บทที่ 2
วันนี้เมนี่ลงมาทานอาหารเช้า ก่อนไปมหาลัยด้วยชุดนักศึกษาเข้ารูปกับกระโปรงทรงแคบที่สั้นจนเห็นโคนขาอ่อน และสัดส่วนที่น่ามองของเธอทำให้ศิวัฒน์ที่นั่งจิบกาแฟรออยู่ที่โต๊ะอาหาร ต้องละสายตาจากโทรศัพท์มือถือขึ้นมามองร่างสวยคิ้วขมวด
“กระโปรงเธอสั้นไปนะเมนี่” เข้าเอ่ยเสียงเรียบ แต่สายตาดุจ้องเธอราวกับจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว
“ไหนคะ ไม่เห็นจะสั้นอะไรเลย” หญิงกล่าวพร้อมกับหมุนตัวให้ศิวัฒน์ดู
“ไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้” เขาเอ่ยน้ำเสียงดุใบหน้านิ่ง เมลดาก็ดูไม่ออกว่าเขากำลังโมโหหรืออะไร
“ไม่ค่ะ…สายแล้วหนูไปก่อนนะคะ” กล่าวจบร่างบางก็หมุนตัวออกไปทันที โดยไม่สนใจสายดุของศิวัฒน์ที่มองตามไล่หลัง
“ตามดูแลเธอห่าง ๆ อย่าให้ผู้ชายหน้าไหนเข้าใกล้” ศิวัฒน์หันไปสั่งบอดี้การ์ดจากนั้นเขาจึงได้ออกไปทำงานต่อ
ผ่านไปเกือบชั่วโมงบอดี้การ์ดอีกทีมที่เข้าสั่งให้คอยดูแลเมลดดาก็รายงานกลับมา
“คุณหนูเมนี่ ถึงมหาลัยเรียบร้อยแล้วครับ แต่..”
“แต่อะไร” ศิวัฒว์รีบถามกลับ
“ที่ท่านสั่งไว้ อย่าให้ผู้ชายหน้าไหนเข้าใกล้..”
“แล้วทำไม มีใครกล้ามายุ่งกับเธอหรือ”
“มีแต่คนมองคุณหนูครับ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ผมต้องค่อยกันพวกนั้นตลอดทางเลย แต่มีอยู่คนหนึ่งหน้าจะเป็นเพื่อนร่วมคณะผมเห็นตัวติดกับคุณหนูไม่ห่างเลย” บอดี้การ์ดรายงานเขาพร้อมส่งรูปให้ดู มันคือรูปที่เมลดากับเพื่อนชายนั่งตัวติดกันและกำลังมองบางอย่างในมือถือจนใบหน้าแทบจะชนก่อน
หลังจากได้ยินศิวัฒน์ก็ว่างสายทันที เขากำมือถือแน่นแล้วกดโทรไปหาเมนี่ทันที่
“คะคุณใหญ่” เมลดาแปลกใจที่เห็นเขาโทรมา หรือว่าสิ่งที่เธอทำเริ่มเห็นผล ศิวัฒน์เริ่มจะสนใจเธอแล้วสินะ
“เธออยู่ไหน”
“อยู่ม.ค่ะ กำลังเรียน”
“แล้วไอ้หน้าอ่อนที่อยู่ข้าง ๆ เธอล่ะ”
“ข้าง ๆ” เธอทวนคำพูดเขา แล้วมองคนข้าง ๆ เธอซึ่งก็คือไผ่เพื่อนสนิทหน้าตาหล่อเหลาและที่สำคัญนางเป็นเกย์ ไม่ได้ชอบชะนีอย่างเธอแน่นอน เมลดาคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงรีบตอบกลับไป
“แฟนหนูเองค่ะ”
“ใครอนุญาตให้เธอมีแฟน” ศิวัฒน์โมโหตบโต๊ะทำงานเสียงดังลั่น
“ทำไมจะมีแฟนไม่ได้ หนูโตแล้วนะคะ แล้วอีกอย่างคุณใหญ่ก็ไม่เคยสนใจหนูเลยสักนิด”
“เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่ได้สนใจเธอ”
“รู้ค่ะ เพราะแต่ละวันหนูแทบจะไม่ได้เจอคุณใหญ่เลย พอเจอก็เจอคุณใหญ่อยู่กับผู้หญิงที่คุณพามานอนด้วยไม่ซ้ำหน้า แบบนี้เรียกว่าสนใจเหรอคะ” เมลดาขึ้นเสียงใส่เสียงดัง จนไผ่เพื่อนเกย์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ต้องเรียกชื่อเธอเพื่อเตือนสติ และเสียงของไผ่ดันเข้าไปในสายให้ศิวัฒน์ได้ยิน ยิ่งโมโหหนักแต่เมลดาตัดสายทิ้งไปก่อน
“เมนี่ แก่ทะเลาะกับใคร” ไผ่เอ่ยถาม
“คุณใหญ่ ผู้อุปถัมภ์ของฉันน่ะ”
“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ มีอะไรให้ฉันช่วยบอกได้เลยนะ” ไผ่เสนอ เมลดาหันไปมองหน้าเพื่อนอย่างเจ้าเล่ห์
“งั้นแก่แกล้งมาเป็นแฟนฉันให้หน่อย”
“อี๋..นางชะนีช่วยแบบอื่นได้ไหมแบบนี้ไม่เอา”
“ไผ่..แค่แกล้งเฉย ๆ แกอย่าเวอร์..นะช่วยหน่อย”
“อืออ…ก็ได้” ไผ่ชั่งใจคิดแป๊บเดียวก็ตัดสินใจจะช่วย
จนถึงเวลาเลิกเรียน เมลดาควงแขนกับแฟนปลอม ๆ ไปทานข้าวดูหนังและแกล้งสวีทหวานกันปลอม ๆ ให้บอดี้การ์ดที่จับตาดูอยู่ไปรายงานให้กับศิวัฒน์
“อี๋ขนลุก..แกเลิกเขาหัวมาซุกฉันสักที่ได้ไหม”
“อยู่เฉย ๆ โอบเอวฉันไปเดินไปที่รถ”
“เออ ๆ” ไผ่รู้สึกขนลุกขนพองที่ต้องทำแบบนี้ แต่ก็รับปากเมลดาแล้วก็ต้องช่วยเธอให้ถึงที่สุด
เมื่อเข้ามาในรถของไผ่ ที่ฟิล์มกระจกดำมืดจนข้างนอกมองไปเห็น ทั้งสองจึงได้นั่งพักหายใจกัน
แต่ระหว่างที่นั่งคุยกันอยู่ในรถนั้น
ตุ๊บ!!
เสียงเหมือนมีของแข็งบางอย่างฟาดลงที่กระจกหน้ารถของไผ่ จนมันแตกเป็นรอยยุบ
กรี๊ด!!
ทั้งไผ่ และเมลดา ต่างกรีดร้องด้วยความตกใจกันทั้งคู่
ตุ๊บ!! ตุ๊บ!!
และท่อนไม้เบสบอลนั้นยังฟาดลงมาอีกสองครั้ง โดยชายใส่ชุดดำ เมลดากับไผ่ยังคงตกใจจนตั้งสติไม่อยู่
จู่ ๆ ประตูฝั่งคนขับก็ถูกเปิดออก ร่างของไผ่ก็ถูกชายชุดดำกระชากออกไป
และตามมาด้วยประตูฝั่งของเธอก็ถูกเปิดออกเช่นกัน แต่ชายชุดดำอีกคนกลับไม่ได้กระชากเธอ
“ลงมาเมนี่” เสียงดุที่คุ้นเคยเอ่ยเรียกเธอ แต่เมลดายังคงตกใจไม่หายเธอเอาแต่ก้มหน้าก้มตากรี๊ด
“เมนี่…” เขาเอ่ยเรียกเธออีกครั้ง แต่หญิงสาวกลับเอาแต่ก้มหน้าปิดหูปิดตา ทำให้ศิวัฒน์ต้องเข้าไปประคองเธอออกมาจากรถ
“ปล่อยนะ..ปล่อย”
วงแขนใหญ่ของศิวัฒน์โอบเอวเมลดาเอาไว้จนเธอตัวลอยพยายามดิ้นขัดขืน
“เมลดา..หยุดดิ้น” เธอยังตกใจไม่หายจนศิวัฒน์ต้องเรียกบกสติเธอจนเสียงดัง เธอจึงได้ยอมหยุดฟัง แล้วแหงนหน้าขึ้นไปมอง
“คุณ…คุณใหญ่”
“ใช่..ฉันเองแปลกใจมากหรือไงที่ฉันมาขัดจังหวะของเธอกับแฟน”
“มะ..ไม่…ปล่อยก่อนค่ะ” ตอนแรกเธอจะปฏิเสธแต่นึกขึ้นได้ เธอต้องทำตามแผน
ศิวัฒน์ยอมปล่อยอ้อมแขนจากเอวบางแต่ยังคงจับมือเธอไว้แน่น
เมลดาเริ่มมองหาเพื่อนเกย์ ที่ตอนนี้กำลังถูกบอดี้การ์ดร่างใหญ่จับยึดเอาไว้อยู่ แต่ดูเหมือนนางจะชอบเสียมากว่าไม่ส่งเสียงร้องโวยวายสักแอะ
“ปล่อยเพื่อหนูด้วยค่ะ อย่าทำอะไรเขานะคะ”
“เป็นห่วงกันจริง ๆ นะ ฉันไม่ทำอะไรมันหรอก”
“แล้วชดใช้ค่าเสียหายค่าซ่อมรถให้เพื่อนหนูด้วย” เธอเอ่ยสั่ง
ศิวัฒน์จึงพยักหน้าให้บอดี้การ์ดเอาตัวไผ่ไป ส่วนเขาลากเมลดาขึ้นรถแล้วขับออกมา
บรรยากาศภายในรถเงียบสนิท เธอไม่พูดเขาก็ไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำจนกระทั่งถึงบ้าน พอศิวัฒน์จอดรถได้เขาก็ลากเธอลงมาด้วยความโมโหที่ยังคงค้างอยู่
“คุณใหญ่ปล่อย..หนูเจ็บ” เมลดาพยายามสะบัดแขนออก แต่ศิวัฒน์ไม่ยอมปล่อยเขากำข้อมือเธอแน่นขึ้นและออกแรงกระชากร่างสวยของเธอจนมากระแทกที่แผงอกใหญ่ แล้วใช้แขนอีกข้างโอบเอวเธอไว้
“ต่อไปนี้ ห้ามเธอมีแฟน ห้ามเข้าใกล้ผู้ชายคนไหน” ใบหน้าหล่อโน้มลงมาเขากัดฟันแนน่พยายามข่มอารมณ์ไม่ให้รุนแรงกับเธอ เมลดาเริ่มน้ำตาคลอ จ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาเขา
“รวมถึงคุณใหญ่ด้วยหรือเปล่าคะ” น้ำเสียงสั่นครือเอ่ยถามกลับ
“......” เขานิ่งเงียบไม่ตอบเธอ แต่ดวงใจกลับกระตุกวูบ เมื่อเห็นมาดวงตากลมสวยเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา
“ฉัน…” ศิวัฒน์น้ำเสียงอ่อนลง
“ทั้งที่คุณยังพาผู้หญิงมานอนด้วยไม่ซ้ำหน้า แล้วคุณจะห้ามหนูทำไมคะ คุณใหญ่ทำได้ หนูก็จะทำแบบคุณบ้างไม่ได้หรือไง” ใบหน้าสวยน้ำตาไหลอาบแก้ม
“ไม่ได้เมนี่”
“คุณมีสิทธิ์อะไรมาห้ามหนู”
“สิทธิ์ของว่าที่สามี เมนี่เธอรู้ตัวบ้างไหมของฉันพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ให้ล่วงเกินเธอขนาดไหน…” เขาเอ่ยออกมาอย่างสุดกลั้น เมลดาได้ฟังก็ยังคิดไม่ถึง
“ฉันเฝ้าทะนุถนอมเธออย่างดี รอให้ถึงวันที่เราแต่งงานกัน”
เขาปล่อยเธอออกจากอ้อมแขนแล้วหันหลังหลบหน้า
“ทะนุถนอมเหรอคะ ด้วยการพาผู้หญิงมานอน ถ้าแบบนี้หนูไม่ต้องการค่ะ” พูดจบเมลดาก็หนีกลับขึ้นห้องนอนทันที
“เมนี..ฉัน” ศิวัฒน์อยากจะพูดบางอย่างแต่เธอก็วิ่งหนีขึ้นห้องนอนไปเสียแล้ว ชายหนุ่มเท้าเอวถอนลมหายใจยาวเหยียด ปล่อยให้เธอใจเย็นกว่านี้ก่อนแล้วกัน ศิวัฒน์คิดว่าอีกสักพักค่อยขึ้นไปคุยกับเธอใหม่ และจะสัญญากับเธอว่าจะไปพาผู้หญิงที่ไหนเข้าบ้านอีกเด็ดขาด
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงร่างใหญ่งมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องของหญิงสาว
“เมนี่…ฉันขอคุยอะไรด้วยหน่อย”
“......” ไม่มีเสียงตอบกลับ ศิวัฒน์จึงได้เปิดประตูเดินเข้ามา
“เมนี่” ร่างใหญ่ชะงักเท้า เมื่อเห็นหญิงสาวอยู่ในชุดนอนสายเดียวที่ผ้าบางจนเห็นเต้านมกลม ๆ ขนาดกำลังน่ารักและจุกสีอ่อน ที่ชูชันดันชุดนอน ชายหนุ่มไล่สายตาลงมาถึงหน้าท้องที่แบนราบ ทรวดทรงองค์เอวที่ทำให้เลือดในกายเดือดพล่าน รวมถึงจุดกลางกายที่ดูเกลี้ยงเกลาไร่ขน ชวนให้ลำคอชายหนุ่มแห้งผากเผลอกลืนน้ำลายลงคอไปหลายอึก
พรึ่บ! เมลดาใช้นิ้วเกี่ยวสายชุดนอนจนมันหลุดลงไปกองอยู่ตรงข้อเท้า จากนั้นร่างเปลือกเปล่าก้าวถอยหลังแล้วนั่งลงที่ปลายเตียงมือเรียวลูบไปที่ลำคอช้า ๆ อีกข้างลูบเบา ๆ ที่โคนขาอ่อน
“หนูไม่อยากให้คุณทะนุถนอม..”