ตอนที่2 กลัว

1080 คำ
ตกเย็นธิดาเข้ามาช่วยงานในครัวอย่างขะมักเขม้น ดีที่ตอนเธออยู่บ้านเธอมักจะทำอาหารกินเองบ่อยๆ เลยทำให้เธอหยิบจับอะไรก็คล่องมือไปหมด แต่อย่างหนึ่งที่ทำให้เธอไม่อยากเชื่อเลยก็คือการเข้ามาเป็นแม่บ้านที่นี่ แต่กลับถูกแม่บ้านด้วยกันไม่ชอบหน้าทั้งที่พึ่งเจอกันวันแรก “เกะกะ!” น้ำเสียงไม่เป็นมิตรดังขึ้นก่อนหญิงสาวคนหนึ่งที่มีชื่อว่าฟ้ารุ่งจะกระแทกตัวชนธิดาและหยิบผักด้านหน้าธิดาไป “ไม่ต้องไปสนใจ คนนี้อยู่มานานหลายปีแล้ว เวลามีคนใหม่เข้ามาก็ชอบวางท่าว่ารู้เรื่องที่นี่ดี...” “แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือเธอกำลังกลัว” ตังเมขยับเข้ามากระซิบให้ธิดาได้รับรู้ “กลัว?” “ใช่ เพราะเจ้านายที่นี่ไม่ค่อยเรียกใช้ใครซ้ำๆ ต่อเนื่อง ยิ่งมีคนใหม่ที่สวยกว่าเด็กกว่าเข้ามา ยัยนี่ก็เลยกลัวตกกระป๋องจนต้องหาเรื่องคนอื่นไปทั่วแบบนี้ไง” “อ๋อ” ธิดาเองก็เข้าใจในสิ่งที่ตังเมพูดออกมา แต่เธอก็ไม่ได้สนใจเพราะลำพังปัญหาชีวิตของเธอตอนนี้ก็หนักพอแล้ว เธอไม่มีเวลามามีเรื่องกับใครแบบนี้ “เอาไปล้างสิ” แล้วหญิงสาวอีกคนก็ยื่นผักที่หั่นเสร็จแล้วมาให้กับธิดาแล้วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร “จ้ะ” ธิดารับตะกร้าผักนั้นมาแล้วถือไปล้าง “ยัยนี่ชื่อจิตตา เห็นท่าทางเป็นมิตรแบบนั้นแต่อย่าไว้ใจนะ เพราะยัยนี่ร้ายลึก” ตังเมยังตามมาพูดกับธิดาเหมือนเดิมไม่หยุด “ตังเมถ้าว่างมากมาแกะกุ้งให้ฉัน” แล้วเสียงของฟ้ารุ่งก็ตังขึ้นเสียงเรียบนิ่งทันที “รู้แล้วๆ สั่งอย่างกับเป็นเจ้านายเอง!” ตังเมตอบรับพร้อมกับบ่นขึ้นอย่างไม่ชอบใจ “เลิกเสียงดังแล้วตั้งใจทำงานได้แล้ว” เสียงส้มโอแม่บ้านวัยกลางคนที่เป็นคนที่อยู่ที่นี่มานานพูดขึ้นหลังจากหญิงสาวเอาแต่เขม่นกันไม่รู้จบ ทั้งที่สุดท้ายก็ไม่มีใครได้เป็นมากกว่านางบำเรอ แล้วภายในครัวก็ไร้ซึ่งเสียงพูดคุยกันนอกจากเสียงทำงานและเสียงเรียกเวลาต้องการของจนอาหารสำรับมื้อเย็นได้เสร็จลง ก่อนแม่บ้านจะช่วยกันจัดโต๊ะอาหารเมื่อถึงเวลา บนโต๊ะอาหารมีสมาชิกทั้งหมดเพียงสามคน นั่นก็คือประมุขของบ้านอย่างคุณเจ้าขุน ขวามือคือภรรยาอย่างคุณหญิงมารตี และด้านซ้ายมือก็คือลูกชายเพียงคนเดียวของบ้าน “ทางนั้นว่ายังไงบ้าง” ประมุขของบ้านถามภรรยาขึ้นด้วยความอยากรู้หลังจากเริ่มต้นมื้ออาหารไปได้สักพัก “จะว่ายังไงได้คะ นอกจากเงิน” “เท่าไหร่” “ห้าล้าน” “มากไป ไม่ต้องให้” แม้ว่าเงินห้าล้านไม่ได้มากมายอะไรสำหรับครอบครัวพวกเขา แต่มันมากไปสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น “ฉันก็ไม่คิดจะให้อยู่แล้วค่ะ โชคดีที่ลูกชายคุณกุมความลับของทางนั้นไว้ได้...” “เมื่อไหร่จะเลิกเป็นแบบนี้สักที แม่ไม่ไหวที่จะต้องตามเช็ดตามล้างให้เราแล้วนะ” แล้วคุณมารตีก็หันไปพูดกับลูกชายด้วความเหนื่อยใจ เพราะก่อนหน้านี้เธอพึ่งกลับจากโรงพยาบาลเพื่อจัดการเรื่องที่ลูกชายก่อขึ้น “ถามพ่อดูสิครับ” จอม หรือ เจ้าจอม ตอบกลับผู้เป็นแม่ด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งไร้ซึ่งอารมณ์ “ลูกเวร!” คุณเจ้าขุนด่าลูกขึ้นอย่างไม่จริงจังหลังจากลูกโยนความผิดให้ตัวเอง “แม่รู้ว่ามันยาก แต่ลูกก็ควรจะหักห้ามมันมากกว่านี้ เพราะสิ่งที่ลูกทำมันรุนแรงเกินไป” เธอรู้ว่านิสัยลูกไม่ต่างอะไรจากสามีของเธอ แต่สิ่งที่เธอเห็นมาเหมือนกับว่าลูกของเธอจะเป็นมากกว่าสามีมากๆ “ผมก็ไม่อยากทำขนาดนี้ ถ้าไม่ติดว่าผู้หญิงพวกนั้นทำตัวน่ารำคาญ” น้ำเสียงและสีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ของชายหนุ่มตอบกลับอีกครั้ง “เฮ้อ! ถ้าขืนลูกยังเป็นแบบนี้ก็คงไม่มีผู้หญิงที่ไหนทนลูกได้หรอกนะ” เพราะผู้หญิงทุกคนที่ลูกชายเธอคบก็ไม่เคยถึงเดือนเลยสักคน ถ้าไม่ใช่ลูกชายเธอไม่ถูกใจ ก็เป็นผู้หญิงพวกนั้นที่ต่างตีตัวออกห่างไปทันทีเมื่อได้เห็นอีกด้านของลูกชายเธอ แต่ที่หนักไปกว่านั้นก็คือบางคนต้องถึงกับเข้าโรงพยาบาลเพราะลูกชายของเธอ แล้วคิดเหรอว่าผู้หญิงพวกนั้นที่หายดีแล้วจะยอมกลับเข้าหาลูกชายเธออีก “แล้วไหนจะเรื่องครอบครัวของพวกเธอที่แม่ต้องเจรจาอีก...” “บางคนก็ไม่รู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวเรียกร้องค่าทำขวัญ ไม่ดูตัวเองเลยสักนิด!” และนี่คืออีกเรื่องที่ผู้เป็นแม่อย่างเธอหงุดหงิดใจ เพราะเวลาต้องไปพูดคุยกับครอบครัวฝ่ายหญิงที่บาดเจ็บเพราะลูกชายเธอ มันทำให้เธอได้เห็นความโลภเกินไปของคนพวกนั้นจนไม่อยากเข้าใกล้ “ก็ไม่ต้องให้สิครับ” “จะไม่ให้ได้ยังไง บางคนก็มีชื่อเสียงในวงธุรกิจ บางคนก็เป็นลูกนักการเมือง จะให้แม่ไม่ทำอะไรเลยได้ยังไงล่ะ” คนพวกนี้ใช่ว่าจะยอมง่ายๆ ที่ไหนกัน ยิ่งเป็นพวกนักธุรกิจยิ่งขอข้อแลกเปลี่ยนกับเธอเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองราวกับตั้งใจเอาลูกมาขายกิน “งั้นแม่ก็ต้องปล่อยวางที่จะเอาลูกผู้ดีพวกนั้นมาเป็นลูกสะใภ้” เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่จะไม่ต้องวุ่นวายกับการแก้ปัญหา “ได้ยังไงกัน! ลูกเป็นลูกชายคนเดียวของพัฒนพงศ์ไพศาล จะให้เอาผู้หญิงที่ไหนได้ยังไงกัน” ครอบครัวผู้ดีเก่าแก่ของเธอกับสามีพร้อมกับลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูล จะให้ไปคว้าผู้หญิงที่ไหนมาทำเมียได้ยังไงกัน “ถ้าอย่างนั้นแม่ก็ต้องยอมรับกับปัญหาที่จะตามมา” “เฮ้อ! ควบคุมตัวเองหน่อยไม่ได้เหรอลูก แม่รู้ว่าเรื่องแบบนี้มันควบคุมกันยาก...” “แต่แม่ก็ไม่อยากให้รุนแรงเกินไป ถ้าเกิดผู้หญิงพวกนั้นถึงกับชีวิตขึ้นมาจะทำยังไง” “ผมชอบเห็นคนเจ็บปวด แต่ผมไม่ได้ชอบเห็นคนตาย” เคร้ง!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม