📗🌒 มื้อค่ำใต้ไฟระย้า ♡ ☪︎* ꙳

2464 คำ
📗🌒 การนัดดินเนอร์ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ “ชวนไปกินข้าว” แต่มันคือการเปิดพื้นที่ส่วนตัวที่ไม่เคยให้ใครมาก่อน ⸻ ✦ มื้อค่ำใต้ไฟระย้า คาริสาได้รับข้อความจากเบอร์เดิม ไม่มีชื่อ ไม่มีคำหวาน “คืนนี้ 19:30 Artemis Sky Lounge อย่าแต่งตัวทางการเกินไป” แค่นั้น ไม่มีการขอ แต่เป็นการบอก ตรง ๆ เหมือนเขาไม่ได้ให้เธอเลือก แต่ก็ไม่ได้บังคับ และนั่นต่างหากที่ทำให้ผู้ชายคนนี้น่ากลัว คาริสาเลือกใส่ส้นสูงสีเบจ ชุดเดรสผ้าไหมสีน้ำผึ้งที่เรียบง่าย ไม่รัดรูปเกินไป ปล่อยผมยาวตามธรรมชาติ เธอไม่รู้ว่าแต่งไปเพื่ออะไร แต่เธออยากให้การมาของเธอเป็นสิ่งที่เลือกเอง ⸻ ✦ Artemis Sky Lounge ที่นี่อยู่บนชั้นสูงสุดของ Artemis Tower ปกติใช้จัดงานสำหรับผู้ถือหุ้นหรือแขกสำคัญเท่านั้น แต่คืนนี้ ทั้งชั้นถูกปิดไว้เพื่อใครบางคน และเธอคือแขกเพียงคนเดียว เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก สิ่งที่เห็นคือห้องเงียบ ๆ ไม่มีดนตรี ไม่มีพนักงานเดินไปมา มีเพียงไฟแชนเดอเลียร์ส่องแสงอุ่น ๆ คลุมโต๊ะอาหารเล็ก ๆ สำหรับสองคน รอบด้านเป็นกระจกใส มองเห็นวิวเมืองทั้งเมือง 360 องศา ธีรภพยืนอยู่ริมกระจก สูทสีเทาเข้ม ถือแก้วไวน์ขาวในมือ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของเธอ เขาหันมา มองเธอสักพัก ก่อนพูดเสียงเรียบ “คุณไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย” คาริสายกคิ้วเล็กน้อย “ฉันต้องชมคุณกลับไหมคะ?” ธีรภพหัวเราะเบา ๆ ก่อนเดินเข้ามาใกล้ แล้วยื่นแขนให้ “คืนนี้ ผมจะไม่ถามอะไร และคุณก็ไม่ต้องตอบอะไร แค่กินข้าวด้วยกัน ในฐานะคนธรรมดาสองคน” ✦ บทสนทนาใต้แสงไวน์ อาหารถูกเสิร์ฟทีละจานโดยไม่มีเสียงวุ่นวาย พนักงานหายออกจากห้องไปหลังจากเสิร์ฟจานสุดท้าย เหลือเพียงเสียงไวน์รินลงแก้ว เสียงช้อนส้อม และเสียงหัวใจของเธอที่เต้นแรงจนเธอเองยังไม่เข้าใจ คาริสามองเขาแล้วถาม “คุณเคยมีผู้หญิงนั่งตรงข้ามคุณแบบนี้ไหม?” ธีรภพสบตาเธอ น้ำเสียงนิ่ง แต่มีบางอย่างลึกซึ้ง “เคยมีคนมานั่ง แต่ไม่เคย ‘อยู่จริง ๆ’ เหมือนคุณ” “คุณนั่งอยู่ตรงหน้า แต่ทำให้ผมรู้สึกว่าคุณไม่หายไปไหน” คำพูดนั้นทำให้เธอค่อย ๆ วางช้อนลง มือที่วางบนตักรู้สึกอุ่นขึ้น ทั้งที่ไม่มีใครแตะ เธอพูดเบา ๆ เหมือนแหย่เขา “บางที…ฉันอาจจะไปก็ได้” เขาตอบทันที “ผมก็จะตามไป” ✦ ระเบียงกระจก หลังอาหาร เขาพาเธอออกไปที่ระเบียง ลมเย็นพัดผ่าน ปลายผมของเธอปลิวเบา ๆ คาริสายืนข้างเขา มองแสงไฟของเมืองใหญ่ที่ส่องสว่างอยู่เต็มเบื้องล่าง “คุณกลัวอะไรมากที่สุด?” เขาถามเสียงเบา เธอเงียบไปสักพัก ก่อนพูดช้า ๆ “ฉันกลัวว่า…ความรักจะไม่พอ เวลาต้องเลือกระหว่างหัวใจกับความจริง” ธีรภพพยักหน้า เหมือนเข้าใจมากกว่าที่เธอคิด “ผมกลัวอย่างเดียว” เขาว่า “กลัวว่าคุณจะไม่ให้โอกาสผม ได้เป็นส่วนหนึ่งในความจริงนั้นไปกับคุณ” ✦ ระยะห่างที่ถูกละลาย คาริสาเอนตัวพิงกระจกช้า ๆ แต่สายตาของเขายังมองไม่ละจากเธอ จนเธอต้องถามออกมา “คุณรู้ใช่ไหมคะ ว่าฉันมีบางอย่างซ่อนอยู่” เขาพยักหน้า “ผมรู้ตั้งแต่วันที่คุณเดินเข้ามาในห้องนั้นแล้ว” “แล้วคุณยังจะจีบฉันอยู่เหรอคะ?” ธีรภพก้าวเข้ามาใกล้ทีละก้าว ช้า แต่มั่นคง “ยิ่งเพราะคุณไม่ใช่คนที่ใครจีบง่าย ๆ…ผมถึงอยากจีบคุณ” ✦ คำขอที่ไม่ต้องพูด มือของเขายกขึ้นแตะแก้มเธอเบา ๆ ไม่รุก ไม่ขออนุญาต แค่สัมผัสอย่างอ่อนโยนและมั่นคง คาริสาหลับตาลง ครั้งแรกที่เธอไม่รู้สึกว่าต้อง “เตรียมคำตอบ” ให้ตัวเอง เธอแค่นิ่ง ปล่อยให้ตัวเองอยู่ในอ้อมแขนของเขา ฟังเสียงลมหายใจที่แผ่วเบาข้างหู และจดจำว่าอ้อมกอดนี้อบอุ่นแค่ไหน “ฉันจะไม่ถามว่าเราคืออะไรนะคะ” เธอพูดเบา ๆ “ดี” เขาตอบสั้น ๆ “เพราะผมยังอยากจีบคุณต่อ” 🖋️ “คำเชิญที่ไม่มีในตาราง” ธีรภพพาเธอเข้าสู่งานประมูลที่เต็มไปด้วยคนระดับโลก และต่อหน้าทุกสายตา เขาประกาศชัดว่าเธอคือ “คู่ประมูลของเขา” ไม่ใช่แค่ในงาน แต่ยังหมายถึงในชีวิตเขาด้วย เข้าสู่บรรยากาศ “งานเลี้ยงประมูลระดับสูง” ธีรภพใช้เวทีนี้เปิดตัวคาริสาอย่างไม่เป็นทางการในวงการธุรกิจ และทำให้เห็นว่าการกระทำของเขาไม่ได้เป็นแค่การจีบ แต่คือ “การวางหมาก” ที่มีเธอเป็นศูนย์กลาง ✦ คำเชิญที่ไม่มีในตาราง “มีบัตรเชิญส่งมาค่ะ คุณคาริสา” เสียงพนักงานตรงล็อบบี้เรียกเธอด้วยน้ำเสียงทั้งตื่นเต้นและงง ๆ คาริสาหันไปมอง เห็นกล่องสีดำหรูในมือของพนักงาน ด้านบนผูกริบบิ้นสีเงินเรียบ ๆ และมีการ์ดแนบอยู่ บนการ์ดเขียนว่า: “ค่ำคืนการประมูล Helios — เฉพาะ Black Tie สำหรับ: คุณ Karisa จาก: T. Akkarawat” คาริสาพับการ์ดเก็บลงเงียบ ๆ แล้วมองกล่องในมือพนักงานอย่างลังเล “แล้วข้างในคืออะไร?” เธอถาม “เหมือนจะเป็นชุดราตรีค่ะ” คาริสาขมวดคิ้วเล็กน้อย ธีรภพส่งชุดให้เธอ? มันไม่ใช่วิธีของเขาเท่าไร แต่พอเปิดกล่องออก เธอก็ต้องหยุดมอง ภายในคือชุดราตรียาวผ้ากำมะหยี่สีดำสนิท ประดับเพชรเล็ก ๆ อย่างเรียบหรู ไม่หวือหวา แต่สวยจนสะกดสายตา และสิ่งที่ทำให้มือของเธอช้าลง คือกระดาษใบเล็กที่แนบอยู่ในกล่อง “ไม่ใช่เพราะคุณไม่มีชุดจะใส่ แต่เพราะผมอยากเห็นคุณในแบบที่ผมฝันไว้” คาริสากำการ์ดแน่นในมือ หัวใจสั่นไหวโดยไม่ตั้งใจ ธีรภพ…คุณไม่ควรรู้จักคำพูดแบบนี้ เพราะมันกำลังทำให้ผู้หญิงที่คิดว่าตัวเองแข็งแรงอย่างฉัน…เริ่มหวั่นไหวแล้วจริง ๆ ✦ The Helios Auction Night คืนนั้น พิพิธภัณฑ์ศิลป์กลางกรุงเทพฯ ถูกจัดให้เป็นงานประมูลของสะสมระดับโลก ภายในตกแต่งด้วยดอกกล้วยไม้สีขาวและม่วงอ่อน ไฟแชนเดอเลียร์คริสตัลส่องลงมาเป็นแสงอุ่น ๆ คลุมห้อง ทำให้แขกในชุดราตรีดูหรูหราราวกับภาพวาด คาริสาเดินเข้ามาด้วยรองเท้าส้นสูงที่ส่งเสียงเบา ๆ เธอสวมชุดราตรีสีดำที่ธีรภพส่งมาให้ มันเข้ารูปพอดี สง่างามแต่ไม่เกินงาม ทันทีที่เธอปรากฏตัว หลายคนหันมามอง แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจยิ่งกว่า คือชายในชุดทักซิโด้สีดำที่เดินตรงเข้ามาหาเธอโดยไม่สนใจใครเลย ธีรภพ เขายื่นแขนให้เธอ พูดเสียงเรียบ แต่ชัดเจนเหมือนประกาศ “คุณคือคู่ประมูลของผมคืนนี้” ✦ ด้านในห้องประมูล แถวหน้าสุดของห้อง คือที่นั่งสำหรับผู้สนับสนุนรายใหญ่ และคาริสากำลังนั่งข้างชายที่สามารถซื้องานศิลปะหลักร้อยล้านได้โดยไม่ต้องขออนุญาตใคร เธอกระซิบถามเขาเบา ๆ ระหว่างพิธีกรกำลังเปิดการประมูล “คุณทำแบบนี้เพื่ออะไร?” เขาตอบทันทีโดยไม่หันมามอง “เพราะผมอยากให้ทุกคนเห็นว่าคุณอยู่ข้างผม” “ในฐานะที่ปรึกษา…หรือ?” เธอถามย้ำ เขาหันมามองแล้วตอบสั้น ๆ “ในฐานะ ‘คุณ’ ที่ผมกำลังจีบ” คาริสาหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ ทั้งที่ไม่ควร เพราะน้ำเสียงของเขาไม่ได้เหมือนพูดเล่น แต่มันคือความจริงใจที่ชัดเจน ✦ เมื่อการประมูลถึงไคลแมกซ์ ชิ้นสุดท้ายของคืน คือภาพวาดจากศิลปินผู้ล่วงลับ ภาพเดียวในโลกของหญิงสาวที่หันหลังมองออกไปยังทะเลกว้าง ราคาเริ่มต้นที่ 10 ล้านบาท ภายในไม่กี่นาที ขึ้นไปถึง 28 ล้านบาท ธีรภพยกมือขึ้น พร้อมเสนอราคาใหม่ที่ทำให้ทั้งห้องเงียบลงทันที “ห้าสิบล้านบาท” เสียงฮือดังขึ้นทั่วห้อง คาริสาหันมามองเขาด้วยความตกใจ แต่เขาหันกลับมามองเธอ ตอบเสียงเบา “ผมไม่ได้ซื้อเพราะภาพ แต่ซื้อเพราะสายตาคุณตอนที่คุณมองมัน” เขาชนะการประมูลโดยไม่มีใครแข่งต่อ และในคืนนั้น คาริสากลายเป็นผู้หญิงที่ทุกคนพูดถึงมากที่สุด ทั้งที่เธอแทบไม่ได้พูดอะไรเลย ✦ หลังจบงาน ทั้งคู่ขึ้นลิฟต์ส่วนตัวไปยังห้องรับรองบนชั้นสูงสุดของพิพิธภัณฑ์ มองเห็นวิวกรุงเทพฯ ยามค่ำ คืนนี้ไม่มีผู้คน ไม่มีเสียง ไม่มีแม้แต่กล้อง ธีรภพถอดสูทออก ปลดกระดุมข้อมือ แล้วเดินไปหยิบไวน์มารินให้เธอ คาริสามองเขาแล้วพูดตรง ๆ “ฉันรู้ว่าคุณไม่ทำอะไรโดยไม่มีเหตุผล แล้วทำไมต้องเปิดตัวฉันแบบนั้น?” เขาเดินเข้ามา ยื่นแก้วไวน์ให้เธอ ตอบเสียงเรียบแต่ชัด “เพราะผมอยากให้คุณรู้ ว่าผมไม่ได้ซ่อนคุณจากโลก ถึงแม้คุณยังไม่แน่ใจว่าจะอยู่ในโลกของผมหรือเปล่า” เธอรับแก้วไว้ แตะขอบแก้วช้า ๆ ก่อนถามต่อ “คุณเชื่อในความรักเหรอคะ?” ธีรภพเงียบไปครู่หนึ่ง มองตาเธอลึก ๆ ก่อนตอบ “ไม่เคยเชื่อ จนวันที่เห็นคุณเดินเข้ามาในห้องสัมภาษณ์วันนั้น” 🖋️ “ข้อความที่ไม่ควรเห็น” คืนนั้น คาริสากลับถึงห้อง เธอนั่งเงียบบนเตียง นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนพอดี ความรู้สึกเหมือนเพิ่งผ่านฝันที่เธอไม่รู้ว่าควรเชื่อหรือควรกลัว ความอ่อนโยนของธีรภพมันอันตราย ไม่ใช่เพราะเสแสร้ง แต่เพราะมันจริงเกินไป และเธอไม่เคยเตรียมใจรับกับ “ความจริง” แบบนี้มาก่อน เธอถอดต่างหูเพชรที่เขาใส่ให้ วางข้างนาฬิกา แล้วหยิบกล่องหนังเล็ก ๆ ออกมาจากลิ้นชัก ในกล่องมีมือถือเครื่องหนึ่งที่ไม่มีซิม ไม่มีใครรู้ว่าเธอใช้ ยกเว้นคนที่ส่งข้อมูลมาให้ เธอเปิดเครื่อง หน้าจอมีข้อความใหม่ขึ้นมาเพียงบรรทัดเดียว “มันกำลังจะเริ่มแล้ว รูปถ่ายแรกจากระบบของเขาจะถูกส่งพรุ่งนี้” หัวใจเธอกระตุก กดเข้าไปดู ไฟล์แนบคือเอกสารเก่าของการโอนหุ้นเมื่อสิบปีก่อน ชื่อที่อยู่บนสุดไม่ใช่พ่อของเธอ แต่เป็น นายอภิชัย อัครวัฒน์ …พ่อของธีรภพ ✦ ความเงียบที่ไม่ใช่ความสงบ มือเธอสั่นเล็กน้อยขณะเลื่อนดูทีละหน้า วันที่ ลายเซ็น ชื่อผู้ถือผลประโยชน์ นี่คือหลักฐานที่เธอตามหามาตลอด เอกสารที่ไม่มีในฐานข้อมูลบริษัท แต่หลุดออกมาจากระบบของเขาเอง สิ่งที่เจ็บยิ่งกว่าข้อเท็จจริง คือรูปถ่ายสุดท้ายที่แนบมา ภาพเก่าซีดจาง พ่อของเธอจับมือกับพ่อของเขาอยู่หน้าตึก SkyEast Bio Lab ทั้งคู่ยิ้มให้กล้องเหมือนเพื่อนร่วมทางที่ไว้ใจกันที่สุด ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะหายไป ✦ เสียงหัวใจในห้องที่ไม่มีเสียง คาริสาหลับตา สูดลมหายใจช้า ๆ แล้ววางโทรศัพท์ลง คืนนี้เธอเพิ่งรู้ว่าตัวเองอยู่ใกล้ไฟเกินไป ความอบอุ่นที่คิดว่าเป็น “ความรัก” อาจเป็นเพียงไอร้อนก่อนถูกเผาจริง เธอมองต่างหูที่เขาใส่ให้ จากที่เคยดูหรูหรา ตอนนี้กลับเหมือนสัญลักษณ์ที่ทำให้เธอลดการ์ดลง “ทำไมต้องเป็นเขา…” เธอพึมพำ “ทำไมต้องเป็นคนที่หัวใจฉันเริ่มจะเชื่อ…” ✦ เช้าวันถัดมา คาริสาแต่งตัวในชุดสูทสีเทาอ่อน เรียบแต่แข็งแรง ราวกับเกราะสำหรับสู้มากกว่าผู้หญิงที่เพิ่งถูกจีบ รถของธีรภพยังรอที่เดิม เขายืนพิงประตูรถในชุดสูทสีเทากราไฟต์เหมือนทุกเช้า “คุณดูเงียบกว่าปกตินะ” เขาทัก “คิดเรื่องงานค่ะ” เธอยิ้มบาง ๆ แต่ในใจเต็มไปด้วยแผนการ ✦ บนรถ “คืนนี้คุณว่างไหม?” เขาถามขณะนั่งเคียงข้าง “ทำไมคะ?” “มีบางอย่างอยากให้คุณดู” “เกี่ยวกับงาน?” “เกี่ยวกับผม” คาริสาเงียบ สายตาเขาดูตรงและมั่นคง แต่เธอรู้แล้วว่า ความจริงไม่ได้อยู่ในแววตา มันอยู่ในเอกสารที่เขาไม่เคยอยากให้เธอเห็น ✦ ที่ทำงาน บ่ายวันนั้น เธอใช้สิทธิ์ที่ปรึกษาเข้าสู่ระบบบัญชีอีกครั้ง และพบชื่อหนึ่ง A. Akarawat ผู้ถือหุ้นใน SkyEast ที่โอนหุ้นออกก่อนบริษัทล้มเพียง 3 วัน นั่นคือเหตุผลที่ทำให้บริษัทพ่อเธอล้ม และชื่อพ่อเธอกลายเป็นผู้ต้องสงสัยเรื่องฟอกเงิน ✦ ค่ำคืนแห่งการเผชิญหน้า ธีรภพพาเธอไปยังเรือนรับรองบนดาดฟ้าโรงแรมเก่า บรรยากาศโรแมนติกด้วยเทียนหลายสิบเล่ม แต่คืนนี้ไม่มีไวน์ ไม่มีแชมเปญ มีเพียงแฟ้มสีดำและจอภาพเล็กบนโต๊ะ เขานั่งลงข้างเธอ มองตรงแล้วพูด “ผมอยากให้คุณเห็นสิ่งที่ครอบครัวผมไม่อยากให้ใครเห็น” คาริสาขมวดคิ้ว แต่ก็เปิดแฟ้มออก ข้างในคือรูปถ่ายเหมือนที่เธอเพิ่งเห็นเมื่อคืน ต่างกันตรงที่มีเอกสารแนบเขียนด้วยลายมือ “ฉันรักษาสัญญาไว้ไม่ได้ พวกเขาเอาทุกอย่างไป แต่ขอให้ลูกชายฉันอย่าเดินทางเดียวกับฉัน” ลายเซ็นด้านล่าง: อภิชัย อัครวัฒน์ ✦ คำถามที่เธอไม่คิดว่าเขาจะถาม “คุณอยากรู้ใช่ไหม ว่าผมเกี่ยวข้องกับเรื่องพ่อคุณหรือเปล่า” คาริสาเงียบ แต่มือกำแน่นบนตัก เขาลุกขึ้น เดินไปมองวิวเมือง “ผมไม่แน่ใจว่าพ่อผมมีส่วนหรือไม่ แต่ผมรู้ว่าผมไม่อยากให้คุณเป็นศัตรูผม ถ้าคุณต้องเลือกข้าง” คาริสาลุกตามไป ยืนข้างเขา เสียงเธอสั่นเล็กน้อย “แล้วถ้าฉันเลือกไม่ได้ล่ะคะ…” ธีรภพหันมาจับมือเธอแน่น “งั้นคุณไม่ต้องเลือก ผมจะเป็นฝ่ายเลือกคุณ แม้ว่าคุณยังไม่แน่ใจในตัวผมก็ตาม” 🖋️ “เธอเริ่มถูกจับตา” ภัทรกรเริ่มสังเกตความใกล้ชิดระหว่างธีรภพกับคาริสา และได้รับข้อมูลลับบางอย่างจากวงใน เขาเริ่มสงสัยแล้วว่า ผู้หญิงคนนี้…ไม่ได้ก้าวเข้ามาในชีวิตธีรภพเพียงเพราะโชคชะตา ⟡ ⸝⸝ ✿ 𓈈 𓂂 𓏸
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม