EP 2 : จะช่วยอะไรได้

1568 คำ
ก๊อก ๆๆ “อื้ม มาแล้ว ๆ” คนในห้องเปิดประตูให้หลังจากที่ฉันโทรหาและเพื่อนของฉันก็บอกว่าไม่สบายนอนอยู่หอฉันเลยรีบมาหาถึงหอพัก “ไงแก บอกว่าไม่ต้อง... / แกไม่ไปเรียนตั้งสามวันนะชาแล้วฉันจะไม่มาหาได้ยังไง” ปั้นชายังพูดไม่จบฉันก็พูดแทรก “ขอโทษนะแยมที่ทำให้เป็นห่วงจนแกต้องลำบากมาถึงที่นี่ เข้ามา... / อ่ะ ของแก” ปั้นชาบอกและกำลังจะหลบทางให้ฉันเข้าห้องแต่ฉันกลับยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้ซะก่อน “อะไรเหรอ?” “รับไปก่อน” ฉันไม่อธิบายแค่บอก ปั้นชารับไปดู พอดูเสร็จก็มองฉันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ “มันคือ...” “สิบล้าน ออกไปจากชีวิตพี่ตัสซะปั้นชา ไปซะตั้งแต่วันนี้ก่อนที่แกจะไม่ได้อะไรเลย” “...” คำพูดของฉันที่ไม่ได้น่าฟังสักนิดเดียวทำเพื่อนตัวแข็งทื่อไปเลย “รับไปชา ขอร้อง” “แก... / ฉันรู้นานแล้วว่าแกไปอยู่บ้านพี่เซตัส” ฉันไม่รู้หรอกว่าปั้นชาจะพูดอะไร แต่ฉันต้องการจบสถานการณ์นี้ให้เร็วที่สุด “รับไปสักทีชา” “แกต้องการให้ฉันรับเงินแล้ว...ไปจากชีวิตพี่เซตัสเหรอแยม?” เสียงแกเบาจังเลยชา แกเจ็บปวดมากเลยใช่ไหม ขนาดฉันยังเจ็บเลยแล้วแกที่โดนเพื่อนทรยศจะเจ็บแค่ไหนกันนะ “ฉันบอกไปแล้ว” “แก...” “รับไป ถ้าแกไม่รับสุดท้ายแกก็ต้องไปตัวเปล่า แกอย่า… / แกอยากหมั้นกับเขาเหรอ” ปั้นชาพูดแทรกและคำถามก็ทำให้ฉัน....พูดไม่ออก “...” “แกอยากหมั้นกับแฟนฉันเหรอแยม” “เขาเป็นของฉัน” “...อะไรนะ~” “เขาเป็นของฉันชา ใคร ๆ ในสังคมก็รู้กันทั้งนั้นว่าวันหนึ่งฉันกับเขาต้องแต่งงานกัน” “ทั้งที่ไม่ได้รักกันน่ะเหรอ” ปั้นชาถามเบา ๆ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “อาจจะมีคนที่รักก็ได้” “แกหมายความว่า...” “จะรับไปได้รึยัง” รับไปสักทีชา ช่วยรับไปเพราะฉันก็จะทนแสดงละครต่อไปไม่ไหวแล้ว “แกต้องการแบบนี้เหรอแยม” “ถ้าไม่ต้องการจะมาบอกแกทำไมล่ะชา รับไปสักทีก่อนที่แกจะไม่ได้อะไรเลย หรือแกคิดว่าถ้าแกไม่รับก้อนนี้แล้วแกจะได้มากกว่านี้” “เขาจะแต่งงานกับแกเหรอ” คำถามของปั้นชาเหมือนเอาเสาปูนขนาดใหญ่มาฟาดหน้าฉันเลย “สุดท้ายเขาก็ต้องทำ มันเป็นเรื่องปกติของสังคมพวกฉันแกน่าจะพอรู้บ้างนะชา” “...” เจอคำตอบและถามกลับมาปั้นชาก็เงียบไปเลย “แกจะไปถามพี่ตัสก็ได้นะแต่ฉันสารภาพตรง ๆ ก็ได้ว่าตอนนี้เขายังไม่รู้เรื่องที่เราจะหมั้นกันเร็ว ๆ นี้หรอก แต่อีกไม่กี่วันก็ต้องรู้ วันนี้พ่อแม่เขาเลยให้ฉันมาเคลียร์กับแกเงียบ ๆ ก่อน” “...” พอเอาพ่อแม่พี่เซตัสมาอ้างปั้นชายิ่งเงียบ ฉันรู้ว่ามันบ้ามากที่โกหกถึงขั้นนี้แต่ฉันถอยกลับไปไม่ได้แล้วเหมือนกัน “ความจริงแกน่าจะขอบคุณฉันนะชา เพราะถ้าไม่ใช่ฉันแต่เป็นพ่อแม่เขามาเคลียร์เองแกจะโดนอะไรบ้างก็ไม่รู้ แกเชื่อฉันสิว่าเขารักลูกชายเขามากแต่เขาไม่มีทางรักมากพอที่จะยอมให้สะใภ้ของเขาเป็นแค่ผู้หญิงที่ส่งเสริมลูกชายเขาไม่ได้หรอก” “...” “รับไปเถอะชา รับไปแล้วไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไหนสักที่ ฉันไม่ได้เกลียดแกนะ ฉันยังรักแกเหมือนเดิม แกยังเป็นเพื่อนรักของฉัน...แต่ชีวิตมันต้องดำเนินต่อไป ชีวิตฉันกับพี่เซตัสถูกขีดมาตั้งแต่เราเกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวยแล้ว ถึงแกไม่รับสุดท้ายแกก็ต้องไปอยู่ดี แล้วฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าจนถึงวันสุดท้ายที่แกยังดื้อดึงชีวิตแกจะต้องเจออะไรบ้าง” “...แกขู่ฉันเหรอแยม” “ไม่เลยชา ฉันหวังดีกับแก รับไปแล้วไปจากชีวิตพี่ตัสซะฉันขอร้อง” “ฉัน... / แกสู้พ่อแม่เขาไม่ได้หรอก พี่ตัสก็เหมือนกัน พี่เขาสู้พ่อแม่ตัวเองไม่ได้หรอกนะ...แกก็รู้ว่าพ่อแม่เขาเป็นใคร” “...” “พี่ตัสเป็นลูกชายคนเดียว อย่าเอาชีวิตกับอนาคตของแกมาเสี่ยงเล่นกับไฟเลยชา แกก็รู้ว่าแกไม่มีทางสู้ได้” ฉันเกลียดตัวเองที่สุดเลยที่พยายามกดเพื่อนให้ต่ำลง ถึงคำพูดจะเหมือนหวังดีแต่มันไม่ใช่เลยสักนิด ปั้นชามองฉันไม่ละสายตาก่อนที่จะกลั้นน้ำตาแล้วยื่นมือมาหยิบเช็คจากมือฉัน “ฉันขอเวลาสามวัน” “อะไรนะ?” “ขอเวลาสามวัน แกไปบอกคุณพ่อคุณแม่พี่ตัสให้ที” “แกจะทำอะไร” “ให้ฉันได้อยู่กับคนที่ฉันรักเป็นครั้งสุดท้าย...ขอแค่นี้ได้ไหม” “...สัญญาว่าจะไปนะชา” ฉันมองปั้นชาด้วยความลังเลก่อนจะพูดเพราะยิ่งนานฉันยิ่งกลัวว่าเรื่องจะแดง แต่ฉันก็ไม่กล้าทำร้ายปั้นชามากไปกว่านี้แล้ว “อื้ม” ปั้นชาพยักหน้ารับ ฉันมองเพื่อนอย่างชั่งใจพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับ “ขอบคุณนะชา” “อื้ม” ปั้นชาพยักหน้ารับอีกครั้งก่อนจะจับประตูแล้วปิดมันลงช้า ๆ โดยที่ฉันเองก็ไม่ได้ห้ามอะไร... “...