ตอนที่ 1 คืนที่...หิว?

1132 Words
ตอนที่ 1 คืนที่...หิว? มันทรมาน ทรมานจนเธอแทบจะแดดิ้นไปเสียตรงนั้น ความรู้สึกเหมือนไฟแผดเผาจากช่วงท้องราวกับตรงนั้นเป็นเปลวเพลิงจากนรกที่กำลังกัดกินร่างกายของเธอทีละน้อย ทิวาไม่อยากเชื่อเลยว่าการงดมื้อดึกคืนแรกจะทรมานขนาดนี้ หญิงสาวเหลือบมองนาฬิกาที่ติดผนัง ร่างผอมบางแทบจะทรุดลงบนพื้นพรมเสียให้ได้ เพราะว่าตอนนี้เธอหิวจนแทบจะหมดเรี่ยวแรง การมาอยู่ข้างนอกคนเดียวมันทรมานมาก เพราะไม่มีนมที่แม่อุ่นให้ ไม่มีของว่างมื้อดึกที่แม่บ้านใส่ตู้เย็นไว้ และไม่มีมาม่าคัพเพราะว่าเธอเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่เป็นคืนแรก เวลาเที่ยงคืน...วันใหม่แล้วแท้ๆ แต่ชีวิตของเธอเหมือนจะมอดดับไปในสักวินาทีใดวินาทีหนึ่ง ความหิวมันทรมานจนแทบจะร้องไห้ออกมา แม่บอกเธอว่าห้ามออกไปข้างนอกหลังสี่ทุ่ม แต่วันนี้เปิดห้องเชียร์วันแรก หลังจากโดนว้ากจนขวัญกระเจิงแล้วเธอก็แทบจะตั้งสติไม่อยู่ ยังดีที่จำทางกลับห้องพักได้โดยไม่ลืมเส้นทางไปก่อนน่ะนะ ต้องขอบคุณที่คุณแม่สุดที่รักของเธอหาคอนโดฯ ที่ค่อนข้างหรูไว้ให้ แต่ใครใช้ให้มันเป็นคอนโดฯ ใหม่ล่ะ ชั้นล่างยังไม่มีร้านสะดวกซื้อด้วยซ้ำ ทิวาข่มความกลัวจากข่าวที่แม่สรรหามาอ่านให้ฟัง ทั้งเรื่องโจรจี้ปล้น ฆาตกรฆ่าข่มขืน ทั้งเรื่องผีอะไรเทือกนั้น เธอตัดสินใจแล้วว่าจะออกไปหาอะไรกินให้ได้ คิดได้ดังนั้นมือเรียวก็คว้าโทรศัพท์และกระเป๋าเงิน โชคดีที่ห้องพักเป็นระบบคีย์การ์ดและใช้รหัสผ่านในการเข้าออก ไม่อย่างนั้นแล้วคงยุ่งน่าดูเพราะเธอเป็นคนขี้ลืมมาก แต่น่าแปลกที่เธอไม่เคยลืมกินข้าว เรื่องนี้เหมือนเป็นสิ่งที่ระบบประสาทอัตโนมัติสั่งการเอง ไม่เกี่ยวกับสมองเธอหรอกมั้ง เธอเดินออกจากห้องทั้งๆ ที่สวมแค่เสื้อยืดกางเกงขาสั้น คลุมทับด้วยฮู้ดสีแดง คิดว่าออกไปไม่ไกลเท่าไร คงไม่ดูแปลกสำหรับชีวิตเด็กมหา’ลัย เธอเห็นเพื่อนบางคนยังใส่แค่เสื้อกล้ามกับกางเกงนอนเลย แน่นอนว่าการแต่งตัวแบบนี้ต้องเป็นเทรนด์ที่ใครๆ ก็ทำกัน ทิวาล้วงยางมัดผมที่มักจะยัดใส่ในกระเป๋ากางเกงทุกตัวเพราะกลัวลืม มีคนเคยกล่าวว่าเวลาผู้หญิงมัดผมนั่นแสดงว่าเธอกำลังจริงจังกับสิ่งที่ทำ ทิวากำลังจริงจังกับการหาของกินเช่นกัน ต้องขอบคุณพี่ปีสองที่เล่าว่าร้านอาหารหลังมอบางร้านยังเปิดหลังเที่ยงคืน เดินไปไม่ถึงร้อยเมตรก็เจอร้านที่ว่าแล้ว ด้วยความขี้เกียจเพราะเธอไม่อยากล้างจานในห้อง สุดท้ายทิวาก็สั่งข้าวผัดปูจานหนึ่งแล้วนั่งกินที่ร้านจนอิ่ม หลังจากนั้นก็สั่งบัวลอยไข่หวานจากอีกร้าน กินจนอิ่มแปล้แล้วก็กลับห้อง พอท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน เวลาล่วงเลยมาถึงตีหนึ่งโดยไม่รู้ตัว หญิงสาวแวะซื้อนมจากร้านสะดวกซื้อตรงหน้าปากซอยเพราะกลัวว่าจะไม่มีอะไรกินในตอนเช้า รวมถึงขนมปังสำเร็จรูปที่กินเป็นประจำมาตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมด้วย ระยะทางระหว่างคอนโดฯ ที่เธอพักกับปากซอยห่างกันราวหนึ่งร้อยเมตร แต่ขากลับไฟกลางซอยกลับติดๆ ดับๆ บรรยากาศเหมือนในหนังสยองขวัญ ทุกย่างก้าวที่เธอเดินเข้าไป กระตุ้นความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องสั่นประสาทที่แม่สรรหามาเล่าให้ฟังจนอดสะท้านเยือกไม่ได้ ทิวาพยายามมองโลกในแง่ดีว่าซอยนี้ไม่ได้เปลี่ยวอย่างที่คิด เพราะมีรถมอเตอร์ไซค์เข้าออกตลอด ขณะเข้าใกล้คอนโดฯ เรื่อยๆ จู่ๆ ร่างของเธอก็ถูกอะไรบางอย่างฉุดกระชากแล้วล็อกตัวเธอจากทางด้านหลัง ทิวาพยายามกรีดร้องเพื่อขอความช่วยเหลือ ทว่าอีกฝ่ายกลับปิดปากเธอแน่น ความกลัวทำให้อะดรินาลีนหลั่ง ขณะเดียวกันหัวใจก็เต้นแรงจนแทบทะลุ กลิ่นฉุนของแอลกอฮอล์ทำให้เธอมึนงงสับสน ดวงตาพร่าพรายเพราะเธอถูกลากเข้ามุมมืด กลิ่นแปลกๆ ของผู้ชายคนนี้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองต้องมนต์สะกด ขณะที่พยายามขัดขืนจนสุดแรง แต่ยิ่งขัดขืนก็เหมือนยิ่งเกิดความรู้สึกแปลกประหลาด เพราะดวงตาของเธอพร่าเลือนเหมือนเห็นภาพหลอน เสียงกระซิบไม่ดังแต่ก็ไม่เบาเหมือนเป็นเสียงที่ดังขึ้นในหัว ไม่ต้องกลัว ความกลัวของเธอหายไป กลิ่นเธอเหมือนขนมเลย แน่สิเธอกินบัวลอยไข่หวานมานี่ ขอกัดหน่อยนะ กัดเลยสิ กัดเลย โดยไม่รู้ตัว ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ล่วงเกินส่วนอื่นในร่างกายของเธอ มีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้ขนอ่อนของเธอลุกชันไปทั้งร่าง นั่นก็คือสัมผัสวาบหวามที่เกิดจากริมฝีปากของเขาตรงลำคอ สติที่เหลือน้อยเต็มทีส่งผลให้ทิวาเหมือนตุ๊กตาผ้าตัวหนึ่ง คมเขี้ยวที่ฝังลงมาแม้จะเจ็บจี๊ด แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้เธอรู้สึกรื่นรมย์อย่างบอกไม่ถูก ขณะที่เขาค่อยๆ ไล้เลียเลือดจากลำคอของเธอ ทิวาก็ตื่นจากภวังค์เพราะท้องที่กำลังร้องอีกครั้ง โครก...คราก ทิวาเบิกตากว้าง หันหลังขวับแล้วซัดหมัดหนึ่งใส่หน้าข้องอีกฝ่ายจนเซ เธออ้าปากขอความช่วยเหลือ แต่เขากลับเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนเธอตาพร่า “ช่วย...” กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งตรงปลายจมูกทำให้ทิวาเบิกตากว้าง ร่างทั้งร่างถูกดันติดกับผนังในมุมมืด เขาล็อกตัวเธอด้วยแรงมหาศาล รสชาติปะแล่มที่มาจากเลือดเกิดจากการที่คมเขี้ยวของเขาสะกิดริมฝีปากบางของทิวา เสียงร้องตะโกนถูกกลืนลงคอพร้อมกับสัมผัสหนักหน่วงจากริมฝีปากได้รูปจนสมองเบลออีกครั้ง หัวใจของทิวาเต้นแรง จูบแรกของเธอถูกใครบางคนขโมยไปอย่างหน้าด้านๆ แต่ขณะนั้นเองหญิงสาวก็ได้รับรู้ว่าจูบไม่ใช่แค่ปากแตะปาก แต่มันมีอะไรมากกว่านั้น ความมืดทำให้เธอมองไม่เห็นเขา แต่ความรู้สึกทำให้เธอไม่รังเกียจเขา...น่าแปลก โดยเฉพาะรสชาติหวานซาบซ่านที่แทรกเข้ามาพร้อมกับเรียวลิ้นแกร่งของเขา ก่อนที่อีกฝ่ายจะผละออกไปแล้วสบถ “บ้าฉิบ ลืมตัวจนได้” หลังจากนั้นทิวาก็ไม่ได้สติอีกต่อไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD