bc

ทาสรัก

book_age18+
2.0K
FOLLOW
4.2K
READ
HE
opposites attract
pregnant
heir/heiress
drama
polygamy
like
intro-logo
Blurb

หมับ! ใบหน้าน้อยๆ ของฉันถูกมือหนาบีบเข้าอย่างแรงด้วยความโกรธเคือง

“หรือคิดจะจับฉัน โดยการใช้วิธีโง่ๆ แบบนี้? บอกเลยว่าไม่ได้ผล ฉันไม่มีวันยอมรับเด็กนั่น!”

เขาใช้คำพูดว่าดะ...เด็กนั่นเหรอ!

“...” ฉันเงียบไม่มีแม้แต่คำพูดใดๆ ไม่ใช่ว่าไม่อยากด่า แต่เขาเลวเกินกว่าที่ฉันจะสรรหาคำด่ามาได้

“จัดการซะ ฉันยังไม่พร้อมที่จะมีลูกตอนนี้ เธอคงรู้ใช่ไหมว่าควรทำยังไง”

เงินแบงก์พันปึกหนาจำนวนหนึ่งถูกยัดใส่มือฉันแบบไม่เต็มใจ ถึงเขาจะไม่พูดออกมาตรงๆ แต่ฉันก็รู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร เขาต้องการที่จะให้ฉันทำแท้งเอาเด็กออก เขากำลังบีบบังคับให้ฉันฆ่าลูกตัวเอง...

“พี่มันเลว เลวที่สุด!”

“...”

“พี่กล้าให้นับทำแบบนี้ได้ยังไง เขาก็เป็นลูกพี่เหมือนกันนะ” ฉันทรุดนั่งลงบนที่นอนทั้งน้ำตา แค่สภาพจิตใจตอนนี้ก็ย่ำแย่มากพออยู่แล้ว

“....”

“นับไม่กล้า นับไม่ทำ!”

“งั้นก็ปิดปากของเธอซะ! อย่าให้ใครรู้ว่าเด็กนั่นเป็นลูกของฉัน”

ปึ้ง! ฉันสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อถูกคนตัวโตปิดประตูห้องใส่หน้าอย่างแรง

ทำไมเขาถึงได้ใจร้ายกับฉันนัก....

chap-preview
Free preview
ชีวิตใหม่
-วัดแห่งหนึ่ง- หยาดน้ำตาสีใส ไหลลงอาบแก้มนวลครั้งแล้วครั้งเล่า ‘นับดาว’ หญิงสาววัยยี่สิบปีได้แต่ยืนสะอึกสะอื้นกอดรูปผู้เป็นแม่ด้วยความเสียใจและอาลัยอย่างสุดซึ้ง ควันสีขาวที่ลอยพวยพุ่งผ่านปล่องเมรุขึ้นสู่ท้องฟ้า มันช่วยเตือนสติให้เธอรู้ว่าแม่ได้ตายจากไปแล้วจริงๆ ต่อจากนี้เธอคงต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวและใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง “ทำใจให้สบายนะหนูนับ คิดซะว่าแม่เขาไปสบายแล้ว” ลีลาวดีบอกหลานสาวด้วยความสงสาร เธอและแม่ของนับดาวเป็นเพื่อนสนิทกันมาหลายสิบปี แต่ก็มีเหตุให้แม่ของนับดาวต้องด่วนจากโลกนี้ไปเพราะมีสาเหตุมาจากอาการป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ก่อนที่แม่ของนับดาวจะจากไป เธอได้ฝากฝังลูกสาวเพียงคนเดียวไว้กับเพื่อนสนิท ซึ่งลีลาวดีก็รับปากและสัญญาว่าจะดูแลนับดาวเป็นอย่างดี เพราะเธอเองก็รักและเอ็นดูนับดาวเหมือนลูกหลานแท้ๆ คนนึง “ในชีวิตของนับ เหลือแค่แม่เพียงคนเดียว แล้วต่อจากนี้นับควรทำยังไงดีคะป้าลี นับจะใช้ชีวิตต่อไปได้ยังไง” หญิงสาวกอดรูปของผู้เป็นแม่ไว้แน่นอย่างน้อยใจในโชคชะตา ไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือแม่ก็ล้วนแต่ตายจากเธอไปเสียก่อน “ย้ายมาอยู่กับป้าไงจ๊ะ แม่ของนับฝากฝังหนูไว้กับป้าตั้งนานแล้ว หนูไม่ต้องเป็นกังวลนะ” “แต่นับเกรงใจ นับคงไม่กล้าย้ายไปอยู่กับคุณป้าหรอกค่ะ” นับดาวยังคงคิดไม่ตก เธอไม่อยากทำตัวเป็นภาระให้กับใคร ถ้าเป็นไปได้ก็อยากลองดิ้นรนด้วยตัวเองก่อน “ไม่ต้องเกรงใจ ป้ารักหนูเหมือนลูกแท้ๆ คนนึงนะ อย่าคิดมากสิ” “…..” “ย้ายไปอยู่กับป้านะ เดี๋ยวป้าจะเป็นคนส่งเสียเลี้ยงดูหนูเอง” “แต่หนู…” “หนูเป็นผู้หญิงอยู่คนเดียวมันอันตรายนะ ถ้าแม่เขารู้คงเป็นห่วงหนูแน่ๆ ฉะนั้น อย่าทำให้แม่เขาต้องเป็นห่วงเลยนะ เชื่อป้าเถอะ” ลีลาวดียกมือขึ้นลูบศีรษะของคนตัวเล็กด้วยความรัก เธอสัมผัสและรับรู้ได้ว่านับดาวเป็นคนที่อ่อนโยนและมีจิตใจดี -บ้านเอกอนันต์- ร่างบางยืนมองคฤหาสน์หรูที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ เธอตัดสินใจย้ายมาอยู่กับลีลาวดีตามความต้องการของผู้เป็นแม่ที่สั่งเสียเอาไว้ก่อนตายเพราะไม่อยากให้แม่ต้องมีห่วง คนตัวเล็กกลืนน้ำลายลงคอด้วยความประหม่า ก่อนจะตัดสินใจกดกริ๊งที่อยู่หน้าบ้าน กริ๊งง~ กริ๊ง~ ผ่านไปไม่นานนักแม่บ้านวัยกลางคนจึงเดินออกมาเปิดประตูให้เธอด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “มาหาใครคะ?” “หนูมาหาคุณลีลาวดีค่ะ” “ใช่คุณนับดาวหรือเปล่าคะ?” “ใช่ค่ะ หนูชื่อนับดาว” “ถ้างั้นเชิญตามมาทางนี้ค่ะ คุณนายกำลังรอคุณอยู่พอดี” “…..” ร่างบางพยักหน้ารับพร้อมกับเดินตามเข้ามาในบ้านตามที่หญิงวัยกลางคนบอก “คุณนับดาวมาแล้วค่ะคุณนาย” “สวัสดีค่ะคุณป้า นับขอโทษที่มาช้านะคะ พอดีรถเมล์เสียกลางทางน่ะค่ะ” นับดาวยกมือไหว้ด้วยความนอบน้อมหลังจากที่เห็นว่าผู้เป็นป้ายืนรอต้อนรับอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว “ไม่เป็นไรเลยหนูนับ ว่าแต่ทานอะไรมาหรือยัง หิวไหมลูก?” “ไม่หิวค่ะคุณป้า พอดีนับทานข้าวมาก่อนแล้ว” “งั้นตามป้ามาทางนี้ เดี๋ยวป้าจะพาไปดูห้องนอนของหนู” “…..” แกร้ก~ บานประตูห้องนอนถูกเปิดออก ก่อนที่คนตัวเล็กจะสอดส่องสายตามองไปยังบริเวณโดยรอบ เธอรู้สึกเกรงใจเมื่อเห็นห้องนอนที่กว้างใหญ่และหรูหรากว่าบ้านหลังเดิมของเธอเป็นไหนๆ ตั้งแต่ที่พ่อของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไป เธอและแม่ก็กลายเป็นบุคคลล้มละลายไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบาก “เป็นไงบ้าง หนูชอบห้องนี้หรือเปล่า?” ผู้เป็นป้าหันไปถามหลานสาวพร้อมยิ้มให้ ด้วยความที่เธอไม่มีลูกสาวจึงเอ็นดูนับดาวเป็นอย่างมาก “ป้าลีจะให้นับอยู่ห้องนี้จริงๆ เหรอคะ?” เธอทวนถามอีกครั้งด้วยความไม่แน่ใจ “ก็ใช่น่ะสิจ๊ะ ป้าเตรียมห้องนี้ไว้ให้หนู” “แต่นับว่ามันใหญ่เกินไป มีห้องที่มันเล็กกว่านี้ไหมคะ?” “ถ้าเล็กกว่านี้ก็คงต้องเป็นห้องแม่บ้านแล้วล่ะจ้ะ” ลีลาวดีถึงกลับหลุดขำออกมาเบาๆ ให้กับท่าทางขี้เกรงใจของคนตัวเล็ก เพราะเธอตั้งใจรับนับดาวมาอุปการะเลี้ยงดูในฐานะลูกสาวคนนึง “ให้นับอยู่ห้องแม่บ้านก็ได้ค่ะป้าลี” “ได้ไงกันหนูนับ ป้าว่าอยู่ห้องนี้น่ะดีแล้ว ยังไงป้าก็ไม่ยอมให้หนูไปอยู่ห้องแม่บ้านหรอกนะ” “…..” “ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องป้านะ ส่วนห้องข้างๆ หนู เป็นห้องของพี่ครามกับพี่คินน์” “พี่คราม พี่คินน์?” หญิงสาวครุ่นคิดแล้วนึกย้อนกลับไปในอดีต ‘ครามและคินน์’ คือลูกชายของลีลาวดีที่เธอเคยวิ่งเล่นด้วยกันสมัยเด็ก พวกเขาทั้งสองคนชอบทำให้เธอร้องไห้และแกล้งเธอเป็นชีวิตจิตใจ พอเธอย้ายบ้านออกไปก็ไม่ได้เจอพวกเขาทั้งสองคนอีกเลย “หนูจำพวกพี่ๆ เขาได้ใช่ไหม ตอนเป็นเด็กเคยเล่นด้วยกันบ่อยๆ” “จำได้ค่ะ” “ตอนนี้พี่ครามกับพี่คินน์โตเป็นหนุ่มกันแล้วนะ แถมยังหล่อมากๆ ด้วย เดี๋ยวตอนเย็นคงได้เจอกัน” “…..” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นด้วยความกังวล เพราะเธอไม่รู้ว่าคนทั้งสองจะยินดีด้วยหรือไม่กับการที่เธอเข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่ -ตอนเย็น- “เป็นยังไงบ้างหนูนับ อาหารถูกปากหรือเปล่า?” ลีลาวดีเอ่ยถามหลานสาวในขณะที่นั่งทานข้าวเย็นกับนับดาวเพียงสองคน “อร่อยมากค่ะป้าลี นับไม่ได้ทานอาหารอร่อยๆ แบบนี้มานานแล้วค่ะ” ร่างบางตอบกลับ นี่คงเป็นอาหารมื้อแรกที่เธอทานมันได้อย่างเต็มปากเต็มคำหลังจากที่เสียแม่ไป “ถ้าอร่อยก็ทานเยอะๆ เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ” “ค่ะป้าลี” “นี่มันก็ค่ำมากแล้วนะ ว่าแต่ตาคุณกับตาคินน์ยังไม่กลับมาอีกเหรอ?” ลีลาวดีหันไปถามแม่บ้านคนสนิทที่ยืนอยู่ข้างๆ ตอนนี้เป็นเวลาทุ่มกว่าแล้วแต่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทั้งสองคนยังกลับไม่ถึงบ้าน ทั้งๆ ที่พากันเลิกเรียนตั้งแต่บ่ายสอง “นอมโทรหาคุณครามกับคุณคินน์แล้วค่ะ อีกเดี๋ยวสักพักก็น่าจะถึง” แม่บ้านวัยกลางคนพูดขึ้น นี่ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็นเกือบทุกวันที่ลูกชายทั้งสองนั้นออกไปเถลไถลนอกบ้าน “เลิกเรียนตั้งนานแล้ว ทำไมยังกลับไม่ถึงบ้านอีก แย่จริง!” “นั่นไงคะ พูดถึงก็มาพอดี” ลีลาวดีถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่ายหลังจากที่ได้เห็นลูกชายทั้งสองเดินเข้ามาในบ้านอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน “ตาคราม ตาคินน์ มาหาแม่หน่อย” ครืด~ ตุบ! คนตัวเล็กถึงกลับก้มหน้าสะดุ้งเมื่อมีคนลากเก้าอี้แล้วทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ เธออย่างแรง กลิ่นแอลกอฮอล์ที่พ่นออกมาทางลมหายใจบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าคนข้างเธอนั้นผ่านการดื่มมาอย่างหนัก “นี่หนูนับดาวนะ ลูกของคุณน้าวาดเดือน จำกันได้หรือเปล่า?” “จำได้สิ ผมจำได้แม่นเชียวล่ะ ยัยเด็กขี้ฟ้อง!” “โตเป็นสาวแล้วน่ารักขึ้นเยอะเลยนะ” นับดาวค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองตามมารยาท ก่อนจะเห็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาทั้งสองที่อยู่ในชุดนักศึกษาชายเสื้อหลุดลุ่ยกอดอกมองหน้าเธออยู่ เธอรู้สึกไม่แน่ใจว่าคนไหนคือครามและคนไหนคือคินน์ “สวัสดีค่ะพี่คราม” นับดาวยกมือไหว้ทักทายคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเธอ สีผมดำขลับและสันจมูกโด่งคมช่างตัดกับใบหน้าขาวเนียนของเขาเป็นอย่างดี “…..” แต่สิ่งที่เขาตอบกลับมามีแค่เพียงความเงียบ จนทำให้เธอรู้สึกเกร็งอย่างบอกไม่ถูก “สวัสดีค่ะพี่คินน์” เมื่อไม่มีสัญญาณที่เป็นมิตรเธอจึงหันมาทักทายชายหนุ่มคนที่นั่งข้างๆ เขาคนนี้มีผมสีควันบุหรี่ที่ดูแล้วร้ายไม่เบา หลังจากที่พูดจบ ใบหน้าคมคายเลื่อนเข้าใกล้หญิงสาวที่นั่งข้างๆ จนเธอต้องรีบขยับถอยหนี “พี่จะให้โอกาสเธอคิดอีกที คนไหนคราม คนไหนคินน์?”

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

FirstLove น้องพี่ที่รัก

read
8.1K
bc

ซ่านเสน่หา พี่น้องต่างสายเลือด

read
4.3K
bc

กระชากกาวน์

read
5.2K
bc

My Buddy เล่นเพื่อน

read
16.9K
bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
5.9K
bc

ร้อยสวาททาสหัวใจ

read
3.4K
bc

แคดดี้ที่รัก

read
1.2K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook