It’s Bad! 6 | ต่างรู้ดี

1882 คำ
6 It’ s Bad! แย่แล้ว…เพื่อนสนิทฉันเป็นมาเฟีย ต่างรู้ดี @Luxe Club 21 : 30 น. แท็กซี่เข้ามาจอดตรงบริเวณหน้าร้าน ภายนอกดูเงียบสงบ บอดี้การ์ดราวห้าคนยืนอยู่ทั่วทุกมุม ตรงที่จอดรถมีแต่รถราคาเจ็ดหลักขึ้น เธอมองผ่านกระจกรถแท็กซี่ก่อนจะจัดการจ่ายเงินแล้วเปิดประตูลงมา ขนมผิงยื่นบัตรให้บอดี้การ์ดตรวจก่อนจะผ่านเข้าไปด้านในได้อย่างง่ายดาย ชั้นแรกเป็นโซนดื่มปกติ เวลานี้คนเริ่มมาเกือบครึ่งร้านแล้ว ส่วนชั้นสองเป็นโซนวีไอพี คนตัวเล็กเดินมาหยุดที่หน้าบาร์ก่อนจะติดต่อกับพนักงานที่อยู่ตรงนั้นทันที “มาแทนพนักงานที่ลาวันนี้ค่ะ” “ตามมา” พนักงานสาวเอ่ยบอก ก่อนจะเดินนำขนมผิงขึ้นไปยังชั้นสองของร้าน เขาพาเดินมายังฝั่งซ้ายห้องริมสุดแล้วยกมือขึ้นเคาะ ไม่นานมากก็มีเสียงอนุญาตจากด้านในเอ่ยผ่านประตูออกมา “เข้ามาเลย ประตูไม่ได้ล็อก” พอได้ยินแบบนั้นพนักงานก็เปิดประตูให้ขนมผิงเข้าไป เธอเดินเข้ามาแล้วยิ้มทักทายคนตรงหน้าที่มีศักดิ์เป็นเพื่อนของเจ้านาย “สวัสดีค่ะ ขนมผิงนะคะ คนที่พี่เมทัสแนะนำมา” “นั่งลงก่อน พี่ชื่อเหมียวนะ เรียกพี่เหมียวก็ได้” คนตรงหน้าแนะนำตัว เหมียวเป็นคนที่พูดจานํ้าเสียงน่าฟังและมีความมั่นใจสูง “ค่ะพี่เหมียว” เธอตอบแล้วหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตัวกันข้าม “เดี๋ยวเราเอาป้ายของพนักงานที่ลาไปสวมก่อน ส่วนการทำงานก็แค่ชงเหล้าให้แขก ถ้าเขาชวนดื่มก็พยายามอย่าปฏิเสธเพราะทุกดื่มมีทิป แขกพวกนี้เป็นแขกวีไอพีกระเป๋าหนักกันทั้งนั้น แต่ละแก้วหนึ่งใบเทาขึ้น” “เข้าใจแล้วค่ะ” “แขกคุยอะไร สิ่งที่ได้ยินต้องเก็บเป็นความลับนะ ถ้าเข้าใจทุกอย่างแล้วก็ลงไปเปลี่ยนชุดที่ชั้นล่างได้เลย ส่วนนี้ป้ายชื่อ” เหมียวบอกกับขนมผิงพร้อมกับยื่นป้ายชื่อของพนักงานที่ลาให้ ขนมผิงรับมาแล้วเอ่ยขอบคุณ “ผิงลงไปได้แล้วใช่ไหมคะ” “เชิญค่ะ” แนะนำงานกันไม่นานมากขนมผิงก็เดินออกมา เธอเจอเข้ากับพนักงานคนเดิมที่เดินนำลงไปยังห้องเปลี่ยนชุดของพนักงานเสิร์ฟ ขนมผิงได้รับชุดมาเธอก็จัดการเปลี่ยนทันที ไม่ใช่ชุดพนักงานอย่างเป็นทางการสักเท่าไหร่ ที่คอมีป้ายชื่อของพนักงานคนนั้นที่เขียนเอาไว้ว่า ใบเฟิร์น คืนนี้คงต้องทำงานในชื่อของคนอื่นไปหนึ่งคืน ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่มีใครจำเธอได้ ขนมผิงมองสำรวจความเรียบร้อยของตนเองผ่านหน้ากระจกก่อนจะคลี่ยิ้มให้กับตนเอง วันนี้ทำงานต้องห้ามทำหน้าบึ้ง เดี๋ยวแขกไม่ให้ทิป จัดการทุกอย่างเรียบร้อยขนมผิงก็นั่งรอให้เวลาครบตามที่นัด ไม่นานมากก็ถึงหน้าที่ที่เธอต้องทำ ขนมผิงเดินไปยังห้องที่พนักงานคนนั้นบอกพร้อมกับเครื่องดื่มที่แขกสั่ง เธอหยุดยืนอยู่หน้าห้อง ก่อนจะเปิดเข้าไปด้านในก็เห็นแขกอยู่สองคนที่กำลังแทงสนุกเกอร์พร้อมกับคุยกันไปด้วย แขกหนึ่งคนเป็นชาวจีนวัยกลางคน อีกหนึ่งคนไม่เห็นหน้าเพราะเขากำลังก้มแทงสนุกเกอร์อยู่ “เด็ก ๆ นำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟแล้ว ผมว่าเราหยุดเล่นแล้วไปดื่มกันสักแก้วก่อนไหม” แขกชาวจีนเอ่ยออกมาเป็นภาษาอังกฤษซึ่งขนมผิงก็ฟังเข้าใจ เธอนำเครื่องดื่มวางลงบนโต๊ะ แล้วทำหน้าที่ของตนเองด้วยการรินเหล้าใส่แก้วทรงสวย ส่วนพนักงานอีกคนก็เดินมารินให้กับแขก “วันนี้คุณพ่อผมไม่ว่างเลยให้ผมมาแทน คุณหวังคงไม่ติดอะไรใช่ไหมครับ” สำเนียงภาษาอังกฤษที่เหมือนเจ้าของภาษาและทุ่มน่าฟังทำให้ขนมผิงรู้ว่าคนคนนี้คงเป็นรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอ แถมเสียงของเขาก็ยังคุ้นหูมากอีกด้วย “เป็นเกียรติมากเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นคุณราเชนทร์หรือคุณริวแค่ยอมมาคุยธุรกิจกับเราก็ดีมากแล้ว” หวังลี่อันตอบแล้วหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาหนังตัวยาวสีดำ ขนมผิงเงยหน้าขึ้นมองแขกของตนเองก่อนจะยกแก้วเครื่องดื่มให้กับหวังลี่อัน “เครื่องดื่มเรียบร้อยแล้วค่ะ” “โอ้~ ดูนี่สิคุณริว สาวน้อยคนนี้สวยจริง ๆ” พอสิ้นคำพูดนั้นทั้งสองก็สบตากันในทันทีอย่างเลี่ยงไม่ได้ ขนมผิงเผลอกัดปากตนเองแน่นเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นริวเซย์ เขามองเธอด้วยแววตานิ่งก่อนจะยกยิ้มมุมปากเพียงเสี้ยววินาที มือหนาที่คีบมวลบุหรี่อยู่ยกขึ้นสูบแล้วพ่นควันออกมา ท่อนขายกขึ้นไขว้กันด้วยท่าทางประจำที่ชอบทำ “สวยจริง ๆ ด้วยครับ” “ผมอยากคุยเรื่องงานของเราแล้ว ข้อเสนอที่ผมส่งไปให้ทางคุณริว ตกลงไหมครับ หรือคุณริวเสนอมามากกว่านั้นได้ ผมอยากลงทุนที่เกาะนั้นจริง ๆ” นักลงทุนชาวจีนรายใหญ่อย่างหวังลี่อันเริ่มเข้าประเด็นทันที เขาเป็นนักลงทุนและสนใจเกาะแห่งหนึ่งในประเทศ ซึ่งมีความสวยงามเหมาะแก่การทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมาก และเกาะแห่งนั้นมีชื่อเจ้าของร่วมกันอยู่สองคนคือราเชนทร์และเพื่อนของราเชนทร์ “ข้อเสนอของคุณหวังผมขอยกเลิกไปก่อนนะครับ คุณไม่ได้หวังแค่กำไร แต่คุณหวังมากกว่านั้น ผมพูดถูกรึเปล่า” “ผมอยากลงทุนทำการท่องเที่ยว ข้อเสนอของผมไม่ถูกใจคุณริวตรงไหนบอกผมได้นะครับ ผมยินดีแก้ไข” “ผมรู้มาว่าคุณอยากได้พื้นที่แถวนั้นของชาวบ้านด้วย เพราะต้องการทำกาสิโนเถื่อน หวังใช้พื้นที่ของผมกอบโกยเม็ดเงินมหาศาล มันไม่มากไปหน่อยเหรอครับ ?” หวังลี่อันหน้าซีดเมื่อถูกจับได้ ความจริงริวเซย์ยอมตอบตกลงได้ เขาสามารถหาหนทางที่จะทำให้ตนเองได้รายได้มหาศาลจากข้อเสนอของหวังลี่อันได้เหมือนกัน แต่ที่เขาไม่อยากรับก็เพราะหวังลี่อันอะไรนี่ดูอยากได้เพื่อนรักของเขา แถมยังเอ่ยปากชมว่าสวย มันขัดหู ขัดตาไปหมด เลยยกเลิกให้หมดแบบไม่สนห่าเหวอะไร “ถ้าคุณริวไม่ตกลง การคุยกันระหว่างเราวันนี้ก็คงต้องจบเท่านี้ ผมขอตัวก่อนนะครับ” หวังลี่อันเอ่ยออกมาด้วยอารมณ์หงุดหงิด เขาเหยียดกายลุกขึ้นเต็มความสูงด้วยสีหน้าหมดอารมณ์ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมกับเลขาของตนเอง ขนมผิงทำตัวไม่ถูก เธอจะเดินออกจากห้องไปแต่ริวเซย์กลับเอ่ยเรียกไว้ก่อน “อยู่ดื่มด้วยกันก่อนสิ” ท้าวเรียวชะงักแล้วหันมามองเขา “แขกของผิงกลับไปแล้ว ริวให้พนักงานอีกคนดูแลดีกว่า” ริวเซย์ส่งสัญญาณให้นิกพาพนักงานสาวอีกคนออกไป ทำให้ภายในห้องเหลือเพียงเขาและเธอสองคน “จะกลับไปทั้งที่ไม่ได้ทิปเลยสักบาทแบบนี้เหรอ” “….” “แค่นั่งดื่มเป็นเพื่อนริว แก้วละห้าพัน” พอได้ยินจำนวนเงินและเห็นแบงก์เทาถูกพันที่แก้วเหล้าขนมผิงก็ตาลุกวาว อย่างน้อยริวเซย์ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เขาดูนิ่ง เหมือนไม่ได้โกรธด้วยที่เธอทิ้งการสอน ดื่มสักสามสี่แก้วก็ได้หนึ่งหมื่นบวก ลองหน่อยก็แล้วกันไม่เสียหาย ถือว่านั่งดื่มกับเพื่อนชิล ๆ “ผิงดื่มได้ไม่เยอะนะ” เธอตอบแล้วหย่อนตัวนั่งลงข้างกายริวเซย์ มือบางคว้าแก้วเครื่องดื่มที่พันด้วยเงินแล้วยกกระดกดื่มเข้าปากรวดเดียวหมด พอหมดเธอก็วางแก้วลงบนโต๊ะพร้อมกับยกมือขึ้นเช็ดปาก “ทำไมมาทำงานแบบนี้อีกแล้ว” ริวเซย์ถามพร้อมกับรั้งร่างบางเข้ามาใกล้ตนเองจนจมูกแทบชนกัน “มาทำแค่วันเดียว เห็นเงินมันดีอ่ะ” “ต้องการเท่าไหร่ก็แค่บอกริว” “แต่ผิงต้องยอมแลกด้วยร่างกายไม่ใช่เหรอ” “ใช่…” ริวเซย์ตอบเสียงแหบพร่าแล้วใช้ปลายนิ้วจับคางมนพร้อมกับลูบเบา ๆ “ผิงอยากกลับแล้ว ริวจะให้ดื่มต่อรึเปล่า” “ดื่มต่อสิ แต่ดื่มจากปากริวนะ…” พูดจบก็จับเหล้าเพรียวกรอกปากแล้วดันใบหน้าหวานเข้ามาจูบ พลางดันเหล้าเข้าไปในโพรงปากนุ่มให้เธอกลืน ขนมผิงตกใจแต่ก็ยอมเผยอปากขึ้นรับ หัวใจดวงน้อยเต็มโครมครามผิดจังหวะ ใบหน้าแดงซ่านอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ริวเซย์ไม่ปล่อยให้เธอตกอยู่ในภวังค์นานเขาดันแผ่นหลังบางเข้ามาใกล้มากกว่าเดิม มืออีกข้างเริ่มไม่อยู่นิ่งจับความนุ่มนิ่มที่หน้าอกแล้วบีบเคล้นไปด้วย สองปากแนบชิดกันแน่น ลิ้นตวัดดูดเลียของกันและกันอย่างดูดดื่ม “ริวไม่ชอบให้ผิงคุยกับคนอื่น ไม่ชอบให้ใครหน้าไหนมาชมว่าสวย คำนี้ริวชมได้คนเดียว” พอถอนจูบออกริวเซย์ก็เอ่ยออกมา เขาหวง เขาห่วง เขาต้องการเธอมาก และอยากกักขังเอาไว้คนเดียว มันเป็นมาตั้งแต่คืนนั้นที่ได้ครอบครองเรือนร่างอันแสนหอมหวานของเธอ ทั้งหอมหวานและอ่อนโยนจนยากจะถอนตัว ไม่รู้ว่าเพราะเหตุผลอะไรที่ทำให้กลายเป็นแบบนี้ ริวเซย์รู้แค่ว่าตอนมีขนมผิงอยู่ตรงหน้า เขาหายคิดถึงไดอาน่าแฟนของตนเองได้เสียสนิท แต่พอเธอไม่อยู่ความคิดมันก็ฟุ้งซ่านว่าวันไหนไดอาน่าจะกลับมาก็เกิดขึ้นทุกครั้ง “ริวแค่เหงา รู้ตัวรึเปล่า” “รู้…ริวคิดถึงไดอา ผิงทำให้ริวหายคิดถึงไดอาได้มั้ย” จากตอนแรกที่ใบหน้าเห่อร้อนเพราะจูบของริวเซย์ ตอนนี้ใบหน้าของเธอแทบชาไปหมด ที่ริวเซย์โหยหา ต้องการเธอ เพราะต้องการให้เธอเป็นตัวแทนไดอาน่าเพื่อรอตัวจริงเขากลับมาเท่านั้นเองเหรอ ดวงตากลมโตสั่นระริก ทำไมต้องรู้สึกเจ็บ ในเมื่อริวเซย์จ่ายเป็นเงินเพื่อแลกกับความต้องการตนเอง และเธอเองก็ต้องการบางอย่างจากเขาเช่นกัน ที่จริงริวเซย์จะหาผู้หญิงคนอื่นมาเป็นตัวแทนไดอาน่าก็ได้ แต่เรื่องทุกอย่างมันพัวพันกันอย่างบังเอิญ แล้วเธอเองก็เลือกที่จะก้าวเข้ามา ตอนนี้ถอยไม่ได้อีกแล้ว มันเป็นหนทางเดียวสำหรับคำตอบทั้งหมด ทุกอย่างถูกกำหนดให้เป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรก… ก่อนกดออกฝากกด 💗 และ “เพิ่มลงคลัง” จะได้ไม่พลาดอัปเดตตอนใหม่ ๆ ค่ะ ✅
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม