พิมทองถูกอุ้มกลับไปโรงนาอีกครั้ง หญิงสาวยังไม่หายตกตะลึง เมื่อถูกวางให้นั่งลงบนแคร่ก็ผวาเข้ากอดแขนไอ้ทัพ แล้วพูดปากคอสั่นราวกับไปเจอผีสางนางไม้ หรือเจอเรื่องคอขาดบาดตายมาก็ไม่ปาน “พี่ทัพ ฉันเห็นลูกสมุนพี่... พวกเขา... พวกเขา” “พวกเขารักกัน” “บัดสีบัดเถลิงสิไม่ว่า เป็นเสนียดจัญไร ต้องเกิดอาเพศกับบ้านดงเศรษฐีแน่ๆ” “ความรักเป็นสิ่งสวยงาม เอ็งอย่าใจแคบ มองอะไรด้านเดียว พรมแดนรักไม่ได้อยู่ที่เพศ แต่อยู่ที่หัวใจ หญิงกับชายรักกันไม่ได้ถ้าใจไม่ตรงกัน ชายกับชายรักกันได้ถ้าหัวใจเดียวกัน ใช้หัวใจตรองแล้วเอ็งจะเข้าใจ” ไอ้ทัพอธิบายยืดยาว ขณะที่มือดึงผ้าแถบและผ้าถุงให้หลุดพ้นกาย “พี่ทัพ” พิมทองหวีดร้อง เพิ่งได้สติ เมื่อผ้าซิ่นหลุดจากปลายเท้าและเห็นว่าไอ้ทัพเดินโทงๆ ในกระท่อมโดยไม่ได้สวมอะไรติดกาย ไฟลุกตลอดเวลาสินะ หัวหน้ากับลูกสมุนไม่ต่างกันสักนิด บัดสีบัดเถลิง “จะร้องทำไมเล่า ตะเบ็งเสียงอย่างนั้นไม่เจ็บคอหรือไรกัน” “เรื่องของฉัน แต่พี่ทำเรื่องน่าละอาย ไม่อายผีสางเทวดา ฉันไม่หน้าทนเหมือนพี่หรอกนะ” “อุวะ ผ้าเปียกเพราะใครล่ะ เอ็งมันดื้อ มากเรื่อง เห็นจะปล่อยเอาไว้ไม่ได้ เป็นเมียพี่แล้วจะได้เลิกคิดหนีเสียที” พิมทองสะดุ้ง ตาเบิกกว้าง “พี่ทัพ อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันขอโทษก็ได้ สัญญาว่าจะไม่หนีอีก” พิมทองเสียงอ่อน สิ้นหวังกับท่าทางจริงจังของไอ้ทัพ เธอคงไม่รอดแน่ หนีก็หนีไม่พ้น ยังดีที่ไปเจอสองคนนั้นพลอดรักกันอยู่ ถ้าเจอกับพวกโจรใจทรามล่ะ คงยับเยินจนไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ หรือไม่ก็เดินหลงวนอยู่กลางป่าจนหนาวตาย เพราะฟ้าฝนที่ไม่มีทีท่าว่าจะซาลงแม้แต่น้อย เบื้องบนคงลิขิตเอาไว้แล้ว พิมทองทอดอาลัย “คิดว่าพี่จะเชื่อหรือแม่พิม” ไอ้ทัพเอาน้ำล้างเท้าให้พิมทองอย่างอ่อนโยน ปรนนิบัติราวกับบ่าวรับใช้นาย พิมทองอึ้ง คาดไม่ถึง เขาปรนนิบัติราวกับเป็นบ่าวของเธอ แต่ปากบอกว่าจะแทง มันคืออะไรกัน ไหนจะคำรักที่พร่ำบอกอีกล่ะ “พี่ทัพ จะแทงฉันจริงๆ หรือจ๊ะ” ไอ้ทัพชะงักมือ เงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาเรียวฉ่ำน้ำสั่นระริกระแวงภัย เธอกำลังกลัว กลัวจะโดนแทง “ก็เอ็งดื้อ พี่ไม่ได้คิดจะแทงตอนนี้สักหน่อย” เขาก้มลงทำงานที่ค้างอยู่ ขณะกัดริมฝีปากไม่ให้หลุดหัวเราะออกไป “ฉันไม่ดื้อแล้ว พี่ทัพอย่าแทงนะ” “ไม่ได้หรอก” “ไหนว่ารักฉัน แล้วทำไมต้องฆ่าให้ตาย” “เพราะรักจึงแทง พี่จะแทงเอ็งด้วยไอ้นี่ไงล่ะ” แล้วไอ้ทัพก็เฉลย “กรี๊ดดด” มันเกือบทิ่มหน้าเธอเมื่อเขาลุกขึ้นยืน พิมทองไวนัก ความกลัวผลักดันให้กระโดดผลุงวิ่งหนี “ปล่อยฉัน ปล่อยๆ” “ไหนว่ากลัวโดนแทง อยู่นิ่งๆ สิ” “พี่สวมผ้าก่อน ฉันกลัว” “อุวะ ก็มันเปียก” “ฉันกลัว” “กลัวก็หลับตาซะ เดี๋ยวมันต้องเข้าไปอยู่ในตัวเอ็ง” ตายแน่ ต้องตายแน่ๆ ใหญ่ยาวราวกับท่อนฟืน มันจะเข้าไปได้ยังไง พิมทองหลับตาลงอย่างที่เขาบอกขณะพูดต่อรอง “อย่าทำอย่างนี้เลยพี่ทัพ ร่างกายที่ไร้หัวใจ ถึงแม้จะได้ไปครอง แต่ชายชาตรีอย่างพี่จะภูมิใจหรือ พี่จะรักฉันมากเพียงใดก็ไร้ประโยชน์ เพราะหัวใจคือพรมแดนกางกั้นไม่ให้ฉันรักพี่ หัวใจฉันบอกว่ารักพี่แผนทุกลมหายใจเข้าออก” “พี่ยอมรับ ที่เอ็งพูดถูกต้องทุกอย่าง แต่พี่จะใช้ความรักทำลายพรมแดนหัวใจของเอ็งให้ได้ ความรักของเอ็งกับไอ้แผนจบลงในคืนนี้ เหลือแต่เพียงความทรงจำที่พี่ไม่คิดจะหวงห้าม” แม้จะเอ่ยอย่างใจกว้าง แต่ลึกๆ ไอ้ทัพก็รู้สึกเจ็บปวด “ไปขอฉันกับแม่ก่อนสิพี่” “เช้ามืดวันนี้พี่บอกเอ็งแล้ว ว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย และอย่างที่รู้กัน แม่น้าจะไม่บังคับเอ็ง” ใช่... ผู้เป็นแม่ปฏิเสธเพราะรู้ว่าบุตรสาวมีคนรักแล้ว การจะหักหาญน้ำใจไม่ใช่นิสัยของนางสีไพล ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน การอบรมสั่งสอนว่ากล่าวตักเตือนคือสิ่งที่สมควรทำ นางสีไพลตระหนักถึงหน้าที่ของแม่ที่รักและปรารถนาดีต่อลูก จึงไม่ละเลยที่จะอบรมสั่งสอนบุตรสาวทั้งสองคนในเรื่องการเลือกคู่ครอง นางสีไพลได้แต่ปลงตกเมื่อบุตรสาวคนโตเลือกที่จะรักไอ้แผน ไอ้หนุ่มมากรัก นางปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตา และตอนนี้โชคชะตาก็กำลังทำหน้าที่ของมันอยู่ “ลองอีกสักครั้งเถอะนะพี่ทัพ” หญิงใดโดนฉุดคร่าไปแล้วก็ถือว่าเป็นเมียชายผู้นั้น พิมทองพยายามดิ้นเฮือกสุดท้าย ก่อนจะพ้นเขตบ้านดงเศรษฐียังมีหวังว่าจะรอด อุบายตื้นๆ แค่นี้เด็กอมมือก็รู้ได้ ไฉนเลยไอ้ทัพจะไม่รู้ ความตั้งใจก่อนหน้านั้นพลันแปรเปลี่ยน ไอ้ครั้นจะรอร่วมหอลงโรงที่เรือนรักเห็นทีจะไม่ดีแน่ เพราะหญิงสาวเจ้าเล่ห์เพทุบาย ใช้แผนสูง เขาเชื่อว่าอีกหนทาง หากเธอหนีจากเขาไปได้ไม่แคล้วต้องบวชชี รอจนเรื่องซาก็ลาบวชเพื่อที่จะสมรักกับไอ้แผน ใครมันจะยอมให้เป็นแบบนั้นกันเล่า “ได้สิ แต่ให้พี่ได้เอ็งก่อนนะ มีลูกสักคนค่อยจัดขบวนขันหมากไปสู่ขอ และขอขมาลาโทษแม่น้าสีไพล” “พี่ทัพเห็นใจฉันเถิดนะ” “ไม่ หมดเวลาของเอ็งแล้ว” “พี่ทัพ” พิมทองลืมตา และเมื่อได้เห็นสีหน้าเด็ดเดี่ยวของชายหน้าดุแล้ว พิมทองก็กรีดร้อง สะอึกสะอื้นอย่างสิ้นหวังระคนอัดอั้นตันใจ “พี่รักเอ็ง รักมากกว่าที่ไอ้แผนรักนะแม่พิม” พิมทองตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว เมื่อร่างใหญ่ของไอ้ทัพขยับขึ้นคร่อมเหนือกาย “แต่ฉันไม่ได้รักพี่” “หยุดพูดเสียที เบื่อจะฟัง อยู่ไปก็รักกันไปเอง มีลูกสักคนสองคน เอ็งจะรักลูกและเผื่อแผ่มาถึงตัวพี่” “ไม่ ฉันจะไม่รักพี่” “เป็นอย่างนั้นก็ช่างเอ็งเถอะ คร้านจะเถียง ใจเป็นของใครก็ช่าง แต่ตัวเอ็งต้องเป็นของพี่ ให้สายฟ้าสายฝนเป็นพยานรักในค่ำคืนนี้” จบคำพูดไอ้ทัพก็จูบซับน้ำตาที่เปื้อนแก้ม ท่อนขาแข็งแรงก่ายเกยเรียวขาใต้ร่าง จมูกและปากเคลื่อนลงไปที่ซอกคอ จูบซับแรงๆ แล้ววกขึ้นไปประกบปากที่กำลังกรีดร้อง มือข้างหนึ่งโลมลูบเนินอกที่กำลังสั่นไหวเพราะแรงสะอื้น อีกข้างซุกซนปัดป่ายกลางกายเบื้องล่าง “พี่รักเอ็ง” ไอ้ทัพงึมงำ ลุ่มหลงรสชาติทรวงสาวที่ดีดดิ้นอยู่ในอุ้งปาก มือหยาบซุกเข้าหารอยแยกบอบบางที่แห้งผาก ฝืดเคือง ไร้หยาดน้ำพร่างพรม และไม่ว่าจะเพียรพยายามปลุกปล้ำ รีดเค้นสักเท่าไหร่ น้ำค้างก็ไม่หลั่งออกมา “แม่พิมจ๋า ยอมพี่เสียดีๆ เถอะ เอ็งจะได้ไม่เจ็บ” ไอ้ทัพหยุดรุกราน

“โกรธเหรอ ก็เธอสติแตกทุบตีหยิกข่วน ฉันแสบไปหมดทั้งตัว ถ้าไม่ทำอย่างนี้เธอก็ไม่หยุด และคืนนี้ทั้งคืนก็ไม่ได้กิน” “ฉันไปต่อนะ” “อ๊ะ...” กลีบบัวเบิกตากว้างจะร้องห้ามแต่โดนประกบปากไว้เธอหดลิ้นหนีด้วยความโมโห แต่ลิ้นร้อนดุนดันกวาดต้อนจนรัดลิ้นเธอไว้ได้ กลีบบัวตัวสั่นเยือกเบี่ยงหน้าหนีเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะกระหึ่มในลำคอดังขึ้นราวกับได้รับชัยชนะแต่เขาก็ล็อกปลายคางเธอไว้ไม่ให้ขยับ จากนั้นลิ้นร้อนก็ดูดรัดจนเธอหมดแรงต่อต้าน กลีบบัวหายใจแรงขยับลิ้นแลกลิ้นดูดรัดลิ้นเขาไม่แพ้กัน เธอเบียดตัวเข้าหาร่างใหญ่ตวัดแขนกอดรัดเขาเอาไว้ขณะยกสองขาเกี่ยวกระหวัดรัดเอวสอบ อารมณ์ร้อนแรงเหมือนไฟไหม้ฟางอิทธิฤทธิ์ควบคุมตัวเองไม่ได้ร่างหนาขยับโยกยกกายขึ้นลงอย่างเร่าร้อนกดกระหน่ำเข้าออกอย่างไม่ออมแรง เสียงเนื้อกระทบกันดังหยาบคายในความรู้สึกจนกลีบบัวหน้าร้อนผ่าวด้วยความอาย อิทธิฤทธิ์จับเอวเธอไว้แล้วรัวใส่ไม่ยั้ง กล้ามเนื้อสาวหนีบเขาเอาไว้แน่น บีบรัดกระตุกตอดถี่ยิบเสียวจนแทบขาดใจ กลีบบัวบิดตัวดิ้นเร่าใต้ร่างใหญ่ เขาจับขาเธอพาดไว้บนไหล่แล้วขยับเข้าออกด้วยจังหวะที่รัวเร็วเร่าร้อนถึงขีดสุดจนหยาดเหงื่อตกกระทบคนใต้ร่าง “อ๊ะ...เสี่ย” “เรียกฉันว่าพี่...พี่ฤทธิ์” “เสี่ยฤทธิ์” “พี่ฤทธิ์” เขาหอบหายใจแรงยังไม่หยุดกระแทก “เรียกสิ” “อาฤทธิ์” “โธ่เว้ย! ยัยเด็กแสบ พี่ฤทธิ์ เรียกเดี๋ยวนี้ เรียก” “พี่...ฤทธิ์ พี่ พี่” เธอตะโกนดังลั่นเพราะโดนกระหน่ำจนสมองว่างเปล่ากลายเป็นผู้หญิงร้อนร่านขยับตัวรับจังหวะที่เขาส่งลงมา แอ่นตัวขึ้นลงสวนรับกับไอ้หล่อล่ำของเขาและทันใดนั้นกล้ามเนื้อที่อยู่เนื้อการควบคุมลึกสุดกลางกายก็ตอดรัดเขาถี่ๆ ตามธรรมชาติ เธอแอ่นตัวแหงนหน้าเรียกชื่อเขาแล้วปลดปล่อยอย่างรุนแรง “พี่...ฤทธิ์...กรี๊ดดด” กลีบบัวหลับหูหลับตากรีดร้องลากเล็บกรีดแผ่นหลังเรียบตึง อิทธิฤทธิ์นิ่วหน้าหายใจหอบคลี่ยิ้มด้วยความพอใจเขาเร่งจังหวะตั้งใจจะดึงหล่อล่ำออกมาข้างนอกเพื่อปลดปล่อยหยาดฝนรินรดกลีบบัว แต่ไม่ทัน เขากระชากออกมาไม่ทัน “อ๊าก!!!...” อิทธิฤทธิ์คำรามลั่นตัวสั่นเยือก เธอหนีบเขาไว้แน่นจนเกินไป ไหนๆ ก็ไหนๆ เขาเลยกระแทกกลับไปอัดตัวนิ่งอยู่ในปลอกกายอันแสนอบอุ่นนุ่มแน่นกระชับ ชอบความรู้สึกที่แก่นกายแกร่งโดนตอดรัด “เมื่อไหร่จะพอ” เธอถามเสียงสะอื้น “ฉันก็อยากรู้เหมือนกันเมื่อไหร่เธอจะทำให้ฉันอิ่ม” เขาดูดดุนทรวงเนื้อที่สะท้อนขึ้นลง รอบๆ ฐานตลอดจนปลายถันเป็นสีช้ำด้วยแรงดูด ไม่ต่างจากเขาแผงอกกว้าง แผ่นหลัง และท่อนแขนเต็มไปด้วยรอยขีดข่วน กลีบบัวหลับตาแน่นเผลอสะบัดหน้าเมื่อโดนจูบเบาๆ ที่พวงแก้ม “โกรธอีกล่ะสิ ขี้งอนจัง ฉันพยายามถนอมที่สุดแล้วนะแต่เธอไม่ช่วยเลย ขอให้ฉันแรง” “ตอนไหนกัน” เธอตวาดแว้ดสะบัดหน้าปัดมือเขาออก “ตอนที่เธอสะบัดสะโพก เด้งๆ และก็เด้งๆ โยกใส่ฉันอย่างบ้าคลั่งใครจะไปทนได้ ฉันเจ็บเป็นเหมือนกันนะเสียวชะมัดหัวใจจะวายเสียให้ได้” “พูดพอรึยัง” เธอก็อายเป็นนะ “พอแล้วล่ะ ทำต่อนะ” “ไม่นะ หนูจะเข้าห้องน้ำ” เธอสะบัดตัวแรงแต่ไม่หลุด “ยัยหนู อย่าดิ้นสิเล่า” “หนูเจ็บไม่เอาแล้ว จะเข้าห้องน้ำปวดฉี่” คงแสบน่าดู “ไม่เจ็บหรอกแป๊บเดียวนะ ถ้าอั้นไม่ไหวก็ฉี่ใส่ฉันได้เลย” “คนบ้า” อิทธิฤทธิ์จุ๊บพวงแก้มสองข้างหยุดนิ่งที่กลีบเนื้อรูปกระจับแดงช้ำดูดกลืนเสียงอู้อี้เอาไว้ พร้อมกับขยับสะโพกซอยเนินนาบ ‘ที่นอนมึงนี่เด้งได้ใจจริงๆ กูไม่ต้องออกแรงขย่มมาก ช่วยออมแรงได้เยอะเลยนะเพื่อนรัก’ “เสี่ยบ้า ให้หนูพักบ้างสิถึงจะเสียวแต่ก็เจ็บนะเว้ย” เฮ้ย!แล้วหมวกกันน็อคล่ะ ‘อย่ายอมเด็ดขาดถ้าเขาขอมีอะไรด้วยโดยไม่สวมหมวก’ ‘เขามีความสุขแต่จะทิ้งความทุกข์ไว้ให้เรา’ ‘ตัวเราสะอาดแต่ตัวเขาเราไม่รู้’ คำสอนของพี่ๆ ดังก้องในหัวแต่มานึกได้ตอนเขาเอาไปแล้วหนึ่งครั้ง สองครั้ง ครั้งที่สามกำลังจะเริ่ม ซวยล่ะ อิทธิฤทธิ์หูอื้อตาลายจนไม่ได้ยินอะไร เธอคับแคบบีบรัดจนเขาขนลุก ยิ่งโยกยิ่งมัน “เสี่ยหยุดก่อน” เธอเกร็งสะโพกขืนตัวเอาไว้ดันกล้ามเนื้อหน้าท้องที่เป็นลอนแข็งไม่ให้กดทับลงมาเมื่อไม่ได้โยกความเป็นชายจึงปักค้างคา เจ็บก็เจ็บ กลัวก็กลัว กลีบบัวทั้งผลักและทุบตีแต่เขาไม่สะดุ้งสะเทือน “เรียกฉันว่าพี่” เขาตบสะโพกเธอดังป้าบขณะบดความเป็นชายนวดกลีบบัวเธอ “โอ๊ย เจ็บนะ” “เรียกพี่ฤทธิ์สิ” “บ้าเอ๊ย แก่แล้วนะต้องเรียกอาสิ อย่าทำเป็นวัยรุ่น” “บ๊ะ...ไอ้เด็กคนนี้ เดี๋ยวโดน” เขาฟาดเธออีกป้าบพร้อมกับออกแรงนวดไอ้หล่อล่ำลงบนเม็ดบัวสีชมพูเหนือกลีบบัว หึ...ปากแข็ง ขนแขนสแตนอัพ ดูดรัดเขาซะหนุบหนับ แต่ยังจะปากเก่งเดี๋ยวเถอะจะล่อให้สะโพกร่อนไม่ติดฟูก “พี่ฤทธิ์ปล่อยหนูนะคะ หนูจะเข้าห้องน้ำ” “ค่อยเข้า ให้ฉันอิ่มก่อนเธอเรียกร้องจากฉันไปมากพอแล้วนะ ถึงตาฉันบ้างสิ อยู่นิ่งๆ” อิทธิฤทธิ์สบถอย่างหงุดหงิด กลีบบัวเบิกตากว้าง คนอย่างนี้ก็มีด้วยเดี๋ยวฉี่ใส่เสียหรอก “หนูปวดฉี่ ได้ยินมั้ยว่าปวดฉี่” “แป๊บเดียว ถ้าทนไม่ไหวก็ฉี่ใส่ฉันได้เลย” บ้าเอ๊ย...ให้มันได้อย่างนี้สิ บ้ากว่านี้ยังมีอีกมั้ย “งั้นก็ใส่หมวกก่อน” เอากันให้ตายไปข้างแต่ต้องป้องกัน “ไม่ต้องใส่” “ต้องใส่ ไม่ใส่หนูไม่ให้เอา” “ที่เอาไปแล้วล่ะ ใส่ซะหมดก๊อกล้นกลีบ” “ก็หนูลืมไม่ทันคิด พี่ฤทธิ์อย่าเห็นแก่ตัวสิเกิดหนูท้องขึ้นมา ก็ซวย” “อุวะ ท้องกับเสี่ยฤทธิ์นะเว้ย ใครบ้างไม่ดีใจมีแต่เธอเท่านั้นแหละที่คิดว่าซวย” “พี่รับไหมล่ะ ถ้าหนูท้องน่ะ” “มันใช่เวลาที่มาพูดตอนนี้มั้ย ให้ท้องก่อนสิ ตอนนี้ฉันอยากจะแย่แล้วนะหยุดต่อรองเลิกออกคำสั่งกับฉันเสียที” “เฮ้ย รอให้ท้องก็โง่น่ะสิ หนูไม่ยอมหรอก” ที่ยอมไปแล้วจะท้องหรือเปล่ายังไม่รู้เลย “แล้วจะให้ทำยังไง มันทรมานนะ” อิทธิฤทธิ์ส่งค้อนให้ราวกับเป็นผู้หญิง เธอดันมาขัดจังหวะเอาตอนเข้าด้ายเข้าเข็ม “ก็ออกไปสิ เสี่ยถอนไอ้หล่อล่ำออกไปสวมหมวกก่อนแล้วค่อยกลับเข้ามาใหม่” อิทธิฤทธิ์แทบจะหลุดหัวเราะออกไป ความเป็นชายของเขากลายเป็นไอ้หล่อล่ำของเธอไปแล้ว “อุวะ กว่าจะเข้าได้มันยากนะเว้ย” “แต่หนูกลัวโรค กลัวท้อง พี่ฤทธิ์เอาไอ้หล่อล่ำออกไปสวมหมวกก่อนเถอะนะคะ นะ” อิทธิฤทธิ์หัวเราะก๊า

ความเป็นชายคึกแข็งมันคิดถึงช่องทางนุ่มแน่นที่ตอดรัดได้ถึงอกถึงใจ การกระทำของผมจึงเปลี่ยนไป รีบถอดชุดนอนของเธอทิ้งไปแล้วหอมก้นนุ่มแน่นเบาๆ ก่อนจะผละขึ้นด้านบนดูดผิวนุ่มเนียนลงมาถึงแผ่นหลังขณะที่มือข้างหนึ่งรั้งเอวคอดกิ่วเอาไว้ มืออีกข้างสอดอยู่ใต้ร่างกำลังลูบไล้ทรวงอกอวบ วลันดากึ่งหลับกึ่งตื่นเช่นเคย ผมแลบลิ้นเลียที่ร่องหลังขณะลากมือผ่านสีข้างลงมาถึงโค้งสะโพก “อื้อ” เสียงครางดังขึ้นเบาๆ วลันดาคงจะเสียวเพราะตอนนี้ผมเลื่อนมือสองข้างมาจับแก้มก้นให้แยกอ้า จมูกและปากผมก็ซุกอยู่ตรงนั้นโดยไม่นึกรังเกียจ ดมและเลียลากลิ้นลงมาด้านล่าง ความเสียวทำให้ร่องรักสั่นระริกผมปาดลิ้นลงไปเบาๆ ผืนเนื้อนุ่มหยุ่นแดงฉ่ำเป็นมันวาว เธอครางซี๊ดและส่ายก้นดุ๊กดิ๊ก แล้วใครจะทนไหว ผมผละออกมาด้วยความเสียดายแต่ไม่ลืมประกบปากดูดเร็วๆ หนึ่งครั้งให้เธอครางเสียงดัง แล้วจับท่อนเนื้ออวบล่ำรูดรั้งเบาๆ ก่อนจะจ่อไปที่ทางเข้า ผมใช้นิ้วแหวกสองกลีบแล้วมุดหัวเข้าไป “อ๊า...ซี๊ดดด” เสียวจนเลือดขึ้นหน้าขณะเกร็งท่อนขาดันความกร้าวแกร่งผ่านความนุ่มลื่นคับแน่นเข้าไปทีละนิดเพราะอยากซึมซับความรู้สึกเสียวขณะที่ท่อนลำครูดไถผนังอ่อนนุ่มเข้าไป ที่สำคัญคือไม่อยากให้เธอตื่นขึ้นมาในตอนนี้ ผมสั่นเยือกเมื่อได้ซุกซบอยู่ในรวงรังอุ่นจัด ต้องแช่ตัวนิ่งและสงบอารมณ์ชั่วขณะ แล้วผมก็ค่อยๆ ลากมันออกมา แล้วใส่กลับเข้าไป ทำซ้ำๆ เนิบช้า เสียงสูดปากครางดังเบาๆ ได้เวลาที่ผมจะเร่งความเร็วแล้ว “ลุง! อะไรกันนี่” เพราะท่อนเนื้ออวบล่ำผลุบเข้าผลุบออกในจังหวะหนักหน่วงร้อนแรงวลันดาจึงตื่น ผมบิดปากเป็นรอยยิ้มส่งให้เธอที่เหลียวมามองขณะสองมือจับแก้มก้นตรึงไว้แน่นไม่มีทางหลุด แล้วตะบี้ตะบันเร่งความเร็ว “มีความสุขไปด้วยกันวลันดา” “อื้อ คนบ้า ลุงบ้าที่สุด” “คนบ้าที่รักหนูไง” ผมถอนสายตาจากใบหน้าเย้ายวนเพื่อจ้องมองจังหวะกระแทก ท่อนลำมันปลาบเคลื่อนตัวเข้าออกผ่านร่องรูเล็กแคบกลางสองกลีบที่แยกอ้า ภาพเย้ายวนเร้าอารมณ์ดิบในกายให้ลุกฮือ เหมือนสาดน้ำมันเข้าใส่กองไฟ ผมโหมแรงกระแทกวลันดาจนเธอกรีดร้องและกล้ามเนื้อกระตุกตอดเป็นจังหวะถี่ๆ ครั้งนี้ผมยอมปลดปล่อยอย่างรวดเร็วเพื่อไปพร้อมกับเธอ ไม่อั้นเอาไว้ “หนูดา หนูดา โอย หนูดา หนูสุดยอด” ผมรวบร่างเธอเข้ามากอดเอาไว้แน่นขณะอัดกายกระแทกดังปับเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็ปลดสลักระเบิดอารมณ์ปล่อยความเสียวให้แตกตูม คลื่นพิษสวาทส่งผ่านลำกล้องพุ่งออกไปรุนแรง อ๊า...โล่ง สบายตัว เสียงวลันดาบ่นงุ้งงิ้งที่ผมเข้ามาลักหลับเธอแต่ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ไม่ผลักไสปัดป้องเหมือนคราวก่อนๆ อาจกำลังเหนื่อยหรือเพราะอะไรผมไม่อยากหาสาเหตุในตอนนี้ ตอนที่กำลังมีอารมณ์อยากจัดอีกหลายๆ ครั้ง วลันดาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี บางท่วงท่าที่เคยปฏิเสธก็ยอมให้ทำ “เดี๋ยวก็แสบอีกหรอก หลายครั้งแล้วนะคะ” “รู้น่า ฉันไม่ใช่เด็กอ่อนหัด” “แล้วครั้งนั้นทำไมแสบ” “ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกของเรา” “ลุงช่างแถ” “พูดมากแบบนี้ยิ่งทำให้ช้า เดี๋ยวก็ไม่ได้นอนหรอก” เปลี่ยนไปหลายท่าจนตอนนี้วลันดาหันศีรษะไปที่ปลายเตียง ผมขย่มให้เธอครางอีกครั้ง ร่างเล็กกอดผมไว้แน่นเหมือนลูกลิง ไม่ว่าจะเล่นกันกี่ท่าแต่เราชอบที่จะจบเกมรักของค่ำคืนนั้นในท่าเบสิก “หนูเสียวมากมั้ยวลันดา” “ลุงชอบพูดทะลึ่ง” เสียงเธอสั่นๆ “ก็อยากรู้ เสียวมั้ย เสียวมากขึ้นหรือเปล่า” “...” หึๆๆ ประท้วงไม่ตอบก็ต้องโดนอย่างนี้ ดวงตาใสแจ๋วลืมขึ้นมองผมด้วยความสงสัย ทำไมจึงหยุดขยับ “พักเหนื่อย หรือว่าพอแค่นี้ดีนะ” “ลุง!” เธอทุบอกผมแล้วทำหน้างอ “อยากได้หรือเปล่าล่ะ ตอบสิ ไม่ตอบไม่ให้นะ” “อยากได้” หลับตาตอบเสียงเบา “อยากได้อะไรครับ” “อยากได้ไอ้หัวดื้อ” หือ...ไอ้หัวดื้ออีกแล้ว ความเป็นชายมึงมีชื่อใหม่ให้เรียกแล้วว่ะไอ้ราม แต่ผมก็ยอม อย่างนั้นก็มาฉลองกันหน่อย “งั้นให้ไอ้หัวดื้ออีกสักทีนะ อย่าเพิ่งจบ” เปลี่ยนเป็นลุกขึ้นนั่งและจับเธอให้นั่งคร่อมตัก วลันดาประท้วงว่าเหนื่อยแต่ยอมเป็นฝ่ายขย่ม “ช้าๆ ไม่ต้องรีบ” บีบเอวเล็กรั้งเอาไว้เพื่อกำหนดจังหวะ “อย่างนั้นแหละ เยี่ยม” เธอเก่ง ผมสูดปากครางลั่นเมื่อโดนบดคว้านหนักหน่วง ไฟร้อนในกายใกล้ปะทุจนต้องเร่งเด้งหน้าขาพร้อมกับซุกหน้าลงกับสองเต้าที่กระเพื่อมไหวโยกโยนเพราะแรงขย่ม ก๊อกๆๆ “หนูดา” ยัยแม่มดปีศาจมา ฉิบหายแล้วลืมล็อกประตู ผมไม่ได้กลัวลันตาเพราะตั้งใจเปิดเผยเรื่องนี้ให้ทุกคนรู้อยู่แล้วแต่เป็นห่วงความรู้สึกวลันดา ทว่าคิดอีกทีก็ดีเหมือนกัน ให้เธอได้รู้เช่นเห็นชาติแม่ผู้ให้กำเนิด ประตูเปิดผลัวะเข้ามาแล้วลันตาก็ยืนอ้าปากค้างเพราะเธอช็อก ผมรีบหลับตาแสร้งทำเป็นไม่เห็นขณะจับแก้มก้นสองข้างของวลันดายกขึ้นสูงแล้วค้างเอาไว้ให้ลันตาที่กำลังมองมาเห็นว่าท่อนลำผมมันคึกแข็งเพียงใด แล้วรั้งแก้มก้นให้ลงต่ำค่อยๆ สวมสอดครูดไถลงไป จากนั้นก็เปลี่ยนจังหวะ “เอาเลยวลันดา จัดหนักให้ลุง โยกขย่มไอ้หัวดื้อให้หมดฤทธิ์” ผมเปลี่ยนมาสวมกอดเธอไว้ในอ้อมแขน ให้วลันดาได้แสดงฝีมือให้เต็มที่ “ซี๊ดดด” ผมครางเสียงดังเมื่อวลันดาเริ่มขย่ม “แรงอีกหนูดา แรงอีก” วลันดาครางลั่นผมรู้ว่าเธอใกล้จะเสร็จแล้วจึงลืมตามองไปที่ลันตา เธอยังไม่หายช็อกหรือว่าอยากดู ผมนึกสงสัย เพราะรสนิยมทางเพศที่โลดโผนของเธอทำให้เดาไม่ออก ลันตาอาจจดจำภาพนี้ไว้เพื่อจินตนาการในยามมีเซ็กซ์กับคู่นอนของเธอก็ได้ หรือเธอหวังจะมีกับผม “ลุง ลุง” วลันดาร้องกระหืดกระหอบ “ไปเลยยอดรัก ไปให้ถึงพร้อมลุง” ผมเด้งหน้าขากระทุ้งความเป็นชายขึ้นด้านบนขณะสายตาจับจ้องอยู่ที่ลันตา กรี๊ดดดด เป็นเสียงกรีดร้องของลันตาที่ดังลั่นมาจากประตู เธอเพิ่งได้สติและเปล่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดออกมาพร้อมกับที่ผมและวลันดาไปถึงจุดสุดยอดรุนแรง สุขสมรุนแรงที่สุดในชีวิตตั้งแต่มีเซ็กซ์มาเพราะสีหน้าเจ็บปวดของลันตา มึงล้างแค้นให้ก้อยได้สำเร็จแล้วไอ้ราม “นังลูกชั่ว สารเลว” “แม่” วลันดาตัวแข็งทื่ออยู่บนตักผม วลันดาไม่ได้ยินเสียงเคาะประตู กระทั่งประตูเปิดออกและลันตาได้สติส่งเสียงกรีดร้อง เพราะวลันดากำลังหูอื้อตาลายอยู่กับเซ็กซ์ที่เร่าร้อน

มือใหญ่แยกลอนสะโพกสองข้างออกจากกัน ยลความงามชัดๆ เต็มสองตา ไม่มีรอยดำแม้แต่นิดเดียว ช่องทางทั้งสองทั้งหน้าและหลังมีสีชมพูสดสะอาด จนได้กลิ่นหอมคาวสวาทเมื่อก้มลงไปชิด สาบานว่าแก้ผ้าผู้หญิงมาเกินร้อย ตลอดชีวิตหนุ่ม แต่ไม่เคยเจอเนื้อในผู้หญิงคนไหนงามหมดจดเช่นฟองจันทร์มาก่อน เนื้อในสดสะอาดสีชมพูแทรกตัวโดดเด่นอยู่ตรงกลางระหว่างผิวสีนมสด อาชญากรอยากเชยชมอย่างอ่อนโยนทะนุถนอมพอๆ กับอยากบดขยี้ให้ถึงใจ หนุ่มใหญ่ซุกหน้าเข้าหาลอนสะโพกหนั่นแน่นสูดดมเหมือนชายโรคจิต คลั่งไคล้ในส่วนลี้ลับของหญิงสาว จมูกและปากจูบไซ้ฟัดฟอนแทนฝ่ามือ ดูดเลียขบเม้มขย้ำไปทั่วลอนเนื้อนุ่มที่ดีดเด้ง แล้วก็เผลอกัดด้วยความมันเขี้ยวจนเป็นรอยฟัน หยาดน้ำเหนียวๆ เลอะใบหน้าทำให้หนุ่มใหญ่ชะงักแล้วยิ้มคล้ายแยกเขี้ยวชิดเนินเนื้อขณะจ้องมองนิ่ง หลับ ไม่หลับ กึ่งหลับกึ่งตื่นด้วยฤทธิ์เบียร์ เป็นไปได้ทั้งนั้น อย่างนี้ต้องพิสูจน์ เขาดูดที่กลีบเนื้ออูมเบาๆ สะโพกกระตุกนิดเดียวแล้วสงบนิ่ง เธอไม่ได้หลับ ใช่หรือเปล่าฟองจันทร์ “อาไม่ถามนะ ว่าเต็มใจให้อามีอะไรด้วยหรือเปล่า เพราะการตอบตกลงแต่งงานกับอา ก็หมายถึงว่าเต็มใจเป็นเมียอา ดังนั้นต้องทำหน้าที่เมีย” ร่องรอยที่โดนกระแทกเสียดสีเมื่อตอนกลางวันยังคงมีให้เห็นอยู่จางๆ แต่เป็นเพราะผิวที่ขาวจัดมากกว่าจึงยังทิ้งรอยเอาไว้ ถ้าเจ็บรอยช้ำต้องมีมากกว่านี้ อาชญากรมั่นใจว่าเธอทำหน้าที่เมียได้แล้ว เวลาเดียวกันนั้น คนที่แกล้งหลับแอบสะดุ้ง เขารู้ทันเธอใช่ไหม ฟองจันทร์แทบจะร้องไห้ อายแสนอายที่เขารู้ทัน เธอไม่ได้หลับ แค่มึนหัว มือไม้อ่อนแรง หลับตานิ่งๆ ชั่วระยะเวลาไม่กี่นาทีก็รู้สึกดีขึ้น แต่เธอน้อยใจเขาก็เลยแกล้งหลับเป็นการประท้วง “ถึงไม่เต็มใจก็ต้องทำ หนียังไงก็หนีไม่พ้น” เขารุกต่อพร้อมกับลิ้นที่จ้วงลึกลงไปในซอกเนื้อ สิ่งที่อาชญากรทำนั้นได้ผล ไม่ว่าใครย่อมทนไม่ได้ เมื่อโดนปลุกเร้าด้วยชายที่ตนเองรัก ฟองจันทร์วาบลึกจนถึงแก่นใจ ความอายที่ถูกเขารู้ทันหายสิ้น กลายเป็นขัดเขินกับความใกล้ชิดที่ยังไม่เคยชิน “อ๊ะ” เสียงนั้นแทบไม่หลุดพ้นจากลำคอฟองจันทร์ “เมียที่ดีต้องตามใจผัวนะจี๊ด อาจะบอกให้ ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหนห้ามขัดใจผัว” “ค่ะอา” ใช่ เขาพูดถูก สองมือจิกผ้าปูที่นอนแน่นเมื่อโดนปลุกเร้าแรงขึ้น ปากและลิ้นของเขาทำให้เธอต้องยกสะโพกสูงจากที่นอน ทนนอนเงียบต่อไปไม่ไหว โต้ตอบกลับไปด้วยเสียงแหบพร่าสั่นระริก “อาก็ทำหน้าที่...เอ่อ...สามีด้วย ใช่มั้ยคะ” “หืม...” เขาเลิกคิ้ว ชะงัก ซบหน้านิ่งที่เนินสวาทด้านหลัง ฟองจันทร์เลียริมฝีปากที่แห้งผาก เรียกความกล้าให้ตัวเอง หน้าท้องแขม่วเกร็งทรมานด้วยความต้องการที่ไม่ได้รับการปลดปล่อย “อาอายุมากกว่าจี๊ด อาต้องรู้ว่าหน้าที่ของสามีที่ดีมีอะไรบ้าง ใช่ไหมคะอา” หญิงสาวผ่อนลมหายใจสั่นพรู พยายามควบคุมสติเอาไว้ อยากอ้อนวอน อยากร้องคราง อยากร้องกรี๊ดๆ ระบายความต้องการที่ไม่ได้รับการปลดปล่อย “ใช่ อารู้ ว่าผัวมีหน้าที่ทำให้เมียมีความสุข และอามั่นใจว่าทำได้” ที่เขาพูดครอบคลุมหมดทุกเรื่อง ยกเว้นหัวใจ ซึ่งก็รู้อยู่ว่าเขาให้เธอไม่ได้ “จี๊ดเชื่อค่ะ” “เราเคยตกลงกันแล้วก่อนแต่งงาน และอาก็รักคุณหนู” จี๊ดต้องไม่บังคับเรียกร้องความรักเอาจากอานะ เพราะอาไม่มีให้ และอาไม่ชอบให้ใครมาเซ้าซี้ด้วย มันน่ารำคาญ ใช่ เธอรู้ ฟองจันทร์ตัวชา หัวใจปวดแปลบ ความวาบหวามเสียวซ่านลดฮวบ เขาพูดตอกย้ำทำไม เจ็บคนเดียวไม่พอใช่ไหม ฟองจันทร์ไม่รู้จักพอ เมื่อได้ครอบครองร่างกายก็อยากได้ความรักจากสามีด้วย ซึ่งมันเร็วเกินไป แต่เธอห้ามหัวใจไม่ให้รู้สึกเจ็บปวดไม่ได้ “รักข้างเดียว มันเจ็บพิลึก ถ้าหากผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เสี่ยย้ง อาอาจช่วงชิงคุณหนูมาครอบครอง คุณหนูไม่รัก อาไม่สน ขอแค่ได้รักและได้ครอบครอง อาก็มีความสุข แต่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ อาต้องยอมรับ” ดวงตากลมโตไหวระริกก่อนจะปิดลงปล่อยให้หยาดน้ำซึมเปียกหมอน หากรักเขาก็ให้พอใจแค่ได้ครอบครอง เพราะความรักของเขานั้นมอบให้นายหญิงของเธอไปหมดแล้ว เธอยอมรับมาตั้งนานแล้ว ต่างฝ่ายต่างเจ็บ แต่ใครจะเจ็บกว่า ระหว่างได้แต่มองไม่อาจครอบครองไม่ว่าตัวหรือหัวใจ กับอีกคนที่ได้ครอบครองร่างกายที่ไร้หัวใจ ฟองจันทร์ตอบกลับไปเสียงอู้อี้ว่า “ค่ะอา” แล้วกัดริมฝีปากให้เจ็บ เค้นเสียงพูดออกไปว่า “แต่อาจะเป็นของจี๊ดคนเดียวใช่มั้ยคะ” “ใช่ อาขอสาบาน อาจะไม่มีผู้หญิงคนอื่น นอกจากจี๊ดคนเดียว” “ขอบคุณค่ะอา” เธอเชื่อทุกคำพูดที่เขาพูด “อาพร้อมจะทำหน้าที่ผัว จี๊ดล่ะ พร้อมจะทำหน้าที่เมียรึยัง” “ค่ะอา” ตอบแล้วก็ซบหน้ากัดหมอนด้วยความอาย และเขาต้องรู้ว่าเธออาย เพราะมือเธอจิกหมอนแทบขาด ขณะที่พูดอาชญากรก็เริ่มทำต่อจากที่ค้างไว้ มือใหญ่บีบเคล้นแยกลอนสะโพกสองข้างออกจากกัน “ถ้าอาจะเอาหลายๆ รอบโม๊ะไหวหรือเปล่า” เขาเกรงว่ารอบเดียวจะไม่พอ สายตาคมเข้มเพ่งมองนวลเนื้อตรงหน้าอย่างละเอียดอีกครั้ง “ไหวค่ะอา” แก้มร้อนแทบไหม้ ถามตรงเสียเหลือเกินไม่มีอ้อมค้อม ผู้หญิงผิวขาวเวลาโกรธหรืออายจะดูง่ายมาก ฟองจันทร์นอนคว่ำใบหน้าแนบหมอน แต่เห็นใบหูแดงก่ำ และเมื่อเลื่อนสายตาลงต่ำก็พบว่าเธอแดงไปทั้งตัว ไม่ใช่โกรธแต่อาย มือใหญ่เลื่อนมาวางบนลาดสะโพกกลมมน ลูบคลำนวดเฟ้นอย่างพออกพอใจ ชื่นชอบที่ผิวสาวนั้นนุ่มเนียนทว่า เต่งตึง หนั่นแน่นลื่นมือ ฟองจันทร์สะดุ้งเมื่อนิ้วใหญ่รุกคืบเข้ามาในกาย อา! แค่นิ้วเดียว ซี๊ด!! โอว!! เธอสั่นระริกเพราะนิ้วที่หมุนวนอยู่ร่องลับ อาขาอา ซี๊ด!! อาขา อื้อๆๆ จี๊ดเสียว จี๊ดเสียว เธออยากร้องบอกออกไปอย่างนั้น แต่ความจริงได้แต่กัดปากแน่น แทบกลั้นหายใจ ปับๆๆๆๆ เสียงกระแทกนิ้วดังลั่นผสานเสียงลมหายใจ ไร้เสียงครวญคราง อาชญากรขัดใจเกือบเป็นหงุดหงิดเมื่อหญิงสาวกลั้นเสียงร้องคราง ทั้งที่ร่องลับอันคับแคบเคลื่อนไหวบีบรัดนิ้วมือเขา และเมื่อกระแทกนิ้วถี่ๆ อีกสองสามครั้งสะโพกขาวก็สั่นระริกแก้มก้นขมิบเกร็งหยาดน้ำขาวข้นหลั่งออกมาอาบมือเขา นี่เป็นสัญญาณบอกว่าเธอสุขสมพบความสุขรวดเร็วแค่เขาขยับมือไม่กี่ครั้ง แล้วจะต่อต้านอารมณ์และความรู้สึกตัวเองไปเพื่ออะไร โอวววว แค่นิ้วเธอก็แทบ

“แล้วร้องเสียตกใจ ไหนดูสิ” จู่ๆ ก็ยกขาเธอขึ้นมาวางบนตัก กระถินร้องอุทานลั่นเพราะเกือบหงายหลัง และจากนั้นก็ “ลุง! อย่า” ไม่ทันแล้ว เขาก้มลงไปจูบที่ปลีน่อง “กินเนียนก่อนได้หรือเปล่า” เขาถามเสียงพร่าขณะจูบลากไล้ไต่ขึ้นมาจนเหนือเข่า กระถินหาคำตอบให้เขาไม่ได้เพราะสาวน้อยกำลังปั่นป่วน “นะ เนียนขี่ม้าก่อน” เขาทำเสียงอ้อน ลุงใจร้าย เนียนไม่อยากตามใจหรอกนะ กระถินพ้ออยู่ในใจไม่กล้าพูดออกไปแต่ทำหน้างอ อยากได้ก็ทำเองสิ “ไม่นะลุง” สาวน้อยหน้าร้อนวาบเมื่อเขาลากมือเข้ามาคลำในร่มผ้า เพราะส่วนนั้นของเธอฉ่ำตั้งแต่โดนจูบน่อง เธอนิสัยไม่ดีที่ตื่นตัวต่อสัมผัสของเขาได้เร็วถึงเพียงนี้ “เยิ้มแล้วแต่ขี้เกียจขี่ใช่ไหมล่ะ ฉันขี่เองก็ได้” น่าอายไหมล่ะเนียน สาวน้อยส่งค้อนและทำหน้างอ เสร็จกิจหัวเราะอุ้มเธอวางบนตักแล้วจูบแก้มแรงๆ ไปหลายครั้งก่อนจะพูดเสียงนุ่มตาเยิ้มว่า “นะ ฉันขี่ก็ได้” “โอ๊ยลุง” เธอร้องหงุดหงิดด้วยความลืมตัว และทำตาวาวแก้มป่องพองลม “เด็กน่ายัก” เสร็จกิจมองเธอตาปรอยแล้วก้มลงฉกปากนุ่มบดจูบเร่าร้อน ชายหนุ่มควานลิ้นกวาดไล่ล่าลิ้นเล็ก แล้วดูดเป็นจังหวะตอดรัดให้สาวน้อยตัวสั่นผวาเข้ากอดเขาเอาไว้แน่น ชายหนุ่มบดเคล้าไซ้แรงๆ เป็นขยี้ให้เธอร้องประท้วงในลำคอและผลักไสเพราะว่าเจ็บ แต่ความเจ็บนั้นก็นำความเสียวซ่านมาให้กลางกายสาวน้อยเช่นกัน “ขอโทษ ฉันมันเขี้ยว เนียนน่าฟัด อยากฟัดแรงๆ” เขาพูดเสียงพร่าจ้องเธอตาเยิ้ม แล้วก้มลงเลียกลีบปากที่แดงก่ำและบวมเจ่อเบาๆ แต่แล้วก็อดใจไม่ไหวเผลอดูดปากเธออีกจนได้ กระถินขืนตัวไว้แม้จะวาบหวิวที่ท้องน้อยก็ตาม เธอแสบปาก เขาไม่ควรทำรุนแรงเพราะหลังจากเสร็จแล้วเธอแทบจะกินกับข้าวรสจัดไม่ได้เลย “เนียนจ๋า ได้หรือยัง ให้ฉันใส่นิ้วเข้าไปก่อนมั้ย หรือว่าจะให้เบิร์นน้องก่อน” เขาทำเสียงแบบที่เร้าอารมณ์ฝ่ายตรงข้ามได้ดี เขาอ้อนจะให้เธอเอาใจนะสิ กระถินรู้ดี แต่ตอนนี้เธอฝืนไม่ไหวแล้ว “เนียนอยากทำ” สาวน้อยอายจนต้องเอนเข้าซบร่างใหญ่แนบใบหน้าลงกับผิวแกร่งที่อุ่นจัด สูดดมกลิ่นฟีโรโมนเฉพาะตัวของเขาที่เธอเสพติดจนเลิกไม่ได้ด้วยอาการคลั่งไคล้ แล้วกัดขย้ำเนื้อแน่นๆ เสียหนึ่งคำ “เอาให้เร็ว ลุงของเนียนจะไม่ไหวแล้วนะ” เขาเม้มติ่งหูเล็กแล้วดูดแรงๆ กระถินร้อนไปทั่วทุกรูขุมขน กลางกายวูบวาบซ่านเสียว สาวน้อยรีบล้วงบังเหียนม้าของเขาออกมาแล้วไถลตัวลงไปนั่งคุกเข่าที่พื้น จากนั้นก็สูดดมอย่างคลั่งไคล้ก่อนจะจับมันเข้าปากด้วยความเต็มใจเป็นครั้งแรก เสร็จกิจยิ้มด้วยความพอใจซึ่งมีความประหลาดใจแฝงอยู่ด้วย หรือว่าจะชอบให้เขาทำแบบนี้ “เยี่ยมมากเลยเนียน” ดีกว่าทุกครั้ง ชายหนุ่มสูดปากครางสั่นเทิ้มไปทั้งตัว เขาโยกบั้นท้ายส่งความเป็นชายใส่ปากเล็กขณะที่เธอปรนเปรอเขาสุดฝีมือ “เนียนจ๋าเนียน” เขาแอ่นกายบิดเสียว ใบหน้าแดงก่ำแสดงอาการมึนเมาที่ยิ่งกว่าเมาเหล้า “อ๊า” ปากอุ่นนุ่มและปลายลิ้นที่วาดลวดลาย ทั้งดูดรูดรั้ง และกลืนกินเขาอย่างเร่าร้อนทำให้ชายหนุ่มพ่นน้ำออกไปอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่นาที เขาผลักไหล่เล็กพร้อมกับกระชากความเป็นชายออกมาจากปากเธอ ส่วนเธอก็ลุกยืนถอดเสื้อผ้าอย่างเร่งรีบ “เนียน!” เสร็จกิจรู้สึกว่าใบหน้าเขาเห่อร้อนจนแทบระเบิดทั้งที่เพิ่งปลดปล่อยออกไปใส่ปากเล็ก และหลักฐานยังคาปากเธออยู่ ของเหลวจำนวนหนึ่งไหลออกมาที่มุมปาก สาวน้อยกลืนมันลงไปและใช้หลังมือเช็ดมุมปากขณะก้าวขึ้นคร่อมตักเขา “ฉันทำเอง” ชายหนุ่มพลิกตัวกลับจับร่างเล็กให้โน้มตัวเกาะแคร่ เขายืนประกบหลังรวบเอวบางรั้งเธอเข้ามาแนบหน้าขา “ยกขาวางบนแคร่สิ” เขาสั่งพร้อมกับจับขาเธอวาง “อื้อออ” เสียงครางดังขึ้นเบาๆ เมื่อความอลังการสอดใส่มาจากด้านหลัง “ดีเป็นบ้า” ดีที่ออกไปก่อนแล้ว ไม่อย่างนั้นคงแย่ แท่งร้อนถูกดันเข้าไปช้าๆ เขาอยากให้เธอรู้สึกถึงการเสียดสี แล้วก็ทิ่มพรวดรุนแรงจนสุดลิ่ม กระถินร้องลั่นตัวสั่นระริกเพราะความเสียวทั้งที่เขายังไม่ทันจะโยก “ลุง ฮื่อ ลุง” “เสียวใช่ไหมเนียน” “มากๆ เลยค่ะ” สาวน้อยพูดเคล้าเสียงสะอื้นคราง ชายหนุ่มหัวเราะกระหึ่มขณะหมุนวนบดอัดเนิบนาบ สาวน้อยสั่นระริกทรงตัวแทบไม่อยู่ และเมื่อเขาถอนตัวกลับออกไปและทิ่มแทงใส่เข้ามาเธอก็กรีดร้องสะดุ้งผวาตอดรัดเขาถี่ๆ “ลุง เนียน เนียน ออกแล้ว” เธอเสร็จเร็วไม่ต่างจากเขาครั้งแรก ความรู้สึกเกิดขึ้นไวและจบลงไวในนาทีนั้น “สุดยอด” เสร็จกิจโอบกอดร่างเล็กเอาไว้แน่นอัดความเป็นชายบดคว้านชั่วขณะให้เธอสั่นจนหยุดไม่ได้แล้วจึงขยับโยกในจังหวะรัวเร็ว สาวน้อยกำลังบีบรัดเขาหนักหน่วง แต่เขากลับบุกทะลวงรุนแรงต่อไม่หยุดพัก กล้ามเนื้อสาวดูดรั้งดึงดันผลักไส เขาก็ยิ่งออกแรงเสียบแทงเข้าไปและกระชากกลับออกมาถี่ๆ กระทั่งเธอร้องไม่ไหวเขาก็ไม่หยุด ลุงทำเกินไปแล้ว “อื้อ” สาวน้อยสะอื้นตัวสั่นเทา แล้วเขาก็จับให้เธอนอนหงาย วางก้นพาดที่ขอบแคร่ สองขาแบะอ้าให้เขาเห็นสองกลีบที่กำลังอ้าอมความเป็นชายไว้ เสร็จกิจคำรามเสียงกระหึ่ม ชายหนุ่มโจนจ้วงทิ่มแทงลงไปไม่ยั้งแรง ความแข็งแกร่งเสียดสีเนื้อนุ่มเบียดแทรกหยาดน้ำที่เขาพ่นไว้ก่อนหน้านี้ มันอุ่นจัดและนุ่มแน่น เสียงกัดฟันกรอดดังขึ้น “เนียน เนียน” ชายหนุ่มร้องกระหืดกระหอบผสานเสียงเนื้อกระทบกัน ใบหน้าคมสันแดงก่ำขณะดันหน้าขาเสยไปด้านหน้าสุดแรงพร้อมเสียงกรีดร้องก้องกังวาน “ลุง!!” “ตอดเลยเนียน อย่างนั้นแหละ อู้ววว” เขาครางซี๊ด ชายหนุ่มรวบร่างเล็กขึ้นขี่เอวและอัดกระแทกใส่หนึ่งครั้งก่อนจะกดลอนก้นเธอให้แนบชิดแล้วเกร็งหน้าขาบดขยี้ นาทีถัดมาเขาก็ตัวงอกอดรัดร่างเล็กแทบแหลกคามือ ขณะกลั้นหายใจพ่นหยาดน้ำฉีดพุ่งออกไปรุนแรง จากนั้นก็หายใจหอบ “เหมือนโลกจะแตก” กระถินไม่มีแรงจะพูด ชายหนุ่มก้มลงไปประกบปากเล็กแล้วดูดดุนรุนแรงเพราะอารมณ์ยังไม่มอดดับ สาวน้อยแทบจะร้องไห้เพราะเธอไม่ไหวแล้วจริงๆ ม้าเถื่อนจริงๆ ไม่แน่จริงคงรับไม่ไหว บทรักครั้งแรกและครั้งที่สองที่ตามมาติดๆ ไม่มีการเล้าโลมใดๆ ทั้งสิ้น เพราะคนทั้งสองพร้อมตั้งแต่ที่ได้มองหน้าสบตากัน ดวงตาที่เปล่งประกายเร่าร้อนสื่อถึงความต้องการกระตุ้นให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยาโดยเร็วไม่ต้องปลุกเร้า

มิ่งเลื่อนตัวขึ้นไปดูดเต้านมที่ลอยเด่นระริกไหวด้วยแรงหอบหายใจ “อุ๊ย!” หญิงสาวเบิกตากว้างอุทานเสียงหวานกายสั่นระริกอีกครั้งด้วยความเสียวแอ่นอกให้เขากินนมทั้งสองข้างอย่างเอร็ดอร่อยแล้วก็สะดุ้งเฮือกเมื่อติ่งเนื้อโดนลูบคลำพร้อมกับที่เขาประกบปากจะจูบปากเธอหญิงสาวเบี่ยงหน้าหนีพร้อมกับเอ่ยปากห้าม “สกปรกจ้ะ พี่ยังไม่ได้ล้างปาก" "อ้าว ที่ติดปากพี่มันเป็นของเอ็งนะฮ่าๆๆๆ" มิ่งเงยหน้าหัวเราะด้วยความขบขันกับความไม่ประสาของหญิงสาว "ถึงจะเป็นของข้าก็สกปรกจ้ะพี่" พิกุลหน้าแดงก่ำด้วยความอาย "พี่เลียเอ็งยังไม่เห็นว่าจะสกปรกตรงไหนทั้งหอมและหวานจะตายไป" มิ่งกดจมูกหยอกเย้าพวงแก้มเนียนใสจนเห็นเลือดฝาดของหญิงสาววัยกำดัด ชายหนุ่มค่อยๆ เกลี่ยริมฝีปากไปที่เรียวปากอิ่มตึงเขาแลบลิ้นเลียกลีบเนื้อสีสดแล้วทำเสียงฮึ่มๆ ในลำคออย่างมันเขี้ยวก่อนจะกัดเบาๆ “สิจ๊ะ เปิดปากให้พี่ดูดลิ้น” มิ่งวอนขอเสียงหวานปนทะลึ่ง "พี่มิ่ง" พิกุลทุบต้นแขนเขาเบาๆ หลับตาแน่นด้วยความอายแต่ยอมเผยอปากรับให้เรียวลิ้นสากระคายสอดเข้าไปด้านใน หญิงสาวสะดุ้งสั่นสะท้านกอดรัดร่างใหญ่เอาไว้แนบแน่นขณะขยับลิ้นอย่างไม่ประสาแต่พยายามเคลื่อนไหวตามที่มิ่งสอนจนสามารถแลกลิ้นดูดกันอย่างได้อารมณ์ คราวนี้สั่นสะท้านไปด้วยกันทั้งสองคน มิ่งฉวยโอกาสที่หญิงสาวลืมตัวปล่อยอารมณ์อยู่ที่จูบ จ่อท่อนเนื้อตรงกับปากทางซึ่งปิดสนิทแต่ชุ่มฉ่ำโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยแล้วแอ่นกระแทกเข้าไปแต่ไม่ได้ผล เขาจึงจับโคนขาให้อ้ากว้างส่งแก่นกายบดขยี้กลางร่องลากไล้ขึ้นๆ ลงๆ ก่อนจะจับยัดกลับเข้าไปใหม่แต่ก็ไม่เข้าอยู่ดี พิกุลเบ้หน้าด้วยความเจ็บตึงที่ปากทางซึ่งโดนบุกรุกเธอเบี่ยงหน้าหนีจูบเม้มริมฝีปากแน่นเกร็งขาทั้งสองข้างเอามือยันที่แผ่นท้องแกร่งชายหนุ่ม “พี่มิ่ง พี่เอาอะไรมาทิ่มตำข้า พี่รู้หรือไม่ว่าข้าเจ็บ เจ็บจริงๆ นะจ๊ะ” “เอ่อ...” คำพูดไม่ประสาทำให้มิ่งแทบหด “ปลาช่อนพี่ไงจ๊ะ วันนั้นพิกุลเคยจับมันแล้วนี่นา” ชายหนุ่มก็หัวไวเช่นกันและฉวยโอกาสที่เธอยังงงๆ รุกคืบยัดเข้าไปทีละนิด “ปละ...ปลา...ช่อน” พิกุลตะกุกตะกัก “ใช่จ้ะ” มิ่งออกแรงทิ่มผลักดันความเป็นชายฝ่าความคับแคบเข้าไปด้านในจนส่วนหัวของแก่นกายผลุบเข้าไปครึ่งหัว พิกุลกรีดร้องเสียงหลงตัวสั่นเทาทุบตีเขาเป็นพัลวัน “กรี๊ดดด...อูย...เจ็บ...เจ็บ...หยุดก่อนจ้ะ...หยุดก่อน พี่มิ่งข้าเจ็บ ข้าเจ็บจะทนไม่ไหวแล้ว” เสียงพิกุลกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังแหวกความเงียบยามดึกสงัดพร้อมกับอ้อนวอนให้ชายหนุ่มเห็นใจเมื่อกลางกายโดนบุกรุกด้วยด้วยลิ่มเนื้อขนาดใหญ่ทำให้เจ็บปวดสุดที่จะพรรณนา จะขยับหนีก็ขยับไม่ได้เพราะลิ่มเนื้อที่ตอกอัดอยู่กลางกายราวกับท่อนไม้ที่ปักลึกตอกตรึงอยู่บนพื้นดิน “พี่รู้จ้ะ พี่รู้” มิ่งกัดฟันเอ่ยปลุกปลอบทั้งที่เขาเองก็เจ็บหัวไม่ต่างกันในยามที่ฝ่าความคับแน่นเข้าไปข้างในแล้วโดนเธอดูดรัด มิ่งไปต่อไม่ได้ท่อนเนื้อเข้าไปได้แค่ครึ่งเท่านั้นชายหนุ่มแช่ตัวนิ่งให้หญิงสาวผ่อนคลายแล้วกดลงไปใหม่อีกครั้งแต่ราวกับเจอทางตันชนกำแพงนุ่มหยุ่นพอกระแทกแรงๆ ฝ่าเข้าไปก็ปวดแปลบแสบที่หัวเจ็บไม่ต่างกับเธอที่กรีดร้องเสียงดังลั่นเรือน เขาเคยเปิดกรีดความสาวของพิกุลมาแล้วแต่ไม่เจอเหตุการณ์หนักใจอย่างนี้ “พิกุลจ๋า อย่าร้องไห้” ชายหนุ่มแช่ตัวนิ่งยันข้อศอกกับฟากไม่ให้ร่างเล็กด้านล่างรับน้ำหนักของเขา ใบหน้าแดงก่ำเปรอะเปื้อนน้ำตาดูน่าสงสาร ชายหนุ่มจูบซับจนแห้งเหือด “ทำไมเอ็งถึงบอกพ่อให้พี่ถอดกำไลให้ หรือพี่หล่อกว่าพี่เทิด” จริงๆ แล้วผู้นำมีสิทธิ์ถอดกำไลให้หญิงสาวทุกคนในหมู่บ้านยกเว้นว่าฝ่ายหญิงไม่ต้องการและเลือกชายอื่นซึ่งก็ไม่ผิดกฎแต่อย่างใด “ข้ารักพี่” เขาต้องรู้แต่ยังจะถาม หญิงสาวหยุดสะอื้นตอบอ้อมแอ้มเสียงเบาไม่กล้าสบตาคนตัวโตที่จ้องมองเธอแน่วนิ่ง “จริงรื้อ ทำไมเสียงเบาจัง โกหกกันหรือเปล่า” ชายหนุ่มล้อเสียงสูงราวกับไม่เชื่อนัยน์ตาพราวระยับ “พี่มิ่งออกไปข้าอึดอัด” หญิงสาวทุบไหล่กว้างไม่ยอมตอบ “เอ็งแต่งงานกับพี่ทำไมน้า หนุ่มๆ หลายคนในหมู่บ้านที่รอเอ็ง อกหักกันเป็นแถวนะ รู้หรือเปล่า” “พี่มิ่ง” หญิงสาวแหวเสียงดังเมื่อโดนมือหยาบสะกิดยอดอกเบาๆ จนเธอแอ่นกายด้วยความซ่านสยิว ขณะที่กลางกายยังโดนตอกตรึงด้วยลำเนื้อขนาดใหญ่จนเธอไม่อาจเคลื่อนไหวได้ แค่ขยับนิดเดียวก็ปวดแปลบไปทั้งเนินนาง มิ่งพยายามหยอกล้อให้หญิงสาวลืมความเจ็บทั้งที่เขาเองหนักใจจนกลายเป็นเครียด เพราะหลีกไม่พ้นที่จะต้องทำให้เธอเจ็บ “รักพี่จริงๆ หรือเปล่า ตอบหน่อยสิ” เขาจ้องมองดวงหน้าเล็กอ่อนหวานจริงจัง พิกุลชะงักจ้องมองดวงตาที่เคยพราวระยับซึ่งตอนนี้เปลี่ยนเป็นจริงจังเคร่งเครียดของเขาอย่างไม่เข้าใจ ทำไมต้องถามย้ำซ้ำๆ หลายครั้ง ทั้งที่รู้อยู่แล้วและตัวเขาเองก็ไม่ได้รักเธอสักหน่อย “พิกุล ตอบพี่หน่อยสิคนดี พี่อยากได้ยินอีกครั้ง” มิ่งเว้าวอนอ่อนหวานโดยไม่รู้ตัว “รัก พิกุลรักพี่มิ่ง” หญิงสาวตอบซื่อๆ เอียงอาย “รักพี่ก็ต้องทนเจ็บนะจ๊ะ พี่เองก็เจ็บหัวไม่ต่างจากเอ็งยามที่บุกฝ่าช่องทางคับแคบกลางเนินนางเข้าไป” มือหยาบเลื่อนลงไปลูบคลำส่วนที่สอดประสานกัน พิกุลอ้าปากค้างกับคำพูดทื่อตรงของผัวซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจอยู่ดี “เจ็บหัวหรือจ๊ะ” “ใช่จ้ะ คืนนั้นเอ็งได้ลูบหัวปลาช่อนพี่แล้วนี่นา ถึงจะนิดเดียวก็เถอะ” มิ่งขยายความเพราะเมียเขาช่างไม่ประสาเอาเสียเลย “อ๋อ...อุ๊ย...พี่มิ่งทะลึ่ง” ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเข้าใจแจ่มแจ้ง มิ่งฉวยโอกาสที่หญิงสาวเผลอต่อปากต่อคำกับเขาเกร็งลำแขนดันตัวเองเข้าไปเต็มแรง “ฮึ้บ!” ซ้วบ! ชายหนุ่มชนกำแพงนุ่มหยุ่นราวกับกำมะหยี่มุดกายหายเข้าไปด้านในจนสุดลำโคน หนอกเนื้อชนกันแนบสนิทไม่มีอะไรขวางกั้นอีกต่อไป “กรี๊ดดดด” พิกุลบิดกายกรีดร้องเสียงยาวทั้งตกใจและเจ็บปวดทรมานจนน้ำตาไหล “ฮึก...ฮือๆๆๆ” หญิงสาวเบะปากร้องไห้น้ำตาไหลพรู มิ่งก้มลงมองส่วนที่สอดประสานกันก็พบว่ามีเลือดซึมออกมาทั้งที่เคยผ่านการถอดกำไลมาแล้วครั้งหนึ่งแต่เธอก็ยังรับเขาไม่ไหวฉีกขาดอีกจนได้ ชายหนุ่มละเลงหยาดน้ำรอบๆ บริเวณท่อนเนื้อที่ปักคาอยู่ในช่องทางลับซึ่งบีบรัดเขาเอาไว้แน่น

“เฮียขา” สุดปรารถนาดีดเด้งสั่นสะท้าน สองมือไขว่คว้าดึงรั้งให้เขาแนบชิด หน้าขาเปียกชุ่มอัดเข้าหาแก่นกายชายอยากได้เร็วๆ เธอร่าน เธอร้อน เธอต้องการ เพราะฤทธิ์ยาบ้าๆ นั่น สติเพียงครึ่งก่นด่าสิ่งที่เขาทำด้วยความเจ็บปวดใจแต่ยอมรับความสุขที่เขามอบให้ “ใจเย็นๆ ทูนหัว ฉันแทบทะลักอยู่แล้ว” ชายหนุ่มดูดปลายถันสีเข้มจนเป็นมันปลาบขณะฝ่ามือลูบคลึงเนื้อสาวที่อ่อนนุ่มชุ่มฉ่ำ เปียกชื้น เขาจับความเป็นชายลากไล้ถูไถจนทนไม่ไหวสอดใส่เข้าไปในกายนุ่มแน่นที่กระชับและรัดรึง “โอ๊ย...อื้อ” หญิงสาวกัดริมฝีปากร้องครางยามโดนล่วงล้ำ เพชรแท้รู้ว่าหญิงสาวไม่ได้ร้องเพราะเจ็บแต่ร้องเพราะเสียว ผนังอ่อนนุ่มโดนความเป็นชายครูดไถเสียดสีซาบซ่าน ชายหนุ่มกัดริมฝีปากคำรามในลำคอยามส่วนปลายโดนดูดเข้าไปข้างใน อุ่นจัด ชุ่มชื้น ซอกแคบๆ บีบรัดจนเขาเจ็บปวด ทำช้าๆ ไม่ใจร้อนตะกละตะกรามดีอย่างนี้นี่เอง ได้ดื่มด่ำกับรสชาติหวานล้ำเสียดเสียวจนขนลุกซู่ ละเลียดชิมความสุขทีละนิดทีละคืบ “เฮียขา เร็วหน่อย” เขาช้าเหลือเกินไม่ทันใจเอาเสียเลย หย่อนลงมาทีละนิด เสียบเสยทีละหน่อย เขาแกล้งหรือเปล่า “ผู้หญิงมาโซคิสม์” “ข้าวไม่ไหวจริงๆ เฮียอย่าแกล้งสิคะ” กึ่งกลางกายสั่นระริก บีบรัด หน้าท้องกระตุกเสียววาบๆ ทุกครั้งที่เขาหย่อนตัวลงมา สุดปรารถนากัดริมฝีปากผ่อนลมหายใจบรรเทาความทรมาน “ครับๆ ทูนหัว เดี๋ยวเฮียจัดให้” น้ำเสียงสั่นพร่าราวกับจะร้องไห้ทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจทิ่มพรวดไปด้านหน้า “โอ๊ย!!!” “อ๊า!!! สุดยอดแห่งความเสียว สะใจเป็นบ้า” “เฮียขา” หญิงสาวครางเสียงต่ำ สะโพกแอ่นเชิดบดเบียดกับหน้าขาแกร่งของชาย เธอสูดลมหายใจยาวๆ เข้าออกเพื่อเรียกสติตัวเองอย่าให้ร่าน ร้อนเร่งเร้าเขา แต่เมื่อโดนจูบด้วยเรียวปากกระด้างทุกอย่างก็ปลิดปลิวโบกโบยออกไปจากกายในทันที ทำทุกอย่างด้วยความกระตือรือร้นและเต็มใจ เหมือนไม่ใช่ตัวเอง หญิงสาวเหนี่ยวลำคอเขาไว้ และยามที่เขาขยับกระแทกกระทั้นลงไปร่างเธอก็จะเคลื่อนคลอนไปบนที่นอนจนเพชรแท้ต้องสอดมือไปยึดไหล่เล็ก ให้ปลายเท้าสองข้างพาดกับท่อนแขน เรียวขากดทับแนบไปกับลำตัว “ฮื้อ...ฮึ้ม” หญิงสาวแทบสำลักลมหายใจตัวเองด้วยจังหวะร้อนแรงที่กระแทกรัวๆ เนื้อปะทะเนื้อเสียงดังฉาดๆ เธอแทบขาดใจหัวหมุนติ้ว เมื่อเขาออกไปจนสุดแล้วพุ่งตัวลงมาใหม่ปักตรึงหนักหน่วงเต็มแรง ลึก เร็ว รัวๆ เนิบช้า แรง เร็ว ลึก ซ้ำๆ อยู่เช่นนั้น ความเป็นชายราวกับลิ่มไม้ตอกอัดลงบนเนื้อสาวจนหยาดน้ำสาดกระจาย “กรี๊ด!!!” ทาสสวาทของเขากรีดร้องสุดเสียง เพชรแท้หมดความยับยั้งชั่งใจอีกต่อไป เร็วอยู่แล้วก็เร็วขึ้นไปอีกยิ่งเธอปลดปล่อยสายธารเสน่หาอุ่นจัดรินรดแก่นกายชายพร้อมกับรูดรัดรัวๆ ทำให้การตอกอัดแต่ละครั้งให้รสชาติดุเด็ดเผ็ดมันส์ ชายหนุ่มขบกรามแน่นยามกระแทกสะโพกสนองตอบความหิวกระหายของสัตว์ร้ายในกายด้วยท่วงทำนองดิบเถื่อนดุดัน ชายหนุ่มอัดกระหน่ำต่อเนื่อง ความชุ่มชื้นรอบๆ ปากทางที่ความเป็นชายเคลื่อนกายเข้าออกช่วยไม่ให้หญิงสาวเจ็บ ปลอกเนื้อนุ่มเปิดทางให้เขากระแทกเข้าจมมิดแทบทุกครั้ง “ร้องอีกที่รัก ร้องดังๆ” อาอึ้มก็อาอึ้มเถอะ เพชรแท้สติหลุดไปแล้ว ลืมไปเลยว่าญาติผู้ใหญ่จะได้ยิน ชายหนุ่มจูบกลีบปากแดงก่ำซ้ำๆ ขณะกระหน่ำลึก ผ่อนความเร็วให้เธอได้หายใจตอกอัดเชื่องช้าทว่าหนักหน่วง “อ๊า...เฮียขา...เฮีย...เร็วอีก...ขอเถอะ” หญิงสาวครางซี้ดเอ่ยปากวอนขอจังหวะที่เร่งเร้าร้อนแรง “เฮีย” หญิงสาวกรีดร้องเมื่อเขาถอนกายออกจนเกิดความว่างเปล่า “เฮียจัดให้” ชายหนุ่มลำพองใจกับการร้องขอ เปลี่ยนท่าเป็นนอนซ้อนหลัง ขาเรียวพาดกับท่อนขาแกร่ง จับกายท่อนบนของเธอให้เบี่ยงมาหา เขาก้มลงขยี้สองปทุมถันขณะกายแกร่งอัดกระแทกตามคำขอ แทรกลึก โยกวน ขยี้รัวๆ จนเธอแทบแหลกคากายแกร่งหลายต่อหลายครั้ง “เฮีย!!!...อย่าเอาออก” หญิงสาวเปล่งเสียงสูงห้ามเสียงกระเส่าเมื่อเขาดึงความเป็นชายออกไปอีกครั้ง “ใจเย็นๆ โอว...สวยที่สุด” ชายหนุ่มนั่งคุกเข่าจับสะโพกเธอให้ได้ระดับแล้วก้มลงไปหากล้ามเนื้อที่หดเกร็งรอคอยให้เขาเติมเต็ม ชายหนุ่มลูบเบาๆ ก่อนจะซุกหน้าดื่มกินเสียเต็มคราบ “กรี๊ด!!! เฮีย...เฮีย” ร่างเปลือยผวา กระตุก สั่นสะท้าน โคนขาอวบสั่นระริก น้ำหวานสาดกระจายแต่โดนเขาดูดกลืนจนหมด แล้วเธอก็ถูกจับพลิกให้นอนคว่ำ “กรี๊ด!!!” เสียงกรีดร้องระลอกสองดังขึ้นเมื่อโดนเติมเต็มด้วยแก่นกายที่ไม่ธรรมดาของชาย หญิงสาวล้มราบไปกับที่นอน เอวกิ่วโดนมือใหญ่รวบเอาไว้ สะโพกทาบติดกับหน้าขาของเขา “แบบนี้ชอบหรือเปล่า” ชายหนุ่มจับเอวเธอเอาไว้แน่นแล้วควงสะโพกตอกอัดถี่ๆ “เฮีย...เฮีย” เธออึดอัดจนแทบหายใจไม่ออกเมื่อโดนเติมเต็มตอกลึกจนสุดลิ่ม ยิ่งเขาบดขยี้เธอก็หัวใจจะวาย น้ำตาไหลเพราะความเสียวซ่าน “หรือแบบนี้” ชายหนุ่มรั้งเธอให้นั่งบนตัก หมุนตัวให้หันหน้าเข้าหากัน ประกบปากจูบกอดรัดเธอแนบแน่นพร้อมกับขยับกายไปพร้อมกัน สุดปรารถนาหลับตาไม่กล้ามองใบหน้าหื่นกระหาย รับรู้แต่ความรู้สึกดุเด็ดเผ็ดมันของบทรักที่เธอร่วมบรรเลง กลีบนุ่มสีเข้มสวมครอบความเป็นชายขับเคลื่อนด้วยแรงทั้งหมดที่มี ปลายลิ้นเล็กเกี่ยวกระหวัดรัดลิ้นสากระคายของชายหนุ่ม ดูดดึงราวกับหิวกระหายสองมือนวดคลึงผิวกายชุ่มเหงื่อบนแผ่นหลังแกร่งก่อนจะโอบกอดเขาไว้ เธอหูอื้อตาลาย เกร็งหน้าขาขย่มใส่เขาไม่ยั้งด้วยแรงทั้งหมดที่มี “อ๊า...ยอดเยี่ยมที่สุด” เพชรแท้คำรามส่งกายขึ้นด้านบนตอบสนองความมันอัดกระแทกถี่ยิบนำเธอไปพบความสุขรุนแรงสั่นสะท้านด้วยกันทั้งสองคน “กรี๊ด!!!” หญิงสาวกรีดร้องจนเสียงแห้ง ครั้งแล้วครั้งเล่าที่พานพบจุดสุดยอดรุนแรง เชื้อพันธุ์ชัยวนิชภักดิ์อาบล้นกายเธอจนเปียกชุ่ม ค่ำคืนหฤหรรษ์เผ็ดร้อนดำเนินต่อไป หนุ่มสาวละเลียดความสุขพักเหนื่อยด้วยท่วงท่าที่ผ่อนคลายผลัดกันดื่มกินป้อนความสุขให้แก่กันอย่างอ่อนโยน จากนั้นจึงเริ่มใหม่ด้วยจังหวะที่เนิบช้าก่อนจะค่อยๆ เพิ่มความเร็วแรงช่วยกันปรุงแต่งรสรักจนกลิ่นคาวสวาทคละคลุ้งไปทั่วทั้งห้องจนรุ่งสาง

มือใหญ่รัดเอวกลมจับขาเรียวยกสูงค้างไว้ กดลอนก้นนุ่มแล้วเสือกตัวเข้าไปทันที อ๊า...เสือร้องคำรามในใจเมื่อเจอความคับแน่นที่แทบจะมุดเข้าไปไม่ได้ แม้ว่าเธอจะพร้อมมากแล้วก็ตาม ชายหนุ่มไม่อยากหักหาญเพราะกลัวเธอจะต่อต้านทำตัวแข็งเหมือนท่อนไม้อีก เขากัดฟันลากตัวเองออกมาแล้วใช้นิ้วใส่เข้าไปแทน ใจเย็นไว้ไอ้ลูกพ่อ ใจเย็นๆ “พี่เสือ” สร้อยหน้ายู่เพราะโดนนิ้วใหญ่กระแทกเข้าหากลางกายถี่ๆ เขารัวนิ้วใส่เธอขณะดึงเสื้อไปกองเหนือทรวงอกแล้วก้มลงซุกไซ้จนเธอเข่าอ่อนยืนไม่ติด “สร้อยขา คนดีของพี่ หวานเหลือเกิน” พร่ำเพ้อชิดทรวงอกนุ่ม ปล่อยลมหายใจร้อนผ่าวรินรดผิวขาวอมชมพู สร้อยตะครั่นตะครอเนื้อตัว ยอดถันเบ่งบานด้วยลิ้นและริมฝีปากที่ดูดดึงตะกละตะกรามพร้อมกับปลายนิ้วที่รัวใส่กลีบเนื้อกลางกายไม่ยั้ง หญิงสาวเกิดความรู้สึกประหลาดรุนแรงเป็นครั้งแรกชนิดที่ห้ามตัวเองไม่ได้ “พี่ทนไม่ไหว น้องน่ารัก น่ากิน เอาใจพี่หน่อยสิครับ นะครับ นะ” เสืออ้อนเสียงอู้อี้เพราะใบหน้าอัดอยู่กับทรวงอกสาว ขณะที่มือเร่งบดขยี้กระแทกพั่บๆๆ จนเกรงว่าเนื้อนวลจะชอกช้ำ แต่เขามั่นใจว่านิ้วเดียวทำให้เธอเสียวได้โดยไม่บอบช้ำ เพราะนิ้วเขามันเล็กกว่าเดือยเสือมากนัก สร้อยหายใจรัวเร็วเหงื่อผุดพรายทั่วใบหน้าแดงก่ำ แล้วหญิงสาวก็เกร็งตัวค้าง กลางกายตอดรัดนิ้วเขาถี่ยิบ เธอกอดเขาเอาไว้แน่นราวกับตื่นกลัว เสือใช้โอกาสนั้นดึงนิ้วออกมาแล้วใส่ตัวเองเข้าไปแทน ชายหนุ่มเสยกายกระแทกทีเดียวจมมิดขณะกอดรัดร่างเล็กที่สะดุ้งขึ้นสุดตัวเอาไว้ เสียงร้องเหมือนลูกแมวดังขึ้นซึ่งเป็นครั้งแรกที่เสือได้ยิน เสียงนั้นทำให้เสือขนลุก ไม่ใช่เสียงที่แสดงถึงความเจ็บปวดแต่เป็นเสียงที่แสดงถึงความเสียวและเป็นเสียงครางที่เซ็กซี่ที่สุดตั้งแต่ได้ยินมา ชายหนุ่มเต้นตุบๆ อยู่ในกายเธอ เขาอัดตัวแช่แต่บดบั้นท้ายส่ายวน “พี่เสือทำน้องเจ็บ” เจ็บหรือเสียวกันแน่สร้อย มันก็ทั้งสองอย่างนั้นแหละ เธอไม่เคยเจอความรู้สึกนี้มาก่อน ส่วนใหญ่เสือจะบุกตะลุยไปถึงที่สุดจนเธอแทบไม่มีความรู้สึกร่วมด้วย ความสุขมักเกิดขึ้นในวินาทีสุดท้ายเสมอและเพียงชั่วอึดใจเดียวก็หายไป หญิงสาวเงยขึ้นมองเขาแล้วเบ้หน้าคล้ายจะร้องไห้พลางพูดเสียงสะอื้นตัดพ้อคล้ายเด็กน้อยโดนรังแก สร้อยลืมตัว หากไม่ลืมตัวหญิงสาวจะไม่ทำเช่นนี้เด็ดขาด เพราะเธอคิดเสมอว่ามันเป็นหน้าที่ไม่มีสิทธิ์ร้องขอความเห็นใจ น่าเอ็นดูเหลือเกินสร้อยจ๋า “พี่ขอโทษนะครับคนดี” เสือถูแก้มเข้ากับแก้มสาว เนื้อนวลส่วนที่ถูกรุกรานคันยิบๆ และอาบเอ่อด้วยความรู้สึกบางอย่าง สร้อยจิกเล็บลงกับท่อนแขนแกร่งแม้ว่าเขาไม่ขยับแต่ก็แอบขยี้เน้นๆ จนเธอพูดไม่ออก หญิงสาวเกิดอาการคล้ายน้ำลายสออยากกัดเขาให้สาสมใจ เธอพยายามผ่อนลมหายใจช้าๆ ระงับความรู้สึกแปลกประหลาด “สร้อยครับ” เสือก้มลงไปหยอกเอินกับยอดอกตูมที่ปริบาน เขาล้อเล่นจนมันเปียกชุ่มจึงเงยหน้าจ้องมองหญิงสาวที่หลับตาปี๋กัดริมฝีปากแน่น จมูกโด่งสัมผัสแก้มแดงเบาๆ เธอน่ารักน่าเอ็นดู บางครั้งเข้มแข็งแต่บางครั้งอ่อนแอจนน่าสงสารยามโดนรังแก ใจเสืออ่อนยวบ “พี่เสือ สร้อยกลัว พี่ทำเร็วๆ สิ เดี๋ยวมีคนมาเห็น” เพราะเขาเว้นจังหวะ หญิงสาวลืมตามองแล้วรีบหลับตาเมื่อเจอดวงตาอ่อนเชื่อม จ้องมองทำไมนะ ทำเร็วๆ เข้าสิ “พี่เสือขา น้องกลัว” สร้อยพูดเสียงสั่นลิ้นรัวแทบจะจับใจความไม่ได้ สิ่งที่เขาทำนำความเสียวซ่านมาให้แต่เธอกลัวว่าจะมีคนผ่านเข้ามาเห็น “ไม่ต้องกลัวครับ พี่รับรอง น้องสบายใจได้” พี่เสือคนหื่นบดขยี้เนื้อสาวเนิบช้าแทบมองไม่เห็นว่าบั้นท้ายเขาขยับขณะดุนดันทรวงอกเธอเล่นอย่างไม่รีบร้อนและใจเย็น ชายหนุ่มกัดขย้ำเนื้อขาวที่เนินเต้าแล้วไต่ขึ้นไปหายอดถันแตะปลายลิ้นหยอกเย้าเม็ดกลมๆ แล้วงับมันไว้เต็มคำจากนั้นก็ดูดซู้ดๆ แทบไม่หายใจจนโดนหญิงสาวทุบรัวๆ “พี่เสืออย่าเล่น” สร้อยกระซิบร้อนรน กลางกายที่โอบรัดความเป็นชายขยับเคลื่อนไหวแผ่นท้องขาวนวลแขม่วเกร็ง หญิงสาวตัวสั่นเทาขณะหายใจเป็นสะอื้นยกสะโพกบดขยี้กลางกายชาย กดศีรษะเขาแนบอกพร้อมกับคลื่นความร้อนที่รู้สึกเหมือนจะพุ่งสูงจนทะลุร่างเธอไปได้ ผู้ชายหื่นเงยหน้า เขานวดคลึงที่หางตาเรียวเบาๆ เธอลืมตาขึ้น เขายิ้มใส่ดวงตาที่หยาดเยิ้มด้วยพิษเสน่หา สร้อยยังคงมึนงงล่องลอยอยู่บนสวรรค์ชั้นเจ็ด เขากดจมูกหอมแก้มแดงปลั่งซ้ายขวาแล้วยกตัวเธอลอยขึ้น กระชากกางเกงทิ้ง รั้งกางเกงตัวเองลงไปกองที่ข้อเท้า กระเตงเธอไว้บนเอว “พี่เสือ น้องขอร้อง เราแอบกลับไปทำกันบนบ้านก็ได้ ที่นี่มันไม่เหมาะนะคะ น้องกลัวคนเห็น” สร้อยกวาดสายไปรอบๆ บริเวณที่เขาและเธอยืนอยู่ด้วยสายตาหวาดหวั่น “พี่จะรีบทำให้เสร็จ ถ้าน้องทำให้พี่พอใจ” “น้องทำไม่เป็น” สร้อยก้มหน้างุด “แค่ทำตามที่พี่สั่งและทำตามใจตัวเองไม่เหนี่ยวรั้งเอาไว้ อยากขยับก็ขยับ อยากเด้งก็เด้ง อยากจูบก็จูบ อยากครางก็คราง ทำให้พี่กระฉูดเร็วๆ พี่ก็จะหยุดภายในรอบเดียว” “แต่น้องอยากให้พี่หยุดตอนนี้ ไม่อยากให้ทำ ไม่ได้หรือคะ” ไม่ได้ตั้งใจอ้อน น้ำเสียงออดเหมือนมอดกัดไม้นั้นเกิดมาจากความว้าวุ่นใจกลัวใครผ่านมาเห็น “พี่หยุดไม่ได้ ตรงนี้มีแต่เราสองคน น้องไม่ต้องอาย ปล่อยตัวตามสบาย แต่ถ้าน้องอายพี่ พี่หลับตาให้ก็ได้” เขาเอาหน้าผากชนหน้าผากเธอแล้วหลับตา จากนั้นก็เลื่อนใบหน้าลงมาจูบที่จมูกเล็ก “หลับตาแล้วไม่โกง น้องหลับตาด้วยก็ได้ ไม่มีใครเห็นเรา และเราก็ไม่เห็นใคร ขยับสะโพกสิครับคนดี โยกให้พี่คลั่งตายไปเลย มันสนุกนะ ลองดูสักครั้งสิ ทำให้พี่สิ้นฤทธิ์ให้ได้ ปล่อยอารมณ์ อย่าเก็บมันไว้” เขาหว่านล้อมต่อไปอย่างใจเย็น สร้อยหลับตา หญิงสาวรู้สึกถึงลมหายใจที่รินรดลงมาบนใบหน้าแล้วเธอก็ลองขยับสะโพกอย่างที่เขาบอก “ดึงสะโพกออกไป แล้วตอกกลับเข้ามา ทำตัวให้สบาย มีแค่เราสองคน น้องเต็มที่ใส่พี่ได้เลย” “สิครับ พี่รับรองว่าไม่ทำน้องร่วงลงพื้น” หากเขาสั่งก็ต้องทำ เธอมั่นใจว่าจะไม่ร่วงลงพื้นเพราะเขาตัวใหญ่และแข็งแรงมาก หญิงสาวโยกตัวขึ้นลงงุ่มง่ามในครั้งแรกๆ แต่ไม่กี่อึดใจก็เริ่มคล่องขึ้น แก่นกายแข็งกร้าวที่เสียดสีผนังอ่อนนุ่มกลางกายซ้ำๆ กันหลายครั้งทำให้เกิดประจุไฟคล้ายจะลุกท่วม

ร่างหนาขยับขึ้นลงหนักหน่วง แต่ยังเป็นห่วงคนใต้ร่างจึงยังไม่ซอย ทว่าเมื่อขยับเข้าออกหลายครั้งก็รีดหยาดน้ำออกมามากมายทำให้เดินทางได้สะดวกขึ้นท่านจึงเลื่อนไล้กายเร็วรี่ เสียงหวานที่ครางระส่ำและเอวอ่อนที่ร่อนตามทำให้ท่านต้องซอยยิก “นายท่านเจ้าขา นายท่าน ช่วยบ่าวด้วย อ๊ะๆๆ กรี๊ด” ร่างน้อยแอ่นโค้งเกร็งค้างพร้อมกับกรีดร้องเสียงหวาน ท่านเศรษฐีขยับสะโพกเข้าออกถี่ กระแทกกระทั้นสุดแรงพร้อมกับคำรามก้องกระโจนตามดรุณีน้อยไปติดๆ ท่อนแขนแข็งแรงรัดร่างเล็กเอาไว้แน่นขณะปลดปล่อยของเหลวร้อนผ่าวเข้าสู่ซอกลึก “รตี เจ้าดีนักหนา” ท่านเศรษฐีหายใจเข้าแรงก่อนจะก้มลงประกบจูบปากนุ่มดูดกลืนความหวานขณะที่อัดกายนิ่งหลั่งพิษออกไปจนหมดจึงได้เริ่มใหม่อีกครั้ง เรือนร่างกลมกลึงอรชรอ้อนแอ้นทอดกายอ่อนระทวยบนฟูกนอนนุ่มหนา ดวงตาหลับพริ้ม ริมฝีปากเผยอเล็กน้อยราวกับกำลังฝันดี ท่านเศรษฐีกวาดสายตามองร่อยรอยบอบช้ำบนกายดรุณีน้อย เจ้าช่างบอบบางเสียเหลือเกินปาวรตี ดูกลางกายสิชอกช้ำจนท่านใจหาย เหตุเพราะนางทำให้ท่านถวิลหามาหลายเพลาท่านจึงควบคุมตัวเองไม่ได้ “เจ็บหรือไม่เจ้า” แตะมือลงกลางซอกขาเบาๆ

“แกนอนเฉยๆ อย่าขยับซิ ฉันทำเอง” หญิงสาวหนีบท่อนขาเขาไว้แน่น ขณะเคลื่อนไหวเชื่องช้า ก่อนจะเพิ่มความเร็ว สองมือล้อเล่นตุ่มไตบนกล้ามเนื้อหน้าอก เมื่อเขาขยับเธอก็หยุด เมื่อเขาหยุดเธอก็ขยับ “แก้ว แกกำลังทำให้ฉันเป็นบ้า” น้ำเสียงเขากราดเกรี้ยวสับสน ขณะบิดกายระบายความเสียวซ่าน ที่ตีตื้นมาเป็นระลอก ด้วยการกระทำของนักรักมือใหม่ ที่เชี่ยวชาญเสียยิ่งกว่ามืออาชีพ “แกทำให้ฉันแทบบ้าเหมือนกัน ไอ้นิก” หญิงสาวหยุดเคลื่อนไหวจับจ้องริมฝีปากแดงก่ำของผู้ชายเซ็กซี่ที่อยู่ใต้ร่าง เธอเห็นแล้วอยากกิน สีหน้าและแววตาของหญิงสาวที่อยู่บนร่างทำให้นิกครางแหบโหยสิ้นหวัง เขารั้งใบหน้าหวานให้ก้มต่ำลงแล้วปากก็ประกบปากประกายไฟที่ลุกอยู่ก่อนหน้านี้เหมือนโดนสาดด้วยน้ำมันทำให้ลุกฮือโหมแรงจนไม่อาจต้านทานได้

เผด็จศึกเลื่อนใบหน้าไปหาทรวงอกกลมกลึงที่สั่นไหวใช้จมูกดุนดันแผ่วเบาและค่อยๆ แรงขึ้นจนกลายเป็นบดขยี้อย่างเมามันโดยใช้ริมฝีปากหนาร่วมด้วย ร่างบางกระเสือกกระสนคล้ายจะดิ้นหนีสัมผัสปลุกเร้าที่ช่ำชองแต่หนีไม่พ้น แล้วปากกระด้างของชายก็อ้างับยอดอกที่แข็งชูชันดูดดึงทันทีพร้อมกับที่กระชากสะโพกออกมาแล้วโจนจ้วงลงไป ขอรักสะดุ้งสุดตัวเมื่อชายเหนือร่างขยับโยกขึ้นลงบนกายเธออย่างต่อเนื่อง ฝ่ามือที่เคลื่อนไหวพร้อมลมหายใจร้อนผ่าวจากปากและจมูกบวกกับการเสียดสีเป็นจังหวะทำให้ความรู้สึกของเด็กสาวเปลี่ยนไป อะไรบางอย่างที่แปลกใหม่ไม่เคยพานพบมาก่อนช่วยขับไล่ความเจ็บปวดให้เลือนหาย หน้าท้องร้อนวาบซ่านสยิวไปทั่วกาย ทุกรูขุมขนตื่นตัวเหมือนมีกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ไหลผ่าน “คุณ...คุณ” “เรียกฉันว่าคุณเบิ้ล” ปากที่กำลังดูดดึงจูบไซ้อย่างเมามันผละออกมาเพื่อสั่งให้เธอพูด แต่สะโพกไม่หยุดขยับ เสียงห้าวนั้นแหบพร่าด้วยอารมณ์ที่กำลังพวยพุ่งดั่งน้ำที่กำลังเดือดเป็นไอ “คุณ...เบิ้ล” หญิงสาวบิดกายด้วยความทรมาน ความหวาดกลัวก่อนหน้านี้นั้นหายไปเพราะสติถูกกระชากให้หลุดลอย ชายหนุ่มสอดท่อนขาแกร่งเข้าใต้ท่อนขาเรียวแล้วคู้ตัวกอดร่างเด็กสาวเอาไว้จากนั้นโหมแรงเข้าใส่ไม่ยังจนเกิดเสียงดังลั่นห้อง ร่างบางกระตุกพร้อมกับเสียงร้องที่หลุดลอดออกไปด้วยความตื่นตระหนกเพราะจุดสุดยอดรุนแรงที่มาเยือนในครั้งแรกของวัยสาว

เมฆาแข็งแรงมากเขาไม่จำเป็นต้องใช้มือจับสะโพกเด็กสาวแต่อย่างใด ชายหนุ่มทรงตัวด้วยลำขาแข็งแกร่งทั้งสองข้างที่ปักหลักยืนอย่างมั่นคงโดยกระเตง เด็กสาวไว้บนเอวขณะเด้งหน้าขาได้จังหวะและลงตัวไม่มีติดขัดไม่ว่าช้าหรือเร็ว ‘กรี๊ดดดดด’ เด็กสาวเปล่งเสียงร้องออกไปสุดเสียงขณะกอดรัดดึงทึ้งร่างใหญ่เป็นพัลวัน เธอเบียดหน้าขาเข้าหากายแกร่งแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันในขณะที่เขาส่งแรงกระแทกเธอไม่หยุด ‘พี่เมฆ พี่เมฆ ฮื่อๆๆ’ เด็กสาวน้ำหูน้ำตาไหลด้วยความเสียวซ่าน ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ได้พบเป็นครั้งแรกในชีวิตทำให้เธอแทบสิ้นสติ

มือนุ่มลูบไล้ลำกายที่กำไม่รอบอย่างตั้งอกตั้งใจ ก้มลงดูแล้วใจเต้นระทึก ของเขาเร้าอารมณ์เป็นบ้าทำให้เลือดสูบฉีดแรงปรารถนาจะสัมผัสเขาทั้งมือและปากโดยไม่ต้องฝืนใจหรือใช้ความพยายามอะไรเลย ลำกายเขาแข็งแกร่งชูผงาดราวกับประกาศศักดาให้คู่ต่อสู้เกรงขาม ส่วนปลายเป็นสีชมพูระเรื่อกำลังพ่นน้ำขาวใส หญิงสาวทนความยั่วยวนตรงหน้าไม่ไหวก็ก้มลงจูบสูดดมกลิ่นหอมตลอดความยาวก่อนจะอ้าปากอมไว้ให้ลึกที่สุดกระทั่งชนคอหอยแล้วดูดรูดขึ้นจนสุดปลายเหมือนดูดไอติมแท่งสลับกับตวัดลิ้นเลียด้วยความกระหาย เลียแล้วก็ดูดรูดจนสุดปลาย อมลึกลงไป ทำวนไปสลับกันเช่นนั้นจนเขาครางลั่น เธอเองก็ครางเช่นกันบอกไม่ได้ว่าใครครางดังกว่าใคร รักแท้เสียวแปลบที่ท้องน้อยเมื่อเนินรักโดนบดขยี้อย่างรุนแรงเธอเบี่ยงขาหนีกระชากสะโพกออกจากใบหน้าเขาเพราะไม่อยากเสร็จก่อนจะทำให้เขาเสร็จจากนั้นก็ก้มหน้าก้มตากินเขาอย่างเอร็ดอร่อยต่อไป

เสียงหอบหายใจแรงดังขึ้นพร้อมกัน เมื่อความแข็งแกร่งร้อนจัดคลุกเคล้าเข้ากับความอ่อนนุ่ม กายเปลือยเสียดสีกันจนเกิดประกายไฟแตกเปรี้ยะ จุมพิตดูดดื่มยังคงดำเนินต่อไป เฟื่องลดาหายใจแทบไม่ทัน แล้วเขาก็หยุด หญิงสาวรีบสูดลมหายใจเข้าไปเฮือกใหญ่ แต่แล้วก็แทบสำลักเมื่อเขาจูบลงมาใหม่อย่างตะกละตะกราม “อื้อ” หญิงสาวทุบแผ่นหลังตึงแน่นแรงๆ เบี่ยงหน้าหนีจูบมาราธอน ฟ้าครามดูดรูดลิ้นเล็กอีกครั้งก่อนจะปล่อย ชายหนุ่มขบเม้มกลีบปากอิ่มย้อยเบาๆ ก่อนจะผละไปที่นวลแก้มสองข้าง แล้วซุกไซ้ไล้เลียที่ติ่งหูขณะที่มือซอนเข้าหากลีบนุ่มด้านล่าง ที่เปิดรับตอดรัดนิ้วใหญ่ทันที

เธอยกมือข้างไม่เจ็บผลักมือเขาออก แต่สู้สองมือเขาไม่ได้ ชั่วพริบตาเดียวเสื้อผ้าก็ไม่เหลือติดกาย ธีธิรักษ์คิดว่าคืนนี้เธอคงป่วนอารมณ์เขาจนเหนื่อยกว่าจะหลับลงได้เพราะใกล้จะถึงวันนั้นของเดือนทำให้เธอหงุดหงิดอารมณ์เสียง่าย ดังนั้นต้องทำให้เหนื่อยแบบเมื่อคืนจะได้หลับง่ายไม่งอแง “อื้ม” เธออ้าปากจะห้าม เขาแต่โดนจูบอย่างดูดดื่มเสียก่อน จูบเว้าวอนอ่อนหวานทำให้เธอมึนงงไปชั่วขณะ แต่เมื่อเนินเนื้อกลางกายโดนสัมผัสด้วยมือใหญ่เธอก็สะดุ้งได้สติทันที “โอ๊ย!” ชายหนุ่มตัวงอแทบจุกเมื่อโดนสองเท้าถีบเข้าที่หน้าท้อง ดีที่ไม่ต่ำไปกว่านั้น “หมู” เขากลิ้งตัวไปหาเธอที่กระเถิบหนีไปอีกด้าน พับผ่าสิ! เพิ่งรู้ว่าเตียงใหญ่ไม่ดีอย่างที่คิด ชายหนุ่มสบถในใจเมื่อต้องกลิ้งไปหาเธออีกครั้งกว่าจะถึงจุดหมาย “อย่าเข้ามานะ” เธอกลิ้งหนีไปอยู่ริมสุดแล้วก้าวเท้าลงจากเตียง “หมูเป็นอะไรครับ แล้วนั่นจะไปไหน” ชายหนุ่มปวดหัวจี๊ดเมื่อเห็นท่าทางของเธอ คงป่วนไม่เลิก

เด็กสาวอุทานฮึดฮัดไม่พอใจแต่เมื่อเขาก้มลงปรนเปรอทรวงอกด้วยปลายลิ้นอย่างตะกละตะกลามเกือบเป็นมูมมามจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบเร้าใจเธอก็ครางเสียงดังเด้งหน้าอกอัดใบหน้าเขาแถมยังเอามือกดท้ายทอยเพื่อให้แนบชิดยิ่งขึ้น “ซี้ดดดดด... อืออออ” เธอบดบั้นท้ายเน้นๆ เข้ากับหน้าตักเขาส่งเสียงครางยาวล่วงหน้าไปก่อนในเวลาอันรวดเร็วโดยที่เขาไม่อาจควบคุมเธอได้ดั่งใจหวัง กล้ามเนื้อนุ่มแน่นกระชับที่รัดรึงท่อนเนื้อใหญ่ดูดตอดหนุบหนับเหมือนก้าวเท้าหล่นลงไปในบ่อโคลนดูดที่ออกแรงบีบทุกทิศทางจนหนุ่มนักรักถึงกับขนกายตั้งชันตั้งแต่ปลายเท้าไปจนถึงศีรษะ “ไปพร้อมฉันอีกหลายๆ รอบ” เขาสั่งเกือบเป็นคำรามเมื่อรู้ว่าควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไป “อือๆๆๆ อืออออ อื้ออออ อ๊าซ์ซ์ซ์ซ์...กรี้ดดดดดด... อื้มมมมมม” เสียงกรีดร้องและเสียงตะโกนประสานกันดังลั่นเด็กสาวลืมตัวสองมือหยิกข่วนดึงทึ้งผิวเนื้อแน่นกระชับแข็งกระด้างออกแรงดึงสะโพกโยกขึ้นโยกลงเสียงดังผลั่บๆๆๆๆ แล้วคว้าดวงดาวสุกสกาวอีกครั้ง ชายหนุ่มพลิกร่างเล็กกลับลงด้านล่างแล้วกระแทกบั้นท้ายถี่ยิบเสียงดังป้าบๆๆๆๆๆ เขาออกแรงมากกว่าทุกครั้งที่เคยนอนกับผู้หญิงมาเพราะกล้ามเนื้อนุ่มของเธอไม่ยอมคายท่อนเนื้อเขาออกมาง่ายๆ เข้าก็ยากเพราะคับออกก็ลำบากเพราะโดนดูดตอดเอาไว้ เขาเกร็งสะโพกแล้วอัดกระเด้าเร็วๆ สี่ห้าครั้งสลับกับโยกไปมาซ้ายขวาช้าแต่เน้นๆ สี่ครั้งนับหนึ่งถึงสิบในใจเขาก้มหน้าวูบลงไปที่ยอดอกตูมสีเข้มอ้าปากครอบเกือบมิดเต้าดูดดุนเคี้ยวขยอกมือข้างหนึ่งบดขยี้อย่างลืมตัว เด็กสาวดิ้นพล่านเธอคว้าดวงดาวได้เป็นสิบๆ ดวงติดๆ กันในขณะที่เขายังไม่ยอมหยุด “นายๆๆๆ อ๊ายยยยยย” อรไพลินกรีดร้องอีกครั้งก่อนจะตัวอ่อนนัยน์ตาหรี่ปรือเคลิบเคลิ้มคล้ายจะหลับ