ตกเย็นธิดาเข้ามาช่วยงานในครัวอย่างขะมักเขม้น ดีที่ตอนเธออยู่บ้านเธอมักจะทำอาหารกินเองบ่อยๆ เลยทำให้เธอหยิบจับอะไรก็คล่องมือไปหมด
แต่อย่างหนึ่งที่ทำให้เธอไม่อยากเชื่อเลยก็คือการเข้ามาเป็นแม่บ้านที่นี่ แต่กลับถูกแม่บ้านด้วยกันไม่ชอบหน้าทั้งที่พึ่งเจอกันวันแรก
“เกะกะ!” น้ำเสียงไม่เป็นมิตรดังขึ้นก่อนหญิงสาวคนหนึ่งที่มีชื่อว่าฟ้ารุ่งจะกระแทกตัวชนธิดาและหยิบผักด้านหน้าธิดาไป
“ไม่ต้องไปสนใจ คนนี้อยู่มานานหลายปีแล้ว เวลามีคนใหม่เข้ามาก็ชอบวางท่าว่ารู้เรื่องที่นี่ดี...”
“แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือเธอกำลังกลัว” ตังเมขยับเข้ามากระซิบให้ธิดาได้รับรู้
“กลัว?”
“ใช่ เพราะเจ้านายที่นี่ไม่ค่อยเรียกใช้ใครซ้ำๆ ต่อเนื่อง ยิ่งมีคนใหม่ที่สวยกว่าเด็กกว่าเข้ามา ยัยนี่ก็เลยกลัวตกกระป๋องจนต้องหาเรื่องคนอื่นไปทั่วแบบนี้ไง”
“อ๋อ” ธิดาเองก็เข้าใจในสิ่งที่ตังเมพูดออกมา แต่เธอก็ไม่ได้สนใจเพราะลำพังปัญหาชีวิตของเธอตอนนี้ก็หนักพอแล้ว เธอไม่มีเวลามามีเรื่องกับใครแบบนี้
“เอาไปล้างสิ” แล้วหญิงสาวอีกคนก็ยื่นผักที่หั่นเสร็จแล้วมาให้กับธิดาแล้วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร
“จ้ะ” ธิดารับตะกร้าผักนั้นมาแล้วถือไปล้าง
“ยัยนี่ชื่อจิตตา เห็นท่าทางเป็นมิตรแบบนั้นแต่อย่าไว้ใจนะ เพราะยัยนี่ร้ายลึก” ตังเมยังตามมาพูดกับธิดาเหมือนเดิมไม่หยุด
“ตังเมถ้าว่างมากมาแกะกุ้งให้ฉัน” แล้วเสียงของฟ้ารุ่งก็ตังขึ้นเสียงเรียบนิ่งทันที
“รู้แล้วๆ สั่งอย่างกับเป็นเจ้านายเอง!” ตังเมตอบรับพร้อมกับบ่นขึ้นอย่างไม่ชอบใจ
“เลิกเสียงดังแล้วตั้งใจทำงานได้แล้ว” เสียงส้มโอแม่บ้านวัยกลางคนที่เป็นคนที่อยู่ที่นี่มานานพูดขึ้นหลังจากหญิงสาวเอาแต่เขม่นกันไม่รู้จบ ทั้งที่สุดท้ายก็ไม่มีใครได้เป็นมากกว่านางบำเรอ
แล้วภายในครัวก็ไร้ซึ่งเสียงพูดคุยกันนอกจากเสียงทำงานและเสียงเรียกเวลาต้องการของจนอาหารสำรับมื้อเย็นได้เสร็จลง ก่อนแม่บ้านจะช่วยกันจัดโต๊ะอาหารเมื่อถึงเวลา
บนโต๊ะอาหารมีสมาชิกทั้งหมดเพียงสามคน นั่นก็คือประมุขของบ้านอย่างคุณเจ้าขุน ขวามือคือภรรยาอย่างคุณหญิงมารตี และด้านซ้ายมือก็คือลูกชายเพียงคนเดียวของบ้าน
“ทางนั้นว่ายังไงบ้าง” ประมุขของบ้านถามภรรยาขึ้นด้วยความอยากรู้หลังจากเริ่มต้นมื้ออาหารไปได้สักพัก
“จะว่ายังไงได้คะ นอกจากเงิน”
“เท่าไหร่”
“ห้าล้าน”
“มากไป ไม่ต้องให้” แม้ว่าเงินห้าล้านไม่ได้มากมายอะไรสำหรับครอบครัวพวกเขา แต่มันมากไปสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น
“ฉันก็ไม่คิดจะให้อยู่แล้วค่ะ โชคดีที่ลูกชายคุณกุมความลับของทางนั้นไว้ได้...”
“เมื่อไหร่จะเลิกเป็นแบบนี้สักที แม่ไม่ไหวที่จะต้องตามเช็ดตามล้างให้เราแล้วนะ” แล้วคุณมารตีก็หันไปพูดกับลูกชายด้วความเหนื่อยใจ เพราะก่อนหน้านี้เธอพึ่งกลับจากโรงพยาบาลเพื่อจัดการเรื่องที่ลูกชายก่อขึ้น
“ถามพ่อดูสิครับ” จอม หรือ เจ้าจอม ตอบกลับผู้เป็นแม่ด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งไร้ซึ่งอารมณ์
“ลูกเวร!” คุณเจ้าขุนด่าลูกขึ้นอย่างไม่จริงจังหลังจากลูกโยนความผิดให้ตัวเอง
“แม่รู้ว่ามันยาก แต่ลูกก็ควรจะหักห้ามมันมากกว่านี้ เพราะสิ่งที่ลูกทำมันรุนแรงเกินไป” เธอรู้ว่านิสัยลูกไม่ต่างอะไรจากสามีของเธอ แต่สิ่งที่เธอเห็นมาเหมือนกับว่าลูกของเธอจะเป็นมากกว่าสามีมากๆ
“ผมก็ไม่อยากทำขนาดนี้ ถ้าไม่ติดว่าผู้หญิงพวกนั้นทำตัวน่ารำคาญ” น้ำเสียงและสีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ของชายหนุ่มตอบกลับอีกครั้ง
“เฮ้อ! ถ้าขืนลูกยังเป็นแบบนี้ก็คงไม่มีผู้หญิงที่ไหนทนลูกได้หรอกนะ” เพราะผู้หญิงทุกคนที่ลูกชายเธอคบก็ไม่เคยถึงเดือนเลยสักคน
ถ้าไม่ใช่ลูกชายเธอไม่ถูกใจ ก็เป็นผู้หญิงพวกนั้นที่ต่างตีตัวออกห่างไปทันทีเมื่อได้เห็นอีกด้านของลูกชายเธอ
แต่ที่หนักไปกว่านั้นก็คือบางคนต้องถึงกับเข้าโรงพยาบาลเพราะลูกชายของเธอ แล้วคิดเหรอว่าผู้หญิงพวกนั้นที่หายดีแล้วจะยอมกลับเข้าหาลูกชายเธออีก
“แล้วไหนจะเรื่องครอบครัวของพวกเธอที่แม่ต้องเจรจาอีก...”
“บางคนก็ไม่รู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวเรียกร้องค่าทำขวัญ ไม่ดูตัวเองเลยสักนิด!” และนี่คืออีกเรื่องที่ผู้เป็นแม่อย่างเธอหงุดหงิดใจ เพราะเวลาต้องไปพูดคุยกับครอบครัวฝ่ายหญิงที่บาดเจ็บเพราะลูกชายเธอ มันทำให้เธอได้เห็นความโลภเกินไปของคนพวกนั้นจนไม่อยากเข้าใกล้
“ก็ไม่ต้องให้สิครับ”
“จะไม่ให้ได้ยังไง บางคนก็มีชื่อเสียงในวงธุรกิจ บางคนก็เป็นลูกนักการเมือง จะให้แม่ไม่ทำอะไรเลยได้ยังไงล่ะ” คนพวกนี้ใช่ว่าจะยอมง่ายๆ ที่ไหนกัน
ยิ่งเป็นพวกนักธุรกิจยิ่งขอข้อแลกเปลี่ยนกับเธอเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองราวกับตั้งใจเอาลูกมาขายกิน
“งั้นแม่ก็ต้องปล่อยวางที่จะเอาลูกผู้ดีพวกนั้นมาเป็นลูกสะใภ้” เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่จะไม่ต้องวุ่นวายกับการแก้ปัญหา
“ได้ยังไงกัน! ลูกเป็นลูกชายคนเดียวของพัฒนพงศ์ไพศาล จะให้เอาผู้หญิงที่ไหนได้ยังไงกัน” ครอบครัวผู้ดีเก่าแก่ของเธอกับสามีพร้อมกับลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูล จะให้ไปคว้าผู้หญิงที่ไหนมาทำเมียได้ยังไงกัน
“ถ้าอย่างนั้นแม่ก็ต้องยอมรับกับปัญหาที่จะตามมา”
“เฮ้อ! ควบคุมตัวเองหน่อยไม่ได้เหรอลูก แม่รู้ว่าเรื่องแบบนี้มันควบคุมกันยาก...”
“แต่แม่ก็ไม่อยากให้รุนแรงเกินไป ถ้าเกิดผู้หญิงพวกนั้นถึงกับชีวิตขึ้นมาจะทำยังไง”
“ผมชอบเห็นคนเจ็บปวด แต่ผมไม่ได้ชอบเห็นคนตาย”
เคร้ง!