เฮ้อ!” ฉันเอาภาพเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดออกจากหัวไม่ได้ ทำไม่ได้เลยจริง ๆ “ถึงแล้ว” “ฮะ?” “ถึงแล้ว” คนขับรถบอกสั้น ๆ อีกครั้งฉันถึงได้มองบรรยากาศรอบ ๆ นี่ฉันนั่งเหม่อจนไม่รู้ตัวว่ามาถึงโรงพยาบาลแล้วเหรอ เฮ้อ~ มีแต่เรื่องให้เหนื่อยหัวใจจนไม่มีสมาธิสนใจสิ่งรอบตัวเลยนะแยมโรล ฉันลงจากรถทันทีไม่สนใจคนขับเพราะไม่รู้จะสนใจไปทำไม ลงจากรถเรียบร้อยก็เดินไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย คุ้นเคยชนิดที่หลับตาเดินยังไปถูก “สวัสดีค่ะอาหมอ” มาถึงหน้าห้องที่ฉันไม่มีสิทธิ์เข้าไปก็บังเอิญได้เจอกับคุณหมอเจ้าของไข้ของคุณแม่พอดี “อ้าวแยมโรล วันนี้มาเร็วนะลูก” “ค่ะ อาการคุณแม่เป็นยังไงบ้างคะ” “ก็...” คุณอาหมอยิ้มบาง ๆ ก่อนจะตอบคำถามให้ฉันฟัง คำตอบที่วันนี้...ไม่ค่อยเหมือนเดิมเท่าไหร่ “อาการคุณแม่หนูไม่ค่อยดีนะหนูแยมโรล อาคิดว่าท่านต้องได้รับการผ่าตัดให้เร็วที่สุด” “อดทนนะคะคุณแม่ หนูจะหาทางรักษาคุณแม่ให้ได้” หลังจากพูดคุยกับคุณอาหมอเรียบร้อยแถมได้รับคำพูดทิ้งท้ายที่ไม่อยากได้ยินเลยฉันก็เอาแต่จ้องมองเข้าไปในห้อง ...นานแล้วนะคะที่เราไม่ได้คุยกัน นานแล้วที่ไม่ได้กอด นานแล้วที่แม้แต่จับมือยังทำไม่ได้ แต่หนูสัญญานะคะคุณแม่ว่าหนูจะทำให้เราเจอกันอีกครั้งให้ได้ ...คุณแม่อดทนและเชื่อใจหนูนะคะ “กลับเลยไหม” “กลับไปก่อนเลย” ฉันไม่หันไปตอบ ใครอยากกลับก็กลับก่อนเลย รู้ว่าเบื่อที่ต้องพาฉันมาที่นี่ทุกวันแถมยังต้องนั่งรอครั้งละเป็นชั่วโมง ปกติถ้าโดนเขาทำตัวถือดีใส่หลายครั้งฉันคงแกล้งให้นั่งรอนาน ๆ นะแต่วันนี้ไม่มีอารมณ์ทำอะไรแบบนั้น ไม่อยากวุ่นวายกับใคร ฉันเหนื่อยหัวใจมามากเกินพอแล้ว “มีอะไรอยากให้ช่วยไหม” “...คนอย่างนายจะช่วยอะไรได้” “อืม กินรองท้องก่อน” คำพูดประโยคนี้มาพร้อมกับแขนฉันที่โดนอะไรบางอย่างแตะ “...อะไร?” ฉันหันไปมองว่าอะไรที่แตะโดนแขน เห็นชัดแต่ก็ยังขมวดคิ้วและถามออกไป “รองท้องก่อน” “ยุ่ง” “เอาไป จะกลับเองก็อย่าดึกเผื่อพ่อคุณจะคุยธุระสำคัญนะครับคุณหนู” “...” ฉันจ้องหน้าเขา คำพูดน่าตบปาก แต่ไม่ได้ทำอย่างที่อยากและเขาก็แค่มองหน้าฉันพร้อมกับวางกล่องแซนวิชกับน้ำผลไม่ลงที่เก้าอี้ข้าง ๆ จากนั้นก็เดินออกไป ไสหัวไปไกล ๆ เลยไอ้... “มีอะไรอยากให้ช่วยไหม” “...” ฉันมองตามหลังเขาก่อนจะหันกลับมาสนใจคนที่นอนอยู่ในห้องที่มีกระจกกั้นระหว่างเราเอาไว้ต่อเพราะถ้าขืนมองไอ้คนที่เพิ่งเดินไปให้นานกว่านี้อีกสักนิดบางที ฉันอาจจะอาละวาดก็ได้ “...คนอย่างนายจะช่วยอะไรได้” คำตอบของฉันที่ตอบเขาออกไปฟังดูเป็นการดูถูกมากเลยใช่ไหมคะ แต่ไม่หรอกไม่เป็นการดูถูกเกินไปแม้แต่นิดเดียว คนอย่างนายนั่นช่วยอะไรไม่ได้จริง ๆ เพราะถ้านายนั่น คิดจะช่วย คุณแม่คงไม่ต้องนอนทรมานนานขนาดนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม