บทที่ 1 เพื่อนสนิท
-มหาวิทยาลัย-
ห้องสมุด
“ตรงนี้ว่างมั้ยฟริน?”
‘ฟริน’ ละสายตาจากหนังสือกองโตตรงหน้า เหลือบมองยังบุคคลที่มาใหม่ ‘ดาวเหนือ’ คือเพื่อนสาวคนสนิทที่คบกันมานานหลายปีตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมจนเข้ามหาวิทยาลัย
“แล้วเห็นใครนั่งหรือเปล่า”
“แสดงว่าตรงนี้ว่าง งั้นเหนือขอนั่งด้วยคนนะ” ดาวเหนือยิ้มแย้มเหมือนทุกครั้งที่เจอกัน ก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงข้างเพื่อนชาย
ฟรินสวมแว่นตากรอบหนา ใส่เสื้อนักศึกษาแขนยาวตลอดเวลาเขาเป็นคนไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยสุงสิงหรือเข้าสังคมกับใครมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
ต่างจากแฟรงก์ที่เป็นพี่ชายฝาแฝด คนนั้นมีบุคลิกต่างจากฟรินอย่างสิ้นเชิง ทุกอย่างเหมือนกันหมด จะมีก็แค่นิสัยที่ต่างกันลิบลับ
“ข้อเขียนตรงนี้เหนือไม่ค่อยเข้าใจเลย ช่วยสอนวิธีทำหน่อย”
เป็นเพราะฟรินเรียนเก่งมาก สอบได้เกรดA เกือบทุกวิชา ดาวเหนือจึงมาขอความช่วยเหลือให้เขาช่วยติวหนังสืออยู่บ่อยครั้ง
“แล้วทำไมไม่ตั้งใจเรียนตั้งแต่แรก”
“ก็ตั้งใจแล้ว แต่เหนือไม่ได้เก่งเหมือนฟรินนะ”
“ไม่ต้องพูดมาก อยากให้สอนข้อไหน” ฟรินลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ มองไปยังสมุดการบ้านของคนตัวเล็ก
“จะสอนเหนือจริงๆ ใช่มั้ย”
“ถ้าพูดมากก็อาจจะเปลี่ยนใจ”
“ไม่เข้าใจข้อที่13กับ21”
“ฉันจะอธิบายแค่รอบเดียว ตั้งใจฟังด้วย”
“โอเค เหนือพร้อมแล้ว”
ดาวเหนือเผลอจ้องมองเพื่อนชายอยู่บ่อยครั้ง ทรงผมสีดำขลับถูกเสยขึ้นโชว์ใบหน้าหล่อเหลา คิ้วเข้มรับกับสายตาเฉี่ยวคมแบบพอดิบพอดี ถึงแม้จะสวมแว่นสายตาแต่ไม่ได้ทำให้ความหล่อลดน้อยลงไปสักนิด
“มองที่หนังสือ ไม่ใช่มาจ้องหน้าฉัน”
“ฟรินหล่อไงก็เลยมอง มิน่าล่ะ สาวๆ ในมหาลัยตามจีบกันเพียบเลย” เพื่อนแฝดทั้งสองของเธอธรรมดากันที่ไหน สาวน้อยสาวใหญ่วิ่งตามจีบกันให้วุ่นวาย แต่ก็ไม่เห็นว่าฟรินจะสนใจใคร
“ตั้งแต่รู้จักกันมา เหนือยังไม่เคยเห็นฟรินมีแฟนเลยนะ ไม่ชอบใครเลยเหรอ”
“จะเลิกพูดจาไร้สาระได้หรือยัง”
“ดุอะไรนักหนาเนี่ย ดุยิ่งกว่าพ่ออีก” ดาวเหนือบ่นพึมพำ เบือนหน้าหันหนีเมื่อมองเห็นสายตาดุดันของเพื่อนชาย
“ถ้าหมายถึงพ่อของลูกเธอก็อาจจะใช่”
“เมื่อกี้ฟรินว่าไงนะ พอดีเหนือเสียบแอร์พอร์ตค้างไว้เลยได้ยินไม่ชัด”
“ขยับมานั่งใกล้ๆ จะได้ไม่ต้องพูดเสียงดัง”
“แบบนี้ใกล้พอมั้ย” คนตัวเล็กเลื่อนเก้าอี้เข้าหาขยับใบหน้าเข้าใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ของชายหนุ่มเจื่อกลิ่นบุหรี่จางๆ
“แอบไปสูบบุหรี่มาอีกแล้ว เหนือได้กลิ่นนะ”
“ฉันดูดแล้วทำไม”
“สูบบุหรี่ไม่ดีต่อปอด เดี๋ยวเป็นมะเร็ง”
“เอาไว้ให้มาเป็นเมียก่อนแล้วจะเลิกให้”
“ก็พูดไปเรื่อย” ดาวเหนือเผลอกลอกตามองบนให้กลับประโยคกำกวมนั่น อาจจะเป็นเพราะผูกพันกันมาก่อนเลยไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้งมากกว่าคำว่าเพื่อน
“ขยับเข้ามาอีก”
“ถ้าให้เหนือเข้าใกล้กว่านี้ อีกนิดจะนั่งตักฟรินแล้วนะ”
“ก็มานั่งสิ”
ดาวเหนือหยุดนิ่งมองหน้าชายหนุ่ม เขาจ้องหน้าเธอกลับผ่านแว่นสายตาไม่ได้หลบหน้าแต่อย่างใด
“นึกว่าหายไปไหน ที่แท้แอบมานั่งจู๋จี๋กับแฟนกูอีกแล้ว”
คนทั้งสองละสายตาออกจากกันเมื่อได้ยินเสียงของแฟรงก์ที่มาใหม่ ฟรินถึงกลับถอนหายใจลากยาวด้วยความรำคาญ เพราะแฝดพี่ชอบสร้างความวุ่นวายให้เขาไม่จบไม่สิ้น
“ดาวเหนือที่รักของแฟรงก์ มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้” แฟรงก์เดินเข้าไปกอดคอหญิงสาวไว้แน่น ตามประสาเพื่อนสนิทที่คบกันมานาน
“อะไรแฟรงก์ เอามือออกไปเลย”
“เค้าคิดถึงตัวเองนะ” แฟรงก์ยกมือลูบเส้นผมของดาวเหนือเบาๆก่อนจะเอนศีรษะซบลงบนไหล่มน
“ไม่เจอตั้งสองวัน แฟรงก์คิดถึงเหนือที่สุดเลย”
ดาวเหนือเป็นคนน่ารัก ตัวเล็กดูน่าทะนุถนอม ผิวขาวอมชมพู ใบหน้าจิ้มลิ้มมีรอยยิ้มสดใส มองยังไงก็ไม่เบื่อ
“ไม่ต้องมาเนียนแต๊ะอั๋งเหนือเลย เค้ารู้ทันหรอก” เธอบอกผ่านน้ำเสียงเอือมๆ แฟรงก์เป็นพวกมือไวใจเร็ว ชอบแทะโลมเธอแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่ก็ไม่ได้คิดถือสาเพราะเป็นเพื่อนกันมานาน
“มองทำไมครับน้องชาย แค่จับนิดจับหน่อยทำหวง” แฟรงก์เลิกคิ้วมองแฝดน้องด้วยท่าทางยั่วยุ ทำไมจะไม่รู้ว่าฟรินคิดยังไงกับดาวเหนือ แค่แวะมากวนประสาทพอให้ชีวิตมีสีสัน ทำให้น้องหัวร้อนเล่นๆ นั่นคืองานที่เขาถนัดและชอบทำเป็นกิจวัตรประจำวัน
“พักกลางวันนี้ไปกินข้าวกับแฟรงก์ป่ะ ไอ้ฟรินก็ไปด้วย กินข้าวด้วยกันหลายคนสนุกดี”
“เหนือมีนัดกับเพื่อนแล้ว”
“แย่จัง เอาไว้คราวหน้าก็ได้ แต่ที่รักห้ามปฏิเสธเค้าแล้วนะ”
ดาวเหนือขยับถอยห่างจนแผ่นหลังแนบชิดกับฟรินที่นั่งข้าง เมื่อแฟรงก์เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้เธอจนเกินไป
“ได้สิ แต่คราวหลังต้องบอกล่วงหน้าก่อน”
“มาหากูถึงที่นี่ มึงมีอะไรก็พูดมา?”
“ตอนเย็นกูว่าจะชวนไปเตะบอล”
“ที่ไหน?”
“สนามเดิม”
“ตามนั่นแหละ”
“เลิกเรียนแฟรงก์กับไอ้ฟรินมีนัดแข่งบอลรอบชิงกับพวกสถาปัตย ถ้าเหนือว่างอย่าลืมไปเชียร์พวกเราด้วย” ประโยคถัดมาแฟรงก์หันไปบอกกับหญิงสาว
“ได้สิ วันนี้เหนือว่างพอดี”
“ต้องมาให้ได้ ถ้ามีที่รักไปให้กำลังใจ เค้าจะเล่นให้สุดฝีมือไปเลย”
“ต้องไปอยู่แล้ว แฟรงก์จะได้มีกำลังใจ”
“แฟนใครน่ารักจัง ขอจุ๊บเหม่งที” ไม่พูดเปล่าแต่ยังอาศัยจังหวะที่ฟรินเผลอแอบจูบที่หน้าผากของคนตัวเล็กเบาๆ แล้วรีบวิ่งหนีออกมาเมื่อเห็นสายตาเย็นเยียบของน้องชาย ขืนอยู่นานกว่านี้ มันคงยกเก้าอี้ฟาดหัวเขาแน่นอน
“วันนี้อารมณ์ดีแล้ว ไปดีกว่า”
“อะไร” ดาวเหนือเอ่ยถามด้วยความสงสัยเมื่อฟรินหยิบผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วยื่นให้เธอ
“เมื่อกี้ไอ้แฟรงก์มันจับตรงไหน เช็ดออกให้หมด”
“มันต้องถึงขนาดนั้นเลยเหรอ ทำเบาๆ ก็ได้ เหนือเจ็บนะ” ก่อนที่เขาจะเช็ดทำความสะอาดบนใบหน้าของเธออย่างแรงจนรู้สึกแสบร้อนไปหมด
“ไอ้แฟรงก์มันสกปรกไม่ชอบล้างมือ เดี๋ยวหน้าเป็นผื่น”
“อื้อ…ทำเบาๆ เหนือเจ็บ”
“ระวังตัวหน่อยก็ดี ไอ้แฟรงก์มันชอบทำตัวลุ่มล่ามกับคนอื่นไปทั่ว”
“ไม่เป็นไรเพื่อนกันชินแล้ว เหนือไม่ถือ”
“เธอไม่ถือแต่ฉันถือ ไม่ชอบ!”