bc

มิจฉารักลวงใจ

book_age18+
311
FOLLOW
1.0K
READ
dark
drama
comedy
sweet
like
intro-logo
Blurb

ปึง!

คริสโตเฟอร์ทุบโต๊ะหัวเตียงดังปึง ไอ้พวกโจรกระจอกกล้าดียังไงมาเอาโกศกระดูกเมียของเขาไปเรียกค่าไถ่ ไม่รู้ว่าโง่หรือว่าฉลาดที่กล้าลองดีกับคนอย่างเขา กล้าลองดีกับตระกูลของเขา และเรื่องนี้มันไม่จบแน่นอน

มือหนากดโทรศัพท์ของตัวเองเพื่อโทรหาลูกน้องของบิดา ในเมื่อคนพวกนั้นกล้าลองดีกับเขารับรองว่าพวกมันต้องได้รับผลกรรมจากการกระทำอย่างสาสม

(ฮัลโหล)

“ไอ้แหลม”

(ครับนาย)

“มึงมาหากูด่วน”

(ไอ้หลอดต้องไปด้วยไหมครับนาย)

“อันนี้ก็แล้วแต่มึง รีบ ๆ มาแล้วกัน”

(ครับนาย) คริสโตเฟอร์กดวางสายแล้วกำมือแน่น

“ไอ้พวกโจรกระจอก มึงเจอกูแน่”

มจนความลำบากมันน่ากลัว ทำให้เธอกับเพื่อนต้องผันตัวมาเป็นโจร

chap-preview
Free preview
โจรสาว
ตึก! ตึก! ตึก! “อีตอง! อีตองรอกูด้วย” เสียงเพื่อนสนิทตะโกนดังไล่หลัง​ พร้อมกับเสียงฝีเท้าของคุณตำรวจวิ่งตามอย่างไม่ลดละ มือเล็กกำสร้อยแน่นเท้าวิ่งฉับ ๆ อย่างว่องไว ฟิ้ว ตองเก้าอาศัยความคล่องตัวที่ฝึกฝนมาตั้งแต่เด็กจวบจนอายุยี่สิบสาม วิ่งหนีตำรวจที่วิ่งไล่จับโจรกระชากสร้อยอย่างเธอด้วยความรวดเร็ว มิจฉาชีพสาวกระโดดข้ามรั้วหลบอยู่หลังพุ่มไม้ อาศัยความมืดเข้าช่วย แล้วมันก็ดีอย่างที่คิดมันพรางตัวจนลุงตำรวจพุงพลุ้ย​หาเธอไม่เจอ “ฟูว์ นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว” ตองเก้าพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก พลางกวาดสายตามองซ้ายมองขวา มือเล็กชูสร้อยคอทองคำน้ำหนักประมานสามบาทที่เธอเพิ่งกระชากมาหมาด ๆ อย่างภาคภูมิใจ วันนี้เธอก็ทำสำเร็จอีกครั้ง... มิจฉาชีพสาวรอจนตำรวจที่กำลังตามเธอวิ่งไปอีกทาง ร่างเล็กก็ลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปหลังป่าช้า มันเป็นสถานที่นัดหมาย เวลาที่ฉกชิงวิ่งราวของมีค่ามาได้ เธอกับเพื่อนก็จะรวมตัวกันอยู่ที่นั่น “อีตองอีตะไลวิ่งไม่รอกูเลย” เสียงก่นด่าของเพื่อนรัก ทำเธออยากจะกรอกตามองบนสักพันรอบ เมื่อไอ้หมัดเอ่ยทักทายด้วยคำพูดที่แสนจะหยาบคาย​ “อะไรของมึง” ตองเก้าเอ่ยตอบอย่างหงุดหงิด “นับวันยิ่งวิ่งเร็วนะมึง มึงรู้ไหมว่ากูเกือบไม่รอด ตำรวจที่เคยวิ่งไล่กูทุกวันเพิ่มเลเวลความเร็วขึ้นมาแล้วนะมึง” หมัดนั่งหอบหายใจรัวเร็ว “ถ้ามันเพิ่มเลเวลขึ้นมามึงก็ต้องอัพเกรดให้ดีกว่าเดิม มึงต้องวิ่งและสับขาหลอกให้ดี มึงดูกูไว้เป็นตัวอย่างสิ ปราดเปรียวว่องไว ไล่จับกูแทบทุกวันแต่ก็ไม่เคยทันกู” “พูดง่ายแต่ทำยากนะมึง” “แม่ง! กูวิ่งลิ้นแทบห้อยออกมา เหนื่อยฉิบหาย กูวิ่งเก่งวิ่งทุกวันขนาดนี้กูน่าจะไปแข่งโอลิมปิก​ วิ่งหนีตำรวจแทบทุกวัน” โขงเพื่อนร่วมขบวนการอีกคนเอ่ย “เขาไม่เอาไอ้เป๋อย่างมึงไปวิ่งหรอก ไม่รู้ว่าขาเป๋ ๆ ของมึงจะพาร่างมึงวิ่งหนีตำรวจได้สักกี่น้ำ กูกลัวว่าอีกไม่นาน มึงจะโดนตำรวจจับสักวันน่ะสิ” “ไม่มีทางหรอกโว้ย เห็นขาเป๋อย่างนี้วิ่งเร็วนะเว้ย วิ่งทีฉับ ๆ ไอ้ตำรวจอ้วนเป็นตือโป๊ยก่ายไม่มีวันทันกูแน่นอนฮ่า ๆ” “ให้มันจริงเถอะ วิ่งเป็นหมาหอบแดดแบบนี้ กูว่าสักวันต้องพลาดแน่ ๆ” “ก่อนจะพลาดก็ขอกอบโกยให้มากที่สุดก่อนแล้วกัน ภาระข้างหลังมีมากมาย เศรษฐกิจแบบนี้ทำงานอื่นก็ไม่พอกิน” “แต่วิ่งทุกวันอย่างนี้เหนื่อยชะมัด กูกลัวว่าวันไหนเราจะพลาดสักวัน ถ้าเป็นไปได้กูอยากจะรับงานใหญ่ ๆ แล้วเลิกเป็นโจรเป็นขโมยสักที” ไอ้หมัดเอ่ย “อยากจะเลิกแต่จะทำยังไงได้ล่ะ ก็มันไม่มีงานใหญ่ให้ทำ อีกอย่างก็เพื่อเงินทั้งนั้นแหละ เลิกก็ไม่ได้ด้วย ถ้าเลิกแล้วกูไม่มีเงินป้าดวงสมรบ่นกูหูชาแน่” “นั่นสิ ป้ามึงด่าแต่ล่ะที รัวเป็นจังหวะเเร็ปเลย” “อืม อะนี่พรุ่งนี้มึงเอาไปขายนะ” ตองเก้ายื่นสร้อยคอทองคำให้เพื่อนรัก ทั้งสามคนทำงานเป็นทีมฉกชิงวิ่งราวแล้วเอาเงินมาแบ่งกัน “ว่าแต่หาเหยื่อต่อไหมวะ” “ไม่ กูเหนื่อยอยากกลับบ้านแล้ว” “แล้วจะกลับเลยไหม?” “กลับเลย พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน” ว่าจบเธอก็เดินลัดเลาะไปตามทางเล็ก ๆ แถวป่าช้าแล้วทะลุออกไปสลัมบ้านที่เธออาศัยอยู่มาตั้งแต่เด็ก เท้าเล็กย่ำไปตามพื้นคอนกรีต​จนกระทั่งถึงบ้านไม้หลังหนึ่ง ป้าของตองเก้าเป็นแม่ค้าขายหอย เอ้ย! ขายหวยใต้ดิน และชอบตั้งวงไพ่ บางวันตำรวจจับป้าเธอก็ไปนอนเล่นที่มุ้งสายบัวให้ยุงกัดเล่นประจำ “อีตอง” เสียงทรงพลังดังขึ้น ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นป้าดวงสมรป้าของหล่อนเอง ป้าดวงสมรท้าวสะเอวมืออีกข้างถลกผ้าถุงขึ้น แกคงพร้อมที่จะพ่นคำด่าทอใส่เธออีกเป็นแน่ “อะไรป้า” “ไหนเงินเอามาให้กูสิ กูจะไปต่อทุน” “ไม่มีหรอก” ตองเก้า​ปฏิเสธ​ ป้าของเธอเป็นคนขี้งกขี้บ่น ต่อให้พยายามทำงานงก ๆ หาเงินมาได้เท่าไหร่ก็ไม่เคยพอใช้ ที่เธอต้องไปฉกชิงวิ่งราวก็เพราะต้องหาเงินมาไว้ให้ป้าตัวดีใช้จ่าย ถ้าไม่มีเงินป้าของเธอจะบ่นจะแซะจะแขวะจนตองเก้าทนไม่ไหว ต้องออกไปหางานทำ ส่วนงานของเธอมันก็คืองานที่คนทั่วไปเกลียด ถึงมันจะเป็นอาชีพที่แย่แต่ไม่มีงานไหนที่ได้เงินดีเท่าเป็นโจรอีกแล้ว “ป้าอย่าบ่นได้ไหมฉันง่วงนอน” “นังเด็กคนนี้ นับวันยิ่งปากดีตอนเด็ก ๆ ฉันน่าจะเอาขี้เถ้ายัดปากแกให้ตายไป แกจะได้ไม่ต้องมาต่อปากต่อคำกับฉันอยู่แบบนี้ นังหลานไม่รักดีนังหลานอกตัญญู” “หูย ป้านี่บ่นเก่งจริง ๆ บ่นจนลุงตายไปคนแล้ว บ่นได้บ่นดีเสีย​สุขภาพ​จิตชะมัด” “อีตองอีหลานเวร!” “เฮ้อ” ตองเก้าถอนหายใจแล้วรีบเดินไปหลังบ้าน โดยไม่สนใจเสียงด่าทอของผู้เป็นป้า ถ้าเธอไม่แสร้งทำไม่สนใจไม่ได้ยิน ต่อล้อต่อเถียงต่อปากต่อคำกับแก แกไม่จบง่าย ๆ ป้าของเธอเป็นแชมป์ด่าประจำสลัม ถ้าจะให้เถียงกับแก วันนี้ทั้งคืนเธอก็คงจะไม่ได้นอน วันต่อมา “โอ้โห! ยอดผู้ติดเชื้อโควิด ทำไมมันพุ่งทะยานแบบนี้วะ ฉิบหายแล้วถ้ามันยังติดเชื้อกันอยู่แบบนี้วงไพ่ของฉันก็คงต้องงดล่ะสิ” ดวงสมร​บ่นพร้อมกับ​ทำท่าทางหัวเสีย “....” “ไอ้พวกตะไลเนี่ยอยู่มาเจ็ดแปดปีไม่มีประโยชน์อะไรเลย พวกมนุษย์ถ้ำพวกเต่าล้านปี ทำไมไม่รู้จักให้คนหนุ่ม ๆ เขาเข้าไปบริหารบ้าง ไอ้พวกแก่ ๆ แบบนี้ควรปลดระวางได้แล้ว ฉันละเบื่อจริงๆ อยู่มาไม่มีประโยชน์ห่าเหวเลย เขาจะอดตายกันอยู่แล้ว” ตองเก้าเดินเข้ามาในครัวพร้อมกับต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกิน พยายามไม่สนเสียงก่นด่าที่แกด่าผู้บริหารประเทศ​ซะยับเยิน “อีตอง มึงจะกินอะไรแต่เช้าวะ” “ขนาดป้ายังกินเลย” “เอ้าอีนี่” “หยุดพูด ถ้ายังบ่นอีกฉันจะไม่เอาเงินให้ป้าอีก” ตองเก้าขู่และมันก็ได้ผลป้าของเธอเงียบปากแล้วนั่งดูข่าวไม่พูดไม่จา ตองเก้ายกยิ้มมุมปากก่อนจะต้มบะหมี่แล้วนั่งทานดูข่าวเงียบ ๆ ไม่ต่างกัน เธอต้องกินเยอะ ๆ เพราะว่าตอนกลางคืนเธอจะต้องไปหาเหยื่ออีก เธอไม่ชอบวิ่งราวตอนกลางวัน เพราะทางหนีทีไล่มันไม่ง่ายเหมือนตอนกลางคืน ช่วงหัวค่ำช่วงมืด ๆ เธอจะไปนั่งที่ป้ายรถเมล์แล้วดูว่าใครมีสร้อยแหวนเงินทองอะไรบ้าง ส่วนใหญ่คือจะเล็งเป้าหมายคนที่ใส่สร้อยเส้นใหญ่ ๆ มากกว่า “ฉันจะไปข้างนอกนะป้า” “กูก็เห็นมึงไปอยู่ทุกวันมึงจะขออนุญาตทำห่าอะไร” “ถ้าฉันไม่ขออนุญาตป้าตอนเย็นกลับมาป้าก็จะต้องบ่นฉัน หาเรื่องฉันว่าฉันไปไม่บอกไม่กล่าว สู้ฉันบอกตั้งแต่ตอนนี้ให้ป้าบ่นดีกว่าป้าไปบ่นยาว ๆ ให้ฉันฟังตอนฉันจะนอน บางครั้งฉันก็รำคาญนะป้าที่ป้าชอบบ่นชอบด่า แต่ถ้าขาดเสียงด่าของป้าไปมันคงจะเหงาพิกล” “อีเด็กเวรจะไปไหนก็ไปอย่ามาปากดี” “ฉันไปแล้วนะป้า” ว่าจบตองเก้าก็รีบก้าวเท้ายาว ๆ ไปที่ป่าช้าหลังวัด เพื่อนรักของเธอนั่งรออยู่ข้างศาล ในมือกำลังนับเงินไปด้วย ตองเก้ารีบเดินเข้าไปใกล้ ๆ ก่อนจะแย่งเงินมานับเอง เธอนับทีล่ะใบจนกระทั่งถึงใบสุดท้าย นัยน์ตาเรียวเล็กจ้องมองเพื่อนรักทั้งสองตาเขม็งก่อนจะชูธนบัตรแบงค์พันปึกนั้นให้ชายทั้งสองดู “มันขาดไปสองใบพวกมึงตั้งใจจะโกงกูเหรอ?” “เปล่าสักหน่อย สร้อยมันขายไม่ค่อยได้ราคาต่างหากล่ะ” “โถไอ้เพื่อนเวร ราคาทองเมื่อวานกูก็ไปดูราคามันอยู่ มันเป็นไปไม่ได้ที่มันจะโดนหักไปตั้งสองพันถ้ามึงไม่ได้มุบมิบ​กู” “พวกกูเปล่ามุบมิบมึงสักหน่อย” “จะเอาออกมาดี ๆ หรือจะให้กูต้องใช้กำลังกับพวกมึง พวกมึงก็รู้นิสัยกูดีนะว่า ถ้ากูโกรธพวกมึงจะเป็นยังไง” มือเล็กยกกำปั้นขึ้น พร้อมกับจ้องมองทั้งสองอย่างเอาเรื่อง “อ้ะ ๆ” ไอ้หมัดล้วงเงินจากกระเป๋ากางเกงออกมาสองใบยื่นให้ตองเก้า เธอยกยิ้มมุมปากเบา ๆ แล้วรับเงินมาจากนั้นก็จะแจกแบ่งเงินออกเป็นสามส่วน ถึงจะได้น้อยแต่มันก็ดีกว่าที่เธอต้องไปรับจ้างรายวัน ค่าแรงแค่สามร้อยกว่าบาทส่วนค่าครองชีพนะเหรอแพงหูดับเลย “ช่วงนี้เราได้เงินน้อยไปนะ ตอนเย็นเราจะต้องวิ่งราวให้ได้อย่างน้อยสามคนเราถึงจะอยู่ได้” “ตอนเย็นค่อยว่ากันแล้วกันว่าแต่ตอนนี้กูหิวไปหาอะไรกินกันดีกว่า ไปกินส้มตำกันไหมวะ” โขงเอ่ยขึ้น “กูอยากกินส้มตำถาดรีบไปกันเถอะ ว่าแต่มึงเลี้ยงใช่ไหมอีตอง” “กูจะไม่เลี้ยงมึงก็ตรงมึงเรียกจิกหัวกูนั่นแหละ เมื่อไหร่มึงจะเลิกเรียกกูว่าอีสักทีวะไอ้เวรตะไล” “ถ้ามึงอยากให้กูเลิกเรียกมึงมึงก็ต้องเลิกด่ากูแบบนี้สักที” “พอ ๆ พอเลิกเถียงกันไปกินส้มตำกันดีกว่า” พูดจบทั้งสามก็เดินเคียงข้างกันเพื่อไปกินส้มตำ ที่ร้านประจำในตลาดทันที “ป้าแดงส้มตำถาดชุดใหญ่​ไฟกระพริบ” “ได้เลย ว่าแต่หายหน้าหายตาไปนานนะช่วงนี้” “ช่วงโควิด ใครจะอยากออกไปไหนล่ะป้า” “เฮ้อ มันก็จริงเนาะ แล้ว...” “รีบ ๆ ไปตำส้มตำเถอะอย่าพูดมากหน่อยเลย พวกฉันอยากกินส้มตำที่อร่อยที่สุดแล้ว” โขงเอ่ยพลางหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม “ได้จ้า รับรองว่าอร่อยจนต้องร้องขอชีวิต​แน่นอน” ป้าแดงว่าจบก็รีบควงสากโชว์ลีลาการตำส้มตำที่อร่อยที่สุดในสามโลกทันที และแน่นอนว่าเด็กพวกนี้ต้องอร่อยจนซี๊ดปากแน่นอน

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
5.4K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
10.9K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
2.2K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
3.9K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
32.1K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook