ครืด!ครืด!
เสียงสมาร์ทโฟนราคาแพงแผดเสียงร้องดังขึ้น วิคเตอร์ทำหน้ายู่พร้อมกับใช้มือควานหาโทรศัพท์ที่กำลังมีสายเรียกเข้าอยู่บนหัวเตียง
“ฮัลโหล” วิคเตอร์กลอกเสียงแล้วขยี้ตาตัวเองเบา ๆ
(พ่อคะ อลิซกับคริสโตเฟอร์ถึงสนามบินแล้วนะคะ) น้ำเสียงหวานใสเอ่ยกลับมา ทำเอาวิคเตอร์ดีดกายลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างดีใจ
“ลูกมาไทยทำไมไม่บอกพ่อตั้งแต่ทีแรกล่ะลูก พ่อจะได้ให้ลูกน้องหไปรอรับ ตอนนี้ลูกน้องพ่อก็ให้ไปทำงานสำคัญ มีเหลืออยู่แค่ไม่กี่คนเอง แล้วไอ้คนที่เหลือมันก็ต้องเตรียมของล็อตใหม่เอาไว้ไปส่งให้กับลูกค้า ส่วนที่ว่างสุดก็แก่แล้ว”
(ตอนแรกงานบริษัทมันเยอะน่ะค่ะ แต่พอเคลียร์งานเสร็จเรียบร้อยเราสองคนก็เลยอยากจะกลับมาหาพ่อกับแม่ค่ะ แต่ถ้าพ่อกับแม่ไม่สะดวกที่จะให้ใครมารับ อลิซกับคริสโตเฟอร์เราไปที่บ้านเองก็ได้ค่ะ)
“งั้นพ่อจะไปรับลูกเอง รอพ่อแป๊บเดียวก็ถึงลูกรออยู่นั่นแหละไม่ต้องออกมาจากสนามบินนะ เดี๋ยวพ่อจะไปหาเอง”
(ค่ะ) วิคเตอร์กดวางสายก่อน ท่อนขาแกร่งตวัดลงพื้นแล้วลุกขึ้นเต็มความสูง เขาปรายตามองกระจกที่สะท้อนร่างของตนเอง ถึงแม้ว่าในตอนนี้จะอายุเลขสี่เลขห้าแล้ว แต่ร่างกายใบหน้าของเขายังคมเข้มไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไร
“เฮียจะไปไหนเหรอคะ?” เซลีนขยี้ตาพร้อมกับจ้องผู้เป็นสามี
“เฮียจะไปรับลูกน่ะพอดีอลิซกับคริสโตเฟอร์มาถึงสนามบินแล้ว”
“แล้วทำไมเฮียไม่ให้ลูกน้องไปรับล่ะคะ แล้วลูกก็มาไม่บอกกันเลย”
“เหลือแต่ไอ้พลกับไอ้สม ส่วนลูกน้องคนอื่นก็ไปส่งของล็อตใหญ่ เฮียไปแป๊บเดียวเดี๋ยวเฮียมา” ว่าจบวิคเตอร์ก็เปิดตู้หยิบชุดออกมาสวมใส่
“เซไปกับเฮียด้วยนะคะ” เซลีนลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบเสื้อผ้า
“เซอยู่ที่นี่ดีกว่า เฮียกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย ตระกูลมังกรฟ้ามันยิ่งจ้องจะทำร้ายคนในตระกูลเราอยู่ เฮียไม่อยากให้เซต้องเสี่ยง” วิคเตอร์เอ่ยพร้อมกับมองผู้เป็นภรรยา
“มันไม่มีอะไรหรอกค่ะ เซคิดถึงลูก เซอยากกอดคริสโตเฟอร์กับอลิซ เซอยากไปด้วยค่ะเฮียให้เซไปด้วยนะคะ”
“งั้นก็ได้” เมื่อทนภรรยารบเร้าไม่ไหว วิคเตอร์ก็ตกลง
“ขอบคุณค่ะ รักเฮียที่สุดเลย” เซลีนสวมกอดผู้เป็นสามีแล้วรีบใส่เสื้อผ้าของตนเอง
“ไปกันเถอะ” วิคเตอร์จับมือภรรยาแล้วเดินออกมาจากห้องเดินตรงไปที่รถหรูที่จอดอยู่ “เดี๋ยวเฮียโทรเรียกไอ้สมก่อน
“ค่ะ” วิคเตอร์กดโทรศัพท์โทรหาลูกน้อง
(ครับนาย)
“พากูไปสนามบินหน่อย เรียกไอ้สมมาด้วย”
(ครับ) วิคเตอร์กดวางไม่นานนักพลกับสมก็เดินออกมา ทั้งสี่คนรีบขึ้นรถแล้วขับเคลื่อนออกไปอย่างรวดเร็ว
“เซตื่นเต้นมาก ๆ เลยค่ะเฮีย” เซลีนพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“เฮียก็ตื่นเต้น ไม่เจอกันหลายปีเลย คริสก็คงจะหล่อเหมือนเฮีย อลิซคงจะเป็นสาวสะพรั่งสวยเหมือนเซแน่ ๆ”
“ลูกแม่ก็ต้องสวยเหมือนแม่สิคะ ว่าเเต่เราก็เห็นหน้าลูกตลอดนะคะ เราคลอหาลูกบ่อยจะตาย” เซลีนหัวเราะอย่างมีความสุข
“แต่มันไม่เหมือนเห็นตัวจริง” วิคเตอร์ดึงร่างภรรยาเข้ามาสวมกอดพร้อมกับฝังจมูกลงบนศีรษะทุยอย่างแผ่วเบา ๆ ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ความรักที่เขามีต่อภรรยาก็ไม่เคยลดน้อยลง มีแต่เพิ่มพูนมากขึ้น
“เบา ๆ กันหน่อยความหวานน่ะ เดี๋ยวเบาหวานขึ้นตา” พลเอ่ยแทรกเมื่อเห็นเห็นเจ้านายทั้งสองแสดงความรักกันจนน่าอิจฉา
“อิจฉากูล่ะสิ”
“เปล่าสักหน่อย”
“แน่เหรอ?” วิคเตอร์หรี่ตามองลูกน้อง
“แน่สิครับนาย” พลหัวเราะ
“ถ้าพวกมึงไม่มีเมีย พวกมึงก็จะแก่เหี่ยวตายอยู่แบบนั้นแหละ”
“ผมยอมแก่ตายดีกว่าร้องมาร้องไห้เหมือนหมาเหมือนนายใช่ไหมไอ้สม”
“ช่าย” สมเอ่ยเสริม
“ใครร้องที่ไหน ไม่เคยมี”
“แน่เหรอครับ”
“แน่สิวะ ใครเคยร้องไห้เหมือนหมากูไม่เคยนะ กูไม่เคยเป็นแบบนั้น”
“เเน่ก็แน่ครับ นายไม่เคยร้องไห้เหมียนหมาเลย ฮ่าๆ” พลหัวเราะร่วนอย่างชอบใจ พลันสายตาของสมเหลือบไปเห็นรถสองคันที่ขับตามมาอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะขับเลี้ยวไปทางไหน รถที่ตามมาก็ขับตามอย่างไม่ลดละ
“พลกูว่าท่าจะไม่ดีแล้วว่ะ”
“อะไรของมึง”
“รถสองคนนั้นตามมาไม่หยุด”
“นั่นมันรถของไอ้ภูผากับไอ้เมฆานิ่” พลเอ่ยแล้วหยิบปืนขึ้นมา
“มึงมั่นใจนะ”
“กูจำรถกับทะเบียนรถมันได้ มึงเร่งความเร็วเลยมันขับมาใกล้แล้ว กูไม่กลัวตายแต่กูกลัวนายหญิงกับนายเป็นอะไรไปมากกว่า”
“ได้ๆ” ว่าจบสมก็เหยียบคันเร่งเร่งความเร็วของรถยนต์ขับพุ่งทะยานไปอย่างรวดเร็ว
“เซก้มต่ำ เฮียจะยิงพวกมันช่วยสม” วิคเตอร์หยืบปืนออกมา
“ค่ะเฮีย” เซลีนก้มลงวิคเตอร์ลดกระจกลงเป็นจังหวะเดียวกันที่รถสองคนขับเข้ามาขนาบซ้ายขวา
ปัง!ปัง!ปัง! ทั้งสองฝ่ายสาดกระสุนใส่กันกันทันที วิคเตอร์ยิงลงกลางแสกหน้าของชายชุดดำหนึ่งคนที่ชะโงกหน้ามายิงจนล่วงลงสู่พื้น รถอีก2คนตามมาสมทบสาดกระสุนใส่รถของเขาไม่หยุด
ปัง!ปัง!ปัง!
“ไอ้สมเหยียบให้สุด”
“กูเหยียบสุดแล้ว แต่พวกมันมีรถสี่คัน ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะมีดักรออีกหรือเปล่า?” สมพูดพร้อมประคองสติของตนเองขับรถด้วยความเร็วอย่างสุดกำลัง
“เลี้ยวขวาเลยไปซอยเปลี่ยว มันต้องดักรออยู่แน่ ถ้าเราไปทางนี้เราจะมีโอกาสรอด”
“ครับนาย”
ปัง! วิคเตอร์ยิงปืนไปที่ล้อรถของคนร้ายจนยางระเบิด ทำให้รถ1ในสี่ตกลงข้างทาง
ปัง!ปัง!ปัง! วิคเตอร์ยิงใส่รถอีกคันเป็นจังหวะที่รถของเขาเลี้ยวไปที่ถนนเล็กๆที่รถขนาบซ้ายขวาได้ยาก
“ลองระเบิดหน่อยเป็นไร” พลเอ่ยแล้วดึงสลักโยนระเบิดใส่รถที่วิ่งตามมา
ตู้ม! เสียงดังสนั่นหวั่นไหว พร้อมกับรถอีก2คนที่ตกข้างทาง
“เหลือแค่คันเดียว” พลหัวเราะชอบใจ
“จัดการมัน” วิคเตอร์สั่งแต่ไม่ทันที่ลูกน้องคนสนิททั้งสองจะได้ทำตามคำสั่ง รถของเขาก็ถูกกระแทกจากทางด้านหลังอย่างแรง
ปึง!โคร้ม!
“เฮ้ย!”
“กรี๊ดดด!!” แรงกระแทกทำให้รถพลิกคว่ำหลายตลบตรงลงข้างทาง เเรงเหวี่ยงทำให้ทั้งสี่ที่อยู่ในรถถูกกระแทกอย่างแรงจนกระทั่งรถหยุดนิ่ง
“แค่กๆ เซ...”
“....”
“เซ” วิคเตอร์เอ่ยเรียกภรรยาเสียงเบา พยายามตะเกียกตะกายออกมาจากที่หงายท้องอยู่ป่าหญ้ารกๆข้างทาง
“...”
“ไอ้พลไอ้สม”
“ครับนาย”
“พวกมึงไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“เจ็บนิดหน่อยครับนาย แล้วนายหญิงล่ะ” วิคเตอร์ไม่ได้ตอบคำถามของลูกน้องแต่รีบคลานไปอีกฝั่ง
“เซ...” วิคเตอร์ทุบกระจกแล้วรีบดึงร่างภรรยาที่เลือดท่วมกายออกมา เธอนอนนิ่งไม่ไหวติงในอ้อมแขนแกร่งยิ่งทำให้วิคเตอร์รู้สึกกลัว เขากลัวว่าคนที่เขากอดอยู่ตอนนี้จะจากเขาไป “เลือดออกเต็มไปหมด ไอ้สมโทรเรียกรถพยาบาลที...” น้ำเสียงสั่นเต็มไปด้วยความตระหนก ผู้เป็นลูกน้องรีบควานหาโทรศัพท์
“ฮ่า ๆ ในที่สุดก็ถึงวันที่นายของพวกกูรอยคอย” ร่างหนาลงจากรถแล้วเดินตรงมาหาวิคเตอร์ มัจจุราชมันวาวถูกเล็งมาที่เขาทันที
“ไอ้พวกระยำ”