมกรุงเทพฯแล้วมั้ง" พิงหงุดหงิดที่เธอทำเหมือนรังเกียจเขาบางครั้ง
"ตกหนักก็ต้องกลับ ฉันไม่อยากนอนที่นี่ อยากกลับบ้าน ฮืออ..." นายน้อยงอแงเหมือนเด็กจนไม่เหลือคราบสตรีสูงศักดิ์ที่มีความเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้วเช่นก่อนหน้านี้
"ถ้าฝนหยุดตกจะพากลับ" พิงหันกลับไปหาคนตัวเล็กที่กำลังก้าวลงจากเตียงเพราะความดื้อรั้น เขารั้งเอวบางให้นั่งลงบนเตียงนอนเช่นเดิมทว่าตนกลับเสียหลักล้มลงไปทับร่างบางไว้
หม่อมหลวงสรันตรีหลับตาปี๋และแน่นิ่งไปเมื่อลมหายใจอุ่นรดลงมาบนใบหน้าของตน พิงบรรจงกดริมฝีปากหยักลงบนหน้าผากมนอย่างลืมตัว เขากดข้อมือเรียวฝังลงไปในที่นอนนุ่มทั้งสองข้าง
"ถอยออกไปนะ" นายน้อยเบือนหน้าหนีเพื่อหลบหลีกการกระทำอันไร้สติของเขา
"ทำไม ไหนๆเราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว" พิงพูดพลางกดจมูกโด่งลงบนแก้มนวลแผ่วเบา เขาคลอเคลียลงมายังซอกคอขาวอย่างเอาแต่ใจ แรงขัดขืนอันน้อยนิดไม่ได้ทำให้พิงสะทกสะท้าน
"เรา...เราจะไม่มีวันทำเรื่องแบบนั้น!" คนตัวเล็กใจดีสู้เสือโดย
"ทำไม? ผมจะทำเรื่องบนเตียงแทนที่ไอ้ตำรวจหน้าหล่อคนนั้นไม่ได้เลยหรอ!" พิงหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง
"ไม่มีใครแทนที่ใครได้หรอกค่ะ! ปล่อยนะ!" ยิ่งเธอดิ้นขัดขืนเขายิ่งอยากลิ้มลอง กลิ่นหอมหวานของนายน้อยกำลังปลุกเร้าอารมณ์ของเขาให้ปะทุเดือด
"หึ! กล้ามากนะที่พูดแบบนี้"
"ปล่อยนะคะ!"