ตอนที่ 2 ตกกระไดพลอยโจร (โจน)

1761 Words
2…ตกกระไดพลอยโจร (โจน) ฟ้าครามยืดตัวตรง อกผาย ไหล่ผึ่ง ยืนนิ่ง ไม่ขยับ ราวกับจะอวดรูปร่างที่ดูยังไงก็มั่นใจว่าน่ากิน ขณะที่เฟื่องลดาก็ยังไม่ถอนสายตาไปจากจุดกึ่งกลางลำตัวเขา สัญลักษณ์ทางเพศน่าสนใจกว่าใบหน้าว่างั้นเถอะ แล้วฟ้าครามก็เป็นฝ่ายพูด ทำลายความเงียบ และความสนใจของสาวรุ่นพี่ขึ้นก่อน ขณะยกมือลูบท้ายทอย ใบหน้าขึ้นสี “รอสักครู่นะครับ ผมจะลงไปหาเครื่องดื่มร้อนๆ ขึ้นมาให้” ร่างเปลือยหมุนตัวกลับ จะเดินไปเก็บผ้าเช็ดตัวเอาไปพันกาย เพราะนุ่งลมห่มฟ้าอวดโฉมอยู่นานแล้ว สายตากลัดมันเปล่งประกายวาววับทำให้เขารู้สึกเขินอายขึ้นมาเหมือนกัน แต่แล้วทันใดนั้นเอง ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นพอเป็นพิธี แล้วก็เปิดผัวะเข้ามาทันที “เซอร์ไพร์ส” “เฮ้ย!” “โอ้ว!” เสียงอุทานดังขึ้น ทั้งผู้มาเยือน และผู้ที่อยู่ในห้อง เซอร์ไพร์สจริงๆ “แม่ให้เวลาสิบนาทีนะจ๊ะ ทั้งสองคน” ผู้มาเยือนหายวับชั่วพริบตาเดียว มาเร็วไปเร็ว ฟ้าครามมองผู้จากไปอย่างงงๆ ในมือยังถือผ้าขนหนูอยู่ ส่วนเฟื่องลดาก็หายจากอาการไม่สบายทันที กลับจากดินแดนฟินแลนด์ ฟินเวอร์ สู่ความเป็นจริงที่เจ็บปวด น่าละอาย “ครามรีบแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วลงไปเจอกันข้างล่าง” เฟื่องลดาลุกจากเตียง หยิบเสื้อคลุมไปสวมอย่างรวดเร็ว เธอเดินออกจากห้องไม่หันกลับไปมองคนข้างหลัง ไม่มีอาการโผเผเหมือนคนเพิ่งเป็นลมหลงเหลืออยู่ ฟ้าครามหน้าแดงก่ำ เลือดสูบฉีดไปทั่วร่าง หัวใจเต้นแรง เขาเดินตัวเบากลับห้อง ด้วยอาการที่เรียกว่าแทบจะลอยได้ อีกสิบนาทีต่อมา ฟ้าครามและเฟื่องลดา นั่งอยู่ตรงหน้าผู้ใหญ่สองคนที่อยู่ในห้อง คือคุณพุดซ้อน และเสี่ยคำรน ส่วนอีกคนนั้นคือเวหา เพื่อนรักของฟ้าคราม และน้องชายเพียงคนเดียวของเฟื่องลดา “แม่ขอเริ่มเรื่องเลยนะจ๊ะ” “แม่พุดคะ มันเป็นอุบัติเหตุค่ะ ให้เฟื่องกับครามอธิบายก่อนนะคะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด” “พี่เฟื่องเงียบเถอะ ฟังคุณน้าก่อน” เวหาหรืออาร์ตี้ดุพี่สาว แล้วหันไปยักคิ้ว ยิ้มเผล่กับเพื่อนรัก “แกก็ด้วย ไอ้ครามเพื่อนรัก” “ยังไม่ได้พูดสักคำ” ฟ้าครามทำหน้านิ่ง “แต่แม่พุดกับป๊า กำลังเข้าใจผิดนะอาร์ตี้” เฟื่องลดาอยากจะร้องไห้ รู้สึกเสียใจที่เรื่องราวเป็นแบบนี้ เธออยากได้ฟ้าครามก็จริง แต่ไม่อยากหลอกผู้ใหญ่ และไม่อยากจับฟ้าครามด้วยวิธีนี้ เธอรู้ดีว่าชีวิตคู่ที่ปราศจากความรักนั้น มันไปกันไม่รอด เขาไม่ได้รักเธอ และไม่มีวันรักด้วย แค่อายุก็ไม่ผ่านแล้ว เธอได้แต่เพ้อฝันไปวันๆ ไม่เคยหวังให้ฝันเป็นจริง ลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง ใครมันจะถูกกันง่ายๆ หากไม่ใช่เพราะดวงชะตาวาสนาเกื้อหนุน “หนูเฟื่องฟังผู้ใหญ่พูดก่อนเถอะ” เสี่ยคำรนที่เงียบอยู่นานพูดเชิงสั่ง “ค่ะป๊า” เฟื่องลดาหน้าม่อย คุณพุดซ้อนยิ้มหวานให้สามีก่อนจะพูดเสียงเจื้อยแจ้ว “แม่เกรงว่า แม่ชุของหนูรู้เรื่องนี้เข้าภายหลัง จะเคืองแม่เอาได้ ไม่ใช่เคืองธรรมดาด้วยนะ อาจจะโกรธจนถึงขั้นตัดเพื่อนกันเลยก็ได้ ที่ปล่อยให้เรื่องไม่งามแบบนี้เกิดขึ้นในบ้าน” “หนูอธิบายแม่ชุเองค่ะ” “อุ๊ย แม่ชุของหนู จะหาว่าแม่ปัดความรับผิดชอบนะสิ และไม่แคล้วต้องตำหนิแม่ ภาพที่เห็นนั้นต่อให้หนูยืนยันว่าไม่มีอะไร แม่ก็ยังตะขิดตะขวงใจอยู่ดี แต่งงานกับลูกชายแม่เถอะนะจ๊ะหนูเฟื่อง” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง หันขวับไปมองหน้าคู่กรณี ที่นั่งนิ่งก้มมองมือตัวเอง เขาไม่คิดจะพูดอะไรบ้างเลยหรือ ไม่พูดเธอเอานะ ตกลงแล้วอย่ามาโวยวายทีหลัง คุณพุดซ้อนรีบพูดต่อ ราวกับกลัวว่าจะโดนแย่งพูด “ลูกทั้งสองอาจยืนยันว่า บริสุทธิ์ใจต่อกัน แต่ภาพมันฟ้องสายตา ยากที่จะทำใจจริงๆ ว่าไม่มีอะไรในกอไผ่” หนูไม่รู้ หนูตื่นเต้น หนูสับสน หนู...หนูอยากกรี๊ด เอ่อ...แต่ว่า คนในบ้านทั้งนั้น หากไม่พูด ใครที่ไหนมันจะไปรู้ จริงไหม ว่ามั้ย แทบจะไม่มีผลต่อเธอสักนิด ส่วนฟ้าครามก็เป็นผู้ชาย เขาไม่เสียหายอยู่แล้ว แล้วทำไมเขาไม่พูดอะไรบ้าง นายกำลังจะได้เมียแบบไม่ตั้งใจนะ ช่วยสนใจหน่อยเหอะ “ผมแล้วแต่แม่ครับ” เฟื่องลดาอ้าปากหวอ “ทะ...ทำไม” ไม่ปฏิเสธล่ะ กรี๊ดดด...เฟื่องลดาลุ้นจนตัวโก่ง เธอจะถูกลอตเตอรี่หรือเปล่า ขอรางวัลที่หนึ่งนะ เพี้ยง! ส้มหล่นทีเถอะ จะแก้ผ้ารำแก้บน “ก็ผู้ใหญ่เห็นสมควรว่าอย่างนั้น ผมก็ไม่ขัดข้อง หรือคุณจะดื้อ” น่าแปลกใจนัก ที่คุณนายพุดซ้อนฉายาเจ้าแม่หวงไข่ อย่างที่ใครๆ ตั้งให้ ไม่ได้โมโหหรือกราดเกรี้ยวใส่เฟื่องลดา ที่ฉกไข่ไปครองกันซึ่งๆ หน้า อาจเป็นไปได้ว่า เพราะคุณนายพุดซ้อนเอ็นดูเฟื่องลดาอยู่มิใช่น้อย ใครดื้อ เฟื่องไม่ดื้อ เฟื่องเป็นเด็กดี เฟื่องลดานั่งก้มหน้า ไม่กล้ายิ้ม ไม่กล้าสบตาใครสักคน หญิงสาวแก้มร้อนผ่าว หัวใจกระเด็กกระดอน ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “เฟื่องไม่ดื้อ แต่ครามก็รู้ ว่าเราสองคนไม่ได้มีอะไรกัน” “ไม่อยากแต่ง ก็ตกลงกับคุณแม่เอาเอง” ฟ้าครามเสียงแข็ง หน้าบึ้ง ส่งค้อนให้หญิงสาวที่พยายามปฏิเสธการแต่งงานกับเขา เฟื่องลดาที่เหลือบตาขึ้นมองแว่บเดียวถึงกับงง อยากแต่งซี้ แทบขาดใจเลยล่ะ ว่าแต่ส่งค้อนให้เฟื่องทำไมอ่ะ “แต่ว่า...แม่พุดขา เฟื่องไม่มีอะไรเสียหายนะคะ” อุแม่เจ้า เธอจะเป็นลมเสียให้ได้ หญิงสาวจิกเล็บลงบนเนื้อนุ่มกลางฝ่ามือที่ชื้นเหงื่อ หญิงสาวพยายามต่อรองอีกครั้ง เพราะไม่อยากจะเสียใจในภายหลัง โดยเฉพาะฟ้าคราม “ในสภาพนั้นน่ะนะพี่เฟื่อง” “เงียบนะอาร์ตี้” เฟื่องลดาปรามน้องชายเสียงเข้ม แล้วก็ก้มหน้าหลบสายตาใครต่อใคร ที่พากันจ้องมองมาตาเขม็ง สภาพอย่างนั้นใครๆ ก็ต้องคิดไกล เธอปฏิเสธอยู่คนเดียว ว่าไม่มีอะไร ใครจะไปเชื่อ “แม่เข้าใจความรู้สึกหนูเฟื่องดี ว่าตะขิดตะขวงใจ กับเรื่องราวที่ไม่ธรรมดา แต่เราคนกันเองทั้งนั้น ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอกลูก หรือว่าเฟื่องรังเกียจลูกชายแม่” คุณนายพุดซ้อนจ้องหน้าเฟื่องลดาเป็นเชิงคาดคั้น เฟื่องลดาตาโตรีบปฏิเสธหน้าตาแดงก่ำ  “ไม่นะคะแม่พุด ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ” หนูเต็มใจค่ะ แต่งวันนี้ตอนนี้เลยก็ได้ “หนูจิ๋วรังเกียจผมหรือเปล่า บอกแม่อีกครั้งสิครับ” “อะ...เอ่อ” แล้วนายล่ะ พ่อเจ้าประคุณเอ๋ย อย่าบีบคั้นให้มันมากนักสิจ๊ะ รับปากแล้วคืนคำไม่ได้นะสุดหล่อ “ว่าไงล่ะพี่เฟื่อง เพื่อนผมมันรอคำตอบพี่อยู่นะ เยส โน ก็ว่ามา อย่าให้ลุ้น น่ารำคาญ” เวหายักคิ้วแผล่บให้เพื่อนรัก เฟื่องลดาสะดุ้งมองหน้าเวหาและฟ้าครามสลับกัน “สรุปว่าหนูเฟื่องตกลง ไม่ต้องพูดอะไรอีก ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ แม่จะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย หนูอยู่ทางนี้ทำตัวตามสบาย รอฟังข่าวกำหนดวันแต่ง เตรียมตัวเป็นเจ้าสาวเพียงอย่างเดียว” “เอ่อ...” เฟื่องลดาทำหน้าไม่ถูก พูดอะไรไม่ออก ดีใจนั่นแหละ แต่เป็นห่วงความรู้สึกของอีกคน และสงสัยว่า เพราะอะไรเขาถึงไม่ปฏิเสธ “เร็วๆ นี้แหละ” “ครับ” ฟ้าครามรับปากตกลง พร้อมที่จะเป็นเจ้าบ่าว โดยไม่มีอะไรขัดข้อง ส่วนฤกษ์ยามนั้น ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจะคุยกันเองอีกครั้ง เพราะทั้งสองบ้านรู้จักสนิทสนมกันเป็นอย่างดี หลังจากที่ตกลงกันเสร็จเรียบร้อย ทุกคนก็หายตัวไปอย่างรวดเร็วแต่ไม่วายทิ้งประโยคสั่งเสียยืดยาวชวนให้สะพรึง “จะจับแยกตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ พ่อกับแม่จะส่งข่าวมาอีกครั้ง” “ครามได้คุมบ้างหรือเปล่า หนูเฟื่องเขาอายุมากกว่าก็จริง แต่เรื่องแบบนี้ผู้ชายอย่างเราๆ ต้องเชี่ยวมากกว่าอยู่แล้ว จริงไหม” “อุ๊ย...ไม่ได้ค่ะคุณ ฉันอยากอุ้มหลาน” คุณพุดซ้อนหน้าตาตื่นโบกมือห้ามวุ่นวาย “แม่พุดคะ คือเราสองคน ยังไม่ได้มีอะไรกัน จริงๆ นะคะ” “หนูเฟื่องเงียบเถอะ ครามได้ยินแล้วนะ เอาตามที่แม่เขาว่า ทำลูกเร็วๆ แม่เขาอยากอุ้มหลาน” เฟื่องลดาในวัยยี่สิบหกปีนั้นหน้าตาอ่อนเยาว์ สวยสดงดงามจนเป็นที่ถูกใจของเสี่ยคำรณและคุณนายพุดซ้อน เปรียบดังดอกไม้แรกแย้ม หญิงสาวอายุน้อยบางคนยังสวยสดสู้เฟื่องลดาไม่ได้ ลูกเธอก็เหมือนลูกฉัน คุณพุดซ้อนรักษาคำมั่นสัญญามาโดยตลอด รักและเอ็นดูเฟื่องลดา จนอยากได้เป็นสะใภ้ เสียดายไม่มีลูกสาว จะยกให้เวหาไปอีกคน เฟื่องลดายังโสด ไม่มีชายใดจับจองหัวใจ ดังนั้นเมื่อมีโอกาสต้องรีบคว้าเอาไว้ และหนุ่มสาวคู่นี้ก็เหมาะสมกัน ราวกับกิ่งทองใบหยก แม้จะมีความแตกต่างกันเรื่องอายุ แต่กลับไม่ได้บั่นทอนความเหมาะสมนั้นลงไปได้ “แม่อยากได้หลานผู้ชายหลายๆ คน ธุรกิจร้านทองของเรา กำลังไปได้สวย มีโครงการจะขยายสาขาเพิ่ม แม่อยากได้ทายาทเอาไว้ รับช่วงกิจการที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว” “เร่งผลิตเลยนะลูก ไม่ต้องคุม พ่อจะหาฤกษ์ที่เร็วที่สุด” เฟื่องลดาหน้าแดงก่ำ เอาแต่ก้มหน้างุด อายจนวางหน้าไม่ถูก จากนั้นก็แยกย้าย ห้องใครห้องมัน และจากวันนั้นหญิงสาวก็หลบหน้าว่าที่เจ้าบ่าวมาตลอด ‘ผู้ชายหล่นใส่ตัก ได้ผัวเป็นตัวเป็นตนเสียทีนะพี่เฟื่อง’ ‘อาร์ตี้บ้า พูดอะไร’ ได้แก้ผ้ารำแก้บนสินะเฟื่องลดา อ๊ายยยย      

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD