Chapter 3 ครอบครัวใหม่และคู่หมั้น

3221 Words
น่าเบื่อ... ฉันคิดในใจอย่างเบื่อหน่าย ทุกๆชั่วโมงมีแต่คำว่าน่าเบื่อ เพราะอะไรน่ะหรอ ก็ฉันยังเป็นเด็กทารกอยู่ขยับตัวไปไหนก็ไม่ได้ ได้แต่นอนมองดูเพดานสีขาวสะอาดตา จนเริ่มบ้ากับการที่ต้องมาหาว่าบนเพดานมันมีจุดบกพร่องอะไรอยู่บาง น่าเบื่อเกินไป "คุณหนูคะ หิวนมงั้นหรือคะ?" พี่เลี้ยงเดินมาถาม หน้าตาของพี่เลี้ยงที่ใส่ชุดเมดดูเรียบร้อยอายุได้ยี่สิบปลายๆละมั้งมีผมสีแดงเข้มตาสีเขียว บอกได้เลยว่าสวยจนต้องเหลียวส่วนตรงไขมันสองก้อนก็ไม่ได้ใหญ่จนดูแล้วหนักหัวไหล่แทน กำลังพอดีมือ แต่ไม่ใช่สเปคฉัน.. พี่เลี้ยงคนนี้ชื่อ รอน เป็นเมดที่นี้ตั้งแต่ยังเด็ก และเมื่อฉันเกิดรอนก็ได้รับหน้าที่มาเป็นพี่เลี้ยงฉัน เป็นคนใจดีมาก ยิ้มทีโลกละลาย แต่ก็อย่างที่บอก ไม่ใช่สเปคฉัน "แอ๊. แอ๊.." ฉันพยายามจะสื่อว่าไม่ได้หิว แต่กลับได้ตรงกันข้ามนี่สิ! รอนอุ้มฉันอย่างเบามือที่สุด สกิลการเป็นแม่สูงมาก อบอุ่นดี พี่รอนพาฉันออกจากห้องและเดินไปยังห้องๆหนึ่งที่เดินไปไม่ไกลเท่าไหร่ก็ถึง รอนเคาะประตูสองสามครั้งก็ได้ยินคำอนุญาตให้เข้าไปได้ดังออกมาจากด้านใน เมื่อรอนเปิดประตูก็พบกับท่านแม่ที่กำลังนั่งง่วนอยู่กับเอกสารอยู่บนโต๊ะ พอเห็นฉันทีก็ยิ้มร่าทันทีเลย "แหม คิดถึงแม่หรือจ๊ะ? หรือหิวเอ่ย?" ท่านแม่หยอกล้อฉันนิดหน่อย ก็เปิดอกให้ฉัันได้ดื่มนมจากเต้าของตัวเอง ปกติถ้าเห็นจะๆตาขนาดนี้มือคงอยู่ไม่สุข ถึงจะเป็นนักฆ่าแต่ถ้าเป็นเรื่องผู้หญิงฉันก็เสืออยู่พอสมควรนะ แต่คนนี้คือท่านแม่เลยไม่มีอารมณ์หรอกคงเป็นเพราะยังเด็กด้วย อาการเขินเลยไม่ค่อยจะมีเท่าไหร่ เมื่อฉันอิ่มแล้วก็ออกจากหน้าอกของท่านแม่ แล้วก็โดนตบหลังเบาๆเพื่อที่จะให้ฉันเรอออกมา "เอิ้ก." เป็นเสียงเรอที่รู้สึกเหมือนไม่ใช่ตัวเองเลย เรอได้สักพักแต่ท่านแม่ยังไม่หยุดตบฉันนี่สิ จนรู้สึกง่วงหนักเลย "งึมๆ หงึ." ฉันกอดคอท่านแม่ไว้แน่นเพราะตัวเล็กกลัวจะตกลงไปทั้งที่ท่่านแม่ก็กอดไว้อยู่แล้ว ไม่นานฉันก็เข้าสู่ห้วงนิทราไป . . . . ว้อยส์ Part "เห้อ~" ข้าถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ทุกๆวันมีงานเข้ามาไม่หยุดไม่หย่อน จนแทบไม่มีเวลาไม่หาลูกสาวที่เพิ่งคลอดได้ไม่นานเลย ถ้าได้เจอกันสักนาทีเพื่อเพิ่มพลังก็ยังดี "เห้อ~" "เอ่อ.. ท่านครับ เขาว่ากันว่าถ้าถอนหายใจความสุขมันจะหลุดลอยไปนะครับ" เลขาของข้ากล่าวอย่างนั้น เลขาคนนี้ชื่อ เคียว นามสกุลไม่มีหรอกเพราะว่าเป็นแค่สามัญชนธรรมดา เป็นเด็กที่ข้าเก็บได้และให้มาทำงานที่นี่แลกกับอาหารและที่นอน อายุยี่สิบสี่แล้ว ถือว่ายังหนุ่มยังแน่นอยู่ "อื้ม เจ้าคิดว่าข้าควรทำยังไงดีเคียว?" ข้าถาม "ทำอะไรหรือครับ" "เมื่อไหร่ข้าจะมีเวลาว่างไม่หาคริสลูกสาวข้ากัน" ข้ามองไปหาเคียวและลอบมองเอกสารที่อยู่บนโต๊ะ แค่อยากจะถามว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่งานตรงหน้าถึงจะหมดกัน "ถ้าเป็นเช่นนั้น ท่านควรเอาเวลาถอนหายใจ เริ่มลงมือทำงานนะครับ จะได้ไปหาคุณหนูไวๆได้นะครับ" เขาพูดมีเหตุผล "นั้นสินะ!" ข้าเริ่มลงมือจัดการทันที รีบๆทำให้เสร็จและไปลูกสาวข้าดีกว่า "เอ่อ.. จะว่าไปท่านตอบคำร้องขอของท่านนาเวีย อาสตร้า อย่างไรครับ?" คำถามของเคียวทำข้าหยุดชะงักไปครู่ และเงยหน้ามองเขา "เจ้าก็น่าจะรู้นะเคียว อย่างไรเสียข้าต้องให้คำมั่นสัญญาแก่เพื่อนรักของข้าดังเดิม" ข้าตอบคำถามของเขา และเริ่มขยับมือเขียนเอกสารต่อโดยที่ไม่มีอะไรกวนใจอีก ว้อยส์ Part End . . . . เมื่อฉันตื่นขึ้นอีกครั้งก็รู้สึกถึงความแข็งของร่างกายผู้ชายเหมือนกำลังโดนอุ้มอยู่ ฉันงัวเงียนิดหน่อยก่อนจะมองว่าให้เป็นคนกอดฉัน และก็ได้คำตอบเมื่อตัวฉันโดนอุ้มลอยฟ้าทำให้เห็นชัดๆว่าใครอยู่ตรงหน้า "ไง คริสจังของพ่อ ตื่นแล้วหรอครับ" ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข จะว่าไปตอนฉันรู้สึกตัวครั้งแรกก็ได้เจอท่านพ่อแค่ครู่เดียวเท่านั้น เพราะมีคนมาขอพบท่านพ่อก่อน "หงึ.." ฉันพยักหน้าน้อยๆ ขยับไม้ขยับมือ ไม่ใช่เพราะอยากจะเล่นด้วย แต่เพราะตื่นแล้วก็ต้องหัดขยับตัวให้ได้ แต่ท่านพ่อก็ดันเข้าใจผิดอีก เล่นมือฉันใหญ่เลย เอาเถอะ เรายังเด็กอยู่นี่นะ เขาอาจจะนึกว่าอยากเล่นกับพวกท่านก็ได้ "ผมกลับมาแล้วฮะ! ไหนน้องของผมละฮะ!" เสียงของเด็กผู้ชายดังมาแต่ไกล จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากท่านพี่ทริส ที่กำลังวิ่งหน้าตั้งมาทางฉันและท่านพ่อ "ทริส! พ่อจำได้ว่าพ่อจ้างให้คนมาสอนมารยาทพื้นฐานกับลูกแล้วนะ!" ท่านพ่อดุท่านพี่ ท่านเสียงดังจนฉันถึงกับหูอื้อไปชั่วครู่ "อือ.." ฉันครางเบาๆเพื่อมองว่า มันหนวกหูเกินไป "เห็นไหม ท่านพ่อเสียงดังน้องเลยรำคาญท่านพ่อเลย เอาน้องมาให้ผม" ท่านพี่ดูเหมือนจะดื้อและอยากอุ้มฉันเอามากๆเลย ท่านพ่อเองก็ดื้อเหมือนกันไม่ยอมปล่อยฉันเลยแหะ ปวดหัวเลย เป็นครอบครัวที่ครื้นเครงซะจริง . . . . ห้าปี ต่อมา ตอนนี้ฉันอายุได้ห้าขวบแล้ว เรียนรู้เรื่องราวของโลกนี้ได้เยอะพอสมควร เพราะเมื่อฉันสามารถเดินได้และพูดได้ตอนอายุสี่ขวบก็เริ่มที่จะหัดอ่านและเขียนหนังสือของทางโลกนี้ อักษรต่างกันสุดๆ เหมือนกับภาษาญี่ปุ่นที่มันยึกยึยๆเลยขีดๆหลายเส้นทับกันจนลายตาแต่เพราะได้พรการเรียนรู้เร็วมา ก็เลยไม่ได้ปวดหัวสมองขนาดนั้น ภายในหนึ่งปี ฉันก็อ่านหนังสือในหอสมุดของตระกูลหมดแล้ว ฉันปิดหนังสือลงอย่างเบามือและเก็บไปไว้ที่เดิม อ่านหมดแล้วก็จริง แต่ก็ต้องอ่านซ้ำๆจะได้ไม่ลืมเนื้อหาพื้นฐาน เพราะเมื่อฉันอายุครบสิบห้าปีต้องเข้าเรียนที่โรงเรียนแซนดรอฟที่ท่านพี่ได้เข้าไปเรียนแล้ว ตอนนี้ท่านพี่อายุครบสิบห้าปี เห็นท่านพี่ดูดื้อและซนมาก แต่ท่านพี่คือหัวกะทิของชั้นปีเลย สอบเข้าได้ที่หนึ่งของโรงเรียน ตอนนั้นฉันแทบไม่เชื่อเลย "อ่านเสร็จแล้วรึ น้องพี่?" เสียงท่านพี่ทริสดังขึ้น ตอนนี้ส่วนสูงพี่ทริสเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สายตาคมขึ้นเสียงทุ้มขึ้น เห็นแค่นี้ก็เดาได้ว่าที่โรงเรียนต้องเนื้อหอมแน่นอน แต่ยังดีที่ท่านพี่ไม่ได้เจ้าชู้เลยแม้แต่น้อย ต้องบอกว่าหยิ่งจนไม่มีใครเข้ากล้าเลยมากกว่า เพราะขนาดคุยกับฉันยังรู้สึกถึงความหยิ่งในความเป็นห่วงอยู่ "อืม" ฉันตอบเบาๆ "นี่ ท่านพี่ อยากจะขออะไรหน่อย" ฉันมองท่านพี่เล็กน้อยท่านพี่เองก็เหลือบมองฉันเล็กน้อย "ว่ามาสิน้องพี่" ท่านพี่เดินมานั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับฉัน "อยากจะเรียนฟันดาบ" ฉังจ้องไปที่หน้าท่านพี่อย่างเอาจริงเอาจัง ถ้าจะให้ฉันทำตัวเป็นกุลสตรี อ่อนน้อมอ่อนโยนบอกเลย ฝัน! "เรื่องนี้น้องต้องไปขอท่านพ่อเอาเองนะน้องพี่" ก่อนแรกท่านพี่ก็ดูอึ้งๆเหมือนไม่เชื่อว่าฉันพูดมันออกมาเอง แต่ก็ยอมรับว่าฉันจริงจังกับเรื่องนี้มาก โลกนี้เป็นโลกเวทมนตร์เป็นหลัก แต่ไม่ใช่ว่าคนทุกคนจะมีพลังเวทย์ เพราะอย่างนั้นจึงมีคลาสอัศวินอยู่ ก็ไม่ใช่ว่าฉันไม่มีพลังเวทหรอก แต่ใช้เวทมนตร์มันไม่สะใจเท่าการใช้ดาบหรอก ฉันเคยเห็นในหนังสือของตระกูลเรื่องการใช้เวทมนตร์ การร่ายเวทย์ และควบคุมเวทย์ เพราะฉันมีพรเรื่องการเรียนรู้เร็ว ทำให้ใช้เวทมนตร์ได้ไม่ยากเท่าไหร่ ทุกคนสามารถใช้ได้ทุกธาตุ แต่จะมีแค่ธาตุเดียวเท่านั้นที่โดดเด่น ถ้าอยากจะเก่งหมดทุกธาตุต้องฝึกหนักอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะการใช้แต่ละธาตุใช้ปริมาณเวทย์ไม่เท่ากัน อย่าเช่น พลังเวทย์ของคนๆนั้นมีแค่หนึ่งร้อย ถ้าให้เทียบพลังเวทย์กับเกมก็คงจะเป็นMP เลเวลหนึ่ง ตันแค่หนึ่งร้อย การใช้ธาตุไฟต้องใช้MPไปสิบMPเป็นธาตุที่ถนัดที่สุดก็จะใช้MPน้อยที่สุดเช่นกันเพื่อปล่อยสกิลได้เร็วและหลายครั้ง ถ้าจะใช้ธาตุน้ำก็ใช้MPสามสิบ ธาตุดินห้าสิบ และธาตุที่ไม่ถนัดที่สุดสมมุติคือธาตุลม การจะใช้นั้นก็จะใช้MPมากตามไปด้วย อาจจะหกสิบหรือเจ็ดสิบ การใช้MPจนหมดมันคือการเสี่ยง ถ้าMPหมดเหลือศูนย์ล่ะก็ ก็อาจตายได้ "ท่านพี่คิดว่า ท่านพ่อจะยอมไหม" ฉันถามท่านพี่กลับ แต่ท่านพี่ก็เอาแต่ยิ้ม เหมือนรู้อยู่แล้วว่าจะได้คำตอบแบบไหนของท่านพ่อ ซึ่งฉันเองก็พอจะเดาๆได้ ตั้งแต่เล็กจนโตมาถึงห้าปี ท่านพ่อเอาแต่ประคบประหงมฉันอย่างดี แต่ท่านแม่ก็บอกท่านพ่อแล้วว่าอย่าตามใจฉันให้มาก แต่เอาจริงๆ ฉันแทบไม่ได้ขออะไรพวกท่านเลย ของขวัญวันเกิดก็ขอแบบเรียบๆ อย่าง ขออ่านหนังสือเอง ขออาบน้ำเอง ขอแต่งตัวเองอะไรแบบนี้ แต่ว่า.. ปีที่แล้วฉันขอเรียนฟันดาบ ท่านพ่อกลับปฏิเสธเสียงแข็งเลย "เห้อ~ อย่างน้อยก็ให้ฝึกป้องกันตัวก็ยังดีน้า~ น้องเองก็โตขึ้นทุกวันๆ ต้องมีออกไปหาเพื่อนบ้าง ถ้าเกิดเหตุคับขันใครจะปกป้องน้องล่ะ ท่านพ่อไม่คิดถึงข้อนี้เลย" ฉันทำหน้าบูด แก้มพองเล็กน้อยเพื่อให้ท่านพี่เอ็นดูให้มากที่สุด เผื่อท่านพี่จะช่วยเกลี่ยกล่อมท่านพ่อให้ "ลองไปขอท่านพ่อดูใหม่ไหม เดี๋ยวพี่ช่วยพูดให้" และท่านพี่ก็ติดกับจนได้ หึ นี่คือข้อดีของการมีพี่ผู้ตามใจน้องยังไงละ "เย้!! รักท่านพี่ที่สุด!!" ฉันโผเข้ากอดท่านพี่เต็มแรง ท่านพี่เองก็กอดและตบหลังฉันเบาๆ ถึงสายตาท่านพี่จะดูดุและหยิ่งสำหรับคนอื่น แต่สำหรับฉันท่านพี่คือคนที่อบอุ่นมาก เพราะอยู่ด้วยกันมาห้าปีแล้ว มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ฉันจะยอมรับเขาเป็นครอบครัวของฉันจริงๆ รวมถึงท่านพ่อและท่านแม่ด้วย "ไปหาท่านพ่อกัน" ท่านพี่อุ้มฉันและเดินไปหาท่านพ่อ ปกติก็ดูเผินๆ แต่นึกไม่ถึงว่าท่านพี่เองก็มีกล้ามที่ใหญ่เหมือนกันนะ แข็งแรงมาก น้ำหนักฉันก็ไม่ได้หนักหรอกนะ ท่านพี่พาฉันเดินมาถึงห้องรับแขกและเคาะประตูสามครั้งก่อนจะขออนุญาติเข้าไป "ขออนุญาติครับท่านพ่อ" ท่านพี่เปิดประตูไปก็เจอกับท่านพ่อ แต่เพราะนี่มันคือห้องรับแขกเลยไม่ได้มีแค่ท่านพ่อเท่านั้นที่อยูในห้องนี้ แต่มีผู้หญิงคนหนึ่งใบหน้ายังดูสาวอยู่เลย ห้ะ! หรือว่า!! "ท่านพ่อ.." ฉันเรียกท่านพ่อเบาๆ แต่ท่านพ่อก็ขานรับ "มีอะไรรึคริส ถึงมาหาพ่อ" ท่านพ่อถามฉัน "ท่านพ่อมีกิ๊ก.. ลูกจะฟ้องท่านแม่" ไม่นึกเลยว่าท่านพ่อจะมีกิ๊กได้ เสียความรู้สึกเลย "เห้ยๆๆๆๆ เดี๋ยวๆ คริส! ลูกเข้าใจผิดแล้ว! คนนี้ไม่ใช่กิ๊กของพ่อนะ!" ท่านพ่อพูดแก้ตัวพัลวัน "อืม ก็พอเดาได้แหละ เพราะท่านพ่อน่ะ.. กลัวท่านแม่จะตายนี่น่า" ฉันพูดเหน็บแหนมไปที ก็มันจริงที่ท่านพ่อกลัวท่านแม่ ท่านแม่ว่าอย่างไรท่านพ่อว่างอย่างนั้น แต่ก็มีบางอย่างที่ท่านพ่อเข็มงวดมากเหมือนกัน "อย่ามาแฉพ่อสิคริสจางง~" ท่านพ่อพูดด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร "อ้ะ.. หูแมว.. แมวๆ อยากจับ" ใช่แล้วฉันพึ่งฉันเกตุ ผู้หญิงคนนั้นที่นั่งตรงข้ามกับท่านพ่อเป็นเผ่ามนุษย์สัตว์ล่ะ เคยฝันว่าอยากจะเจอตัวเป็นๆและอยากจะขอจับอยู่เหมือนกัน ก็ฉันเป็นคนรักสัตว์โดยเฉพาะแมว "ฮะฮะ ลูกท่านว้อยส์น่ารักจังเลยนะคะ ยินดีที่ได้พบนะคะคุณหนูคริส ดิฉันชื่อนาเวีย อาสตร้าค่ะ" เธอบอกว่าชื่อนาเวีย มีนามสกุลแสดงว่าเป็นคนมีฐานะสินะ และเธอมาทำอะไรที่บ้านเรากันล่ะ "ลูกมาพอดีเลย มานั่งกับพ่อมา ทริสด้วย นั่งๆ" ท่านพ่อให้พวกเราไปนั่งข้างๆท่านแต่ฉันเลือกที่จะนั่งตักท่านพี่ "เอาล่ะ คริสก็อายุครบห้าปีแล้ว ถึงเวลาที่ลูกต้องรู้เรื่องนี้แล้วนะคริส" ท่านพ่อพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังมาก ฉันเองก็ได้แต่เงียบรอท่านพ่อพูด "ท่านนี้คือท่านแม่ของคู่หมั้นของลูกน่ะคริส" ห้ะ.. คู่หมั้น.. คู่หมั้น! คู่หมั้น!!!.. "ละ..ล้อเล่นกันใช่ไหม ท่านพ่อ" ฉันมองท่านพ่ออย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน แต่สีหน้าท่านพ่อก็บ่งบอกว่าไม่ได้พูดเล่นเลยแม้แต่น้อย "เรื่องนี้คุณหนูคริสอาจจะไม่ยอมรับก็ได้นะ แต่ลองเปิดใจดูก่อนนะ.. อลิสออกมาหาแม่หน่อยอย่าเอาแต่หลบสิคะ" คุณนาเวียเรียกชื่ออลิสที่คาดว่าน่าจะเป็นลูกของเธอ เดี๋ยวนะ.. อลิส?? ชื่อผู้หญิงชัดๆเลยนี่น่า.. อย่าบอกนะว่า!! ไม่กี่วินาทีต่อมาก็ได้มีใบหูเล็กๆน่ารักโผล่มาจากด้านหลังของคุณนาเวียแต่ก็ไม่ยอมโผล่หน้าออกมาสักที ฉันเดินลงจากตักของท่านพี่ เดินตรงไปยังใบหูนั้นก่อนจะแตะมันเบาๆ "อ้ะ!" เสียงเล็กๆน่ารักๆดังออกมา ใบหูก็กระดิกไปมาเหมือนรำคาญกันแต่ฉันก็ยังลูบไล้ใบหูต่อไปก็มันน่ารักนี่น่า! "แหะๆ น่ารักจัง" ฉันชมไปด้วยเล่นกับหูของเด็กที่ไม่ยอมโผล่ออกมาไปด้วย "แหมๆ ไม่ทันไรก็ปากหวานใส่กันซะแล้ว" คุณนาเวียพูด "อลิส เขาขี้อายน่ะจ้ะ แต่ก็มีปัญหานิดหน่อยนะ อลิสออกมาเจอคุณหนูคริสหน่อยจ้ะ" นาเวียพูดให้เด็กที่ชื่ออลิสออกมาให้ฉันเจออีกครั้ง และครั้งนี้ก็ออกมาให้ฉันได้เห็นใบหน้าจนได้ หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก แค่ออกมาก็รู้สึกได้ว่ากำลังมีแสงฟรุ้งฟริ้งออกมาจากรอบตัวจนฉันแสบตาเลย น่ารักเกินไปแล้ว!! "คนนี้คือคู่หมั้นของอลิสหรอคะ?" อลิสพูดขึ้น แต่รู้สึกได้เลยว่าเธอไม่ได้ยินดีที่จะเป็นคู่หมั้นกับฉันเท่าไหร่ "หนูไม่หมั้นนะคะ" นั้นไงว่าแล้ว ยังไม่ได้เริ่มก็โดนอกหักซะแล้ว ขอร้องไห้ได้ไหม~ "ทำไมพูดแบบนั้นละอลิส" คุณนาเวียพูดขึ้น น้ำเสียงดุเล็กน้อย "ก็เป็นผู้หญิงทั้งคู่นี่คะ มันแปลกนะคะ" แทบกระอักเลือกเลย คำพูดทิ่มแทงใจฉันมาก "ขอโทษนะคะ ปัญหาก็คืออันนี้แหละคะ อลิสเขาไม่ยอมรับเท่าไหร่" นาเวียพูด และมองไปยังลูกตัวเองที่เอาแต่หลบอยู่ด้านหลังเหมือนเดิม "อืม..ถ้าอย่างงั้นคงช่วยไม่ได้นะ ถ้างั้นเรื่องคู่หมั้นเป็นโมฆ--" ท่านพ่อกำลังจะพูดจบประโยคแล้ว ไม่ได้ๆๆ การจะได้เจอผู้หญิงน่ารักๆแบบนี้ไม่ง่ายนะ! "แต่หนูเต็มใจนะคะ!" ฉันพูดขัดท่านพ่ออย่างเร็วและดังเท่าที่จะทำได้ ไม่ยอมให้หลุดมือแน่ เจ้าแมวน้อยของฉัน "เอ๊ะ?! เอาจริงหรอคริส" ตอนนี้เป็นท่านพี่ที่พูดขึ้นมาบ้างหลังจากนั่งเงียบอยู่นาน ฉันเองก็พยักหน้าตอบกลับไปอย่างตั้งใจ "ก็อลิสน่ารักนี่น่า ไม่ทีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธสักหน่อย" ฉันทำตาวิ๊งๆใส่ท่านพ่อ "อ่า.. ลืมไปเลยนะ ว่าตั้งแต่เด็กก็เอาแต่พูดว่าอยากเลี้ยงแมวน่ารักน่ะ..แต่ว่านะคริส.." ท่านพ่อพูดเมื่อนึกขึ้นมาได้แต่ก็ยังพูดไม่จบประโยค คุณนาเวียก็พูดขึ้นมาแทน "คือพวกเราสองคนเป็นเผ่าหมาป่าน่ะจ้ะ ไม่ใช่แมว" "... ไม่เป็นไร! น่ารักก็พอแล้ว!" ฉันยังไม่ยอมแพ้ ไม่ว่ายังไงฉันก็จะไม่ยอมปล่อยอลิสไปแน่ "อืมม ถ้าอย่างนั้นมาหมั้นกันอย่างเป็นทางการเงียบๆกันก่อน เพื่อลองศึกษาดูใจกันก่อนไหม พอถึงอายุสิบห้าปีตอนเข้าสอบโรงเรียน ถ้าถึงตอนนั้นยังไม่รักกันค่อยถอนหมั้นเพื่อไปหาคนที่รักจริงๆ ดีไหมละ?" ท่านพ่อเป็นคนเสนอเรื่องนี้ ฉันเองก็เห็นด้วย ซึ่งบอกได้เลยภายในสิบปีนี้ฉันจะทำให้อลิสรักฉันให้ได้ "อืม อย่างนั้นโอเคใช่ไหม อลิส" ตอนนี้คุณนาเวียหันไปถามลูกสาวตัวเอง และคำตอบที่ได้คือการพยักหน้าน้อยๆ 'อยากกอด' มีแต่คำนี้ในหัวอย่างเดียวเลย "คริส น้องลืมอะไรรึเปล่า" ท่านพี่ทริสถามฉัน ฉันเองก็งงว่าท่านพี่หมายถึงอะไร "อะไรหรอ??" "เรื่องเรียนฟันดาบไง" ท่านพี่กระซิบที่ข้างหูเบาๆ "อ๋อ! ใช่แล้ว ท่านพ่อคะ ลูกมีเรื่องจะขอ" ฉันทำตาใสวิ๊งๆอีกครั้งไปทางท่านพ่อ "ลูกขอเรียนฟันดาบนะคะ" เหมือนฉันได้พูดคำต้องห้ามออกมา เมื่อท่านพ่อได้ยินก็นิ่งไปเลย แต่ฉันไม่ยอมแพ้หรอกนะ "นะคะ นะคะ นะ นะ" ใช้ลูกอ้อนสุดความสามารถที่มี ฉันต้องเรียนให้ได้! และในที่สุด! "ก็ได้ ตามใจลูกเถอะ" ท่านพ่อกุมขมับก่อนจะอนุญาตฉัน "เย้! รักท่านพ่อที่สุดเลย!" ฉันหอมแก้มท่านพ่อไปฟอดหนึ่งแล้วยิ้มแฉ่งไปให้อีกหนึ่งที "พ่อขอถามหน่อยทำไมถึงต้องดาบด้วย" ฉันยิ้มให้หนึ่งที ก่อนจะตอบแบบมั่นใจ "หนูอยากจะปกป้องคนสำคัญได้ค่ะ!" แต่เอาจริงๆก็แค่ชอบที่จะเห็นเลือดในระยะประชิดเท่านั้นแหละ แต่ว่านะ เรื่องอยากจะปกป้องน่ะ เรื่องจริงนะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD