ตอนที่1 บทนำ

1442 คำ
เกริ่น.. “ถ้าเธอเอากับใครสักคนในนี้ เธอก็จะใส่ใจคน คนนั้นเป็นพิเศษ แบบนั้นสมาชิกคนอื่นๆก็ไม่ได้รับการดูแลที่เท่าเทียมนะสิ” “.....” “แต่..ถ้าเธอจะเอากับทุกคน อืม อันนี้ก็น่าสนใจนะ หึ” 2 เดือนก่อน.. เพลิง หนุ่มคณะวิศวะโยธา ปี3 สูงโปร่ง ใบหน้าคมเข้ม จมูกโด่ง นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มมีเสน่ห์ บุคลิกนิ่งสุขุม โดดเด่นทั้งการเรียน กีฬา และผู้หญิง ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน หนึ่งในทายาทของตระกูลนักธุรกิจใหญ่ที่มีอิทธิพล มีเครือข่ายเป็นใยแมงมุมแผ่ขยายเป็นที่รู้จักไปไกลทั่วทั้งภาคพื้นเอเชียร์ไปจนถึงเขตตะวันตก พระพาย สาวน้อยคณะโรงแรมและการท่องเที่ยว ปี1 ตัวเล็กผิวขาว น่ารักแก้มป่อง ตาโตพร้อมขนตางอนยาวเป็นธรรมชาติ รอยยิ้มสดใสราวกับร่ายมนต์สะกดให้คนที่พบเห็นหลงรัก @มหาลัยเอกชน แห่งหนึ่ง พื้นที่กว้างขวางถนนสองเลนสีดำทอดยาว เงาต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นปกคลุมตลอดทาง กลุ่มนักศึกษาชายหญิงนั่งพูดคุยกันอย่างสนิทสนม เพราะเป็นวันปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ทำให้วันนี้มีทั้งนักศึกษาและบุคคลภายในเดินไปมามากกว่าปกติ [คณะบริหารธุรกิจ การโรงแรมและการท่องเที่ยว] “ไม่คิดเลยว่าจะได้เข้ามาเรียนที่นี่ได้จริงๆ” ฉันยืนมองป้ายคณะด้วยความภาคภูมิใจ เพราะเป็นคณะที่ฉันอยากเรียนมากที่สุด “ดีใจที่สอบเข้ามาได้ หรือดีใจที่ได้เรียนมหาลัยเดียวกันกับพี่ตั้มจ้ะ?” ฉันรีบหันกลับไปมองเจ้าของเสียง ก่อนจะส่งยิ้มให้ทันทีที่เห็นว่าเธอคนนั้นเป็นใคร ‘จุ๊บแจง’ เธอเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่เมืองนี้ ..ย้อนกลับไปเมื่อ3ปีก่อน ด้วยปัญหาบางอย่างทำให้พ่อต้องย้ายที่ทำงานกระทันหัน ฉันกับแม่จึงต้องย้ายตามมาด้วย ตอนนั้นฉันยังเรียนอยู่ ม.ต้น เพราะย้ายมากลางเทอมทำให้ไม่ค่อยมีเพื่อนแถมยังถูกแกล้งบ่อยๆ จนรู้สึกว่าตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุดในชีวิต กระทั่งได้เจอจุ๊บแจงกับพี่ตั้ม พี่ตั้มอายุมากกว่าฉัน 1 ปี เราสองรู้จักกันในฐานะพี่ชายข้างบ้าน เขาค่อยช่วยเหลือและดูแลฉันทุกอย่าง ความสนิทสนิททำให้ทุกคนคิดว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน พี่ตั้มเป็นคนน่ารัก สุภาพ อ่อนโยน เอาใจใส่ หน้าตาดีหล่อเหล่าไม่แพ้พระเอกในซีรี่ย์อย่างไรอย่างนั้น แต่ที่สำคัญคือเขาไม่เคยฉวยโอกาส ไม่รู้ว่าเพราะฉันสวยไม่พอหรือเพราะความเป็นสุภาพบุรุษจริงๆ “รู้ดีจังเลยนะ?” “แน่ล่ะสิ ก็ฉันเป็นเพื่อนเธอมาตั้งกี่ปี ทำไมเรื่องแค่นี้ฉันจะไม่รู้ ว่าเธอคิดอะไรอยู่” ใบหน้าเล็กยิ้มกว้างจนดวงตากลมโตเล็กหยี ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุยแก้เขิน “มานานหรือยัง?” “พึ่งมา แล้วพี่ตั้มยังไม่มาเหรอ?” จุ๊บแจงชะเง้อมอง ซ้ายขวา ก่อนสายตาจะหันกลับมามองเพื่อนตัวเล็กที่กำลังเขินจนหน้าแดง “เลิกแกล้งได้แล้ว บอกแล้วไงว่าฉันกับพี่ตั้มไม่ได้เป็นแฟนกัน” “เหรออออ” “มีใครกำลังนินทาพี่อยู่หรือเปล่าครับ?” เสียงสุภาพดังมาจากทางเดินมุมตึก “เห็นไหม? พูดไม่ทันขาดคำ” จุ๊บแจงพูดพลางสะกิดแขนเพื่อนให้หันไปมอง หนุ่มนักศึกษารูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าละมุนที่กำลังเดินเข้ามาหาพวกเธอพร้อมรอยยิ้ม “ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้เธอมีเพื่อนสวยล่ะ ^^” แหวะ! สองสาวพูดคุยหยอกล้อกันจนกระทั่งชายตัวสูงเดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้า “ว่ายังไงครับ ใครกำลังนินทาพี่?” “ไม่ได้นินทานะคะ พวกเราแค่พูดถึงเฉยๆ” ชายตัวสูงสบตากับสาวน้อย รอยยิ้มบางๆทำให้สองแก้มขาวเปลี่ยนเป็นสีแดง แม้ไม่มีคำพูดออกจากปากแต่แววตาคู่นั้นของเขากลับสื่อออกมาได้อย่างชัดเจน “อะแฮม! ยังมีอีกคนยืนอยู่ตรงนี้นะคะ” เสียงของจุ๊บแจงทำให้ทั้งสองคนหลุดออกจากภวังค์ “ไปเถอะ เดี๋ยวพี่พาเข้าไปดูข้างใน” “ได้ค่ะ” พวกเราเดินเข้ามาสำรวจในตึก ด้วยที่เป็นอาคารขนาดใหญ่และหลายชั้น ภายในจึงมีห้องเป็นจำนวนมากด้านบนของประตูแต่ละห้องจะมีตัวเลขและตัวอักษรแทนชื่อห้อง ซึ่งชื่อเหล่านี้จะไปปรากฎอยู่ในตารางเรียนของฉันในอนาคตด้วย “โห~.ตึกใหญ่มาก แถมยังมีตั้งหลายห้อง แบบนี้ พระพายกับจุ๊บแจงจะไม่หลงทางเหรอคะ?” “กลัวทำไมครับ อย่าลืมสิว่าพี่ก็เรียนที่นี่!” สายตาที่เขามองหญิงสาวเต็มปี่ยมไปด้วยความเอ็นดู “มึงมองอะไรวะ มีอะไรหรือเปล่า?” “เปล่า!” นักศึกษาหนุ่มร่างสูงละสายตาจากคนทั้งสาม ก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้องตามเสียงเรียกของเพื่อน ปล่อยให้กลุ่มคนบนทางเดินพูดคุยหัวเราะกันอย่างมีความสุขต่อไป แสงแดดแรงยามบ่าย ใต้เงาต้นไม้ใหญ่ริมสระน้ำ ชายหญิงกำลังพูดคุยหัวเราะ ของกินมากมายวางอยู่บนโต๊ะราวกับเป็นสถานที่พักผ่อน “งั้นก็แปลว่า อีกหน่อยพระพายกับพี่ตั้มก็ต้องย้ายเข้าไปอยู่คอนโดเดียวกันนะสิ?” “บ้า! จะทำแบบนั้นได้ยังไง?” “ทำไมล่ะ? ก็พี่ตั้มกับพระพายเป็นแฟนกัน ย้ายไปอยู่ด้วยกันก็ไม่แปลกสักหน่อย?” คนตัวเล็กสะกิดแขนเพื่อน เพื่อให้เธอหยุดพูดแต่เหมือนว่ายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งเป็นการยุให้เธอพูดไม่หยุด “ก็บอกแล้วไงว่าฉันกับพี่ตั้มไม่ได้เป็นแฟนกัน แล้วก็เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว อย่าลืมสิว่าพวกเรามาเรียนหนังสือไม่ได้มาสร้างครอบครัว” แม้ปากจะบอกว่าไม่ ทว่าอาการเขินอายของเธอกลับแสดงออกมาอย่างชัดเจน “ปากแข็งไปเถอะ คนเป็นแฟนกันจะช้าหรือเร็วเรื่องแบบนั้นก็ต้องเกิดขึ้น มัวชักช้าระวังสาวๆจะคาบพี่ตั้มไปกิน” “ไม่มีทาง! พี่ตั้มน่ารัก แถมยังเป็นสุภาพบุรุษ” สาวน้อยปฏิเสธเสียงแข็งอย่างลืมตัว ทำให้ชายหนุ่มหลุดยิ้มอย่างพอใจ “พูดแบบนี้ พี่ก็เขินสิครับ” “จ้า~ หวานกันจัง ระวังเถอะมัวแต่เก็บความรู้สึกไว้ในใจ สักวันจะถูกคนอื่นแย่ง ทั้งคู่เลย” แป๊ะ! โอ๊ย!! “ปากเสีย เดี๋ยวเถอะ” “ไม่หรอกครับ เพราะพี่รอบางคนอยู่” น้ำเสียงนุ่ม สายตาอบอุ่นมองสาวน้อยข้างๆอย่างเป็นนัย ทุกถ้อยคำ ทุกคำพูด และทุกการกระทำของเขาและเธอ ตอนนี้กำลังมีสายตาของใครบางคนเฝ้ามองอยู่ตลอด “หึ ยิ่งดูยิ่งน่าสนใจ” พึ่บ! ฝ่ามือหนักจับบนไหล่หนา ใบหน้าคมโน้มเข้ามาแนบเจ้าของไหล่มองไปตามสายตาของเพื่อน ขณะที่อีกฝ่ายกลับค่อยๆผละออกเหลือบมองด้วยหางตา “อืม~ ที่ว่าน่าสนใจ หมายถึงอะไรเหรอ? คน หรือว่าบรรยากาศ?” “หึ เสือก! แล้วมึงคิดว่าคนอย่างกูจะสนใจอะไร ?” “ผู้หญิงตัวเล็กๆที่กำลังยิ้ม กูว่าน่ารักดีนะ เสียดายที่ไม่ใช่สเปกมึง แล้วก็มีแฟนแล้ว” “ใครบอกว่าไม่ใช่สเปก?” “ห๊ะ!” ขุนเขาทำตาโต น้ำเสียงตกใจจนอีกฝ่ายหลุดยิ้ม “ทำไม? สเปกกูเปลี่ยนไม่ได้เลยเหรอ?” “มึงเมาค้างหรือเปล่า จำได้ว่ามึงชอบผู้หญิงตัวสูง นมใหญ่ไม่ใช่เหรอวะ?” สายตาเจ้าเล่ห์ ยักคิ้ว จ้องหน้าเพื่อนที่กำลังตีมึน “กูว่าไอ้หมอนั้นมันหน้าคุ้นๆนะ เหมือนจะเป็นปี2 เอ๊ย! น้องรหัสไอ้ซันไม่ใช่เหรอ!?” ดวงตาเบิกกว้างทันทีที่คิดบางอย่างขึ้นมาได้ “แล้วยังไง ก็แค่น้องรหัสไอ้ซัน ถ้ากูอยากได้ จะเป็นผู้หญิงของใครกูก็ไม่สน!” “แย่งแฟนคนอื่นมันบาปนะ” “บาปเป็นตัวยังไงวะ? ไว้มันมายืนอยู่หน้ากูเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน” “จุ๊ ๆ ไอ้เพลิง! มึงรู้ตัวไหมว่ามึง แม่ง! โคตรเลวเลย” ขุนเขาหรี่ตามองเพื่อนรักเหมือนกำลังจับผิด “หึ แล้วกูเคยบอกเหรอว่ากูเป็นคนดี?” มุมปากหนายกยิ้ม สองหนุ่มมองตากันก่อนทั้งคู่จะฉีกยิ้มกว้างอย่างเป็นนัยราวกับรู้ความคิดของอีกฝ่ายโดยไม่ต้องเอ่ยคำพูดออกมา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม