พ่อจะเเต่งงานใหม่
“พ่อจะเเต่งงานใหม่นะแพรวา หนูจะว่าอย่างไร?” พีรพลเอ่ยกับบุตรสาว
“ถ้าสิ่งไหนที่ทำให้พ่อมีความสุข พ่อก็ทำเลยค่ะ” แพรวาเอ่ยกับบิดา ขณะที่นั่งจัดดอกไม้ใส่แจกันอยู่ชั้นบนของคฤหาสน์หลังงาม
“ขอบใจนะลูก ขอบใจที่เข้าใจพ่อ” ผู้เป็นบิดาเอ่ยกับบุตรสาวพร้อมกับกอดร่างเล็กของเธอ
“ค่ะ” แพรวากอดตอบบิดา เธอเต็มใจให้ท่านมีคนอื่นเข้ามา เธอวัย12ขวบ ไม่ได้รู้ว่าใครจะมาดีหรือมาร้าย เธอมองโลกสวยงามเสมอ
มารดาของเธอเสียชีวิตไปหลายปี บิดาของเธอก็คงจะเหงา การที่ท่านจะแต่งงานหรือรับใครอีกคนเข้ามาในชีวิต เธอจะไม่ขัดท่านเลยแม้แต่น้อย สิ่งไหนที่ทำให้ท่านมีความสุขเธอก็ยินดีทำ
“ค่ะ”
“งั้นไปกับพ่อ พ่อจะแนะนำใครบางคนให้ลูกได้รู้จัก”
“ใครเหรอคะ?”
“ลูกลงไปข้างล่างกับพ่อแล้วจะรู้เอง” บิดาของเธอจับข้อมือเล็กของแพรวาเดินตาม เธอลงไปข้างล่างกับท่านแต่โดยดี
“นี่คือน้ากออ้อนะ ส่วนนี่คืออิงฟ้า รู้จักกันไว้สิลูก” พีรพลแนะนำทั้งสองกับบุตรสาวได้รู้จัก
“สวัสดีค่ะ” แพรวายกมือไหว้ทั้งสองอย่างนอบน้อม กออ้อและอิงฟ้าส่งยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร
“น้าจะมาดูแลหนูกับพ่อนะจ้ะ หวังว่าหนูจะไม่รังเกียจน้า” กออ้อพูดกับเด็กสาว
“ไม่รังเกียจค่ะ ยินดีต้อนรับมากค่ะ”
“ขอบคุณนะคะ ส่วนนี่อิงฟ้าจะมาดูแลหนูเหมือนกัน หนูกับอิงฟ้าน่าจะอายุเท่ากัน”
“ค่ะ”
“ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” อิงฟ้าเอ่ยพร้อมกับคลี่ยิ้มให้แพรวา
“ค่ะ”
“พาฉันไปเลือกห้องสิ” อิงฟ้าเอ่ยกับแพรวา
“ค่ะ” ทั้งสองจับมือกันขึ้นไปบนบ้าน พีรพลมองทั้งสองก่อนจะยิ้มออก เขารู้สึกดีใจไม่น้อยที่บุตรสาวของเขา กับบุตรสาวของกออ้อเข้ากันได้เป็นอย่างดี
“อ้อสัญญา อ้อจะดูแลคุณกับลูกให้ดีที่สุด คุณวางใจได้เลยค่ะ”
“ขอบคุณครับ” พีรพลกอดร่างบางของกออ้อ พร้อมกับจูบที่เรือนผมอย่างแผ่วเบา
ผ่านไปอีก2เดือนงานแต่งงานก็ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ทุกคนภายในคฤหาสน์หลังงามนี้ต่างยินดีและมีความสุข รวมทั้งแพรวาด้วยเธอรู้สึกมีความสุขมาก ที่พ่อขอเธอมีความสุข
บิดาของเธอไปฮันนีมูนกับน้ากออ้อ ท่านมีรอยยิ้มเสียงหัวเราะ กว่าจะลับมาจากฮันนีมูนก็เป็นเดือน พอท่านกลับมา น้าอ้อก็ซื้อข้าวของมาฝากทุกคน รวมทั้งแพรวาด้วย ภายในบ้านอบอวนไปด้วยความสุข แพรวารู้สึกดีเป็นอย่างมากที่ได้เห็นความสุขของบิดา
ผ่านไปอีกหลายๆวัน
“พ่อไปทำงานก่อนนะ” พีรพลกอดบุตรสาว
“ค่ะ”
“เดินทางปลอดภัยนะคะ”
“ขอบคุณครับ ผมไปแค่ 1 อาทิตย์ผมฝากแพรวาด้วยนะคุณกออ้อ”
“ค่ะ” กออ้อพยักหน้า พีรพลกอดภรรยายพร้อมกับหอมแก้มเบา ๆ แล้วเดินไปหยิบกระเป๋าเอกสาร”
“อย่าดื้อกับน้ากออ้อนะแพรวา”
“ค่ะ” แพรวารับคำ พร้อมกับมองร่างพ่อของเธอเดินไปขึ้นรถ ไม่นานนะรถสมรรถภาพแรงสูงก็ขับเคลื่อนต่อไป
ผ่านไป30นาที
เธอจัดดอกไม้ทำอะไรไปเรื่อย เธอมีความสุขกับทุก ๆ วัน โลกของเธอมันช่างสวยงามสดใส เธอไม่เคยล่วงรู้ถึงความทุกข์ระทมที่ใกล้คืบคลานเข้ามา เธอรู้แค่ว่าเธอมีความสุขอยู่กลางทุ่งลาเวนเดอร์ที่สวยงาม
แต่ความสุขก็อยู่กับเธอไม่นาน เมื่อโทรศัพท์บ้านของเธอดังขึ้น
กริ๊งงง!! กริ๊งงง!!
“รับหน่อยสิ” อิงฟ้าเอ่ยขณะที่กำลังทำเล็บกับผู้เป็นมารดา
“ค่ะ” แพรวาเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูก่อนจะกรอกเสียงลงไป
“สวัสดีค่ะ บ้านชนะวงศ์เมธากุลค่ะ”
“คุณพีรพลประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลวิมลกุลครับ”
“มะ…ไม่จริง” เธอส่ายหน้าไปมา ร่างกายของเธอเบาหวิว หัวใจบีบรัดรุนแรงหยาดน้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาไม่ขาดสาย เธอไม่อยากจะเชื่อว่าบิดาของเธอประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บสาหัส
“จริงครับ รถของคุณพีรพลเบรกแตก รถประสานงากับรถ18ล้อ อาการสาหัสเลยครับ”
“ฮื่อ ๆ”
“มีอะไรยัยแพร” อิงฟ้าเอ่ย
“พ่อประสบอุบัติเหตุ ฮื่อๆ” เธอร้องไห้โฮราวกับคนเสียสติ ความเจ็บปวดที่เธอได้รับถูกกลั่นกรองออกมาเป็นน้ำตาเม็ดใสไหลรินอาบแก้มไม่ขาดสาย
“ตอนนี้คุณพีรพลอยู่โรงพยาบาลไหน?” กออ้อเอ่ยถาม พร้อมกับร้องไห้ออกมา
“โรงพยาบาลวิมลกุล ฮื่อ ๆ”
“ไอ้แทนเอารถออก” กออ้อเรียกลูกน้องอย่างร้อนรน ภายในใจตอนนี้ห่วงสามีเป็นอย่างมาก
“ครับ” ทั้งหมดรีบขึ้นรถไปที่โรงพยาบาลทันที
หลังจากที่ภาวนาให้พ่อปลอดภัยอยู่โรงพยาบาล แพทย์ก็ออกมาบอกข่าวร้ายกับเธอ
“ทางเราไม่สามารถยื้อชีวิตของคุณพีรพลได้ ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ คุณพีรพลเสียชีวิตแล้ว”
“ฮื่อ ๆ คุณพล ฮื่อ” กออ้อร้องไห้ออกมาพร้อมกับกอดบุตรสาวของเธอ
“ไม่จริง ฮื่อๆ ไม่...กรี๊ด!!” แพรวากรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เธอไม่อยากจะเชื่อว่าบิดาของเธอเสียชีวิต หมดแล้วความสุขที่เคยมีมา เมื่อได้รู้ว่าบิดาของเธอทิ้งเธอไปแล้ว ร่างกายของเธอเบาโหวง สติเธอเริ่มเลือนราง ก่อนเธอจะล้มลงกับพื้นทันที
ผ่านไปอีก 6 ปี
“นังแพร!”
“นังแพร!”
“นังแพรวา!”
“ขา” แพรวาขานรับให้กับคนที่เรียกชื่อเธอ เธอละมือจากงานครัวที่ทำ แล้วรีบวิ่งไปที่ห้องรับแขกทันที
“แกทำอะไรอยู่ห้ะ!” กออ้อพูดอย่างใส่อารมณ์ เมื่อยัยเด็กลูกเลี้ยงชักช้าทำให้เธอหงุดหงิด
เธอหงุดหงิดกับเรื่องของแพรวาที่มาชักช้าก็ส่วนหนึ่ง แต่ส่วนที่ทำให้เธอหงุดหงิดมากกว่าคือเมื่อคืนเธอเอาเงินไปถลุงกับบ่อนการพนัน มันทำให้เธอหมดตัวกลับมา คิดแล้วโมโหชะมัด
“แพรทำอาหารอยู่ค่ะ” แพรเอ่ยกับน้ากออ้อ พร้อมกับก้มหน้าอย่างสำรวม
“ถอดรองเท้าให้ฉันเดี๋ยวนี้!!” เธอยื่นเท้าไปให้เเพรวา
“ค่ะ” หญิงสาวมองเท้าของน้ากออ้อ ก่อนจะถอดรองเท้าให้แต่โดยดี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำ ตั้งแต่บิดาของเธอจากไป เธอก็ถูกน้ากออ้อใช้ทำแบบนี้มาตลอด
“แล้วยัยอิงไปไหน?” เธอเอ่ยถามพร้อมกับกวาดสายตามองหาบุตรสาว
“น่าจะยังไม่กลับค่ะ”
“ห้ะ! ไม่กลับอะไร?” เธอพูดเสียงดังจ้องหน้าแพรวา ก่อนจะเสหน้ามองอย่างอื่น บุตรสาวของเธอทำไมยังไม่กลับหรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“ก็อิงฟ้ายังไม่กลับค่ะ” คำพูดของแพรวาทำกออ้อปรายสายตาจ้องมองหน้าผู้เป็นลูกเลี้ยงทันที
หมับ!!
“โอ้ยยยย!!” แพรวาร้องออกมาทันที เมื่อเธอถูกกระชากผมแรง ๆ จนต้องเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด
“ฉันบอกแกแล้วใช่ไหม? เวลาที่เรียกลูกสาวฉันกับฉัน เเกต้องเรียกว่าคุณนำหน้า” เธอตะเบ็งเสียงใส่แพรวาอย่างไม่พอใจ เธอไม่ชอบให้ลูกเลี้ยงมาเรียกชื่อลูกสาวของเธอโดยไม่มีคุณนำหน้า
“ฮึก! ขอโทษค่ะ”
“จำใส่กะโหลกหนา ๆ ของแกด้วย นังโง่” กออ้อผลักศีรษะของแพรวาจนเธอหน้าคะมำไปกับพื้น
“แพรขอโทษ ฮึก!” เธอร้องไห้ออกมาอย่างอัดอั้น ไม่เคยมีวันไหนที่เธอมีความสุขเลย ตั้งแต่บิดาจากไป
“อย่ามาบีบน้ำตา น้ำตาของเธอไม่ได้มีผลอะไรกับฉัน!!” เธอตวาดแพรวาเสียงดังลั่น
“เสียงดังอะไรกัน?” มนัสเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับจ้องมองทั้งสอง
“ฉันกำลังสั่งสอนลูกเลี้ยงอยู่น่ะสิ” เธอเอ่ยกับมนัสพร้อมกับทำหน้าไม่พอใจ
มนัสคือสามีใหม่ของเธอ พอพีรพลตายเธอก็เอามนัสสามีใหม่ของเธอเข้ามาอยู่ในบ้าน
“เธอยังเด็ก คุณอย่าไปสนใจเด็กมากเลย ว่าแต่เรามาพูดเรื่องของเราดีกว่า” มนัสเอ่ยกับกออ้อ แต่สายตาเขากลับจับจ้องไปที่แพรวา เขาจ้องร่างบางเล็กนั้นอย่างจากจาบจ้วงด้วยสายตาโลมเลีย
“จะไปไหนก็ไปสิ! จะมานั่งหน้าเสร่ออยู่นี่ทำไม?”
“ค่ะ”
“เดี๋ยว!! แกอย่าลืมเอาน้ำมาให้ฉันกับมนัสด้วยนะ”
“ค่ะ” แพรวารีบเดินออกจากตรงนั้น พอมาถึงห้องครัวเธอก็ปล่อยน้ำตาไหลรินออกมาไม่ขาดสาย ตั้งแต่พ่อเธอจากไป เธอก็ต้องอยู่กับความทุกข์ระทมตรอมตรมแทบขาดใจ กับสิ่งที่กออ้ออิงฟ้าและสามีใหม่ของกออ้อกระทำต่อเธอ
“ฮื่อ ๆ” เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตา เพราะน้ำตาไหลร่วงรินออกมาไม่ยอมหยุด เธอพยายามฝืน แต่ก็ร่ำไห้อย่างหนัก พยายามกลืนก้อนตีบตันที่มันวิ่งมาจุกที่คออย่างยากลำบาก
“นังแพร!” เสียงดังราวปรอทแตกเอ่ยเรียกชื่อเธออีกครั้งแพรวารีบหยิบน้ำจากตู้เย็นกับแก้วน้ำ 2 ใบออกไปให้ผู้เป็นแม่เลี้ยงทันที
“ชักช้าลีลาเหลือเกิน เอาน้ำมาแล้วก็รีบไสหัวไป!!” กออ้อพูดอย่างหงุดหงิด แพรวารีบวางแก้วน้ำลงเป็นโต๊ะ ก่อนจะรีบออกไปจากห้องนั้น
“ลูกเลี้ยงคุณนี่ยิ่งโตก็ยิ่งสวยนะ” มนัสเอ่ยพร้อมกับลูบคางตัวเอง นัยน์ตาคมกริบจ้องมองร่างบางของแพรวาที่เดินออกไปจากห้องจนลับตา
“อย่าแม้แต่จะคิด” เธอพูดเสียงห้วนกระด้างเอ่ยพร้อมกับชี้หน้าผู้เป็นสามี
“ไม่เคยคิดหรอกผมแค่พูดเฉย ๆ คุณอย่าคิดอะไรไปมากกว่านี้เลย”
“เฮ้อ!!”
“ว่าแต่คืนนี้เราจะไปแก้มือกันอีกไหม?”
“หมดแล้ว รู้ไหมว่าตอนนี้ไม่มีเงินในบัญชีสักบาท คุณจะให้ฉันเอาเงินที่ไหนไปเล่นล่ะ ที่ผ่านมาเงินในบัญชีฉันก็จะถลุงไปกับการพนันหมดแล้ว”
กออ้อพูดอย่างหงุดหงิด เงินมากมายมหาศาลของพีรพลที่เคยทิ้งเอาไว้ให้เธอกับลูกพร้อมกับข้าวของมีค่า เธอก็เอาไปละลายกับการเล่นการพนันหมดแล้ว
“มีสิ โฉนดที่ดินเราเอาไปจำก่อน เอาเงินไปต่อทุนกัน”
“แต่...” กออ้อรู้สึกลังเล ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากเอาโฉนดที่ดินคฤหาสน์หลังนี้ไปจำ แต่ถ้าเกิดว่าเธอหาเงินมาจ่ายธนาคารไม่ได้เขาก็จะมายึด แล้วเธอกับลูกจะไปซุกหัวอยู่ที่ไหนล่ะ
“แต่อะไร?”
“ถ้าเกิดว่าเราเอาโฉนดที่ดินคฤหาสน์หลังนี้ไปจำ ถ้าเราไม่มีเงินคืนเขา แล้วเขามายึดเราจะไปอยู่ไหนกันล่ะ?” เธอเอ่ยพร้อมกับกัดเล็บของตัวเองเบา ๆ ครุ่นคิดกับสิ่งที่ผู้เป็นสามีพูดออกมา
“เราต้องได้คืนสิ เผลอ ๆ เราจะได้เยอะกว่าเดิมอีก”
“มันเสี่ยงเกิน”
“การลงทุนมีความเสี่ยงเราก็ต้องยอมเสี่ยงดู ผมคิดว่ามันต้องได้มากกว่าเดิม ผมมั่นใจ”
“...”
“ถ้าผมได้เงินเยอะ ๆ ผมจะไปเอาหุ้นบริษัทของคุณกลับคืนมาให้ได้” มนัสพยายามหว่านล้อมภรรยา
“ฉันกลัวว่ามันจะหมดนะสิ”
“ไม่หมดหรอก ถ้าเราแก้มือได้ เราก็จะมีคนใช้มีคนขับรถเหมือนเดิม คุณจะได้ไม่ต้องลำบากอีกต่อไป”
เขาเอ่ยกับภรรยา เพราะเขาเอาเงินไปถลุงที่บ่อนหลายต่อหลายครั้ง ทำให้เงินทองข้าวของภายในบ้านพวกของมีค่าเริ่มหมดไป เพราะเขากับภรรยาเอาไปขายเล่นการพนันจนเกือบหมด รวมทั้งหุ้นที่บริษัทของพีรพลด้วย เขาให้กออ้อขายหุ้นจนหมดและไปละลายกับบ่อนการพนัน
“ค่ะ”
“เดี๋ยวเราจัดแจงเรื่องนี้กันให้เรียบร้อย เราไม่ต้องไปจำกับธนาคารก็ได้ เราเอาไปจำกับคนที่รู้จักดีกว่า ทำอะไรให้เรียบร้อยเราจะได้เงินเยอะกว่าธนาคารให้มา”
“ค่ะ” เธอพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับคิดตามสามี ถ้าเกิดว่าเธอแก้มือได้เธอจะกลับมามีทุกอย่าง และเมื่อถึงวันนั้นพวกปากหอยปากปูก็จะได้ไม่ต้องนินทาเธออีกต่อไป
ช่วงบ่ายของวันนั้น อิงฟ้าเดินเข้ามาภายในบ้านอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง เมื่อคืนเธอไปเที่ยวไนท์คลับแล้วไปต่อกับหนุ่มตาน้ำข้าว ชายคนนั้นเล่นบทสวาทกับเธอถึงอกถึงใจกว่าจะได้กลับมาก็บ่ายคล้อย
“นังแพร” อิงฟ้าตะเบ็งเสียงเรียกแพรวา ในขณะที่หญิงสาวกำลังก้มก้ม ๆ เงย ๆ ถูพื้นอยู่หน้าบันได
“ค่ะคุณอิง”
“ถอดรองเท้าให้ฉัน”
เธอพูดพร้อมกับยื่นเท้าไปหาแพรวา ในเมื่อพ่อของแพรวาตายไปแล้วเธอก็ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแกล้งแสดงละครว่ารักหรือเป็นมิตรกับผู้หญิงซื่อบื้ออย่างแพรวา
“ค่ะ” แพรวาเช็ดมือตัวเองก่อนจะค่อย ๆ บรรจงถอดรองเท้าให้อิงฟ้าอย่างเบามือ
“หลบไป!!” เธอผลักร่างผอมบางของแพรวาให้หลบไป เธอมองไปที่ถังน้ำสีขุ่น ก่อนจะสาดใส่ร่างของแพรวา
“ซ่า!”
“ว้าย!!!”
“สมน้ำหน้า นังโง่!!” อิงฟ้าว่าจบก็โยนถังน้ำใส่แพรวา ก่อนจะเดินขึ้นไปข้างบน
“งี๊ก~งี๊ก~!!” เจ้าโมโม่วิ่งมาหาแพรวา สุนัขสีขาวราวกับรู้ว่าผู้เป็นเจ้าของกำลังทุกข์ระทม เจ้าโมโม่เลียน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของแพรวา เหมือนพยายามปลอบเธอ
“ไม่เป็นไรหรอก แกไปนอนพักเถอะ!” เธอเอ่ยกับสุนัข แล้วเริ่มทำความสะอาดใหม่อีกครั้ง