“บอกปูนมานะ เด็กในท้องพี่รัญเป็นลูกใคร ใช่ลูกพี่หรือเปล่า”
คำถามนั่นทำให้คนถูกถามหันมาทำหน้าเย็นชาใส่ ก่อนจะเดินหนีเข้าบ้านไม่อยากเสวนาด้วย
“พี่อย่าเดินหนีนะ กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิ” หญิงสาวรีบคว้าแขนเขาไว้อย่างลืมตัวด้วยโทสะที่เก็บมาตลอดทาง เพราะคนได้ชื่อว่าสามีไม่ยอมอธิบายให้กระจ่าง ต่อให้เธอพยายามใจเย็นแค่ไหน ใครจะไม่ตะบะแตก
“ถ้าฉันบอกว่าใช่แล้วไงล่ะ เธอจะทำยังไงเหรอ หรือว่า...” ฉัตรินแกล้งทอดเสียงยั่วโมโห “จะยอมหย่า”
คำนั้นทำเอาคนฟังสะอึกอึ้งไปชั่วขณะ รู้ดีแก่ใจว่าเขาพร้อมจะทำอย่างที่พูดได้ทุกเมื่อ แต่เรื่องอะไรเธอต้องยอมทำแบบนั้นให้เขาสมใจ
“ฝันไปเถอะ ทำไมปูนต้องยอมหย่าให้พี่ไปสมหวังกับชู้รักเก่าด้วย”
“ปูน!”
“ปูนไม่หย่า ถ้าพี่อยากให้ลูกของพี่รัญเกิดมาเป็นลูกนอกสมรสก็ตามใจสิ แต่ปูนไม่หย่าแน่”
“เมื่อไหร่เธอจะออกไปจากชีวิตฉันสักทีปูน”
เสียงคำรามก้องผสมผสานด้วยความโกรธเกลียดชิงชัง ไม่ได้ทำให้หญิงสาวผู้มีใบหน้าสวยหยาดเยิ้มสะดุ้งสะเทือน หวาดผวา หรือว่าตกใจกลัวแต่อย่างใด เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอโดนอีกฝ่ายสาดคำใจร้ายพวกนี้ใส่หน้า
ปรียากรยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ มุมปากของเธอแต้มรอยยิ้มเยาะหยันไม่ใช่เขา แต่เป็นตัวเองต่างหาก
จะโทษใครได้ ในเมื่อเธอเองมันโง่ที่มาหลงรักผู้ชายปากร้ายใจดำคนนี้เอง รักอย่างโง่งมว่าความรักของเธอจะเปลี่ยนใจคนไม่รักกันตรงหน้าให้กลับมารักเธอในสักวันได้ แต่เปล่าเลย...
เขาไม่รัก ไม่เคยคิดจะรัก แล้วยังเหยียบย่ำหัวใจกันด้วยการติดต่อกับคนรักเก่าอีก นี่ถึงขั้นพากันไปฝากครรภ์
“แล้วทำไมปูนต้องไปจากชีวิตสามีตัวเองด้วยล่ะคะ ในเมื่อปูนต่างหากที่เป็นเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายของพี่ซี ทะเบียนสมรสก็มีหรือพี่ลืมไปแล้ว” เธอลอยหน้าตอกกลับอีกฝ่ายไป ทั้งๆ ที่ภายในใจปวดแสบปวดร้อนและบอบช้ำสิ้นดี
“ผู้หญิงที่มีสามีแล้วยังมายุ่งกับสามีคนอื่นจนปล่อยตัวเองให้ท้อง ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขามีเมียอยู่แล้วต่างหากที่ควรไปให้พ้นจากชีวิตของเรา!”
“ปูน!”
“ขา...ที่รัก” น้ำเสียงที่แสร้งบีบให้หวานแหลมอย่างยั่วประสาท ทำให้ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ราว 189 เซนติเมตรถึงกับขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“ฉันไม่ใช่ที่รักของเธอ และไม่มีวันจะใช่ด้วย จำใส่กะโหลกไว้”
ประโยคนั้นถ้าเป็นหอกแหลมคมก็คงเสียบทะลุกลางหัวใจของเธอจนย่อยยับเลือดไหลโซมกายไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็จำต้องกลืนเลือดลงในอกตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“อ้าว เหรอคะ ถ้าปูนไม่ใช่ แล้วใครล่ะที่ใช่ ยัยคนที่จ้องจะงาบผัวคนอื่นไปหน้าด้านๆ งั้นเหรอคะที่พี่ควรเรียกว่าที่รัก ลูกในท้องนั่นพี่มั่นใจแล้วเหรอคะว่าเป็นลูกพี่”
“ปูน อย่าลามปาม รัญเขาไม่เหมือนเธอ อย่างน้อยเขาก็ไม่หน้าด้านหน้าทนเท่าผู้หญิงอย่างเธอ”
ฟังสิฟัง มันน่าน้อยใจเหลือเกิน ทีเรียกเมียแต่ละคำล่ะเสียงห้วนเชียว แต่กับผู้หญิงคนนั้นเขากลับเรียกอย่างอ่อนโยนทุกคำ
ใช่สิ เธอมันก็แค่เมียที่เขาไม่ได้ต้องการมาแต่แรกนี่
คนที่เขาไม่รัก ต่อให้ทำดีให้ตายยังไง เขาก็ไม่รัก...
ขอโทษค่ะ นี่อาจเป็นสโลแกนของคนทั่วไป แต่ไม่ใช่เธอ!
สำหรับคนอย่างปรียากรอยากได้อะไรต้องได้ ต่อให้เป็นคนที่เขาไม่รัก ไม่แคร์ เธอก็จะทำทุกวิถีทางให้เขาเปลี่ยนใจกลับมารักให้ได้ เธอพร้อมจะสู้ ต่อให้ต้องตื้อ ต้องง้อ ต้องจีบ ต้องจิก ต้องทน หรือต่อให้หนทางริบหรี่เหลือความหวังแค่ 0.01% แต่เธอก็จะไม่ยอมแพ้ หน้าด้านหน้าทนกว่านี้เธอก็จะทำมาหมดแล้ว ขอแค่ได้รักและได้อยู่กับเขาคนนี้
“แล้วพี่มั่นใจได้ยังไงว่าผู้หญิงคนนั้นเขาดีจริง” หญิงสาวถามด้วยรอยยิ้มหยัน “พี่แน่ใจว่ารู้จักเขาดีแค่ไหนเหรอ ถึงบอกว่าเขาดีกว่าปูน”
ฉัตรินกดยิ้มเหยียดหยันคนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของตนอย่างสมเพชในความหลงตัวเองไม่มีที่สิ้นสุด
“ดีกว่าไหม ฉันไม่รู้ แต่ที่รู้คือ...ฉันรักเขามากกว่าเธอไง และถ้าไม่มีเธอ ป่านนี้คนที่ยืนตรงหน้าฉันในฐานะเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายและแม่ของลูกฉันคงชื่อว่ารัญ ไม่ใช่ปูน”
เจ็บกว่านี้ก็สิบล้อพุ่งชนแล้วถอยมาเหยียบซ้ำแล้วล่ะมั้ง
ปรียากรชาไปทั้งตัวจนต้องสูดหายใจเข้าปอดแรงๆ เพื่อระงับความปวดร้าวที่วิ่งพล่านอยู่ในหัวใจช้ำเลือดช้ำหนองดวงนี้ กระบอกตาร้อนผ่าวจนเธอต้องสะกดจิตตัวเองอย่างหนัก
อย่านะ ไอ้น้ำตาเส็งเคร็ง อย่าเพิ่งมาไหลต่อหน้าผู้ชายไร้หัวใจคนนี้ อย่าให้เขาได้สะใจ หรือสมน้ำหน้าเธอได้ อย่าให้เขารู้ว่าหัวใจเธอกำลังแตกสลายย่อยยับ
“งั้นก็เสียใจด้วยนะที่ต้องทำให้พี่ผิดหวัง เพราะตอนนี้พี่ยังได้ชื่อว่าเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของผู้หญิงหน้าด้านคนนี้อยู่ แล้วถ้าอยากมีเมียชื่อรัญนัก ก็ไว้รอฝันเอาชาติหน้าแล้วกันนะคะ ถ้าไม่อยากให้ปูนต้องฟ้องชู้”
“เธอนี่มัน!”
ชายหนุ่มตาลุกเป็นไฟ สันกรามคมบดเข้าหากันแน่นเพื่อระงับโทสะที่กำลังเดือดพล่านในอกไม่ให้พุ่งเข้าไปบีบคอผู้หญิงตรงหน้าให้แหลกสลายตายคามือ
“เลิกยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นซะ ถ้าพี่บอกว่ารักเขามากกว่าปูน ก็อย่าทำให้ผู้หญิงที่ตัวเองรักต้องได้ชื่อว่าเป็นชู้กับผัวชาวบ้านสิ เด็กในท้องนั่นก็จัดการให้เรียบร้อยซะ อย่าให้ต้องถึงมือปูน!”
“ปูน!” ฉัตรินเอ็ดเสียงเขียว ดวงตาดุดันจ้องหญิงสาวตรงหน้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“อย่าให้มันมากเกินไปนัก เธออยากให้แต่ง ฉันก็แต่งให้แล้ว ถ้าเธอยังโลภอยากได้อะไรอีก ระวังเถอะ มันจะไม่เหลืออะไรสักอย่าง”
“โลภเหรอคะ...แค่อยากให้สามีตัวเองทำหน้าที่สามีที่ดีบ้าง นี่มันเรียกว่าโลภตรงไหน”
ปรียากรยิ้มขมขื่น กระบอกตาร้อนผ่าวจนขึ้นละอองฝ้า
ใช่ เขายอมแต่งงานกับเธอแต่ก็เพราะจำใจ ไม่ใช่เพราะรัก เหมือนที่เธอนั้นแสนจะรักเขา ตัวอยู่กับเธอ แต่หัวใจเขาไม่เคยอยู่กับเธอ
เธอเป็นภรรยาที่ได้นอนกอดทะเบียนสมรสก็จริง แต่กลับไม่เคยได้นอนกอดสามี นอกจากสายตาที่มองมาอย่างเกลียดชังที่ทำให้เธอหนาวไปถึงขั้วหัวใจ
เพียงเพราะเธอรักเขามากจนไม่ยอมเสียเขาไปให้ใคร แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความเจ็บปวดเช่นนี้หรือ
“สามีที่ดีงั้นเหรอ?”