bc

นางโลมขย่มตำหนักอ๋องเอวดุ

book_age18+
275
FOLLOW
1.1K
READ
HE
time-travel
kicking
secrets
like
intro-logo
Blurb

“บัดซบ... ความหยาบคายของนางโลมผู้นี้ มันทำให้ข้าอยากหลั่งความสุขออกมาจนหมดตัว”

chap-preview
Free preview
1
ตัวละครในเรื่อง รั่วตงอวิ๋น นางโลม อวิ๋นเอ๋อร์/เสี่ยวอวิ๋น/อวิ๋นชิน โต้วเซ่าเหล่ย องค์ชายเจ็ด คนอัปลักษณ์ทั้งเหี้ยมโหด ปิงจือจือ ชายารอง เหยาเหอซาน ชายาเอก จิ่งเว่ยหาน บัณฑิตหนุ่ม / นักเล่านิทาน รั่วเหอ บิดารั่วตงอวิ๋น พ่อบ้านจาง จางคังฉิก แม่เล้าลี่ ลี่ชุน หมางจู พี่จูจู (นางโลมรุ่นพี่) ซิงอี ลูกสาวฝาแฝดคนโต ซีห่าว ลูกชายฝาแฝดคนเล็ก ************************** สถานที่ในเรื่อง ตำหนักอ๋องเจ็ด หูเหยียน แคว้นต้าเหลียง เมืองหลวงฝาง เมืองชนบท ไป๋กว้าน หอวสันต์รัญจวน ************************ “สตรีบอบบางเช่นเจ้า ไม่ควรท้าทายบุรุษ... โดยเฉพาะคนอัปลักษณ์ ทั้งกินมูมมาม และเอาแต่ใจเช่นข้า” “เฮอะ ข้านิยมเอาชนะผู้อื่น โดยเฉพาะบุรุษที่ชอบยกหางตนเอง!” เมื่อนางต่อว่าเขาเป็นสุนัข ดวงตาคมส่งประกายวาบหนึ่งขึ้น แล้วท่อนแขนกำยำก็ขยับรัวๆ รั่วตงอวิ๋นตัวสั่น นางซ่านสยิว และไม่อาจเก็บเสียงคราง ทั้งคำพูดหยาบคายได้อีกต่อไป “เพ้ย... ทะ ท่านเป็นม้าศึกหรืออย่างไร ถึงได้แรงเยอะเช่นนี้ โอ้...ข้าจะขาดใจตาย เพราะถูกบุรุษบอกรักเช่นนี้ไม่ได้ คนเจ้าเล่ห์ และไร้ยางอายคือท่าน หลอกล่อให้ข้าพูดจาเลื่อนเปื้อนไม่หยุด!” “ส่งเสียงออกมาอีก ให้คนทั้งหอวสันต์รัญจวนแห่งนี้รู้ว่าเรากำลังบอกรักกัน” “อี๊... คุณชาย... ทะ ท่านเก่งแต่ทำให้สตรีร้องครวญครางหรอกหรือ” “ผิดแล้ว ข้ายังมีความสามารถ ทำให้เจ้าขึ้นสวรรค์ติดๆ กันได้ด้วย” 1 คนรักกัน เหตุใดถึงบัดซบเพียงนี้!! เย็นวันนั้น หนังตาหญิงสาวหนักอึ้ง คราแรกตั้งใจดื่มสุราเพียงจอกเดียว แต่คนรักของนาง พี่หาน หรือจิ่งเว่ยหาน บอกด้วยเสียงทุ้มๆ น่าฟังว่า พรุ่งนี้เขาจะต้องเข้าทดสอบวัดความรู้ และใช้เวลาหลายวันที่ห้องสอบสำนักศึกษาเมืองฝาง ดังนั้นนางที่อยู่บ้านเช่าเพียงลำพังอาจต้องว้าเหว่ และการดื่มสังสรรค์ ใช้เวลาร่วมกันอย่างหวานชื่นในเย็นวันนี้ คงเป็นสิ่งสมควรที่สุด ของคู่รัก รั่วตงอวิ๋นมองคนรักของนาง บุรุษผู้นี้สะโอดสะอง ผิวขาวเหลือง ปากบาง คิ้วหนาแต่คมเหมือนกระบี่ จมูกโด่งสวย ยามที่เขาใช้ปลายจมูกชนแก้ม และถูไถแก้มนาง ทำให้ความอุ่นซ่านในกายสาวลุกโชน นางพึงใจต่อคนรูปงาม ความคิดนี้อาจตื้นเขิน ทว่าอีกสิ่งที่นางเชื่อใจเขาคือ จิ่งเว่ยหาน เป็นบุรุษที่ยื่นมือช่วยเหลือรั่วตงอวิ๋น ให้หลุดพ้นจากนรกในเรือนหลังใหญ่ ซึ่งไม่เคยมีใครมอบความรักให้สตรีที่แสนอาภัพผู้นี้เลย “สุราจอกนี้ เรียกว่าเหล้ามงคลได้หรือไม่พี่หาน” นางทอดเสียงหวาน ถามไถ่ ดวงตากลมโตฉ่ำปรือ มองคนรักที่หล่อเหลาเปี่ยมด้วยเสน่ห์ นางกับจิ่งเว่ยหานเดินทางมาจากเมืองเล็กๆ ห่างจากเมืองหลวง (เมืองฝาง) ราวๆ หกร้อยลี้ ขึ้นทั้งเรือ นั่งรถม้า และเดินเท้า พอมาถึงที่นี่ นางก็ใช้เงินเก็บที่มีเช่าบ้านหลังเล็กๆ ทางฝั่งตะวันตก พร้อมตั้งใจเปิดหน้าบ้านขายบะหมี่ไข่ รอวันที่จิ่งเว่ยหาน สอบรับราชการสำเร็จ ยามนั้นนางกับเขาจะได้ใช้ชีวิตฉันท์สามีภรรยาร่วมกัน ความฝันนางดีงามเช่นนี้ และเขาเติมเต็มให้หัวใจดวงน้อยที่เปี่ยมด้วยความรักสมบูรณ์ สตรีที่มีบุรุษพร้อมดูแล และนางจะเป็นหลังบ้านให้เขา เพียงเท่านี้นับว่าประเสริฐแล้ว “ได้สิ เราก็เหมือนคนๆ เดียวกัน นับแต่เจ้าก้าวเท้าออกจากเรือนหลังนั้น ข้าเห็นแต่ร้อยยิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะตลอด จำได้ไหม บิดาเกลียดชั่งเจ้า และมารดานั้นด่วนตายจาก ส่วนท่านย่ากับแม่เลี้ยง วันๆ คอยหาแต่เรื่องขายเจ้าให้พ่อค้าในเมืองไป๋กว้าน” ได้ยินอย่างนั้นหญิงงามก็ถอนหายใจออกมาหลายเฮือกใหญ่ นางคือลูกชังของบิดา เหตุใดถึงเป็นเช่นนั้นเล่า เพราะมารดานางถูกทหารต่างแคว้นข่มเหง! เรื่องนั้นคือสิ่งที่น่าอดสู ทว่าอย่างไรนางก็คือลูกของรั่วเหอ ผู้รับราชการด้วยตำแหน่งขุนนางขั้นห้า ทำหน้าที่เก็บอากรและส่งเข้าคลังหลวง ส่วนมารดาผู้ล่วงลับของรั่วตงอวิ้น ฝ่ายนั้นได้เอาชีวิตของตนเป็นเดิมพัน นางทั้งลุยไฟ และอดอาหารร่วมเดือน หากสุดท้ายทั้งบิดา ท่านย่ากลับไม่เชื่อ กระทั่งวันหนึ่งมารดาของรั่วตงอวิ้นขึ้นเขาเพื่อไปถือศีลกลับต้องเสียชีวิตด้วยการผลัดตกน้ำ เรื่องนี้ฝังใจหญิงสาวเรื่อยมา ซึ่งตอนนั้นนางอายุได้เพียงแปดขวบ “พี่หานคือ คนที่รักข้ารองจากท่านแม่” รั่วตงอวิ้นเอ่ยจบ ก็เช็ดน้ำตาตน และได้มือใหญ่ๆ ช่วยเช็ดอีกแรง ยามนั้นร่างกายนางผะผ่าวร้อน ความรู้สึกยามใกล้ชิดกับจิ่งเว่ยหาน เต็มไปด้วยไฟราคะ หากนางเป็นสตรี ไฉนจะกล้าเอ่ยปากบอกเขา จึงทำได้แค่การส่งสายตาเชิญชวน และแสดงท่าทางที่ไม่น่าเกลียดจนเกินงามเท่านั้น ริมฝีปากนางเผยออ้า แลบเลียลิ้นเล็กๆ สีชมพูออกมา หญิงสาวรอเวลาอยู่ประเดี๋ยว หนุ่มรูปงามก็ประกบริมฝีปาก “อื้อ... พะ พี่หาน... ขะ ข้า... ชอบความรู้สึกนี้” นางบอกเขา ไม่มีสิ่งใดต้องปิดบัง ในเมื่อทั้งคู่หากกล่าวแล้วก็คือ สามีภรรยากัน “อืม ข้าจูบและดูด ทั้งขบเจ้าได้ดีกว่านี้” หญิงสาวได้ยินอย่างนั้นพลันขนลุกซู่ และจิ่งเว่ยหาน จูบนาง จูบที่ริมฝีปาก และดูดพร้อมกับดึงรั้งริมฝีปากล่างลงมาให้นางซาบซ่าน สองมือของนางทุบไหล่หนา ด้วยตกใจ ระคนสยิวจัด ทว่าเขาไม่ได้หยุดหากส่งลิ้นเข้าไปในโพรงปาก กวาดเร่งเร้า และหยอกเย้านางอย่างถึงใจ “อื้อ... อ๊ะ... อี๊... พะ พี่หาน” ลิ้นเขาทั้งสากและอุ่นจัด แต่ยามนี้สิ่งที่ทำให้นางครางไม่เป็นภาษาคือ การที่เขาปลดสายรัดเอวนางออก มือใหญ่ก็เลื่อนไปวางแปะกลีบงามๆ ในร่มผ้า รั่วตงอวิ๋นสมองขาวโพลนไปหมด นางรู้ว่าต้องตกเป็นของจิ่งเว่ยหาน และเตรียมใจเตรียมรับศึกครั้งนี้ ทว่านางก็อยากให้ทุกอย่างถูกต้อง เขากับนางสมควรแต่งงาน มีการกราบไหว้ฟ้าดิน รวมถึงหนังสือรับรองจากศาลเมืองฝาง นั่นคือสิ่งที่นางคิดไว้ “ข้าปรารถนาท่าน ตะ แต่... ทุกอย่างต้องไม่ผิดธรรมเนียมปฏิบัติ” บอกเขาไปอย่างนั้น และการหายใจก็ติดๆ ขัดๆ เนื่องจากนิ้วของเขา แทรกกลีบอวบอูม และถลำลึกลงไปสัมผัส เกรสหวานฉ่ำของนาง แล้วบีบบี้พอให้นางส่งน้ำใสๆ ออกมาจนชุ่มมือเขา “พี่หานกำลังทำร้ายข้าหรือไม่” ความไร้เดียงสาของนาง ทำให้จิ่งเว่ยหานพึงใจยิ่ง สตรีผู้นี้งดงาม อ่อนหวาน และฉ่ำเยิ้มเหลือเกิน สมแล้วที่เขาเลือกนางมาที่นี่ด้วยกัน “เสี่ยวอวิ๋น ชอบพี่มากเพียงใด” เขาเรียกนางอย่างอ่อนหวานเสมอ “เพราะพี่หาน คือพี่หาน... จะเป็นสามีข้า เป็นบิดาของลูก” นางเอ่ยจบก็หลับตาพริ้ม ในขณะนั้นเขาสัมผัสเกรสฉ่ำน้ำใสๆ ของนางอย่างเบามือ อันที่จริง รั่วตงอวิ๋นอยากให้เขาส่งแรงมากกว่านี้ นั่นคือความปรารถนาที่ในหัวคิด ทว่าเขากับเพียงแค่เย้ายั่ว ก่อนปล่อยมือจากเกรสความงดงามสีชมพู จากนั้นลิ้นยาวก็ตวัดยอดถันที่ตั้งชัน สลับกันไปมาทั้งสองข้าง เขาดูด ไล้เลีย ฝ่ายนางก็สัมผัสรูปไล้เรือนกายเขา เปี่ยมด้วยแรงสิเน่หา จิ่งเว่ยหานไม่ใช่นักบู๊ แต่เขามีเรือนกายที่สูง ไม่มีไขมันให้ดูน่าเกลียด “พี่หาน จะเข้ามาในตัวข้าหรือไม่... สิ่งนี้ ชายหญิงทำกันในวันเข้าห้องหอ ขะ ข้า... ยินดี หากพี่ต้องการ ทว่าหลังจากนี้ พี่ต้องรับผิดชอบชีวิตของรั่วตงอวิ๋น...” นางถามเขา และคำถามดังกล่าวทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น ปากที่เชยชมร่างกายนาง และมือที่เตรียมเล่นสนุกกับเรือนกายนุ่มนิ่ม คล้ายว่าจะหยุดชะงักลง รั่วตงอวิ๋นยามนี้ อายุเพียงสิบหกย่างสิบเจ็ดปี นับว่ายังอ่อนหัดต่อโลก เมื่อเห็นคนรักนิ่งค้าง ก็กลัวเขาจะไม่มีความสุข นางเลยกอดเขา และขยับท่อนขากลมกลึง แยกกว้างๆ เพื่อให้เขาเห็นเกรสที่อิ่มน้ำ ที่ชวนให้เขาแทรกความแข็งขันเข้าไป รั่วตงอวิ๋นไม่คิดว่าตนจะไร้ยางอายถึงเพียงนี้ แต่ฟ้าดินย่อมรู้ แม้จิ่งเว่ยหานยังไม่แต่งนางเป็นภรรยา ทว่าสถานะตอนนี้ ไฉนจะเป็นอื่น และอึดใจต่อมา ชายหนุ่มกลับมามีอารมณ์เช่นเดิม เขายิ้มให้นาง ก่อนเริ่มจูบที่ท่อนขา ไล่ต่ำลงไปเรื่อยๆ จนรั่วตงอวิ๋นตกใจ! โอ้ เท้าของนางคือส่วนที่เขาพิศวาสเยี่ยงนั้นหรือ “อ๊ะ พี่หาน... ขะ ข้ากลัวมันจะสกปรก วันนี้เดินทั้งวันเลย” “อย่ากังวล พี่จะเป็นลูกหมา เลียให้สะอาด และดูดให้เจ้าคลายเมื่อยล้าด้วย” นางจั๊กจี้ในคำพูดแสนสัปดน และต้องเสียวแวบ เมื่อเขาเลียกลางฝ่าเท้า ก่อนละเรงลิ้นไล้รัวๆ ปิดท้ายด้วยการใช้ปากครอบหัวนิ้วโป้งนาง เมื่อเขาดูด จึงเกิดเสียงดังราวกับเด็กทารกที่หิวโหยน้ำนมมารดา “พะ พี่หาน!” รั่วตงอวิ๋นย่อมตกใจ อีกฝ่ายกระทำเรื่องให้นางขายหน้าแล้ว “พอก่อนเถอะ” นางบอกเขา ทว่าร่างกายสั่นสะท้าน เสียวใช้คำนี้ย่อมถูกต้อง นางบิดตัวไปมา เมื่อเขาปรนเปรอนางอย่างไม่รังเกียจ รั่วตงอวิ๋นจึงนวดเฟ้นหน้าอกของตน นางเคลิ้มไหว และรู้สึกว่า มีความสุขเหลือเกิน อีกฝ่ายยังจูบ ดูด และกัดเบาๆ ที่เท้านาง กระทั่งรั่วตง อวิ๋นครางไม่หยุด และนางอยากให้เขามอบความรักหวานชื่นให้มากกว่านี้ “ขาที่สามของพี่หาน จะเก็บไว้ให้ผู้อื่นหรืออย่างไร คืนนี้ขอให้ขาได้เล่นกับมันสักหน่อยเถิด หรือว่าพี่อาย ข้าผู้ภรรยาที่ไม่ได้ความ” จิ่งเว่ยหานหยุดใช้ปากกับเท้านาง ตอนนั้นเขาเคลื่อนตัวขึ้นมานานบน แล้วถอดกางเกงตัวบางออก ภาพที่รั่วตงอวิ๋นเห็นชัด ทำให้นางตกใจ เหตุใดหนอ ถึงไม่เหมือนภาพที่นางเคยเห็นในหนังสือภาพใต้หีบสินเจ้าสาว แก่นกายของจิ่งเว่ยหาน ใหญ่ ปลายเป็นสีคล้ำตัดกับผิวของเขา เหนืออื่นใดเส้นเลือดที่ปูดพองตลอดลำ ทำให้นางกลัวขึ้นมานิดๆ ทั้งปลายหัวมันเชิดโค้งขึ้น รูปร่างชวนให้ประหวั่นใจมิน้อย เหตุนี้กระมัง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เขาถึงไม่ได้เปิดเผยร่างกายให้นางได้เห็นมากนัก “เสี่ยวอวิ๋น...เหตุใดถึงหน้าซีดเพียงนั้น” “เอ่อ เมื่อคิดว่าของรักของพี่หาน ต้องเข้าไปในตัวข้า และส่งน้ำหวานออกมาด้วย ขะ ข้าก็ใจฝ่อ” “เจ้าช่างไร้เดียงสา เช่นนี้พี่คงต้องให้เจ้าโตอีกสักหน่อย ค่อยทำรักกันอย่างลึกซึ้ง” คำที่เขาบอกคล้ายเป็นการปฏิเสธ รั่วตงอวิ๋นจึงส่ายหน้า นางเตรียมใจไว้แล้ว และทำความสะอาดร่างกายรอเขา ขนในที่ลับเล็มเก็บจนหมด กลีบอวบอูมที่เขาเห็นว่ามีน้ำเยิ้มใสไหลอยู่นั้นก็หอมด้วยใบไม้กับดอกไม้ที่นางสกัดเป็นทั้งน้ำมัน แล้วนำมาปะพรมเอาไว้ อาหารก็เลือกกินอย่างที่ดีที่สุด ทั้งหมดเพื่อจิ่งเว่ยหาน สตรีผู้นี้อยากให้เขารักนาง และหลงใหลในเรือนกายนี้ “ข้าพร้อมทำทุกอย่าง เพราะท่านจะไปสำนักศึกษาหลายวัน ข้าคงเหงาน่าดู ให้ข้าสัมผัสร่างกายท่าน และเก็บน้ำหวานของบุรุษไว้ในตัวเถิด มันคงเป็นเรื่องที่ข้าจะระลึกถึงยามห่างพี่หาน” “เช่นนั้น ก็ดื่มสุราอีกสักจอก เพื่อเจ้าจะไม่เครียด และร่างกายผ่อนคลายกว่าเดิม และพี่จะใช้ขี้ผึ้งชนิดพิเศษชโลมขาที่สาม เจ้าจะได้ไม่ต้องอึดอัด เมื่อเราผสานกายเข้าด้วยกัน” หญิงสาวหน้าแดงระเรื่อ ชายหนุ่มกล่าวเรื่องเหล่านี้ ราวกับเป็นผู้ชำนาญ “ข้าดื่มสักสามสี่จอกก็ได้ สุรากานี้เป็นของมงคล” นางเอ่ยอย่างนั้น เขาจึงส่งจอกสุราให้ที่เทใหม่ให้รั่วตงอวิ๋น ก่อนจะหมุนตัวไปหยิบตลับขี้ผึ้ง ดวงตากลมโตมองตามคนรัก ทว่าไม่รู้เหตุใด นางถึงรู้สึกว่าสุราที่ดื่มมีฤทธิ์แรงกว่าเดิม จนยามนี้หนังตาไม่อาจฝืนลืมตื่นได้อีกแล้ว!

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

FirstLove น้องพี่ที่รัก

read
9.0K
bc

ซ่านเสน่หา พี่น้องต่างสายเลือด

read
4.6K
bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
6.3K
bc

My Buddy เล่นเพื่อน

read
18.0K
bc

กระชากกาวน์

read
5.6K
bc

ร้อยสวาททาสหัวใจ

read
4.3K
bc

แคดดี้ที่รัก

read
1.3K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook