"หมูปิ้งไหมคะ หมูปิ้งไหมคะ!!"
น้ำปรุงTalk
"หมูปิ้งไหมคะ หมูปิ้งไหมคะ!!"
"หมูปิ้งร้อนๆอร่อยๆมาแล้วจ้า!!"
"หมูปิ้งนมสดอร่อยๆไม้10บาทจ้า!!"
"ข้าวเหนียว5บาท10บาทก็มีนะคะ!!"
นั่นไม่ใช่เสียงใครที่ไหนหรอก เป็นเสียงของเราเอง เรากำลังตะโกนเรียกลูกค้าที่กำลังเดินขวั่กไขว่ ที่หน้าปากซอยหน้าโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง เราขายที่นี่ประจำเพราะน้องไอรินลูกสาวเราเรียนอยู่ที่นี่
ทุกวันเราจะรีบตื่นมาตั้งแต่เช้ามืดเพื่อมาขายหมูปิ้ง เราเป็นเสาหลักของครอบครัว เราต้องหาเงินเพื่อจุนเจือครอบครัวทุกอย่าง มีผัวก็เหมือนไม่มี ไม่เคยช่วยหยิบจับอะไร
เราต้องต่อสู้ดิ้นรนมาโดยตลอด โดยที่สามีไม่เคยคิดจะหยิบจับหรือช่วยอะไรเลย อย่างที่เขาว่ามีผัวผิดคิดจนตัวตาย มันก็จริงอย่างคำที่เขาพูดกัน มีผัวผิดคิดจนตัวตาย เรานี่แหละที่จะตาย เพราะทำทุกอย่างไม่เคยหยุด
เคยคิดจะเลิกอยู่หลายครั้ง แต่พอมองหน้าลูกก็อดสงสารไม่ได้ ได้แต่อดทนเรื่อยมา อีกอย่างก็รักเขามากให้ตัดใจเลิกเลย มันก็ยากอยู่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะคิดจะเลิก แต่หลายๆอย่างก็ทำให้เลิกไม่ได้
"แม่จ๋า ไอรินไปเรียนก่อนนะคะ"ไอรินลูกสาวตัวน้อยของเรายืนยิ้มอยู่ ตอนนี้อยู่ในชุดนักเรียน หน้ายิ้มแย้มไร้เดียงสา รู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่มองรอยยิ้มน่ารักของลูกสาว
"จ้า ตั้งใจเรียนนะลูก"
"ค่ะแม่ ไอรินจะตั้งใจเรียน พอโตขึ้นไอรินจะหาเลี้ยงแม่เอง แม่จะได้ไม่ต้องลำบาก"
" ทำไมหนูถึงน่ารักได้ขนาดนี้" เราพูดพร้อมหอมแก้มลูกสาวเบาๆ
"ไอรินรักแม่นะคะ"
"จ้า! เอาเงินไปกินหนมด้วย" เรายื่นเงินให้ลูกสาว
"ขอบคุณค่ะ ไปแล้วนะคะ"
" จ้ะ! " ลูกสาวตัวน้อยยกมือไหว้สวัสดีเราแล้วเดินเข้าโรงเรียน ไอรินเป็นเด็กน่ารัก ถึงเธอจะอายุแค่7ขวบแล้ว แต่ไอรินก็ช่วยเหลือตัวเองอาบน้ำแต่งตัวเองได้แล้ว พอแต่งตัวเสร็จก็ออกมาหาเราหน้าโรงเรียนเองทุกวัน โดยที่ผู้เป็นพ่อไม่เคยสนใจเลย
เพราะความสงสารลูกอยากให้มีครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนคนอื่นเขามี เราได้แต่ประคับประคองครอบครัวเรื่อยมา ส่วน'ดนัย'เขาเป็นรักแรกและรักเดียวมาตลอด เขาเป็นสามีที่ไม่ได้เรื่องเลย
เรายอมรับว่ารักเขาไม่น้อย ถึงแม้เขาจะไม่เคยเป็นผู้นำครอบครัวที่ดี แต่เราก็ยังรักเขาอยู่ดี ถึงใครจะว่าโง่ก็เถอะ เราไม่อยากเป็นผู้หญิงหลายผัว ไม่อยากให้ลูกสาวต้องมาเจอเรื่องแย่ๆ
เรายืนเหม่อคิดอะไรไปเรื่อยๆบางทีชีวิตมันก็ตลกดีเหมือนกันนะ รู้ว่าอะไรดีชั่ว แต่ก็ไม่พาตัวเองหลุดพ้นไป
"....:หมูปิ้ง3ไม้ข้าวเหนียว10บาทครับ"
เราสะดุ้งตื่นจากภวังค์ก่อนหันไปมองลูกค้า เป็นคุณหมอท่าทางสุขุมใจดียืนยิ้มให้เราอยู่ เขาดูสะอาดสะอ้าน และดูหน้าตาดีมากๆ อย่างว่าล่ะเนาะหมอก็ต้องสะอาดอยู่แล้วล่ะ
"คะ..ค่ะ เอาอะไรบ้างคะ พอดีแม่ค้าไม่ได้ยิน ขอโทษจริงๆค่ะ" เราขอโทษขอโพยเขาเพราะมัวแต่เหม่อลอยจนไม่ได้สนใจลูกค้าเลย
"หมอจะบอกว่าเอาหมูปิ้ง3ไม้ข้าวเหนียว10บาทครับ"
"ค...ค่ะ "เรารีบหยิบหมูปิ้ง3ไม้กับข้าวเหนียว1ห่อใส่ถุงแล้วยื่นให้คุณหมอ เขายื่นมือมารับถุงหมูปิ้งจากมือเราแล้วยิ้มให้
" เท่าไหร่ครับ"
" 40บาทค่ะ" เขายื่นธนบัตรแบงค์พันให้เรา เรารับมาก่อนจะล้วงไปในผ้ากันเปื้อนเพื่อหาเงินทอน
" ไม่ต้องทอนครับ" เขาส่งยิ้มให้เราก่อนจะเดินออกไป เงินตั้งพันแต่เขากลับไม่เอาตังค์ทอน แสดงว่ารวยมากๆเลย หรือไม่ก็มีน้ำใจมากๆแน่ๆ สักพักพยาบาล3-4คนก็มาซื้อหมูปิ้งเรา
"น่ากินจังเลย งั้น! เอาหมดเลยค่ะ"
"เอาข้าวเหนียวด้วยไหมคะ"เราถามพยาบาลคนสวยที่ยิ้มให้เรา
"เอาค่ะ"
เราหยิบหมูปิ้งใส่ถุงพร้อมกับหยิบข้าวเหนียวใส่ถุงอีกใบให้พยาบาล วันนี้รู้สึกดีมากๆ ที่ของขายหมดเร็ว เราจะได้กลับบ้านไปพักบ้าง
"เท่าไหร่คะ"
"450ค่ะ"
"นี่ค่ะ ขอบคุณนะคะ"
"ปรุงก็ต้องขอบคุณเหมือนกันค่ะ"
พยาบาลยื่นเงินให้เราก่อนจะเดินออกไป เรารีบเก็บของใส่รถเข็น วันนี้กลับบ้านเร็วกว่าปกติเพราะพวกหมอพยาบาลมาเหมาไปหมด แปลกจัง! ปกติพวกพยาบาลก็ไม่ค่อยซื้อกินกันซักเท่าไหร่หรอก
พอเก็บของเสร็จ เราก็เข็นรถเข็นขายของกลับบ้าน กว่าจะถึงบ้านยอมรับว่าเหนื่อย เพราะของบนรถมันเยอะ แค่รถเข็นก็หนักแล้ว
"เอ๋งๆ!"
"ตายแล้ว! ปรุงขอโทษ" เรารีบไปดูหมาทันทีเมื่อเราเข็นรถไปเหยียบหางมัน ช่วงนี้ตาเราไม่รู้มันเป็นอะไร มันมัวๆบางครั้งก็แทบจะมองไม่เห็น แต่บางครั้งชัดแจ๋วเชียว
"ขอโทษนะ" เราตรวจดูร่างกายสุนัขที่เราเลี้ยงเอาไว้อย่างสำนึกผิด เราไม่น่าเหยียบมันเลย แต่ดีหน่อยที่มันไม่เป็นอะไร
เราถอดรองเท้าแต่พอมองไปข้างๆดันมีรองเท้าผู้หญิงอีกคนอยู่หน้าบ้าน ไม่อยากจะคิดอะไรที่ไม่ดีหรอก แต่มันก็อดที่จะสงสัยไม่ได้
เราเปิดประตูเข้าไปก่อนจะเจอม่านแก้วนั่งอยู่บ้านโซฟา ส่วนดนัยนั่งอยู่ตรงข้าม รองเท้าหน้าห้องเป็นรองเท้าของยัยม่านแก้วนี่เอง เราได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
"อ้าว!มานานแล้วเหรอม่าน"เราเอ่ยถามขณะที่เก็บของเข้าบ้าน เสียงหอบหายใจของม่านแก้วดังแรงมาก ราวกับไปวิ่งรอบซอยมา
"มาก่อนแกแป๊บเดียวใช่ไหมนัย"
"ม่านมาก่อนปรุงนิดเดียวเอง ว่าแต่ทำไมวันนี้มาเร็วจัง"
"ขายหมดเร็ววันนี้มีคนมาเหมา" เราพูดพร้อมกับจ้องสามี
"เดี๋ยวนัยไปอาบน้ำก่อนนะ"
ดนัยเดินไปเข้าห้องน้ำเรานั่งอยู่ตรงข้ามม่านแก้ว ม่านแก้วดูเลิ่กลั่กไม่กล้าสบตาเราตรงๆ
"รีบมาขนาดนั้นเลยเหรอ กระดุมเสื้อก็ติดไม่ถูกยัยม่านเอ้ย ดูสิกระดุม ติดใหม่ให้เรียบร้อยเลย" เราพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ยายม่านแก้วคงจะรีบมากๆแน่ๆ ถึงขั้นติดกระดุมผิดเลย
"โทษทีกูรีบมาหาแกไปหน่อย ว่าแต่วันนี้ขายดีเนาะ แกเลยกลับมาบ้านเร็ว"
"อืม ดูกระดุมแกสิ เม็ดนั้นก็ขาด แกรีบอะไรนักหนา"เราบ่นอุบอิบให้เพื่อนเบาๆ
" สงสัยรีบไปหน่อยติดไม่ถูกเลย "
" ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนสนิท คิดว่าแกแอบเล่นชู้กับผัวฉันนะเนี่ย5555"
เราพูดจบม่านแก้วถึงกับหน้าถอดสี ก่อนจะหัวเราะแห้งๆให้เรา เราไม่อยากจะคิดอกุศลหรอกนะ เพราะยังไงม่านแก้วกับเราก็เรียนมาพร้อมกัน โตมาด้วยกัน ที่ผ่านมาม่านแก้วก็ไม่เคยแสดงอาการอะไรให้เราเห็น
"ฉันคงไม่กล้ากินผัวเพื่อนหรอก แกสบายใจได้เลย ถ้าฉันทำแบบนั้นมันก็เท่ากับว่า ฉันทรยศหักหลังเพื่อนรักของฉันน่ะสิ"
"เฮ้ย!!ฉันพูดเล่นอย่าซีเรียสสิเพื่อน ฉันรู้ว่ายังไงแกก็ไม่ทรยศหักหลังฉันหรอก เราโตมาด้วยกันกินด้วยกันนอนด้วยกันมาขนาดไหนแล้ว ถ้าฉันไม่เชื่อใจแกแล้วฉันจะเชื่อใจใครล่ะ แกอย่าซีเรียสฉันแค่พูดเล่นเฉยๆ"
" อืม"
" อย่าคิดมาก"
เราตบบ่าม่านแก้วเบาๆ ก่อนจะเดินไปเพื่อจะอาบน้ำ มันเหนียวตัวไปหมด อยากอาบน้ำเต็มที
" โอ๊ยยย! หัวฉัน"
" เป็นอะไรหรือเปล่า? "
" ปะ... เปล่า ฉันแค่ชนประตู" ฉันว่าแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว แต่เราก็เดินไปชนโน่นชนนี่ตามันไม่ค่อยดี พอไปถึงห้องดนัยก็ออกมาจากห้องน้ำ
"จะอาบน้ำหรอปรุง"
"อืม"
"อาบเสร็จทำกับข้าวให้กินหน่อยนะ"
"อืม" เราพยักหน้า แล้วเอาผ้าเช็ดตัวพาดบ่า แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