๑๑
สับสน
กว่าเด่นจะพาเจ้านายมาถึงบ้านสวนนนท์ก็ปาเข้าไปเกือบสองทุ่ม เมื่อมาถึงพวกเขาทั้งสองก็ได้พบว่าภายในบ้านนั้นสว่างไสวคล้ายมีงานเลี้ยงสังสรรค์กัน มีรถยนต์จอดอยู่ภายในบริเวณบ้านสองคัน และมีคนที่นั่งอยู่บนระเบียงกว้างประมาณสี่คน จากที่เห็นอยู่ตรงนี้บอกชัดว่าพวกเขากำลังพูดคุยกันอย่างออกรส...
เด่นมองหน้าเจ้านายผ่านกระจกมองหลังพร้อมเอ่ยถาม
“จะเข้าไปไหมครับ”
เรวัตนั่งเงียบไปหลายอึดใจขณะมองตรงไป เวลานี้คนบนระเบียงกำลังมองมายังรถยนต์ของเขาเช่นกัน ชายหนุ่มจึงเปิดประตูรถแล้วก้าวออกไปโดยไม่พูดอะไร
โรสรินทร์มองร่างสูงใหญ่ที่เดินอาดๆ เข้ามาด้วยแววตาราบเรียบแต่ระแวดระวัง จากที่เคยทำตัวสบายๆ ก็เกิดอาการเกร็งขึ้นมาอีก ส่วนชายหนุ่มมองหญิงสาวด้วยสายตาเรียบขรึมคล้ายกับแววตาคืนก่อนที่เขาจะจากไป ก่อนหันไปยิ้มทักทายผู้ที่มาเยือนด้วยท่าทางสุภาพจนน่าแปลกใจ
“สวัสดีครับคุณแม่ คุณป้า พี่ชัช” เรวัตเอ่ยทักทายพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ยังว่าง
คุณเมรินมองหนุ่มรุ่นลูกด้วยสีหน้าเจือยิ้ม ท่านเคยชื่นชมอีกฝ่าย แต่ก็มาสะดุดลงตรงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ทว่าคนตรงหน้าแม้จะมีข้อเสียไปบ้างแต่ก็ยังเป็นชายหนุ่มที่ขยันขันแข็งทำงานเหมือนเดิม จึงไม่ทำให้เขาดูเลวร้ายจนเกินไปในสายตาของคุณเมริน
“สบายดีหรือจ๊ะ ป้าได้ข่าวมาว่าช่วงนี้เรทำงานหนัก”
คำถามของคุณเมรินทำให้ชายหนุ่มเหลือบตามองไปยังมารดา วูบหนึ่งเขาแลเห็นความห่วงใยในแววตาของท่าน แต่ก็เป็นเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่สายตาของคุณผกามาศจะกลับมาเป็นปกติ ขณะเดียวกันโรสรินทร์เองก็เผลอมองชายหนุ่มด้วยสายตาเป็นห่วงด้วยความลืมตัว
“ก็นิดหน่อยครับ คุณป้ากับพี่ชัชสบายดีใช่ไหมครับ ผมได้ยินว่าพี่ชัชเพิ่งปิดดีลใหญ่สำเร็จ ยินดีด้วยนะครับ” เรวัตสบตากับชายหนุ่มรุ่นพี่ด้วยความยินดีจากใจจริง อีกฝ่ายพยักหน้ายิ้มตอบ
“ขอบคุณ อาจเป็นเพราะโชคช่วยด้วย เลยทำให้ไม่ต้องลากยาวเหมือนงานก่อนๆ” เขาตอบด้วยท่าทีเป็นกันเองมากขึ้น
“พี่ชัชถ่อมตัวเกินไปแล้ว ผมว่าเป็นเพราะความสามารถของพี่ชัชมากกว่า ไม่ใช่เพราะโชคอะไรหรอกครับ” เขากล่าวตามความรู้สึก ทำให้ฝ่ายนั้นยิ้มตอบ ก่อนจะหยุดพูดเรื่องงานเมื่อพี่เลี้ยงเด็กอุ้มตาหนูออกมาส่งให้กับโรสรินทร์
ชัชชัยลอบสังเกตท่าทีที่หนุ่มรุ่นน้องมีต่อสองแม่ลูก เขาได้เห็นสายตาอาทรที่มองไปยังคนทั้งคู่ มุมปากได้รูปของชายหนุ่มจึงยกยิ้ม เขาคิดว่ามองไม่ผิดที่เห็นว่าเรวัตมีเยื่อใยต่อหญิงสาวและลูกชายไม่น้อยนักหรอก ทว่าเพราะทิฐิทำให้คนตรงหน้าเขาคนนี้ยังทะนงตนและอวดดีทำสิ่งตรงกันข้ามกับความรู้สึก
หรือบางทีเรวัตก็อาจจะยังไม่รู้ตัว ว่าแท้จริงนั้นคิดเช่นไรกับคนเป็นแม่ เวลาเดียวกันก็โหยหาคนเป็นลูกอย่างชัดเจน
ชัชชัยมั่นใจในสายตาของตนเอง เรวัตรักลูกไม่น้อย เพียงแต่ความแข็งกระด้างและความอยากเอาชนะของชายหนุ่ม ทำให้เขาแสดงออกอีกแบบ
“โรสเอาหลานมาให้แม่อุ้มก่อน” คุณผกามาศเอ่ยกับโรสรินทร์ หญิงสาวจึงส่งลูกชายให้กับท่าน โดยไม่ลืมเหลือบตามองพ่อของลูกโดยไม่ตั้งใจแวบหนึ่งก่อนหันไปดูแลเรื่องเครื่องดื่มต่อ
เรวัตมองตามหญิงสาวเมื่อเจ้าของร่างบอบบางลงตามวันเวลากลับไปรินเครื่องดื่ม ก่อนนำมาเสิร์ฟให้กับเขาพร้อมจานและช้อนส้อมหนึ่งชุด ชายหนุ่มมองสบตาหล่อนนิ่งนานจนหญิงสาวต้องเสมองไปทางอื่นก่อนกลับไปนั่งข้างๆ คุณผกามาศ
“วันนี้ป้ามีนัดกับคุณมาศ ตั้งใจเชิญไปงานเลี้ยงเล็กๆ ที่บ้าน เป็นวันคล้ายวันเกิดของตาชัช แล้วก็ถือโอกาสเลี้ยงฉลองเรื่องงานไปด้วย ถ้าเรว่าง ป้าอยากให้ไปด้วยนะ” คุณเมรินบอกกล่าวกับเรวัต ชายหนุ่มมองไปยังโรสรินทร์อย่างครุ่นคิด ก่อนหันกลับมาสบตาชัชชัย
“ตกลงครับ ผมจะไป”
คุณเมรินยิ้มให้กับชายหนุ่มจากนั้นเปลี่ยนเรื่องคุย เกือบสามทุ่มสองแม่ลูกและคุณผกามาศจึงลากลับ เรวัตยืนมองจนโรสรินทร์เดินกลับมาหลังจากเดินไปส่งคนทั้งสาม
หญิงสาวสบตาคมกริบด้วยความขบคิด วันนี้เขาดูเงียบขรึมผิดปกติ คล้ายกับคนที่กำลังคิดหนัก
“คุณจะกลับเลยไหมคะ ฉันจะได้ให้คนรอปิดประตู”
ชายหนุ่มสบตาหล่อนแวบเดียวแล้วมองเข้าไปภายในบ้าน พี่เลี้ยงเด็กอุ้มลูกของเขากลับเข้าไปพักใหญ่แล้ว
“ขอเข้าไปดูลูกก่อน”
หากเป็นเวลาปกติหญิงสาวคงไม่อยากให้เขากวนลูกนัก เพราะเป็นเวลานอนของแก แต่ท่าทีของชายหนุ่มในวันนี้ทำให้หญิงสาวยินยอมให้เขาพบลูกโดยง่ายดาย
ร่างสูงเดินเข้าไปในห้องของโรสรินทร์เพื่อใช้เวลาอยู่กับลูกเป็นครั้งที่สอง เขานั่งมองลูกชายอยู่เงียบๆ หญิงสาวจึงปล่อยให้เขาอยู่ตามลำพังแล้วออกจากห้องไปพร้อมกับแนน
“แนนไปพักผ่อนเถอะ”
“ค่ะ” แนนรับคำแล้วเดินกลับห้อง ภายในห้องโถงจึงเหลือเพียงโรสรินทร์ หญิงสาวก้าวไปนั่งบนโซฟา ทว่าจิตใจล่องลอยไปถึงคนในห้องนอน พลันหัวคิ้วเรียวสวยก็ขมวดมุ่น เรวัตดูหมกมุ่นกับบางอย่าง ใจลอยในบางครั้ง และมองหล่อนด้วยสายตาแปลกๆ หลายครั้งหลายครา เกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเปล่า
ก็ว่าจะไม่เป็นห่วง แต่ก็อดไม่ได้จริงๆ
เวลาเดียวกัน เรวัตนั่งมองลูกชายแล้วยิ้มนิดๆ การพบเจออภิญญาอีกครั้งทำให้ชายหนุ่มค่อนข้างสับสน ใจหนึ่งเขาอยากเข้าไปพบอยากพูดคุย แต่อีกใจกลับรั้งเอาไว้ให้ทำเพียงมองดูอยู่ห่างๆ
ผู้หญิงที่เขาเคยรักยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ที่เพิ่มขึ้นคือความเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็ยังคงงดงามชวนมองเสมอ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ใบหน้าของโรสรินทร์ก็ผุดขึ้นมาในความคำนึง อดีตเด็กสาวที่เขาเคยให้ความเอ็นดู ไม่เคยคิดเป็นอื่น จู่ๆ ก็กลายมาเป็นเมียและแม่ของลูก ก็สมควรอยู่ที่เขาจะเกลียดสถานการณ์ที่เป็นอยู่ แต่พอนานวันไปความรู้สึกเหล่านั้นค่อยๆ เลือนราง ภาพจำครั้งเก่าก่อนค่อยๆ ย้อนคืน ความทรงจำที่เลือนหายค่อยๆ ฟื้นคืนมาทีละเรื่อง ยิ่งคิดออก เขายิ่งสับสนจนใจ บางเรื่องราวที่เคยทำร่วมกับโรสรินทร์ทำเขานิ่งงัน ทำตัวไม่ถูก
เสียงประตูที่เปิดเข้ามาเบาๆ ทำให้คนที่กำลังขบคิดถึงอดีตเงยหน้าขึ้นมองที่มาของเสียง
ร่างบางของหญิงสาวก้าวเข้ามาอีกครั้ง ดวงตาคู่งามที่มองเขาดูสงบ ไม่หวาดหวั่นเหมือนคืนก่อน
“ดึกมากแล้ว” หญิงสาวเอ่ยออกมาเป็นเชิงบอกว่าเขาควรกลับได้แล้ว แต่ในขณะเดียวกันก็ตั้งรับหากเขาจะโวยวายหรือหาเรื่องหล่อนเหมือนคืนก่อนอีก ทว่าเรวัตกลับทำให้หญิงสาวแปลกใจอีกครั้งด้วยการลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทันที