ทางด้านของรัชมน หญิงสาวกำลังเดินเข้าลิฟต์ ทว่าตามร่างกายของเธอมีรอยเต็มไปหมด มิหน่ำซ้ำชุดที่ใส่ยังเป็นเกาะอก ซึ่งไม่สามารถปกปิดรอยทั้งหมดได้
สีหน้าของรัชมนเปลี่ยนอย่างกังวล หากใครมาเห็นรอยบนร่างกายของเธอในตอนนี้ แน่นอนว่า เธอได้ขึ้นหน้าหนึ่งพาดหัวข่าวอย่างแน่!
และไม่ใช่เรื่องที่ดีในการขึ้นข่าวหน้าหนึ่งในสภาพอย่างนี้
การเป็นดารานักแสดงชื่อเสียงเป็นสิ่งที่สำคัญ แม้ดาราชื่อดังระดับโลกยังดับได้ในชั่วเวลาข้ามคืนเพียงเพราะมีพฤติกรรมสำส่อน แล้วดาราปลายแถวอย่างเธอคงไม่ต้องพูดถึง ดับสนิทไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด
ตอนนี้ลิฟต์ได้มาถึงชั้น 3 แล้ว
รัชมนกัดฟันแล้วก็ตัดสินใจ เธอฉีกชุดราตรียาวลากพื้นเปลี่ยนเป็นชุดยาวคลุมเข่า
เธอใช้ผ้าที่ฉีกลงมาเป็นผ้าคลุมไหล่ พันอยู่บนไหล่ตัวเอง ชุดราตรีจับคู่กับผ้าคลุมไหล่สีเดียวกันซึ่งไม่ค่อยแปลกมากนัก
ติง——
ลิฟต์มาถึงชั้นล่างแล้ว
รัชมนก้มหน้าลงปกปิดใบหน้า ไม่อยากให้ใครเห็นหน้าเธอและเดินออกไปข้างนอกอย่างเร่งรีบ
เธอไม่ได้พบนักข่าวหลายคนที่รวมตัวกันอยู่หน้าโรงแรม ทว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อเธอเดินออกมา นักข่าวหูตาไวคนนึงดันหันมาเห็นและกระซิบถามเพื่อนที่มากด้วยกัน
"คนนี้คือรัชมนหรือเปล่าอะ"
"คงจะไม่ใช่มั้ง ถึงแม้จะเป็นดาราที่ไม่ค่อยดัง แต่จะมาแต่งตัวเหมือนผ้าขี้ริ้วแบบนี้ไม่ได้หรอก”
"รัชมน!"
เสียงที่ส่งมาจากข้างหลังเธอซึ่งดังเป็นพิเศษในล็อบบี้ที่เงียบสงบ
รัชมนหันไปข้างล้าง ได้เห็นใบหน้างามๆที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างเหน็บแนมคนนี้คือเณศรา
"อุ๊ย เป็นรัชมนจริงๆอะ"
"แล้วก็เณศราด้วย!"
นักข่าวข้างนอกทุกคนต่างก็ยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูป
รัชมนทนต่อความเจ็บปวดของร่างกายตัวเอง ยักคิ้วและพูดว่า "มีอะไรรึเปล่า?"
เณศราใช้นิ้วชี้พันเส้นผมของตัวเองและพูดอย่างยั่วยุว่า
"เมื่อคืนผู้อำนวยการชาวีแสดงความชื่นชมต่อคุณ พอตอนเช้าก็ได้ได้เจอคุณที่โรงแรมหรือว่าเมื่อคืน คุณสองคนเกิดอะไรขึ้นกันเหรอ”
ที่จริงแล้วเณศรารู้อยู่แล้วว่าได้เกิดอะไรขึ้น เพราะเธอเป็นคนที่เรียกนักข่าวเหล่านี้มาเอง แม้จะรู้ความจริงอยู่แต่ยังมาถามรัชมนอีกเพียงแค่อยากให้เธอเสียหน้า
รัชมนหัวเราะเยาะเย้ย
"ไม่ใช่แค่ฉันที่อยู่ คุณก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน หรือว่าคุณกับผู้อำนายการสร้างหนังคนไหน.... อยู่ด้วยกันเมื่อคืน”
เณศรายิ้มอย่างมีความสุข
"เมื่อคืนตุลญะดื่มไวน์เยอะไป ฉันก็เลยดูแลเขามาตลอดคืนแหละ พวกเราสองคนไม่เหมือนกันนะ ฉันได้หมั้นกับตุลญะมานานแล้ว ส่วนคุณแหละ ฉันจำได้ว่าคุณประกาศตลอดมาว่าคุณยังโสดไม่ใช่เหรอ"
เมื่อได้ยินชื่อของตุลญะความเศร้าโศกที่คนอื่นสังเกตไม่ถึง สายตาของรัชมนจากนั้นเธอกัดริมฝีปากล่างของตัวเองเพื่อตักเตือนตัวเองว่าอย่าได้รับผลกระทบจากคำพูดของเณศรา
ผู้ชายคนนั้นไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับเธออีกแล้ว
"มันเกี่ยวอะไรกับคุณ"
รัชมนรู้ว่าอีกฝ่ายมาร้าย เมื่อพูดจบรัชมนก็หันหลังจะเดินจากไป
แน่นอนเลยว่าเณศราจะไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายอย่างนี้ทันใดนั้นเธอก็ยกมือกระชากผ้าคลุมไหล่ออกจากคอของรัชมน!
"โอ๊ย ขอโทษนะคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ"
เณศราเอามือป้องปากอย่างเสแสร้งแต่จริงๆ แล้วเธอได้รู้สึกดีใจราวกับเป็นผู้ชนะเพื่อต้องการให้รัชมนอับอาย พลันสายตาของเณศราก็เห็นรอยบนบริเวณไหล่และคอได้ชัดเจน ผู้หญิงอย่างเธอที่ผ่านเรื่องแบบนี้ รู้เลยว่าคือรอยอะไร และได้มาจากไหน
ทันใดนั้นพวกนักข่าวต่างฮือฮากับสิ่งที่เห็น
"คุณรัชมนคะขอถามหน่อยว่าเมื่อคืนคุณอยู่กับผู้อำนวยการชาวีจริงๆ เหรอ"
"คุณรัชมนคะขอถามหน่อยว่าคุณรู้หรือไม่ว่าผู้อำนวยการชาวีเขาได้แต่งงานแล้ว"
"ขอถามหน่อยว่าที่คุณประกาศมาตลอดว่ายังโสดเป็นการหลอกลวงทุกคนหรอ"
แฟลชกล้องกระพริบตลอดรัชมนถูกบังคับให้ถอยหลังหนึ่งก้าว
นักข่าวพูดอะไรเธอก็ฟังไม่ชัดแล้วแค่รู้สึกเสียงดังมากความรู้สึกที่ไม่สบายซึ่งเริ่มตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้หลั่งไหลเข้ามาทําให้เธออยากอ้วก
มีเพียงความคิดเดียวในสมองของเธอ นั่นก็คือ
ตายแล้ว
และรัชมนก็ลืมที่จะปกปิดตัวเองเธอแค่ยืนอยู่ที่ล็อบบี้โรงแรมอย่างตะลึงถูกนักข่าวรุงถ่ายรูปเธอไมม่หยุด
ทันใดนั้นมีวงแขนใหญ่กอดเข้ามาจากทางด้านหลังของเธอตามด้วยชุดสูทที่มีกลิ่นโคโลญก็พาดอยู่บนไหล่ของเธอ
"ไม่เกี่ยวกับชาวีครับ เมื่อคืนเธออยู่กับผมตลอดทั้งคืน" เสียงเย็นยะเยือกดังขึ้นในหูของเธอ
รัชมนยังไม่ได้ตอบสนอง เธอหันกลับไปอย่างไม่รู้ตัวแต่ได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย
เขาคือผู้ชายที่กอดเธอในตอนเช้านี้
"ปล่อยฉัน"ร่างกายของรัชมนสั่นอยู่ แล้วเธอดิ้นรนในอ้อมแขนของเขา
เหตุการณ์กำลังย่ำแย่ และเขาโผล่มาในตอนนี้ยิ่งแย่กว่าเดิม
ผู้ชายหน้ามึนกลับไม่ได้ปล่อยมือ ทว่ากลับเลื่อนกอดเอวบางๆ ของเธออย่างแน่นและพาเธอเดินเข้าไปในโรงแรม
และพูดว่า "ลุงยันต์ ช่วยจัดการกับเรื่องนี้"
ลุงยันต์พยักหน้าด้วยความเคารพแล้วหยิบนามบัตรปั๊มร้อนสีดำออกมาให้นักข่าวที่โวยวายดู
"ผมเป็นผู้ช่วยชั่วคราวของตระกูลธัญญามีอะไรถามผมก็ได้แล้ว"
นักข่าวตกใจมากที่ได้ยินตระกูลธัญญานี้พวกเขาค่อยๆ วางกล้องและโน้ตในมือลง และมองหน้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ
ตระกูลธัญญา!
ตระกูลธัญญาเป็นตระกูลที่มีอำนาจที่สุดในเมืองและได้สืบทอดตำแหน่งขุนนางของไทยมีบทบาทสำคัญมากในการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของเมืองมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างเมืองจันทิ ตระกูลธัญญาถือได้เป็นราชาแห่งเมืองจันทิ!
ที่พวกเขาเลิกถ่ายนั้นเป็นเพราะว่าถ่ายไปแล้วก็ไม่มีประโยชน์
การควบคุมของตระกูลธัญญาที่มีต่อสื่อนั้นเข้มงวดอย่างไม่น่าเชื่อ นอกเหนือจากรายงานสภาพของบริษัทตามปกติแล้วถ้าไม่ได้ผ่านการตรวจสอบของตระกูลธัญญา รายงานอื่นๆ จะไม่ได้เผยแพร่ออกไปอย่างแน่นอน
โดยเฉพาะข่าวที่เกี่ยวพันกับทายารุ่นใหม่คนนี้ คนภายนอกรู้แค่ว่าเขาชื่อฉันท์ทัตเท่านั้นเองแม้แต่ภาพถ่ายด้านหน้าของเขาก็ไม่เคยเปิดเผย
เคยมีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งได้เปิดเผยภาพถ่ายด้านข้างของฉันท์ทัตรูปหนึ่ง ในเดือนเดียวกันตระกูลธัญญาก็ได้ซื้อสำนักพิมพ์นั้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ถ้าพวกเขาไม่อยากตาย งั้นรูปที่ถ่ายในวันนี้ไม่สามารถเปิดเผยได้แม้แต่รูปเดียว เณศราที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ตกใจเช่นกัน
เธอกํากระเป๋าในมืออย่างแน่นๆ และสีหน้าก็แย่มาก
ทำไมจะเป็นไปได้อย่างนี้วะ
เดิมทีเธอคิดว่าคราวนี้จะต้องทำให้รัชมนเสียหน้าหมด จนอาจจะได้ไล่เธอออกจากวงการบันเทิงไปทำไมจะเป็นไปได้แบบนี้เลย
แน่นอนว่าเณศราเคยได้ยินชื่อของตระกูลธัญญาแม้แต่ผู้บริหารระดับรากหญ้าเธอก็ต้องประจบสอพลอส่วนทายาทรุ่นใหม่นี้ก็ยังไม่ต้องพูดถึงเลยในฐานะของเธอก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้พบเขา
เป็นไปได้ไงว่ารัชมนจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวพันกับผู้ชายที่มีอำนาจอย่างนี่ได้?
เนื่องจากคำพูดของลุงยันต์ พวกนักข่าวกำลังเก็บของพร้อมที่จะไปแล้วแต่เณศรายังไม่ยอมแพ้ เธอเอาโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาเบอร์หนึ่งไป
เณศราก็ลดเสียงลงและถามอย่างก้าวร้าวว่า
"คุณบอกฉันว่าทุกอย่างมันเรียบร้อยแล้วไม่ใช่หรือ แต่ทำไมตอนนี้รัชมนถึงได้เกี่ยวกับตระกูลธัญญาล่ะ"
ปลายสายดูเหมือนจะไม่เข้าใจว่า
"พี่...พี่เณศราฉันได้จัดการเรียบร้อยแล้วนะ เธอบอกว่ารอให้รัชมนเมาแล้วก็ส่งไปที่ห้อง 3008 ฉันได้ทำตามคำสั่งแล้วนะ ทำไมเธอจึงพูดถึงตระกูลธัญญาอะ ฉันไม่เข้าใจ"
เณศราโกรธจะตายแล้ว
" 3008 อะไรนะที่ฉันบอกให้คือ 308"
เมื่อคืนเธอสั่งยุรริษาให้วางยาในเหล้าของรัชมนหลังจากที่เธอเมาแล้วก็ให้ธอส่งรัชมนไปที่ห้องของผู้อำนวยการชาวีแต่ยุรริษาที่โง่เขลาดันส่งไปผิดห้อง
ยุรริษาประหลาดใจมากยังอธิบายอะไรอยู่แต่ใจของเณศราได้ลอยไปไกลๆแล้ว
ทำไมอีรัชมนนั้นได้มีความสัมพันธ์กับฉันท์ทัตด้วยนะ!
" ไปเถอะเณศรา "
เสียงผู้ชายอ่อนโยนมาจากด้านหลัง ร่างการของเณศรสั่นนิดหน่อย เหมือนแมวที่ถูกเหยียบหางแล้วการแสดงออกที่ดุร้ายเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยนในทันที เธอหันกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า "ตุลญะ"
ตุลญะได้ก้าวไปข้างหน้าและกอดเธอว่า" เครื่องชาร์จหาเจอแล้ว มันตกอยู่ใต้เตียงเราไปเถอะ"
เณศราพยักหน้าด้วยหน้ายิ้มเอนตัวเข้าไปในอ้อมกอดของตุลญะเหมือนว่าไม่มีกระดูกและเดินออกจากโรงแรมไปกับเขานัยน์ตาที่หลับอยู่นิดเดียวนั้นซ่อนความดุร้ายไว่ภายใน
ไม่เป็นไรคราวหน้าเธอจะไม่ปล่อยรัชมนหลุดมือไปแน่นอน