bc

แผนเด็ดเผด็จศึกรัก

book_age18+
8
FOLLOW
1K
READ
like
intro-logo
Blurb

เธอยกมือข้างไม่เจ็บผลักมือเขาออก แต่สู้สองมือเขาไม่ได้ ชั่วพริบตาเดียวเสื้อผ้าก็ไม่เหลือติดกาย ธีธิรักษ์คิดว่าคืนนี้เธอคงป่วนอารมณ์เขาจนเหนื่อยกว่าจะหลับลงได้เพราะใกล้จะถึงวันนั้นของเดือนทำให้เธอหงุดหงิดอารมณ์เสียง่าย ดังนั้นต้องทำให้เหนื่อยแบบเมื่อคืนจะได้หลับง่ายไม่งอแง

“อื้ม” เธออ้าปากจะห้าม เขาแต่โดนจูบอย่างดูดดื่มเสียก่อน จูบเว้าวอนอ่อนหวานทำให้เธอมึนงงไปชั่วขณะ แต่เมื่อเนินเนื้อกลางกายโดนสัมผัสด้วยมือใหญ่เธอก็สะดุ้งได้สติทันที

“โอ๊ย!” ชายหนุ่มตัวงอแทบจุกเมื่อโดนสองเท้าถีบเข้าที่หน้าท้อง ดีที่ไม่ต่ำไปกว่านั้น

“หมู” เขากลิ้งตัวไปหาเธอที่กระเถิบหนีไปอีกด้าน

พับผ่าสิ! เพิ่งรู้ว่าเตียงใหญ่ไม่ดีอย่างที่คิด ชายหนุ่มสบถในใจเมื่อต้องกลิ้งไปหาเธออีกครั้งกว่าจะถึงจุดหมาย

“อย่าเข้ามานะ” เธอกลิ้งหนีไปอยู่ริมสุดแล้วก้าวเท้าลงจากเตียง

“หมูเป็นอะไรครับ แล้วนั่นจะไปไหน” ชายหนุ่มปวดหัวจี๊ดเมื่อเห็นท่าทางของเธอ คงป่วนไม่เลิก

chap-preview
Free preview
บทที่ 1 บ้านสวนหมาก
1 บ้านสวนหมาก   19.30 น. ณ บ้านสวนหมาก บ้านไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูงอายุเกือบร้อยปีของคุณยายจันทร์ มิ่งดำรงชัย ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนหมากยี่สิบกว่าไร่ ซึ่งเจ้าของอาศัยอยู่กับหลานสาวเพียงลำพัง บรรยากาศยามนี้มืดครึ้มต้นหมากยืนต้นเป็นเงาตะคุ่มโอนเอนไปตามกระแสลมที่พัดผ่านในยามค่ำคืน หมู่บ้านแห่งนี้ห่างไกลความเจริญแต่ไม่ถึงกับล้าหลัง มีไม่กี่หลังคาเรือน ผู้คนรักใคร่สามัคคีกลมเกลียวกัน ไม่เคยมีเรื่องโจรผู้ร้ายปรากฏให้คนในละแวกนี้ต้องหวาดผวา เมื่อความมืดมาเยือนก็เข้ามุ้งนอนหลับสบายไม่ต้องสะดุ้งเป็นพักๆ เพราะกลัวคนแปลกหน้าย่องขึ้นเรือน ยายจันทร์จึงอยู่กับหลานสาวคนสวย (แกคิดของแกเองว่าปิ่นนภัสสวยที่สุดในสามโลก) อย่างมีความสุขมาโดยตลอด “ยายนอนได้แล้วจ้ะ” หญิงสาววัยยี่สิบสี่ปีชื่อเล่นว่าลูกหมูหรือปิ่นนภัส ขจรไพศาล เงยหน้าจากสมุดบัญชีบอกผู้เป็นยายอีกครั้ง เธอพร่ำบอกให้ยายเข้านอนตั้งแต่หนึ่งทุ่มจนถึงทุ่มครึ่ง แต่ท่านก็อ้างนู่นอ้างนี่ไปเรื่อยๆ สาเหตุเพราะยังไม่อยากนอน ปิ่นนภัสรู้สึกว่าคืนนี้ยายงอแงผิดจากทุกครั้ง เพราะปกติมืดเมื่อไรนอนเมื่อนั้น ไม่เคยทันได้จุดไต้จุดไฟ แต่ยายของเธอก็เป็นคนแก่ที่ไม่ค่อยปกติกับใครเขาอยู่แล้ว เป็นคนแก่ที่เหมือนเด็กมากที่สุด “ยายนอนไม่หลับ หัวใจมันกระสับกระส่าย” แกพูดเป็นทำนองเพลงสูงๆ ต่ำๆ ของนักร้องลูกทุ่งสาว อาภาพร นครสวรรค์ ฟังแล้วเพี้ยนจนหลานสาวต้องหัวเราะคิกแล้วพูดว่า “เพี้ยนแล้ว ยายเอาเพลงเขามาทำเสียหมด” เธอก้มลงให้ความสนใจกับตัวเลขในกระดาษต่อไป เพราะต้องการทำให้เสร็จภายในคืนนี้ แต่ก็อดหัวเราะจนตัวสั่นไม่ได้ เพราะยายเธอทำท่าตลกๆ ประกอบเสียงเพลง ยายจันทร์เป็นคนแก่อารมณ์ดี ตลกโปกฮาได้ทุกวัน เครียดได้ไม่เกินหนึ่งนาที เพราะมีหลานสาวเป็นลูกคู่จอมทะลึ่ง คอยรับส่งมุกได้ทันท่วงที “ข้าเพี้ยน แล้วเอ็งจะทำไมวะอีหมู” แกบ้วนน้ำหมากลงกระโถนแล้วขยับเข้าไปใกล้ๆ หลานรักซึ่งนอนพังพาบทำงานอยู่ไม่ห่าง จะว่าลืมหรือแกล้งก็ได้เพราะแกมักหลุดปากคำว่า อี ออกไปทุกที ทั้งที่รู้ว่าหลานสาวไม่ชอบ “บอกว่าลูกหมูสอนเท่าไหร่ก็ไม่เคยจำ” เธอทำหน้างอ น้ำเสียงกระเง้ากระงอดไม่พอใจที่โดนยายเรียกว่าอี ทั้งที่รู้ว่าคำว่า อี สำหรับคนแก่ละแวกนี้นั้นเป็นคำที่ใช้เรียกลูกหลานจนติดปาก “ชิชะอีนี่ ข้าเรียกของข้าตั้งแต่เอ็งตีนเท่าฝาหอย พอตอนนี้หอยเท่าฝาตีนกลับดัดจริตฟังไม่ได้” ผู้เป็นยายชี้หน้าดัดเสียงเล็กแหลมต่อว่า ทำให้หลานสาวขำจนลืมเคือง เธอหัวเราะคิกหน้าเนียนใสแดงปลั่งดูเหมือนเด็กสุขภาพดี “ฮ่าๆๆ โห ยายพูดผิดแล้ว หอยหมูเท่าฝ่ามือเอง ถ้ามันโตเท่าฝาตีนก็ดีสิยาย จะได้พาหมูไปออกงานวัดเร่หาตังค์” สองยายหลานพูดทะลึ่งตึงตังกันจนติดเป็นนิสัย ปิ่นนภัสหัวเราะไม่หยุดเมื่อเห็นสีหน้าปั้นยากของผู้เป็นยาย “ไหนขอยายดูหน่อย เท่าฝ่ามือจริงรึเปล่า ตั้งแต่เอ็งโตเป็นสาวยังไม่เคยได้ดูสักครั้งเดียว” คนอย่างยายจันทร์ไม่เคยหมดมุกสักที “ขอดูของยายก่อนสิ ตั้งแต่เกิดมาหมูยังไม่เคยเห็น อยากรู้ว่าของคนแก่มันจะเหี่ยวเหมือนหน้าหรือเปล่า” ดวงตาดำขลับพราวระยับ จ้องมองยายจันทร์อย่างล้อเลียน “อีนี่ ชะช่า วอนซะแล้ว” เมื่อเจอดวงตาทะลึ่งอยากรู้อยากเห็นของหลานสาว คนแก่ก็อายเลยขยับหยิบเชี่ยนหมากจะขว้างใส่ ไม่ได้นึกโกรธเคืองว่าหลานสาวลามปามไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงแต่อย่างใด ยายจันทร์ชอบให้หลานเป็นแบบนี้ แกเลี้ยงของแกมากับมือใกล้ชิดสนิทสนมกันทุกเรื่อง ไม่มีเรื่องส่วนตัวใดๆ ต้องปิดบังต่อกัน เป็นทั้งพ่อ แม่ ยาย และเพื่อน รวมหมดในคราวเดียว แกทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ปิ่นนภัสโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพคนหนึ่งของสังคม ไม่เคยก่อปัญหาให้ครอบครัวหรือผู้อื่นเดือดร้อนแม้แต่ครั้งเดียว “อ๊ะๆ อย่านะยาย ขืนขว้างเชี่ยนหมากมาหมูไม่ทำบัญชีให้นะจ๊ะ” เธอทำมือห้ามกลัวว่ายายเขินจนลืมตัวขว้างมาจริงๆ “เอ็งมันเล่นของสูงนี่หว่า” ยายจันทร์ส่งค้อนไปให้ กลบเกลื่อนความขัดเขิน “สูงที่ไหนกันจ๊ะ ต่ำกว่าสะดืออยู่เหนือหน้าขา ไม่ได้แปะไว้บนหน้าผากสักหน่อย อะฮ้า รู้แล้ว ดูหน้าผาก” หญิงสาวตบเข่าดังฉาดจนคนเป็นยายสะดุ้งอุทานออกไปเสียงดัง “ต๊กกะไดหัวบันไดลื่นแผล็บ ชะ...อีหมู อีนี่เป็นอะไรของเอ็งวะ” ผู้เป็นยายเอามือทาบหน้าอกตวาดหลานสาวเสียงดังลั่นบ้าน ปิ่นนภัสหัวเราะจนเมื่อยแก้ม ก่อนจะยกมือขอโทษด้วยรู้สึกผิดจริงๆ ถ้ายายหัวใจวายเธอตายแน่ แต่ก็ไม่วายทะลึ่งได้อีก “แหะๆ ขอโทษจ้ะที่ทำให้ต๊กใจ หมูเพิ่งนึกขึ้นได้เพื่อนมันบอกว่าดูขนาดของผู้หญิงให้ดูที่หน้าผาก อิๆ ของยายโหนกนูนใหญ่ไม่ใช่เล่น ยังไม่ย่นด้วย แสดงว่าหอยยังตึง เอ๊ะ! ยายผมขาวแล้วนี่นา ถามจริงผมข้างล่างขาวด้วยมั้ย ขอดูหน่อยดิ” หญิงสาวไถลตัวเข้าไปใกล้แล้วจ้องเป๋งไปที่กลางลำตัว ทำให้ผู้เป็นยายตกใจเอามือปิดฉับด้วยความว่องไว “อีนังหมู ล้นจริงนะเอ็ง” ยายจันทร์หน้าแดงแปร๊ด เมื่อตั้งสติได้แกก็ถลกผ้าถุงตั้งท่ายันหลานสาวด้วยฝ่าเท้า อีกฝ่ายรู้ทันรีบคว้าสมุดบัญชีกลิ้งตัวไปตามพื้นอย่างรวดเร็ว “ฮ่าๆๆๆๆ ขอโทษจ้ะยาย เผลอเล่นแรงไปหน่อย” อยู่ในระยะห่างที่ปลอดภัยจากฝ่าเท้าปิ่นนภัสก็เอามือปิดปากเก็บเสียงอุทาน เมื่อยายถลกผ้าถุงแล้วเปิดหวอแง้มหอยให้เห็นวับๆ แวมๆ โดยไม่ตั้งใจ ขืนบอกมีหวังงานนี้ได้เจ็บตัวจริงๆ แน่ แหม...กลีบอย่างกับกลีบส้ม ฮูยยย ขนพอง หญิงสาวลูบแขนตัวเองแล้วก้มลงมองอวัยวะเบื้องต่ำที่อยู่ในกางเกงผ้ายืด เน้นให้เห็นร่องกลีบชัดเจนเป็นส้มโอทองดี (ขาวน้ำผึ้ง) พันธุ์เดียวกัน “เออ ให้อภัย แต่เวลาข้าเล่นแรงเอ็งอย่าหลั่งน้ำตาก็แล้วกัน” ยายจันทร์ไม่สนใจท่าทางทะลึ่งทะเล้นของหลานสาว เพราะแผนเด็ดเผด็จศึกรักผุดขึ้นมากะทันหัน “ซำบายมาก” หญิงสาวคิดว่าตัวเองรับมือยายได้สบาย เพราะลับฝีปากกันมาตั้งแต่เด็กจนโต ปล่อยให้ท่านมีความสุขไปก่อนสักระยะก็แล้วกัน ปิ่นนภัสดีใจที่มียายเป็นสีสันให้กับชีวิต ทำให้เธอไม่เหงา ไม่เศร้า ไม่เครียด ไม่ท้อกับปัญหาที่เข้ามาในชีวิตตามวิถีมนุษย์ที่เกิดมาแล้วไม่มีใครที่ไม่พบเจอปัญหา ยายคือยาชูกำลังสำหรับเด็กกำพร้าอย่างเธอ “แน่นะ” ยายจันทร์ขยับตัว ท่าทางของแกบอกว่าเอาจริง “แน่สิ” หลานสาวไม่เงยหน้าจากสมุดบัญชีเลยไม่เห็นสีหน้าเจ้าเล่ห์ของยาย “สัญญานะ” เอื้อมมือไปสะกิดแขนเพื่อให้หลานสาวสุดที่รักสนใจแกหน่อย “สัญญาสิ ทำหนังสือสัญญาด้วยปะยาย” เธอเงยหน้าถามเล่นๆ เมื่อเห็นท่าทางจริงจังของยายแต่ไม่คิดว่าแกจะเอาจริง “ไม่ต้อง เขียนในสมุดบันทึกของยายก็พอ” ยายจันทร์ค้นหาสมุดบันทึกช่วยจำในเชี่ยนหมากที่แกมีติดตัวไว้เป็นประจำยื่นให้หลานสาว ทำให้อีกฝ่ายถึงกับอุทานด้วยความคาดไม่ถึง “เฮ้ย! แหะๆ ขอโทษจ้ะ หมูตกใจ แค่พูดกันขำๆ ไม่ต้องทำสัญญาหรอก ยายอย่าคิดมากสิจ๊ะ” เธอมองยายขำๆ เขาว่าคนแก่กลับมามีนิสัยเหมือนเด็กเห็นท่าจะจริง เพราะยายเธอมีอะไรเพี้ยนๆ หลายอย่างที่เหมือนเด็ก “พูดไม่จริง ไม่ใช่มิ่งดำรงชัย” คุณยายจันทร์ มิ่งดำรงชัย ภูมิใจในนามสกุลของแกมาก ถึงแม้ปิ่นนภัสไม่ได้ใช้นามสกุลของแก แต่ก็ถือว่าสายเลือดมิ่งดำรงชัยในตัวหลานสาวนั้นเข้มข้นกว่าขจรไพศาล “จ้ะๆ ๆ เขียนก็เขียน” เธอรับสมุดบันทึกมาจากมือท่านอย่างว่าง่าย “เอ็งกรอกวันเดือนปีระบุเวลาให้ละเอียดด้วยว่ากี่ทุ่มกี่ยาม” ยายจันทร์กันเหนียวเอาไว้ก่อน จะได้ไม่เดือดร้อนในภายหลัง “โห...ยาย ยิ่งกว่าทำสัญญาเงินกู้เสียอีก” มีอะไรในกอไผ่รึเปล่าหว่า “เอ็งต้องเขียนว่า ดิฉันนางสาวปิ่นนภัส ขจรไพศาล ขอสัญญาว่าไม่ว่ายายจะทำอะไรกับหมู” ร่างสัญญาหยุดชะงักเพราะหลานสาวยกมือเบรกกะทันหัน “เดี๋ยวๆ หยุดก่อนจ้ะยาย ไอ้คำว่าทำอะไรมันคืออะไร ชักทะแม่งๆ ยายกำลังคิดไม่ดีกับหมูรึเปล่าเนี่ย” หญิงสาวถามด้วยความสงสัยปนไม่ไว้ใจขึ้นมาทันที โป๊ก! ถึงจะแก่แต่ไม่ช้า เรื่องเขกหัวหลาน...แกถนัดนัก “โอ๊ยเจ็บ! ยายเขกหัวหมูทำไม” หญิงสาวลูบหัวป้อยๆ เจ็บน้ำตาแทบเล็ด ไม่ถนอมกันเลยนะยาย “สมน้ำหน้า เขกให้เจ็บน่ะสิ ข้าเป็นยายเอ็งนะ เป็นโคตรเหง้าของลูกหลานเอ็งในอนาคตด้วย มีรึที่จะคิดไม่ดีกับหลานตัวเอง” ทั้งหมดที่กำลังจะทำถือว่าปูอนาคตให้เหลน “หมูขอโทษจ้ะ ก็มันน่าสงสัยนี่นา” โดนเขกหัวแล้วยังโดนด่าแถมมาอีก หญิงสาวทำหน้ามุ่ย คืนนี้ซวยจริงๆ “เขียนต่ออย่าเรื่องมาก ไม่ว่ายายจะทำอะไรกับหมู หมูจะไม่หลั่งน้ำตา ไม่โกรธไม่เสียใจเป็นอันขาด ลงชื่อกำกับให้เรียบร้อยแล้วเอามาให้ยายลงชื่อ ส่วนพยานเดี๋ยวยายจัดการเอง” หญิงชรารีบรวบรัดก่อนหลานสาวจะเปลี่ยนใจ “จ้ะๆ ขอหมูลงชื่อแป๊บเดียวนะยาย อ้ะนี่ เสร็จแล้ว” เธอรีบเซ็นชื่ออย่างรวดเร็วเพื่อเอาใจอีกฝ่าย “เอามานี่ ที่เหลือข้าจัดการเอง” แกเอาสมุดบันทึกไปดูความเรียบร้อยแล้วลงชื่อกำกับ จากนั้นเก็บไว้ในเชี่ยนหมากตามเดิม “แหม...ทีอย่างนี้ละมือไม้สั่น” ยายจะนัดลูกค้าให้มาจ่ายเงินค่าหมากที่สวนในทุกวันหยุดที่มีเธออยู่บ้าน แกบอกว่ามือสั่นเซ็นชื่อไม่ได้ ตาก็มองไม่ค่อยเห็นนับเงินไม่ถูกกลัวจะโดนโกง “สั่นเพราะอายหรอกเว้ย แต่เอ็งเป็นหลาน ข้าจะอายทำไมวะ” แกเถียงเพราะอยากเอาชนะหลานสาวแค่นั้นเอง จริงๆ แล้วรู้ว่าคนแก่อายุเจ็บสิบย่อมมือสั่นสายตาฝ้าฟางเป็นเรื่องธรรมดา แต่แกก็อายเพราะคนรุ่นราวคราวเดียวกันที่มือไม้สั่นมีตั้งหลายคน โดยเฉพาะปู่เที่ยง ฉัตรตระการกุล เศรษฐีบ้านพร้าวที่แกมองว่ายังกระฉับกระเฉงกว่าคนแก่วัยเดียวกันเสียอีก “รุ่นนี้แล้วยังมีอายอีกหรือจ๊ะ อายหนุ่มบ้านไหนเอ่ย” ยายของเธอกระฉับกระเฉงแข็งแรง เดินเหินได้สะดวก แค่หูตึงนิด ตาฝ้าฟางหน่อย และซนเหมือนเด็กเท่านั้นที่บ่งบอกว่าแก่ ส่วนหัวใจนั้นยังเหมือนคนหนุ่มสาว “เอ็งไม่มือสั่นให้หนุ่มๆ เห็นเหมือนอย่างข้านี่หว่า” ยายจันทร์ค้อนควักเหมือนสาวแรกรุ่น ขัดเขินกับคำเย้าแหย่ของหลาน “ยายสั่นสู้ไอ้หนุ่มบ้านพร้าวใช่มั้ยยาย” เธอหัวเราะขำเมื่อเห็นแก้มขาวๆ ที่ประแป้งลายพร้อยของยายแดงก่ำ “ล้อคนแก่เล่นดีนัก ตัวเองแก่บ้างแล้วจะรู้สึก” แกต่อว่าหลานสาวแก้เขิน “หนูจะปลงสังขารตั้งแต่เนิ่นๆ ถึงตอนนั้นถ้าปลงไม่ได้ก็ขอมีหลานน่ารักๆ ที่รักยายสุดหัวใจไว้เคียงข้างกายสักคน เหมือนยายมีหมูตอนนี้ก็พอ หมูรักยายที่สุดในโลก” เธอหยอดคำหวานประจบคนแก่ “เลิกพูดเถอะ รีบทำเข้า ข้าใจร้อนอยากรู้ว่าเที่ยวนี้ได้กำไรกี่ตังค์” คนแก่ทำหน้าไม่ถูกเมื่อเจอลูกอ้อนของหลานรัก จึงตัดบทรีบจบโดยไว แต่ใจนั้นวาดฝันไปไกลไม่ยอมจบดั่งปากว่า ยายจะทำให้ฝันของเอ็งเป็นจริงนะลูกหมู...หลานรักของยาย อยากได้ลูกหลานน่ารักต้องเตรียมหาพ่อพันธุ์ตั้งแต่เนิ่นๆ “แหม ไม่ซึ้งกับคำหวานของหมูสักนิดเลยหรือจ๊ะ” หญิงสาวแกล้งทำหน้าม่อยแต่แท้จริงแล้วรู้ว่ายายกำลังเขิน “เด็กโง่ ต้องให้ยายหวานกับเอ็งตลอดเวลารึไง” แกขยี้หัวหลานสาวด้วยความรัก จึงโดนอีกฝ่ายไถลตัวเอาหัวไปวางพาดตัก “หมูรักยาย” และก็รักแม่ด้วย คิดถึงแม่จังเลย ถ้าแม่ยังอยู่คงมีความสุขมากกว่านี้ หญิงสาวไม่ค่อยพูดถึงแม่ให้ยายได้ยิน เพราะไม่อยากให้ท่านเครียด ลูกสาวคนเดียวใครจะลืมได้ลง “รีบทำบัญชีเถอะ มัวแต่ทำซึ้งมีหวังคืนนี้ไม่ได้นอน” แกรู้ว่าหลานสาวเริ่มงอแงอีกแล้ว จึงรีบตัดบทก่อนที่น้ำตาจะท่วมบ้าน “ยายนั่นแหละไปนอน รับรองว่าคืนนี้เสร็จชัวร์” เธออยากนอนตื่นสายในวันหยุด ถ้าไม่เสร็จมีหวังโดนปลุกก่อนไก่ตื่นแน่นอน “ใกล้ชำระหนี้แล้วนี่หว่า ถ้าไม่รู้ยอดเงินข้าก็นอนไม่หลับด้วยเหมือนกัน” ยายจันทร์เป็นหนี้เสี่ยม้งในตลาดเพราะบุตรสาวเพียงคนเดียวที่ชื่อกรรนิกา แม่ของปิ่นนภัส ที่เอาบ้านและที่ดินไปจำนองไว้เพื่อนำเงินไปกอบกู้กิจการให้สามีแต่ก็ไปไม่รอด ทิ้งหนี้สินก้อนใหญ่เอาไว้ให้ผู้เป็นแม่และบุตรสาวที่อยู่ข้างหลังต้องรับผิดชอบ “เสี่ยม้งใจดีผัดเขาก่อนก็ได้” ปิ่นนภัสรู้สึกสงสารยายที่ต้องแบกรับภาระหนี้ที่ไม่ได้ก่อ เธอช่วยได้เพียงมอบเงินเดือนทั้งหมดของตัวเองในทุกๆ เดือนให้ท่านเก็บไว้ใช้หนี้ “มันจะเอาเอ็งขัดดอกน่ะสิ ไปมั้ยล่ะ” แกแกล้งขู่หลานสาว แต่ไม่มีวันให้เป็นอย่างนั้นเด็ดขาด “ยายอย่าพูดเล่นสิ” เธอลุกขึ้นนั่งยิ้มจืดๆ ให้ยาย กลัวโดนเอาไปขายขัดดอก “ข้าไม่ได้พูดเล่น ลองผัดมันสักครั้งสิ รับรองมันได้คิดดอกทบต้นแถมเพิ่มหนี้ให้อีกต่างหาก ไอ้แก่ม้งมันไว้ใจได้เสียที่ไหนกัน ไม่อย่างนั้นมันไม่มีอีหนูเต็มบ้านหรอก” ไอ้แก่ลามก ถ้าไม่เป็นเพราะโฉนดที่ดินอยู่กับมัน จ้างให้แกก็ไม่พูดด้วย “ยายรู้ได้ยังไง” ปิ่นนภัสนวดขาของยายที่ยื่นออกไปด้วยความปวดเมื่อยอย่างรู้ใจ “พวกที่มันมาซื้อหมากเล่าให้ฟังน่ะสิ” แกบ้วนน้ำหมากแล้วซับมุมปากด้วยผ้าผืนบาง ก่อนจะลูบหัวหลานสาวด้วยความรัก เงินไม่กี่บาทอีกสามเดือนคงผ่อนหมด แต่อย่าเพิ่งรู้เลยนะลูกหมูของยาย “เราไม่เต็มใจเขาไม่บังคับหรอกจ้ะ อีกอย่างหุ่นหมูก็สมกับชื่อ ยายห่วงเรื่องขายไม่ออกจะดีกว่า” ถ้าชั่งกิโลขายเหมือนหมูในตลาดเธอคงได้หลายบาทเพราะหนักหลายกิโล

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

FirstLove น้องพี่ที่รัก

read
7.1K
bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
5.6K
bc

My Buddy เล่นเพื่อน

read
15.8K
bc

ซ่านเสน่หา พี่น้องต่างสายเลือด

read
4.0K
bc

กระชากกาวน์

read
4.8K
bc

ร้อยสวาททาสหัวใจ

read
2.7K
bc

แคดดี้ที่รัก

read
1.2K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook