I'm blue

1773 คำ
I’ m blue เลิกงานแล้วครับแต่ผมยังไม่อยากกลับบ้าน ผ่านมาสองวันแต่อาการผมยังไม่ต่างจากเดิมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยากจะทำอะไรโง่ๆ ดูบ้างสักครั้ง นั่งดื่มคนเดียวโดยมีกับแกล้มเป็นรูปคู่ที่เซฟอยู่ในมือถือ ผมมักนั่งดูรูปนี้บ่อยๆ แถมเมื่อคืนก็นอนไม่ค่อยหลับส่วนหนึ่งก็มาจากความรู้สึกในใจแต่อีกส่วนหนึ่งก็มาจากข้อความของไอ้เมฆ ‘ว่างๆ กินข้าวกันนะ’ มันชวนผมเหมือนจะไม่คิดอะไรบริสุทธิ์ใจแบบคนเป็นเพื่อนกัน แต่ผมนั้น… อาการยังไม่ต่างจากเดิมเมื่อไหร่ผมจะผ่านมันไปได้สักที บ้าแน่ๆ … ยิ่งไปเจอมันผมยิ่งเจ็บทุกอย่างที่ลบๆ ลืมๆ ไปก็เก็บเอากลับมาคิดใหม่ หน่วงในใจ… ทรมานแบบที่หาคำบรรยายให้กับความรู้สึกตัวเองไม่ได้เหมือนหาเรื่องใส่ตัวให้มันมาสะกิดรอยแผลเก่าใกล้หายให้ตกสะเก็ดใหม่อีกครั้ง เพลงในร้านเปลี่ยนจังหวะจากสนุกเป็นเศร้าเล่นเอาน้ำตาผมไหลเมื่อตั้งใจฟัง ปาดน้ำตาทิ้งรู้สึกว่าตัวเองต้องหาที่พึ่งพิงสักคน ยกเหล้าในมือดื่มจนไม่เหลือสักหยดกลับเข้าสู่โหมดดราม่าร้อยเปอร์เซ็นต์ เพลงยิ่งเศร้าผมก็ยิ่งกรอกเหล้าเข้าปากนั่งปาดน้ำตาเหงาๆ อยู่คนเดียว ใช่… ผมต้องคุยกับใครสักคนก่อนจะอึดอัดมากไปกว่านี้ ไอ้หมง… เพื่อนคนเดียวที่คิดได้ในตอนนี้ก็คือมัน ผู้ร่วมชะตากรรมคราบน้ำตาของผมเมื่อคืนก่อนผมกดมือถือหาเพื่อน ‘ฮัลโหล’ มันรับสายครับแต่ทำไมวันนี้เสียงเข้มจังวะ “ไอ้หมง…” ผมเรียกมันเสียงอ้อแอ้มือก็ปาดน้ำตาที่แม่งเสือกไหลออกมาไม่หยุด หงุดหงิดกับทุกอย่าง ไม่อยากเป็นแบบนี้เลย… ‘นี่นาย! …’ ปลายสายยังเสียงเข้ม “กูไม่ไหวว่ะ! ...แม่งแย่กว่าเก่าอีก” ผมปาดน้ำตา ‘นายเป็นอะไร! ...อยู่ที่ไหนบอกฉันมา!’ “กูกำลังจะกลับบ้าน…แต่มาแวะหาอะไรดื่มนิดหน่อยกูไม่อยากกลับบ้านไปเจอไอ้คินตอนนี้กูไม่พร้อมจะปั้นหน้าใส่มัน กูกลัวมันจะรู้สึก… ฟังดูเหมือนโง่น่ะเว่ย… แต่มึงว่ากูกลับไปคบมันดีมั้ย? กูรู้สึกว่ากูอ่อนแอ…แม่ง! ...ไม่ไหวแล้วว่ะ” ‘อยู่ไหน! ...จะไปเดี๋ยวนี้’ “มึงจะมาเหรอ? ...ร้านxxxแถวบ้านกูเนี่ย…” ‘รออยู่นั่นห้ามไปไหนนะ!’ “เออ…ดุจังวะอย่างกับบอสกูแน่ะ…” ผมวางสายหันไปหยิบแก้วเหล้ามาดื่ม ผมวางสายจากเคทัตไปแล้ว… รีบเดินเข้าห้องแต่งตัวเลือกชุดง่ายๆ ที่จะออกจากบ้านได้ให้เร็วที่สุด เด็กฝึกงานผมเมาครับ และดูเหมือนเขาจะโทรผิดผมไม่รู้ว่าใครคือหมงใครคือคินและใครคือมันรู้แต่ว่าอาการของเคทัตนั้นคือคนกำลัง อกหัก… นี่สินะเหตุผลที่มาทำงานสายเมื่อวานคงไปเมาที่ไหนสักแห่งแล้วก็โทรเรียกเพื่อนแบบนี้ยอมรับว่าเป็นกังวลกับอาการอกหักของเขา ไม่คิดว่าคนที่นิ่งและมีความรับผิดชอบสูงอย่างเคทัตก็ยังจะเป็นแบบนั้น เขาเป็นนักศึกษาฝึกงานที่มีศักยภาพสูงสุดเท่าที่ผมเคยรับเข้ามา เรียกได้ว่าทำงานผู้ช่วยได้ดีกว่าพนักงานคนเก่าที่ผมไล่ออกไปเสียอีก เคทัตดูจะละเอียดรอบคอบและใจเย็น เป็นเด็กฉลาดที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี จอดรถหน้าร้านเดินเข้ามาในร้านเล็กๆ ที่เล่นดนตรีสดได้น่าฟัง สายตาก็กำลังมองหาลูกน้องของผม นั่นไง… เคทัต… ผมมองเขาที่นั่งเลื้อยๆ ไหลๆ อยู่หน้าบาร์ดูเหมือนว่าเขาจะอินกับเพลงมากกว่าทุกคน จนนักดนตรีบนเวทียังเอ่ยแซว คนที่อินร้องตามดังสุดในร้านคือลูกน้องผมเอง น่าอายจริงๆ! ผมเดินเข้าไปหาพร้อมกับยกมือขึ้นปิดปากเขาก่อนเป็นอย่างแรก “หุบปากเคทัต!” ผมสั่งเขาหันมามองผมสีหน้าดูตกใจ อะไรกัน! เห็นผมนี่ทำหน้าอย่างกับเห็นผี “บอส!” เขาพูดเมื่อปัดมือผมออก “กลับ!” ผมฉุดแขนเขาให้ลุกขึ้น “บอส…มาได้ไงครับ” “กลับบ้านเดี๋ยวนี้เคทัต!” ผมเริ่มหงุดหงิด “ไม่!” เขาสะบัดมือผมออกแถมยังมองผมเหมือนคนโดนขัดใจ “นี่นาย!” “ผมรอเพื่อน!” เขาตอบพร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม “พอแล้ว! ...นายเมาแล้วเคทัต!” “ใช่ไง! ...ผมอยากเมา…” เขามองแก้วสีอำพันด้วยแววตาที่เศร้าลง จากที่ตั้งใจจะมาพาเขากลับก็กลายเป็นว่าผมคงต้องนั่งเป็นเพื่อนเขาแทน ไล่มองสำรวจไปตามใบหน้าที่แดงอย่างเห็นได้ชัดแถมยังขัดใจกับเสื้อนักศึกษาที่เขาปลดกระดุมลงมาหลายเม็ดจนแทบจะเห็นหัวนมอยู่แล้ว ไหนจะเน็คไทย้วยๆ เบี้ยวๆ นั่นอีก อาการหนักสินะ… ใบหน้าเขาหมองเศร้าต่างจากคนเมื่อเช้าที่ผมเจอ ขอบตาแดงบวมช้ำซึ่งก็คงจะเสียน้ำตาไปบ้างไม่งั้นคนไม่ร้องตามเพลงอกหักเสียงดังขนาดนี้นี่มันไม่ใช่เคทัตที่ผมรู้จักสักนิด “นายอายุเท่าไหร่แล้วเคทัตเรื่องแค่นี้จะร้องไห้ทำไม?" ผมโพล่งออกไปเมื่อเห็นน้ำตาเขาไหลอีกครั้ง “บอสเคยอกหักมั้ยครับ…” เขาหันมามองผมทั้งน้ำตา “ผมน่ะ…ผม…” “พอ! ...เลิกร้อง!” ผมห้ามพร้อมกับบังคับให้เขาดื่มเหล้าในมือให้หมดแก้ว ไม่ชอบจะเห็นความอ่อนแอของใครทั้งนั้น “ผม…ลืมมันไม่ได้…ทำยังไงก็ไม่ลืม…” “หล่อรึไง!” ผมประชด รู้ครับว่าเคทัตเป็นเกย์และผมก็เช่นกันถ้าเขาตั้งใจมองผมสักนิดก็จะรู้ว่าเราเหมือนกันไม่ใช่จะมาเชียร์ผมกับเน็ตไอดอลคนนั้นอย่างที่เขาทำหรือเขานั้นอาจจะรู้อยู่แล้วถึงได้รักษาระยะห่างจนบางครั้งก็ทำให้ผมหงุดหงิด “ไม่ใช่…” เขาส่ายหน้า “ชีวิตผมแม่งโคตรดราม่า…” “ก็เล่ามาฉันยินดีรับฟัง…” “…” “อะไร? ...ทำไมมองฉันแบบนั้น” “บอส…เป็นคนดีจังเลยครับ” เขายิ้ม “นี่นายเห็นฉันเป็นคนเลวมาตลอดงั้นเหรอ!” “บอสดุครับ…ดุมาก…” เขาหลบตา “นี่ไม่ใช่เวลางาน…คิดซะว่าฉันเป็นพี่ของนาย” “ได้เหรอครับ?” “ก็แค่วันนี้…ที่นายเมา!” “ขอบคุณครับ…” เขายิ้ม “จะเล่าได้รึยัง…” “ไม่ครับ…มันเป็นปัญหาของผมเองใจผมเองที่ตัดไม่ได้ทั้งๆ ที่…เราได้กลับมาเป็นเพื่อนกัน แต่บอสรู้มั้ยครับว่ามันโคตรยากเลย…ผมยังคิดว่ามันเป็นเพื่อนไม่ได้” เคทัตยิ้มเศร้า “ก็ไม่ต้องเป็น! ...นายก็ห่างออกมา” “ผมอยากเจอหน้ามัน!” “นายกำลังทำฉันหงุดหงิดนะเคทัต!” “เหรอครับ…” เขายิ้ม “บอสกลับได้นะครับขอบคุณมากจริงๆ ที่รับฟังผม” “นายไล่ฉันเหรอ?” “เปล่านะครับผมแค่เกรงใจ” “งั้นนายก็ดื่มของนายไปฉันจะนั่งตรงนี้!” ผมคิดผิดครับที่พูดคำนั้นออกไป เพราะผ่านไปเกือบขั่วโมงเคทัตก็เริ่มจะประคองสติไม่ได้ เขาโวยวายร้องเพลงเสียงดังแถมร้องไห้และพยายามจะเดินไปหานักดนตรีที่หน้าเวทีอีกด้วย “หุบปากเคทัต!” ผมรีบเอามือปิดปากเขาพร้อมกับมองคนในร้านที่หันมามองยิ้มๆ “กลับเดี๋ยวนี้!” ผมลากและดึงเขาออกมา “ปะ…ปล่อยยย!” เขาสลัดตัวออกจากมือผมแต่เซล้มลงไปนั่งกับพื้น “นี่นาย!” ผมหงุดหงิดเดินเข้าไปดึงแขนเขาให้ลุกขึ้น “บ้านนายอยู่ไหนฉันไปส่ง” “ผมรอเพื่อนน…” เขาปัดมือผมออก “ป่านนี้แล้วเพื่อนนายไม่มาหรอก” ผมตอบพร้อมกับจ้องหน้าที่ออกจะแดงระเรื่อจากฤทธิ์สุรา “บะ…บอสรู้ได้งายไอ้หมงมันต้องมาาา…” เข้ามองผมตาปรือ “กลับ!!!” “ไม่กลับ! ...แม่ง!!!” เขาโวยวาย “แม่ง? ...กับใคร!” ผมหันไปจ้องเขาอย่างเอาเรื่องเคทัตยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะยกมือไหว้ผม ผมทั้งลากทั้งดึงทั้งดันจนเราเดินมาหน้าร้านได้สำเร็จ “ปล่อยย! ...กลับเอง…” เขาเริ่มดื้อ “นายเมาขับกลับไม่ไหวหรอก!” ” โผมม…จาโทรหาน้องงง…” พูดจบเคทัตก็ล้วงมือถือออกมาเขาหรี่ตามองหน้าจอแต่ก็เอาแต่สไลท์ไปสไลท์มาเหมือนหาชื่อน้องตัวเองไม่เจอ นายอย่าเมาอีกนะเคทัต! ผมเริ่มหงุดหงิดไม่รู้ว่าวันนี้จะหาชื่อน้องตัวเองเจอมั้ย ยิ่งมองผมก็ยิ่งอึดอัดรำคาญใจ “เอามานี่!” ผมแย่งมือถือมา “น้องนายชื่ออะไร!” “คินครับ…คิน” เคทัตยิ้มอายๆ ผมจับแขนเขาไว้กลัวว่าจะล้มลงไปอีกรอบมืออีกข้างก็สไลท์หาชื่อคินตามที่เขาบอก ต่อสายไม่นานก็รับ ‘พี่เค’ “ผมบอยนะเป็นเจ้านายพี่ชายคุณ” ‘ครับๆ …เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าครับพี่เคเป็นอะไร’ “เมา! ...” ผมตอบและตวัดสายตาลงมามองคนต้นเรื่อง ‘กูไม่อยากกลับบ้านไปเจอไอ้คินตอนนี้กูไม่พร้อมจะปั้นหน้าใส่มัน กูกลัวมันจะรู้สึก…’ คำพูดของเคทัตวนกลับเข้ามาในความคิดผม ‘อยู่ไหนครับผมจะรีบไป’ “ไม่เป็นไรผมแค่บอกคุณไว้กลัวจะเป็นห่วงผมจะดูเขาให้เอง” ‘ไม่รบกวนครับผมไปรับพี่เคเองบอกมาได้เลยครับ’ “ไม่รบกวน…ถ้าจะรบกวนก็ช่วยส่งโลเคชั่นบ้านคุณมาทีผมจะให้คนขับรถเอารถไปส่งให้” ผมวางสายเก็บมือถือเคทัตลงกระเป๋าตัวเองและออกแรงลากเขามาที่รถผม เปิดประตูจับเคทัตที่เริ่มงัวเงียเข้าไปนั่งในรถคาดเข็มขัดและเดินกลับไปนั่งประจำที่คนขับก่อนจะขับกลับบ้านตัวเอง “ปายหนายยย…กลับบ้านน” เขาเริ่มงอแง “อยู่นิ่งๆ ฉันไปส่ง!” “อ่อ…ขอบคุณคราบบ” เคทัตยกมือไหว้พร้อมกับยิ้มให้ผม “ทำบ้าอะไรของมึงวะไอ้บอย” ผมถามตัวเองและหันไปมองเคทัต เขาหลับไปแล้ว… ถอนหายใจมองคนที่กำลังอ่อนไหวเรื่องหัวใจอย่างสับสน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม