ทางด้านหญิงสาว
แพรไหมวิ่งออกมาจากบริษัทนั้นมาอย่างไม่คิดชีวิตเธอเองไม่คิดว่าจะมาเจอฝันร้ายของเธอเองที่นี่เดือนกว่าแล้วสินะที่เธอหนีมาจากที่นั่นแต่ก็ไม่คิดว่าโลกจะกลมจนกระทั้งเหวี่ยงเธอมาเจอกับผุ้ชายใจร้ายคนนี้อีกในคืนนั้นคืนที่เหมือนฝันร้ายเธอเองร้องอ้อนขอเขาให้ปราณีเธอสุดชีวิตแต่เขากลับไม่คิดเห็นใจซ้ำยังต่อว่าเธอมารยาเล่นบทเด็กสาวบริสุทธิ์ได้ดีอีกด้วยเธอพยายามที่จะบอกเขาแล้วว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่าที่ใครส่งมาอย่างที่เขาพูดแต่เขาไม่เคยเปิดโอกาศให้เธอได้อธิบายอะไรเลย
หลังจากที่หญิงสาวทำใจอยู่นานเธอก็เริ่มตั้งสติได้เธอก็ขึ้นรถเมล์กลับบ้านทันทีเรื่องงานเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่
“ยายจ๋าวันนี้ทำอะไรกินจ้ะหอมไปถึงหน้าบ้านเชียว”
แพรไหมเดินเข้าบ้านมาก็ได้กลิ่นอาหารลอยมาเตะจมูกตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในบ้านรู้ว่ายายของเธอต้องอยู่ในครัวแน่ๆเธอจึงเดินส่งเสียงเจื้อยแจ้วเข้ามาในครัว
“วันนี้ยายทำของโปรดแพรไว้ด้วยล่ะ...วันนี้สมัครงานเป็นยังไงบ้างล่ะแพร”
ทับทิมที่กำลังยืนคนหม้อต้มเมื่อได้ยินเสียงสดใสที่ดูอารมณ์ดีของหลานสาวก็คิดว่าวันนี้คงจะสมัครงานได้แล้วจึงลองถามหลานสาวเรื่องสมัครงานดู
“เอ่อยังไม่ได้เลยจ้ะยายแต่พรุ่งนี้มีบริษัทที่โทรนัดสัมภาษณ์แพรหลายบริษัทเลยแพรได้งานทำแน่นอนยายไม่ต้องเป็นห่วงน้า”
แพรไหมเข้าไปสวมกอดคนเป็นยายที่ยังยืนคนหม้อต้มอยู่เธอจำเป็นต้องแสร้งร่าเริงเข้าไว้เพื่อที่ยายของเธอจะได้สบายใจและก็ต้องทำบาปอีกหนึ่งข้อที่ต้องโกหกเรื่องสัมภาษณ์งานเพราะเธอไม่อยากให้ยายเธอกังวลใจอีกเช่นกัน
“มากอดยายทำไมมีแต่เหงื่อไปๆ...ไปอาบน้ำอาบท่าแล้วมาทานข้าวกัน”
“จ้ะยาย”
แพรไหมเดินขึ้นฉันสองของบ้านเพื่อที่จะไปอาบน้ำแล้วลงมาทานข้าวตามที่ยายของเธอบอกเมื่อหญิงสาวเดินขึ้นมาถึงบนห้องก็ถึงกับปล่อยโฮทันทียิ่งเธอเปิดดูตัวเลขในบัญชียิ่งหวั่นใจไหนจะค่ารักษาของยายเธอสิ้นเดือนนี้อีกถ้าเธอไม่ได้งานทำภายในเดือนนี้เดือนหน้าเธอและยายไม่มีเงินพอใช้แน่ๆ
ยังโชคดีที่พ่อกับแม่เธอทิ้งบ้านหลังเล็กๆนี้ไว้ให้ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนเหมือนกันเธอเคยคิดว่าจะเอาบ้านไปจำนองเพื่อเอาเงินมารักษาอาการของยายเธอแต่เมื่อยายเธอรู้ก็ห้ามเอาไว้ซะก่อนเพราะยายเธอไม่ยอมซ้ำยังบอกว่าถ้าเอาบ้านไปจำนองจะไม่ยอมรักษาอีกต่างหาก
20.00น
“ชาร์ลฉันได้ที่อยู่ของเธอมาแล้วอยู่ในเมลนายรีบไปสืบประวัติเพิ่มเติมของเธอมาด่วนเลยนะ”
“ครับคุณภูผา”
ชาร์ลอ่านอีเมลของเจ้านายหนุ่มของเขาถึงกับอมยิ้มปกติเจ้านายหนุ่มของเขาไม่มีทีท่าว่าจะสนใจประวัติของสาวคนไหนแต่กับเธอคนนี้กลับให้เขาใช้เวลาสืบอยู่นานโดยที่ไม่ยอมลดละความพยายามเขาเองก็ไม่รู้ว่าแม่สาวคนนี้มีอะไรให้เจ้านายของเขาสนใจนักหนาแต่ในเมื่ออยากรู้เขาก็จะสืบให้ตามหน้าที่ในเมื่อได้ที่อยู่มาแล้วคงจะไม่ยากเรื่องการสืบชาร์ลคิดว่าไม่เกินสามวันได้เรื่องแน่นอน
เช้าวันต่อมา
วันนี้แพรไหมตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะไปเดินหางานอีกตามเคยหญิงสาวก็ไม่รู้ว่าจะไปหางานที่ไหนแต่ก็ขอออกมาก่อนเพื่อให้คนที่เป็นยายสบายใจ
“ว้ายยย..ช่วยด้วยๆๆช่วยด้วยค่าโจรขโมยกระเป๋าค่า”
เมื่อหญิงสาวเดินมาถึงหน้าร้านสะดวกซื้อเธอก็ได้ยินเสียงคนร้องให้ช่วยเมื่อเห็นว่มีโจรผู้ชายกำลังกระชากกระเป๋าของผู้หญิงวัยกลางคนอยู่เธอจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยทันทีแบบไม่คิดชีวิต
“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ...คุณตำรวจขาทางนี้ค่ะ....โอ้ย”
แพรไหมรีบวิ่งไปสกัดหน้าผู้ร้ายแล้วแย่งกระเป๋าคืนเมื่อเห็นตำรวจวิ่งมาเธอเลยรีบเรียกให้ตำรวจรีบมาจับผู้ร้ายทำให้ไม่ทันได้มองว่าคนร้ายนั้นมีมีดอยู่เมื่อเธอกระชากกระเป๋าคืนมาได้ทำให้ช่วงจังหวะที่เธอกระชากคืนนั้นทำให้คนร้ายใช้มีดแทงมาที่เธอแต่ยังดีที่เธอเอี้ยวตัวหลบเมื่อเห็นมีดจึงทำให้ปลายมีดตวัดมาบาดที่แขนแบบถากๆแต่แผลก็น่าจะลึกอยู่เหมือนกัน
เมื่อคนร้ายเห็นตำรวจมาเลยรีบหนีแต่ก็หนีไม่รอดเพราะช่วงจังหวะที่แพรไหมล้มเมื่อเห็นว่าโจรจะหนีเลยรีบสกัดขาโจรไว้จนโจรล้มตำรวจเลยรวบตัวไปโรงพักทันที
“เดี๋ยวผมขอเชิญพวกคุณไปให้ปากคำที่โรงพักด้วยนะครับ”
“ค่ะเดี๋ยวดิฉันจะตามไปนะคะขอพาแม่หนูคนนี้ไปทำแผลก่อนนะคะ”
พิมพาเห็นว่าเลือดที่แขนของเด็กสาวที่ช่วยเธอเมื่อครู่มีเลือดออกมากเลยจะพาเธอไปทำแผลที่คลินิคที่ลูกชายเธอมีหุ้นส่วนอยู่ก่อนแล้วค่อยตามไปที่โรงพักทีหลัง
“เป็นอะไรมากมั้ยหนู...ไปเถอะเดี๋ยวฉันพาไปทำแผล”
“ค่ะ”
“คุณพิมเป็นอะไรมากมั้ยครับ”
สมหมายคนขับรถที่พึ่งไปซื้อกาแฟให้พิมพากลับมาเมื่อเห็นมีเหตุการณ์ชุลมุนก็เอ่ยถามเจ้านายของตนด้วยความเป็นห่วงเขาไปซื้อของแค่แปปเดียวก็เกิดเหตุร้ายกับเจ้านายเฉยเลยเขาคิดว่ากลับไปคงโดนคุณชายตำหนิอีกแน่ที่ดูแลแม่ของเขาไม่ดี
“ฉันไม่เป็นอะไรหรอกเดี๋ยวพาแม่หนูคนนี้ไปทำแผลที่คลินิคก่อน”
“ครับๆ”
สมหมายขับรถไม่ถึงสิบนาทีก็พาทั้งสองมาถึงคลินิคเพราะคลินิคอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ไกลเท่าไรนักจึงมาถึงเร็ว
“อ้าวคุณแม่คะนั่นพาคนเจ็บจากที่ไหนมาคะ”
เพลงพิณเมื่อเห็นคนเป็นแม่เดินประคองหญิงสาวที่มีเลือดออกอยู่จึงแปลกใจว่าแม่ตนนั้นพาหญิงสาวที่บาดเจ็บจากที่ไหนมา
“ก็แม่หนูคนนี้เขาช่วยแม่ไว้จากคนร้ายที่กระชากกระเป๋าเลยได้รับบาดเจ็บนี่หมออัคอยู่หรือเปล่า”
พิมพาเห็นว่าเลือดที่แขนของหญิงสาวออกเยอะเลยรีบถามหาอัคนีที่เป็นเพื่อนของลูกชายตนเองและหมอประจำคลินิคที่นี่ทันที
“อยู่ค่ะคุณแม่.....นั่นไงพี่อัคออกมาพอดีค่ะ”
เมื่อเพลงพิณกำลังจะก้าวเดินเข้าไปตามหมออัคนีมาดูคนเจ็บแต่ชายหนุ่มก็เดินออกมาพอดี
“สวัสดีครับคุณป้า...คนเจ็บเป็นอะไรมาครับ”
เมื่ออัคนีเห็นแม่ของเพื่อนเข้ามาก็รีบเข้ามาสวัสดีแต่เมื่อเหลือบไปเห็นหญิงสาวที่มีเลือดออกอยู่ก็ต้องเอ่ยถามยกใหญ่ว่าเธอเป็นอะไรมา