ตอนที่ 12 ต่างคนต่างไป

1353 คำ
“สวัสดีครับ กัปตัน พี่ซัน พี่ขุนเขา คุยอะไรกันอยู่เหรอครับ? ท่าทางน่าสนุก” “ไม่มีอะไร ไม่มีเรียนแล้วเหรอทำไมวันนี้มาเร็ว?” ซันเอ่ยถามน้องรหัส แต่หางตาเหลือบไปมองเพลิงซึ่งตอนนี้นั่งยิ้มอยู่อีกมุมของห้อง “ไม่มีแล้วครับว่างตลอดทั้งบ่ายเลย แล้วพี่คิมหันต์เป็นยังไงบ้างครับ?” “ก่อนจะห่วงคนอื่น ห่วงตัวเองก่อนดีไหม?” “ไอ้เพลิง! มึงหุบปาก! ไม่ต้องปล่อยหมาออกมาวิ่งเล่น” ซันถลึงตาดุ เตือนไม่ให้เพลิงพูดอะไรไปมากกว่านี้ ขณะที่อีกฝ่ายกำลังจะได้อ้าปากเถียง ก็มีเสียงกลุ่มคนเดินคุยกันเข้ามาพอดี ทำให้บทสนทนาของพวกเขาจบลงเพียงเท่านั้น เมื่อสมาชิกทีมเข้ามาจนครบการประชุมวางแผนจึงเริ่มขึ้น ..อีกด้าน @ร้านนมปั่น ในมหาลัย “เมื่อวานไปไหนมา? ฉันกับพี่ตั้มโทรหาตั้งหลายสาย แถมไปหาที่ห้องก็ไม่อยู่” “ห๊ะ! ไปไหน? เปล่านิไม่ได้ไปไหนสักหน่อย ฉันก็อยู่ในห้องตลอดนะ” “เหรอ~ แล้วที่ห้องเรียน เมื่อกี้! พี่เพลิงมาหาทำไม?” “ก็แค่เอาของมาคืน ลืมไว้ที่สนามเมื่อวาน” “อย่ามาโกหก บอกมาเดี๋ยวนี้เมื่อคืนไปกับพี่เพลิงมาใช่ไหม?” น้ำเสียงจริงจัง หรี่ตามองจ้องใบหน้าขาวเล็กอย่างจับผิด แม้ว่าเธอจะพยายามปฎิเสธแต่อีกฝ่ายกลับยิ่งเค้นถามหนัก ไม่ต่างจากนักโทษที่ถูกสอบสวนอย่างไรอย่างนั้น “แหวะ! หมั่นใส้อีพวกที่ชอบทำตัวไร้เดียงสา แต่มารยาร้ายกว่ากระหรี่ใต้ต้นมะขามซะอีก” “อย่างว่าแหละ วิ่งแจ้นหาทางเข้าใกล้ผู้ชายขนาดนั้น คงอยากได้จนตัวสั่น” “ถ้าฉันเป็นผู้ชาย มานอนอ้าขาให้ขนาดนั้น ฉันก็เอานะ” “แต่ฉันว่าพี่เพลิงเขาก็แค่ฟันแล้วทิ้งไม่ได้สนใจหรอก” “จะสนไม่สนไม่รู้ แต่ที่รู้คือเขาเป็นผัวกู ถ้าใครคิดจะยุ่งกับผัวกู กูไม่เอาไว้แน่” บทสนทนาของกลุ่มนักศึกษาสาวรุ่นพี่โต๊ะข้างๆ ทำให้สองสาวนั่งฟังอยู่เงียบๆ แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อมาตรงๆ แต่ทั้งคำพูด น้ำเสียงและสายตาที่พวกเธอเหล่านั้นมองมา ก็ทำให้ทั้งคู่รู้ได้ทันที “ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าที่พวกพี่กำลังพูดถึงใครคะ?” จุ๊บแจงยืนขึ้น หันไปถามด้วยใบหน้ายิ้ม “จุ๊บแจง อย่า” “อุ๊ย!! มีคนร้อนตัวซะแล้ว แต่ เอ๊ะ! หน้าตาอย่างน้องพี่เพลิงคงเอาไม่ลง” กลุ่มนักศึกษาสาวที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆหัวเราะคิกคักหลังมองจุ๊บแจงด้วยหางตาเหมือนกำลังดูถูก “หน้าตาแบบพี่ กัปตันก็คงไม่เอาเหมือนกัน จะว่าไปจุ๊บแจงสวยกว่าพวกพี่ๆ ตั้งเยอะนะคะ” จากตอนแรกห้ามเพื่อนเพราะกลัวมีเรื่องใหญ่โตแต่พอได้ยินคำพูดดูถูก สาวน้อยตัวเล็กก็ถึงกับโมโหขาดลืมสติขึ้นมาทันที “มึงว่าพวกกูเหรอ? กูจะบอกมึงให้รู้ไว้ว่ากูนี่แหละเมียพี่เพลิง อยู่ให้ห่างผัวกูไม่อย่างนั้น กูเอามึงตายแน่!” “บอกว่าเขาเป็นผัว ถามเขาแล้วเหรอว่าเขาจะเอาหรือเปล่า?” “อีเด็กนี่! ปากดีนักนะ” เพี้ยะ!! กรี้ดดด เพี้ยะ! “ปล่อยนะ อีกระหรี่ จับไว้ไว้สิวะ” ตุบ!! ปี๊ดๆ ปี๊ดๆ หยุด! หยุด! เสียงนกหวีดถี่สลับกับเสียงตะโกนห้ามดังมาแต่ไกล หวังให้กลุ่มนักศึกษาสาวแยกออกจากกัน หากแต่ไม่ได้เป็นอย่าที่คิด เพราะทันทีที่ได้ยินเสียงห้ามดังเข้ามาใกล้ สาวตัวเล็กที่กำลังนั่งทับอยู่บนตัวของนักศึกษารุ่นพี่ก็ยิ่งออกแรงจิกผม หง่างฝ่ามือตบใส่ใบหน้าขาวถี่รัว จนกระทั่ง รปภ. เข้ามาดึงร่างของเธอให้ลุกขึ้น “อีบ้า ฮื้อ~~ แม้จะได้ยินคำด่าจากคู่กรณี แต่เมื่อเห็นสภาพใบหน้าบวมช้ำ ผมเผ้ายุ่มเหยิงซึ่งเกิดจากฝีมือของตัวเองคำด่าพวกนั้นก็เป็นเพียงลมปากไม่ได้มีผลกับเธอเลยสักนิด “สมน้ำหน้า” “หยุด! พวกคุณตามผมไปที่ฝ่ายการเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงเข้มดุ ก่อนจะเดินนำกลุ่มนักศึกษาสาวตรงไปที่ตึกขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก ..17.30 น “วันนี้ไม่ไปสนามฟุตบอลเหรอ?” “ไม่อ่ะ ไม่อยากไป” สองเพื่อนรักเดินมาตามถนนภายในมหาลัย หลังนั่งฟังอาจารย์ของฝ่ายการบ่นนานกว่าสองชั่วโมง “จะเล่าให้ฉันฟังได้หรือยัง?” จุ๊บแจงหยุดเดินกอดอกมองเพื่อนด้วยสีหน้าจริงจัง สาวน้อยนิ่งเงียบคิดทบทวนอยู่นานว่าจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เพื่อนฟังดีหรือไม่ เพราะด้วยนิสัยขี้โวยวายขี้บ่นการนั่งฟังเสียงแหลมเล็กของเธอนานกว่าชั่วโมงก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย ..สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจยอมเล่าให้จุ๊บแจงฟัง เพราะถึงยังไงเธอก็เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่สนใจและรับฟังปัญหาของฉันมาตลอด “แล้วพี่ตั้มล่ะจะทำยังไง? เธอไม่สนใจความรู้สึกพี่เขาบ้างหรือไง?” “สนใจสิ แต่เรื่องเมื่อคืนฉันเองก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นสักหน่อย คิดซะว่ามันเป็นแค่วันไนท์แล้วกัน” “เธอจะวันไนท์กับใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่กับพี่เพลิง เขาเป็นทั้งรุ่นพี่ของพี่ตั้ม เป็นทั้งกัปตันทีมฟุตบอล สาวๆในมหาลัยต่างก็ชอบเขาทั้งนั้น มีใครไม่รู้บ้างว่าเขาเป็นเสือผู้หญิง?” จุ๊บแจงพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด สีหน้าของเธอแสดงถึงความไม่พอใจราวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาของตัวเองก็ไม่ปาน “ชั่งมันเถอะ ยังไงเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว อีกอย่างฉันคงไม่กลับไปที่ชมรมแล้ว” “แต่พี่ตั้มยังอยู่ในทีมไม่ใช่เหรอ?” “อืม ยังอยู่ แต่จบการแข่งรอบนี้ก็คงลาออก เพราะฉันเราสองคนตกลงจะคบกัน” “ใครจะลาออก ใครจะคบกับใคร?” 0.0!! รอยยิ้มหวานบนใบหน้าค่อยๆจางหาย เมื่อได้ยินเสียงคุ้นเคยที่ไม่ต้องหันกลับไปมองก็รู้ว่าเป็นใคร หัวใจดวงน้อยเต้นถี่ ยิ่งเสียงฝีดังเข้ามาใกล้หัวใจของเธอก็ยิ่งเต้นรัวเหมือนจะหลุดออกมาดิ้นอยู่นอกอก กึก กึก กึก! “ไม่ได้ยินที่ถามเหรอ?” ตอนนี้ร่างนั้นมายืนอยู่ตรงหน้าของคนตัวเล็ก ขณะที่เธอได้แต่ยืนตัวแข็งก้มหน้ามองปลายเท้าของตัวเอง “พี่เพลิง ซะ ซ้อมเสร็จแล้วเหรอคะ พอดีวันนี้พระพายไม่ค่อยสบาย จุ๊บแจงกำลังจะพากลับไปพักค่ะ” “เหรอ? เธอไม่สบาย.. ตรงไหนล่ะ? หื้ม!” ใบหน้าคมก้มต่ำมองใบหน้าขาวซีด รอฟังคำตอบจากปากเล็ก “ปวดหัวค่ะ พระพายบอกว่าปวดหัวจุ๊บแจงกำลังจะขอพากลับไปพักค่ะ” จุ๊บแจงจับข้อมือดึงร่างแข็งทื่อเลี่ยงออกไปจากตรงนั้น แต่.. หมับ! “เดี๋ยว!” ข้อมือเล็กถูกดึงกลับ พร้อมเสียงเรียก “พอดีเลย ทุกคนกำลังจะไปเยี่ยมไอ้คิมที่โรงพยาบาล งั้นเธอก็ไปให้หมอตรวจหน่อยแล้วกัน” ห๊ะ!! “ไม่ ไม่เป็นไรคะ กลับไปพักสักหน่อย เดี๋ยวก็คงดีขึ้น” คนตัวเล็กรีบปฏิเสธ ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจขณะที่อีกฝ่ายกลับมีรอยยิ้มบนใบหน้า “หึ พูดได้แล้วเหรอ? งั้นก็ตอบมา ว่า ใครจะลาออก แล้วใครจะคบกัน?” “ทะ ทำไมต้องตอบคะ ไม่เกี่ยวกับกัปตันสักหน่อย” “แน่ใจเหรอ ว่าไม่เกี่ยว?” คิ้วหนาเลิกสูง มุมปากกระตุกยิ้ม สายตาเจ้าเล่ห์ทำให้คนตัวเล็กเย็นไปถึงกระดูก “จุ๊บแจงไปด้วยกันนะ” “ไม่ได้” “ทำไมละคะ?” “แค่สมาชิกในทีม ไม่เกี่ยวกับคนนอก” น้ำเสียงเย็นชา ราวกับตอนนี้มีเพียงเธอกับเขาเท่านั้น “พี่ตั้มล่ะ? พระพายจะไปกับพี่ตั้ม” ชายหนุ่มหันกลับมามองด้วยความไม่พอใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม