ทานตะวันตื่นแต่เช้าจัดแจงทำอาหารเหมือนทุกวัน วันนี้เธอทำหมูกระเทียม ผัดกระเพราปลาหมึกและผัดคะน้าหมูกรอบ เธอหุงข้าวเยอะเป็นพิเศษเผื่อแขกที่ไม่ได้รับเชิญ เผื่อเขาเกิดเฮี้ยนมาทานด้วย
และมันก็จริงอย่างที่เธอคิด วันนี้คุณป๋ามาแต่เช้าเขากอดยืนพิงประตูห้องครัวจ้องมองเธอด้วยใบหน้าเรียบเฉย แม้จะรู้สึกอึดอัดพยายามเสแสร้งแกล้งทำเป็นไม่สนใจ เผื่อเขาจะเดินออกไป แต่ทว่าคนตัวโตกลับไม่สนใจที่จะเดินกลับไปที่ห้องรับแขกเลย เขายังเอาแต่จ้องมองจนทานตะวันอึดอัดและเอ่ยปากออกมา
"คุณป๋าไปรออยู่ข้างนอกเถอะค่ะ เดี๋ยวทานตะวันทำเสร็จจะยกไปให้ทาน"
"มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน"
"ทานตะวันไม่ได้สั่งค่ะ แต่คุณป๋ามาจ้องแบบนี้ทานตะวันอึดอัด"
"หึ! อยู่กับฉันทำเป็นอึดอัด แต่กับผู้ชายเมื่อคืนระริกระรี้เชียว"
"คุณป๋าไปแอบดูทานตะวันกับพี่คาวีเหรอ?"
"เธอไม่ได้สำคัญขนาดนั้นหรอก"
"ค่ะ ทานตะวันไม่ได้สำคัญอะไรทานตะวันรู้ตัวดี" คริสแสยะยิ้มแล้วเดินออกไป ทานตะวันมองตามแล้วถอนหายใจออกมา
บนโต๊ะอาหารวันนี้ก็อึดอัด ทานตะวันนั่งนิ่งตักอาหารเข้าปาก คุณป๋าเอาแต่จ้องทำให้เธอวางตัวไม่ถูก
"พรุ่งนี้เก็บของกลับนะไอ้อำพล"
"ครับนาย" อำพลพยักหน้าอย่างจำใจ
-----------------------------------------------------------
ทานตะวัน TALK
หลังจากทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ฉันเดินก็เดินเล่นตามชายหาด พรุ่งนี้ก็จะได้ไปจากที่นี่แล้ว รู้สึกใจหายเหมือนกันแฮะแต่ก็คงขัดคุณลุงไม่ได้
ฉันรู้ดีว่าคุณป๋าเกลียดฉัน ไม่ชอบฉัน แต่ด้วยเหตุผลอะไรฉันก็ไม่อาจรู้ได้
ฉันทอดสายตามองทะเลที่กว้างสุดลูกหูลูกตาแล้วถอนหายใจออกมา ฉันไม่รู้ว่าจะได้กลับมาตอนไหน แต่จะเก็บความทรงจำความรู้สึกดีๆเอาไว้
"ทานตะวัน" ฉันหันไปตามเสียงเรียก พี่คาวีวิ่งตรงมาหาฉัน
"มีอะไรหรือเปล่าคะพี่"
"ได้ข่าวว่าจะไปอยู่กรุงเทพ"
"ใช่ค่ะ" ฉันพยักหน้าเบาๆ "ทานตะวันต้องไปเรียนที่นั่น คุณลุงเองก็ต้องไปช่วยงานคุณป๋า ทานตะวันจะเรียนที่นี่คุณลุงก็ไม่ยอม"
"อืม ดีแล้ว ถ้าพี่ไปเรียนพี่จะไปเยี่ยมทานตะวันนะ"
"แล้วตอนไปเรียนพี่พักอยู่ที่ไหนคะ?" ฉันเอียงคอเล็กน้อยถามพี่คาวี เขายิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วขยี้ผมฉันเบาๆ หัวใจไหววูบความรู้สึกมันบอกไม่ถูกจริงๆ ฉันยิ้มตอบเขาแล้วเดินไปนั่งที่โขดหิน
เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังอยู่ไม่ไกลมากนัก ฉันใช้มือเรียวเล็กทัดผมของตัวเองเบาๆ สายลมเย็นพัดกลิ่นเค็มของทะเล ฉันสูดดมก็รู้สึกดี ฉันอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เกิดที่นี่แต่ฉันก็โตที่นี่และผูกพันกับมัน
ถ้าเลือกได้ฉันจะไม่ไปอยู่ที่อื่น ฉันจะอยู่ที่นี่อยู่เป็นคนที่เกาะนี้อยู่กับคุณลุงและชาวบ้านคนอื่นๆที่ฉันผูกพัน
"พี่พักอยู่หอที่มหาวิทยาลัย"
"มีหอให้พักด้วยเหรอคะ?"
"มีสิ พักที่หอใกล้ๆมหาวิทยาลัยค่าที่พักก็ไม่แพง สะดวกสบายเวลาที่เราเรียนเหนื่อยๆเราก็กลับมาพักที่หอพัก เราไม่ต้องนั่งรถไปพักที่อื่นให้เสียเวลา"
"ดีจังค่ะ"
"ถ้าทานตะวันไปอยู่กรุงเทพฯแล้วได้ไปเรียนทานตะวันก็ขอคุณลุงไปพักอยู่ที่หอก็ได้ ยิ่งอยู่ใกล้มหาลัยยิ่งสะดวกสบาย"
"ค่ะ"
"เรียนมหาลัยไหนก็บอกพี่ด้วยนะพี่จะได้ไปเล่นด้วยแต่ถ้าเกิดว่าเรียนมหาลัยเดียวกันพี่ก็จะช่วยติวช่วยดูแลทานตะวัน"
"ค่ะ" พี่คาวีเดินมานั่งใกล้ๆฉันแล้วทอดสายตามองทิวทัศน์ด้วยกัน "พี่คาวีอย่าลืมไปหาทานตะวันนะคะ"
"พี่สัญญา" พี่คาวีจับมือฉันแล้วบีบเบาๆ เราพูดคุยนั่งเล่นกัน ในขณะที่คุณป๋ากับลูกน้องของคุณป๋าเดินไปเดินมาอยู่ไม่ไกล เกาะนี้เป็นของเขา เขาจะผุดจะโผล่อยู่ตรงไหนก็ย่อมได้
วันต่อมาฉันเก็บข้าวของของตัวเองใส่กระเป๋า ฉันไม่ได้มีอะไรเยอะเก็บของใส่กระเป๋าใบเดียวก็เพียงพอ
"เสร็จหรือยังทานตะวัน" คุณลุงตะโกนถามฉันอยู่ข้างนอก
"เสร็จแล้วค่ะ" ฉันรูดซิปกระเป๋าเดินทางแล้วลากออกมา ฉันอยู่ในชุดกระโปรงคลุมเข่า ใบหน้าสวยหวานทาแค่แป้งเด็กก็เพียงพอ คุณลุงรีบตรงเข้ามาเพื่อลากกระเป๋าให้
"มาเดี๋ยวลุงลากให้"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวทานตะวันลากเอง"
"เอามาเถอะน่า!" ลุงอำพลรีบมาลากกระเป๋าให้ ฉันเดินตามคุณลุงไปที่เครื่องบินส่วนตัวของคุณป๋าที่จอดอยู่ เขารวยมากมีเฮลิคอปเตอร์มีเครื่องบินส่วนตัวมีเกาะเป็นของตัวเองอีกตั้งหลายเกาะ ไม่รวยจริงไม่มีแบบนี้นะคะ
"รีบๆหน่อยชักช้าอยู่ได้" คุณป๋าพูดเสียงขุ่น
"ครับ" ลุงอำพลพยักหน้า ฉันขึ้นไปนั่งด้วยสีหน้าราบเรียบ ลุงอำพลจัดแจงเอากระเป๋าไปเก็บให้เรียบร้อย
พรึ่บ! คุณป๋ามานั่งข้างๆฉัน ฉันมองเขาอย่างตกใจขยับตัวหนีอัตโนมัติ แต่มันก็ไปไหนไม่ได้เพราะติดกับหน้าต่างเครื่องบินแล้ว คุณป๋าเหยียดยิ้มร้ายใช้ท่อนแขนโอบบ่าของฉัน
"คะ...คุณป๋า"
"ตกใจเหรอ หึ!"
"ถ้าคุณป๋าจะนั่งตรงนี้ทานตะวันไปนั่งที่อื่นก็ได้"
"ถ้าออกไปนั่งที่อื่นได้ก็ลองดูสิ" คุณป๋าไขว่ห้างสบายอารมณ์ ฉันหันไปมองคุณลุงอำพลที่มองมาที่ฉันกับคุณป๋าอย่างหนักใจเช่นกัน
"นายครับ ผมว่าให้ทานตะวันเธอมานั่งกับผมดีกว่านายจะได้นั่งสบายๆ"
"มึงหุบปากไปไอ้อำพล อย่าให้กูต้องจับมึงโยนลงทะเล!" น้ำเสียงห้วนกระด้างเอ่ย ฉันเม้มปากตัวเองแน่นแล้วส่ายหน้าให้คุณลุงเพื่อปรามท่านไม่ให้พูดอะไรต่อ ผู้ชายที่นั่งข้างฉันเขาโคตรจะเอาแต่ใจเลย ฉันไม่อยากเสี่ยงให้คุณลุงต้องเจออะไรแย่ๆ
ฉันนั่งเกร็งไปตลอด คุณป๋าจิบไวน์สบายใจมองฉันด้วยสีหน้าราบเรียบ ฉันรู้สึกกลัวมากเวลาที่เขาทำหน้าแบบนี้ ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังมีแผนอะไรบางอย่าง
"คุณป๋าช่วยเอาแขนลงจากบ่าทานตะวันได้ไหมคะทานตะวันรู้สึกอึดอัด"
"ฉันจำเป็นต้องทำตามคำพูดของเธอไหม" น้ำเสียงบ่งบอกว่าไม่พอใจฉันหันไปมองคุณลุงอำพลเล็กน้อย คุณลุงเองก็มองมาที่ฉันอย่างเป็นห่วงเช่นกัน
"งั้นทานตะวันจะไปนั่งที่อื่น!" ฉันพยายามแทรกตัวออกมาเป็นจังหวะเดียวกันกับเครื่องบินตกหลุมอากาศ ท่อนแขนแกร่งคว้าเอวคอดกิ่วของฉันเอาไว้แล้วกดให้นั่งตักเขา
"อยากนั่งบนตักฉันก็ไม่บอก! เธอนี่เชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆ"