ร่างหนารีบลงจากรถก้าวเข้าไปหาร่างบางที่จมกองเลือดอย่างรีบเร่ง พอเข้าไปใกล้ๆและเพ่งพิจารณามองใบหน้าแล้วกลับเป็นผู้หญิงที่เขารู้จักเป็นอย่างดี
ผู้หญิงที่เคยเรียนกับเขาเมื่อครั้งก่อน พอเรียนจบก็แยกย้ายกันไปเธอแต่งงานมีชีวิตคู่ไปแล้ว ส่วนเขาบินไปทำงานที่บริษัทลุงที่อเมริกา
แดลเนียลรีบกดโทรศัพท์โทรออกหารถพยาบาล เขาจับชีพจรคนร่างเล็กที่นอนอยู่ที่พื้นอย่างร้อนรน
“อย่าเป็นอะไรไปนะโส ฉันขอโทษที่เบรกไม่ทัน” แดเนียลเอ่ยอย่างร้อนรนพร้อมกับทำ CPR ให้กับคนร่างเล็ก เขาจะไม่ยอมเสียเธอไปแน่นอน
เขารู้สึกผิดรู้สึกเสียใจ พยายามยื้อชีวิตโสรยาอย่างสุดความสามารถ ไม่นานนักรถพยาบาลก็มายังที่เกิดเหตุ ร่างบางถูกนำขึ้นรถในขณะที่แดเนียลกำลังคุยกับตำรวจ
“ยังไงก็ขอให้ผมไปโรงพยาบาลก่อนนะครับคุณตำรวจ”
“ได้ครับ”
แดเนียลTALK
หลังจากที่พูดคุยกับตำรวจผมก็รีบโทรหาลูกน้องไม่นานนักลูกน้องก็มา
“มึงคุยกับตำรวจอยุ่นี่แหละไอ้พุต”
“ครับนายแล้วนายจะไปไหนครับ”
“กูจะไปโรงพยาบาล ถ้าเคลียร์กับตำรวจแล้วมันยุ่งยาก โทรเรียกไอ้คริสเตียนมาคุยนะ”
“ครับนาย”
ผมขึ้นไปนั่งบนรถแล้วแล้วรีบขับรถบึ่งออกไปอย่างรวดเร็ว พอไปถึงโรงพยาบาลผมก็รีบสาวเท้ายาวๆอย่างรีบเร่ง
“คุณโสรยาเป็นยังไงบ้างครับ” ผมเอ่ยถามอย่างร้อนรน ในใจได้แต่ภาวนาให้คนร่างเล็กปลอดภัย
ผมไปเลียแผลใจแสนบอบช้ำที่อเมริกาหลังจากที่รู้ว่าผู้หญิงที่ผมรักแต่งงานสายฟ้าแลบกับเพื่อนสนิทอีกคนของผม
พอผมรู้ว่าทั้งสองคบกันไม่ถึง3เดือนก็ประกาศแต่งงานสายฟ้าแลบ ตอนนั้นผมไม่อยากจะพูด ผมนี่ร้องไห้เป็นหมาอยู่เป็นเดือน ที่คนทั่วไปบอกว่าผู้หญิงชอบผู้ชายรวยมันไม่จริงครับ โสรยาไม่ใช่แบบนั้นเธอไม่สนใจเงินทองผมแม้แต่น้อย
ผมรู้ว่าตลอดเวลาที่ผมรู้จักเธอ โสรยาไม่เคยคิดกับผมไปมากกว่าเพื่อน แต่จะให้ผมทำอย่างไรเมื่อหัวใจของผมมันคิดไปมากกว่านั้นแล้ว
แค่ได้รักคิดถึงและแอบเสียใจอยู่ไกลๆก็พอ...
ผมเดินไปเดินมาหน้าห้องผ่าตัดเป็นเวลาเกือบสองชั่วโมง สิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจมากๆก็คือ ทางครอบครัวของเธอไม่เห็นมีใครมา หรือว่าทางโรงพยาบาลไม่ได้ติดต่อไป
ผมเองก็ไม่รู้จักเบอร์โทรของคนในครอบครัวโสรยา ผมรู้จักแต่เบอร์โทรของเธอแต่เป็นเบอร์ที่ตลอดหลายปีผมไม่กล้าโทรหาเธอ เพราะผมกลัว.....
ผมกลัวที่จะต้องเสียใจอีก ผมกลัวสถานะเพื่อนที่ผมไม่เคยต้องการ ไม่เคยต้องการเลย....
ผมต้องการเป็นมากกว่านั้น ชีวิตที่ผ่านมาผมมีผู้หญิงเข้ามาในชีวิตมากมาย แต่ทว่าผมกลับไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเลย
ผมเป็นลูกชายของพ่อปั้นสิบแม่อินทิรา ดำรงค์พงษ์เมธา ตระกูลของผมร่ำรวยถ้าเขียนยอดเงินแล้วเติมศูนย์ กระดาษ1แผ่นก็คงไม่พอ
ผมรวยมากอยากได้อะไรต้องได้ แต่สิ่งที่ผมไม่เคยได้คือหัวใจของผู้หญิงที่ผมรักเลย
แต่ผมก็มั่นคงในความรักไม่สามารถรักผู้หญิงคนอื่นที่เข้ามาได้
แกรก! เสียงเปิดประตูออกมา พร้อมกับร่างหมอกับพยาบาลที่อยู่ในชุดผ่าตัดสีเขียวเดินออกมา ผมรีบเดินตรงไปเข้าไปหาหมอทันที
“โสรยาเป็นยังไงบ้างครับ”
“เธอหัวแตกแขนหัก กะโหลกร้าวนิดหน่อยครับ ส่วนเด็กในท้องทางเราได้ตรวจดูแล้วครับเด็กแข็งแรงปลอดภัยดีครับ”
“ครับ ขอบคุณหมอมากๆเลยครับ” ผมจับมือของหมออย่างขอบคุณรู้สึกโล่งอกเปราะหนึ่งที่โสรยาปลอดภัย
“เดี๋ยวหมอจะย้ายเธอไปที่ห้องพิเศษนะครับ”
“ย้ายไปห้องพิเศษของตระกูลของผมเลยครับ” ผมเอ่ยกับหมอ
“ก็ได้ครับ” หมอพยักหน้าแล้วเดินกลับเข้าไปข้างใน พอหมอเข้าไปผมกลับรู้สึกเสียอาการมือไม้มันสั่น พยายามปรามตัวเองแล้วจ้องมองร่างเล็กบนเตียงที่ถูกเข็นออกมา
ผมเดินตามบุรุษพยาบาลที่เธอไปอย่างเงียบๆ โล่งใจครับที่เธอปลอดภัยแต่ก็อดมือสั่นไม่ได้ ผมรักเธอมาตั้งนานถึงจะมาเจอกันในตอนที่เธอท้องโตมีครอบครัวแล้วผมก็ยังเสียอาการอยู่ดี
พอร่างบางเล็กถูกพาไปห้องหรูแล้ววางลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา ผมมองใบหน้าสวยอย่างรู้สึกผิด ถ้าผมเบรกทันเธอคงจะไม่เจ็บตัว
“เฮ้อ เป็นยังไงบ้าง เจ็บมากหรือเปล่า” ผมเอ่ยถามทั้งที่เธอยังไม่ได้สติ แต่ผมก็อยากจะถามครับผมอยากจะรับรู้ความเจ็บปวดรับรู้ความทุกข์หรืออะไรหลายๆอย่างของเธอ ถึงแม้ว่าผมกับเธอจะไม่สามารถเป็นมากกว่าเพื่อนได้ แต่ผมก็จะยอมรับในจุดที่ผมเป็นครับ
“ทำไมครอบครัวของโสยังไม่มาเลย หรือว่าพวกเขาจะไม่รู้” ผมพูดพร้อมกับลูบผมของโสรยาเบาๆเธอยังคงนอนนิ่งหายใจอย่างสม่ำเสมอ แขนข้างซ้ายของเธอถูกดามเพราะแขนหัก หัวเธอมีแผลแตกที่ถูกปิดไว้ด้วยผ้าก๊อตสีขาว ตามแขนขาก็มีแต่รอยถลอกที่เกิดจากแรงชนแล้วร่างครูดไปกับพื้น
ผมนั่งนิ่งอยู่สักพักก็ได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามา เป็นแม่กับสามีของเธอเข้ามาในห้อง
“โส โส” ไอ้โทมัสตรงเข้ามาพร้อมกับแม่สารภี มันตรงเข้ามากุมมือบางเล็กแนบหน้าตัวเอง ผมเม้มปากแน่นลุกขึ้นไปนั่งที่โซฟามองโทมัสมันเเสดงความห่วงใยผู้หญิงที่ผมรัก ยิ่งทำให้ผมลูปวนกับความรู้สึกเดิม ๆ
“ยัยโสเป็นอะไร” แม่สารภีหันมาถามผม
“เอ่อ... ผมขับรถชนเธอ”
“โอ๊ย ทำไมถึงโชคร้ายขนาดนี้ ดีนะที่ยัยโสไม่เป็นอะไรไปมากกว่าแขนหัก” ท่านกระแทกน้ำเสียงเล็กน้อยใส่ผม แต่ไม่เป็นไรหรอกครับผมเข้าใจ ท่านก็คงเป็นห่วงลูกสาว พอรู้ว่าผมขับรถชนท่านก็คงจะโกรธ ผมเข้าใจดีครับพ่อแม่คนไหนก็ไม่อยากให้ลูกต้องเจ็บหรอก
“ผมขอโทษครับ แต่ผมยินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายทุกอย่างและจ่ายค่าทำขวัญให้ คุณแม่ไม่ต้องเป็นกังวลหรอกนะครับ ผมจะทำให้โสรยากลับมาเป็นปกติ ต่อให้เสียเงินมากมายเท่าไหร่ผมก็ยินดี” ผมเอ่ย ผมต้องชดใช้ค่าเสียหายและจ่ายค่าทำขวัญอยู่แล้วเพื่อยุติปัญหาเพื่อรับผิดชอบทุก ๆ อย่างที่ผมกระทำ และมันได้ผลท่านนิ่งเงียบแล้วก็ไปสนใจโสรยาต่อ ยิ่งได้เห็นไอ้โทมัสมันแสดงอาการว่าห่วงใยผู้หญิงที่ผมรัก ผมก็ยิ่งรู้สึกเจ็บที่หัวใจ
เฮ้อ ความรู้สึกนี้ทำไมมันถึงไม่หายไป ถึงแม้จะพยายามสลัดมันออกจากหัวแค่ไหน ผมก็ทำไม่ได้เลย