Chapter 2 สวรรค์และการเริ่มต้น

3134 Words
"อ้าว ลมอะไรหอบเจ้ามาที่นี้รึ" ตอนนี้ก็ผ่านมาจะครบร้อยปีแล้วที่ฉันทำงานอยู่ที่นรกแห่งนี้ และเมื่อแปดสิบปีก่อนหลังจากที่รุ่นพี่ได้ไปเกิดใหม่ ฉันก็ได้เจอคนที่ฆ่าฉันและพ่อของฉัน แน่นอนถึงจะเป็นผู้ให้กำเนิดแต่ก็ต้องได้รับโทษเหมือนอย่างคนอื่นเช่นกัน ได้แค่เอ่ยคำทักทายเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ส่วนคนที่ฆ่าฉันก็ได้ไปที่นรกขุมแปดเพราะฆ่าฉันนี่แหละ เป็นเวลาสามสิบปี ส่วนของพ่อฉันได้ไปนรกขุมเจ็ดเป็นเวลาสามสิบปีเช่นเดียวกัน เหตุผลก็เพราะทารุณกรรมฉันที่เป็นลูกแท้ๆ และตอนนี้ฉันเองก็มาอยู่ที่นรกขุมที่แปด "มาตรวจงานน่ะ เป็นยังไงบ้าง" ฉันถามพร้อมกับเดินไปยืนอยู่ข้างๆและมองลงไปข้างล่าง คงไม่ต้องถามนะว่าข้างล่างเป็นยังไง รู้แค่ว่าเสียงร้องแสนเจ็บปวดที่ต้องโดนแทงหรือฆ่าซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็พอ เพราะไปฆ่าคนอื่นมาเลยต้องโดนฆ่าแบบนี้ตลอด แต่ไม่ว่าจะแทงสักกี่ครั้งแผลก็จะกลับมาหายดังเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและแทงเข้าไปใหม่ สยองดีนะ "ก็อย่างที่เจ้าเห็นนั่นแหละหนูน้อยเอ๋ย บางคนก็พลั้งมือฆ่าทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็ต้องลงขุมนรกชั้นนี้อยู่ดี แต่ก็ไม่นานเท่ากับบางตนที่ตั้งใจฆ่า เจ้าเองเถอะ จะได้ไปเกิดใหม่แล้วมิใช่รึ?" เขาบอกพลางสั่งงานลูกน้องไปด้วยท่าทีเคร่งขึมด้วยความเป็นผู้นำแห่งนี้จึงต้องคุมทั้งพวกลูกน้องและกฏระเบียบด้วย "ใกล้แล้วละ เห็นว่าจะมีคนมารับหน้าที่แทนด้วย ก็หวังว่าจะไม่ขวัญอ่อนนะ" ฉันมองไปยังข้างล่างอยู่ตลอด ด้วยแววตาเรียบเฉย พ่อกับคนๆนั้นคงได้ไปเกิดแล้ว แค่สามสิบปีที่เขาได้รับโทษ "ฮ่าฮ่า! ท่านยมบาลไม่เอาคนขวัญอ่อนมาทำงานหรอก เจ้าไว้ใจได้ เจ้าเองเถอะ สอนงานให้รุ่นน้องดีๆซะด้วยล่ะ!" เขาตบหลังฉันเบาๆ "อืม ฉันไปก่อนล่ะ ตรวจครบทุกชั้นแล้ว" ฉันทีี่กำลังจะเดินกลับนั้นก็ถูกเขารั้งด้วยคำพูด "วันที่เจ้าจะไปเกิดใหม่ ข้าจะไปส่งเจ้าด้วย เจ้าเองทำให้ข้านึกถึงน้องสาวของข้าเมื่อยามที่ข้ายังมีชีวิต มีไม่มากหรอก ที่ท่านยมบาลจะเอาสตรีมาทำงานที่ดูโหดร้ายเช่นนี้! เมื่อถึงวันที่เจ้าไป ข้าจะไปส่งเจ้าด้วยรอยยิ้มและความอบอุ่นเอง" เขาพูด โดยที่ไม่ได้หันมามองฉันเลยแม้แต่น้อย แต่ฉันก็รับรู้ได้ว่าเขาพูดออกมาจากใจจริง "ขอบคุณ.. พี่ชาย" ฉันพูดจบก็เดินออกไปจากตรงนั้น . . "ก็เพราะเจ้าชอบทำให้คนอื่นเขาเป็นห่วงอยู่เรื่อยเลย สตรีตนแรกที่ทำงานนี้..ก็คือเจ้า" . . . . . . . . "ตรวจเสร็จแล้วรึ" เมื่อฉันเดินมาถึง ท่านยมบาลก็เอ่ยทักขึ้น "อืม ทุกอย่างเรียบร้อยดี ถึงจะมีคนที่อยากจะหนี แต่พวกเขาก็จัดการคนพวกนี้ได้ดี" ฉันตอบและเดินไปยืนข้างๆท่านยมบาล "ใกล้แล้วสินะ" ท่านยมบาลยังเอ่ยต่อ "อืม" ฉันเอง ก็รู้สึกใจหายอยู่ลึกๆเหมือนกัน ถึงคิดว่าร้อยปีมันช้า แต่กลับเร็วเกินไปสำหรับฉัน และวันนี้ก็เป็นวันที่คนรับตำแหน่งต่อจากฉันได้มาเยือนด้วย ไม่ว่าจะคนดีหรือเลว ทุกคนล้วนต้องลงมาที่นรกก่อน และมาฟังคำพิพากษาและส่งตัวไปตามสิ่งที่ตนได้ทำไว้เมื่อยังเป็นมนุษย์บนโลก ทำดีก็ไปสวรรค์ ถ้าโชคดีก็ได้เป็นนางฟ้าหรือเทพเจ้าไป แต่ส่วนมากจะได้ไปเกิดเลย ทำไมถึงรู้? ท่านเทพเคยมาหาน่ะสิ มาขอโทษแต่ฉันก็ปล่อยไป ท่านเทพมาแปปเดียวแล้วก็ไป บอกว่าที่นี้มันร้อนเกินไปเขาอยู่ไม่ได้ "มาแล้วล่ะ" ท่านยมบาลพูดขึ้น ก็มีคนถูกผู้ควบคุมลากมาให้นั่งลงตรงข้างล่างใต้ขั้นบันได เป็นเด็กผู้ชายอายุเท่าๆกับฉันเมื่อร้อยปีก่อน สิบเก้าปี ชื่อกิตติศักดิ์ "เอ่ยนามของเจ้ามา" ท่านยมบาลเริ่มเค้นเสียงถาม "กิตติศักดิ์" เด็กหนุ่มพูดขึ้น ไม่มีหางเสียง.. แต่เดี๋ยวก่อนนะ ตั้งแต่ฉันมา ฉันไม่เคยบอกชื่อตัวเองกับใครเลยนะ ท่านยมบาลเองก็ไม่ได้ถาม ช่างเถอะ ชื่อนั้นฉันขอทิ้งไว้ที่นั้นแหละ ตอนนี้ได้เวลาทำหน้าที่แล้ว "ฉันขอถามหน่อยนะเด็กน้อย" ฉันเอ่ยถาม แต่ก็โดนสวนมา "สิบเก้าแล้ว ไม่เด็กแล้ว" มีเถียงๆ เอาเถอะ "ฉันอายุร้อยสิบแปดปี พรุ่งนี้ร้อยสิบเก้า เพราะงั้น นายยังเป็นเด็กน้อยสำหรับฉัน" เขาเงียบ ฉันเองก็พูดต่อ "ถ้างั้นเข้าเรื่อง นายน่ะ กลัวการเห็นการทรมานคนหรือเปล่า?" นี่คือการถามคำถามที่ตรงประเด็นที่สุด ด้วยใบหน้าที่นิ่ง "ไม่" เขาตอบออกมา เป็นคำตอบที่ดี "ถ้างั้นมาฟังบาปกรรมที่เจ้าทำไว้ก่อนแล้วกัน เจ้ากักขังหน่วงเหนี่ยวและทรมานหญิงสาว.." ถึงว่าทำไมมันถึงไม่กลัว "และได้ฆ่าชายหนุ่มที่เข้ามาจีบแฟนสาวของคุณตายและเพื่อหนีความผิดเลยฆ่าตัวตาย ก็ประมาณนี้" ฉันปิดสมุดลง และท่านยมบาบก็พูดต่อจากฉัน "ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เจ้าน่ะต้องมาทำงานแทนที่สตรีผู้นี้เป็นเวลาร้อยปี! เจ้าจะยอมรับหรือไม่!" เขาไม่ตอบด้วยคำพูดแต่ก็ใช้การพยักหน้าในการตอบแทน "อื้ม! ได้รับคำตอบแล้ว! ถ้าให้ดี ช่วยใช้คำพูดและเติมหางเสียงลงไปด้วยล่ะ! เจ้าเข้าใจใช่หรือไม่!" "เข้าใจแล้วครับ" ตั้งแต่ร้อยปีมาเนี้ย เอาจริงๆท่านยมบาลเว้นฉันหรือเปล่า หรือเป็นเพราะฉันคือผู้หญิงท่านเลยไม่อะไรกับฉันสักเท่าไหร่ ฉันไม่เคยใช้คำหางเสียง ส่วนคำพูดก็ใช้ในเวลาจำเป็นอย่างการไปตรวจงานขุมนรก และตอบคำถามที่ท่านยมบาลต้องการด้วยคำพูดเท่านั้น "ได้เวลาฝึกงานรุ่นน้องของเจ้าแล้ว" ท่านยมบาลบอก ฉันเองก็พยักหน้าและเดินไปตรงหน้าเด็กน้อย "ตามมา" ฉันสั่ง แต่หมอนี่ก็ยังไม่ยอมลุก ฉันจิกตาไปหนึ่งที หมอนี่ก็ยังนิ่งหลบหน้าหลบตา แต่ก็ยอมพูดออกมา "ช่วยหน่อยสิ" เขายื่นมือมาเหมือนให้ฉันช่วยดึงขึ้น ฉันเองก็ไม่อะไรแล้วยื่นมือไปจับเพื่อดึง แต่ดันกลับกัน ไอหมอนี่ มันดันดึงฉันเข้าไปหาเนี้ยสิ!! ทำให้ฉันล้มทับตัวจนได้ พอมองตามัน โอเค รู้ถึงจุดประสงค์ สรุป จะแต๊ะอั๋งฉัน แถมตอนนี้ปากฉันกับปากมันใกล้กันแต่ก็ไกล ฉันมองนิ่งๆ ไม่รู้สึกอะไร พยายามจะลุกขึ้นไอหมอนี้มันก็รัดตัวฉันอีก จนในที่สุด ฟึบ เสียงหอกตัดผ่านหน้าของฉันไปที่ห่างมันหมอนี่แค่ห้าเซนเท่านั้น และปักลงข้างๆหัวของเขา จะเป็นของใครไปไหนล่ะหอกพวกนี้น่ะ ก็ของผู้ควบคุมไงล่ะ แต่ประเด็นคือ ฉันโดนพวกแบบนี้มาหลายรอบ และทุกรอบ พวกนั้นจบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ นี่เห็นฉันเป็นน้องสาวทุกคนเลยหรือยังไง หวงกันจัง ฉันไม่ได้ชอบผู้ชายสักหน่อย แค่คิดว่าได้กอดผู้ชายฉันก็รู้สึกอยากถีบขึ้นมาทันที ฉันชอบผู้หญิงนี่น่าจะให้ไปชอบผู้ชายมันก็ไม่ได้ละนะ "ช่วยปล่อยมือจากน้องสาวพวกผมจะได้ไหมครับ?" ถึงหน้าตาพวกเขาจะยิ้ม แต่จิตใจไม่ยิ้มตามเลยสักนิด ในมือกำหอกพร้อมที่ตะเสียบได้ทุกเมื่อ แล้วสรุปฉันกลายเป็นน้องสาวไปแล้วหรอเนี้ย? แล้วฉันก็หลุดพ้นจากกอดหมอนี่จนได้ เห็นเงียบๆ หมอนี่ตัวอันตราย และเมื่อตัวฉันโดนปล่อยแล้ว ฉันหยิบมีดเล่มเล็กที่ทำกับมือโดยเฉพาะปาไปข้างๆหัวของเขาอย่างเร็วและแรง ทำให้เฉียดแก้มไปจนเลือดออกไปนิดนึง ต้องอธิบายก่อนว่าถึงแม้จะตายแล้วแต่ก็ยังมีความรู้สึกเหมือนมนุษย์อยู่ครบถ้วนสมบูรณ์ มีกาย มีเลือด มีเนื้อ ทุกอย่าง "อย่าคิดทำแบบนี้อีก ไม่งั้นฉันจะส่งแกลงนรกขุมแปดก่อนที่ฉันจะเกิดเอง" ฉันบอกและดึงมีดที่ปักพื้นออก เก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อกันหนาว "เอาล่ะๆ พวกเจ้ากลับไปทำหน้าที่ซะ เจ้าเองก็ไปสอนรุ่นน้อง" ท่านยมบาลสั่ง ฉันเองก็ขัดไม่ได้ แต่เมื่อฉันเดินออกมาแล้ว ดูเหมือนพวกที่เรียกฉัันว่าน้องสาวจะไม่จบ ดันเดินมานั่งเฝ้าฉันซะอย่างนั้น "ทำไมมองพวกพี่อย่างนั้นล่ะคุณน้องสาว?" ยังมีหน้ามาถามนะ เห้อ ฉันเองก็ต้องสอนและทำเหมือนพวกเขาเป็นอากาศธาตุไป จนจบการสอน สอนเป็นวันเลย เพราะมีพวกเขาคอยกวนนี่แหละ "ถึงเวลาแล้ว" ฉันพูดออกมา ทำให้พวกเขาที่นั่งๆอยู่ถึงกับห่อเหี่ยวและนั่งน้ำตาซึมกันเลย เพราะรับรู้ถึงสิ่งที่ฉันสื่ออกมา ฉันลุกขึ้นและตรงไปยังท่านยมบาล และครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ฉันยอมคุกเข่าต่อหน้าใครสักคน "ได้เวลาแล้วรึ? เร็วเหมือนกันนะ" ท่านยมบาลพูดขึ้น และตามด้วยแสงของกระจกบานที่รุ่นพี่เคยเข้าไปได้ส่องแสงขึ้นอีกครั้ง กระจกบานนี้จะเป็นกระจกไว้สำหรับเหล่าผู้ควบคุมที่ได้ไปเกิดใหม่เท่านั้น "อืม" ฉันพยักหน้า "ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ร้อยปีมานี้..ค่ะ" ฉันก้มหน้าเคารพ "หึ ครั้งแรกสินะ ที่เจ้าได้พูดมีหางเสียงกับข้า ดีใจจังเลยนะ โตขึ้นมากเลย จงไปเถิด ชีวิตที่ดีกว่านี้กำลังรอเจ้าอยู่" ท่านยมบาลลูบหัวฉัน ทำตัวอย่างกับพ่อเลยนะ ฉันลุกขึ้นและเดินไปยังกระจกใบนั้น และแน่นอน ทำไมมาลากันเยอะจังเลยเนี่ย? แม้แต่ท่านยมบาลที่เอาแต่นั่งบนบัลลังก์ก็ยังลงมาส่ง ยิ่งใหญ่ไปนะ "ดูแลตัวเองด้วยนะน้องสาว" "ใช่ ดูแลตัวเองดีๆล่ะ" ส่วนใหญ่พวกเขาก็จะพูดแค่ว่าดูแลตัวเองดีๆ มีชีวิตที่ดีกว่านี้ ขอให้มีความสุข อะไรประมาณนี้กันเมื่อลากัน และสุดท้าย ท่านยมบาลได้ลั่นวาจาเป็นการส่งท้ายทำให้ฉันแทบช็อค "จงจำไว้! เมื่อเจ้าได้ตายอีกครา! เมื่อนั้น! เจ้าจะได้มารับหน้าที่แทนข้า! ไปเถิด" ฉันยังไม่ได้ตั้งตัวอะไร ท่านยมบาลก็ดันหลังฉันเบาๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียง ที่ดูจะเศร้านิดหน่อยล่ะมั้ง "ลูกสาวของข้า..ไว้เจอกันใหม่.." หลังจากนั้นฉันก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย พอเข้ามาในกระจก ก็ได้สลบไป รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ในห้องสีขาวๆซะแล้ว ชุดเองก็ไม่ได้เปลี่ยนไป เพราะฉันลืมจะเป็นเป็นสีดำ ตอนนี้เลยใส่เป็นชุดแดงขาว "มาแล้วงั้นรึ" เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งได้พูดขึ้น ฉันเงยหน้ามองก็เป็นท่านเทพที่มาหาฉันตอนนั้นนั่นเอง "อืม" ฉันพยักหน้า "พร้อมที่จะไปเกิดหรือยังล่ะ" เขาถาม ฉันเองก็พยักหน้าน้อยๆ ก็รู้สึกตื่นเต้นหน่อยๆ ไม่รู้ว่าจะได้ไปเกิดในที่แบบไหน "แต่ด้วยความผิดพลาดอันใหญ่หลวง ข้าให้เจ้าขอพรกับข้าได้สามข้อ เป็นยังไง?" "ดูเป็นคนใจกว้างจังเลยนะ" การได้พรไม่ใช่ว่าจะได้กันง่ายๆ ถึงจะมีแต้มบุญสูงๆยังได้แค่พรเดียว "แน่นอน เพราะฉันเป็นคนใจกว้างยังไงล่ะ อย่างน้อยก็ใจกว้างกว่าเจ้ายมบาลนั่น" พอพูดถึงท่านยมบาลฉันก็พึ่งนึกขึ้นได้ "ทำไม ท่านยมบาลถึงบอกว่า ลูกสาวของข้าล่ะ" นี่คือคำพูดสุดท้ายที่ฉันจำได้ "... แล้วได้ยินอะไรมาบ้างล่ะ" "ก็บอกว่า.. ตอนฉันตายอีกรอบจะได้มาแทนที่ท่านยมบาลอะไรสักอย่างนี่แหละ" ฉันเองก็นึกไม่ค่อยออก เพราะมันเบลอไปหมด "ถ้าอย่างนั้น เรามาคุยกันก่อนที่เจ้าจะไปเกิดใหม่กันดีกว่านะ" ท่านเทพเชิญฉันไปนั่งบนศาลาสีขาวที่มีดอกไม้และพุ้มไม้ประดับเต็มไปหมด ถึงจะดูรกไปหน่อยแต่ก็สวยดี ฉันนั่งลงบนเก้าอี้ และท่านเทพก็เข้าประเด็นทันที "เมื่อพันปีก่อน เจ้านั่นแหละที่เป็นลูกสาวของเขา กับมนุษย์สาวคนนึง" "หืม???" "ฉันจะเล่ารวดเดียวเลยแล้วกันนะ จะได้ไม่เสียเวลาที่เจ้าจะได้ไปเกิดใหม่" ฉันพยักหน้าตอบรับ "เมื่อพันปีก่อน เขาได้แปลงกายไปสอดแนมที่โลกมนุษย์ จึงทำให้พบกับแม่ของเจ้าเข้า และเมื่อเกิดรักมนุษย์แล้ว เขาจึงละเลยหน้าที่ในฐานะยมบาลไป ไปใช้ชีวิตเป็นมนุษย์ธรรมดาและอยู่กับแม่เจ้าบนโลกมนุษย์.. " ท่านเทพเหลือบมองฉัน ก่อนจะเล่าต่อ "และได้ให้กำเนิดเจ้ามา แต่เพราะเจ้ามีเลือดที่ไม่ใช่มนุษย์อยู่ กลายเป็นเลือดผสม ที่ผิดพลาดที่สุด.. เจ้าเกิดมาพร้อมกับพลังในการลงโทษผู้กระทำผิดตอนนั้นบนโลกมนุษย์เรียกว่าปีศาจ ทำให้เขาต้องบอกความจริงทั้งหมดกับแม่ของเจ้า เมื่อแม่ของเจ้าได้ฟัง นางรับไม่ได้ แต่ก็ยังรักเจ้าดั่งลูกแท้ๆเหมือนเดิม โดยขอให้พ่อของเจ้ากลับไปยังขุมนรกเช่นเดิม เจ้าโตขึ้น เริ่มรู้ว่าตัวเองไม่เหมือนคนอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรแม่ของเจ้า ได้แต่ปล่อยเวาผ่านไป แม่ของเจ้าป่วยหนัก ในยุคนั้นการแพทย์ไม่ได้ทันสมัย ทำให้แม่ของเจ้าต้องตายจากไป.. พ่อของเจ้าเมื่อรู้ ก็อยากจะไปรับเจ้ามาอยู่ด้วยกัน แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะแทรกแซง ถึงเจ้าจะเป็นเลือดผสม แต่ก็ยังเป็นมนุษย์ครึ่งนึงอยู่ดี เขารอให้เจ้าตาย เพื่อจะได้เจอกันอีกครั้ง แต่เมื่อเจอกันอีกครั้ง ตอนนั้นเจ้ากลับปฏิเสธทุกอย่าง ไม่ยอมรับเขาโทษเขาว่าทำให้แม่ของเจ้าต้องตาย ทิ้งเจ้าและแม่ไว้ และยืนกรานอยากจะเกิดใหม่เป็นมนุษย์ธรรมดา พ่อของเจ้าก็ตามใจ เจ้าเป็นแบบนี้มาตลอดเกิดใหม่ ตาย เกิดใหม่ ตายลืมเรื่องราวทุกอย่างตลอด พ่อของเจ้าเฝ้าดูเจ้าตลอด ถึงกาลเวลาจะเปลี่ยนไป แต่หน้าตาของเจ้าไม่ต่างจากพันปีก่อนเลย และมีแค่ครั้งนี้เท่านั้น ที่เขาได้อยู่กับเจ้าได้นานที่สุด ถึงร้อยปี สำหรับเขาคงจะน้อยมาก" "..." ฉันยังนิ่งกับสิ่งที่เขาได้บอกมา ทำไมเขาถึงใจดีกับฉัน? ทำไมเขาไม่ดุฉันเลยสักครั้ง? ตามใจฉันทุกครั้ง? เป็นแบบนี้นี่เอง "แล้วที่ว่า ได้เวลาที่ฉันแทนที่ล่ะ?" "... เมื่อถึงคราวนั้น พ่อของเจ้าต้องเกิดใหม่แล้ว" "..." "ได้เวลาแล้ว คิดไว้หรือยังคำขอพรของเจ้า?" "อืม คิดไว้แล้ว" ฉันลุกขึ้นเต็มความสูง "ว่ามาเลย" "ขอหนึ่ง ความทรงจำทั้งหมดก่อนจะไปเกิดใหม่ ฉันขอจำได้ทั้งหมด ข้อสอง ฉันขอพลังที่สามารถปกป้องคนสำคัญได้" ที่ฉันไม่บอกว่าคนรัก เพราะอยากจะรวมคนสำคัญทั้งหมด อยากที่จะปกป้องได้ "ข้อสาม ข้อความมาสารถในการเรียนรู้ที่รวดเร็ว" "ไม่ขอเงินทองรึ?" ท่านเทพถาม "เงินทองน่ะหาได้ แต่คนสำคัญน่ะ ตายแล้วตายเลย ไม่สามารถหาใหม่ได้" "คำตอบดีนี่น่าเจ้าน่ะ เอาเถอะ เจ้าได้เกิดในบ้านที่มีฐานะอยู่แล้ว โชคดีล่ะ" ท่านเทพยิ้มก่อนภาพทั้งหมดจะดับไป อีกแล้ว . . . . "ไง เจ้าตัวน้อยของแม่" เสียงผู้หญิงดังขึ้นในโสตประสาท เสียงดังก๊องแก๊งดังเต็มไปหมดเหมือนเสียงของเล่นที่กำลังกระทบกัน รู้สึกขยับตัวไม่ได้เลย รู้สึกถึงความโอนเอนของตัวเองเหมือนกำลังนอนเปล ฉันพยายามลืมตามองว่าใครเป็นคนเรียกกัน ปรับแสงได้นิดหน่อยก็มองเห็นหญิงสาววัยสามสิบกว่าๆมีดวงตาสีน้ำเงินสีผมสีชมพูออกแดง ใบหน้าคมเหมือนกับนางร้าย แต่คำพูดที่เรียกเมื่อกี้กลับดูอบอุ่น "แอ๊.." ... เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ฉัน.. จะพูดออกไปว่าใครไม่ใช่หรอ???? ทำไมเสียง.. มือ ตัว เด็กทารก.. อืมช่างเหอะ ก็เกิดใหม่นี่นะ "ไหนน้องผมฮะท่านแม่" เสียงของเด็กชายคนหนึ่งพูดขึ้นและพยายามจะเขย่งเท้ามองฉัน เพราะเปลอยู่สูงเกินไป ผู้หญิงตรงหน้าเลยลดเปลลงมาระดับต่ำ "น้องสาวผมชื่ออะไรหรอฮะ?" "ชื่อคริสจ้ะ คริส ทราเซีย" คริสงั้นหรอ ดูเหมือนชื่ออังกฤษเลย ฉันมองดูทั้งสองเงียบๆ "น้องผมชื่อคริส ผมชื่อทริส เข้ากันดีนะฮะ" เด็กที่บอกตัวเองชื่อทริสยื่นนิ้วมาทางฉันเหมือนทักทาย ฉันเองก็ทักทายกลับด้วยการพยายามยกมือขึ้นไปจับนิ้วของเขา ดูจากความสูงแล้วคงอายุสิบปีละมั้ง "น้องจับนิ้วผมด้วยฮะ!" ดูท่าจะดีใจนะ และก็ตามด้วยเสียงเปิดประตูมาด้วยความรีบร้อน เดินตรงมาทางฉัน เป็นผู้ชายดูมีภูมิฐาน "โรเซ็ตต้า ได้ลูกสาวหรือลูกชาย?" เขาถามผู้หญิงผมแดง เขาเรียกเธอว่าโรเซ็ตต้า ท่าทางเขาดูเหนื่อยๆเหมือนวิ่งมา เพราะเสียงหอบบ่งบอกชัดเจน เหงื่อเองก็มีเยอะเลย "ลูกสาวค่ะคุณ" เธอตอบกลับไป "งั้นรึ" เขามาดูฉันและอุ้มฉันขึ้นลอยไว้กลางอากาศ "น่ารักซะจริง! คริสของพ่อ ขอให้ร่างกายแข็งแรงด้วยเถิด" เขาเป็นพ่อของฉันสินะ "ขออนุญาตค่ะท่านว้อยส์ มีคนมาขอพบค่ะ" ฉันเหลือบมองไปหาเสียงก็พบกับสาวเมด สาวเมดล่ะ ตัวจริงเสียงจริงเลย โหววว ยุคนี้อาจจะสนุกกว่าที่คิดก็ได้!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD