ตอนที่1

858 Words
ผมร้องไห้สะอึกสะอื้นบนเตียงคนไข้ภายในห้องพิเศษ ไม่อยากยอมรับว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับผม ที่ข้างเตียง มีตาแก่หมอและพยาบาลผู้ช่วยสาวอีกสองนางยืนอ่านรายงานอาการบาดเจ็บของผมที่พอจะจับใจความคร่าวๆได้ว่ามันโอเค เสร็จแล้วพวกเขาก็เดินจากไป ปล่อยผมไว้กับไอ้ทนายหน้าตายที่ก็ไม่แยแสความรู้สึกผมเหมือนกัน ผมไม่ได้ป่วยเป็นโรคร้าย ไม่ได้จะพิการหรือเป็นมะเร็งกระดูก ผมแค่… เวลาก่อนหน้า เสียงโทรศัพท์ดังอยู่สองสามที นิม ชายหนุ่มวัย20ปี รูปร่างสันทัด ผิวขาวปานกลาง ใบหน้าหล่อสไตล์อย่างที่วัยรุ่นนิยมกัน เขาอยู่ในชุดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสีฟ้าดำขนาดพอดีตัว นิมกำลังเซทผมให้เข้าทรงจึงปล่อยโทรศัพท์ให้ดังอย่างนั้นอยู่ครู่ใหญ่ ด้วยรู้ว่าปลายสายไม่วายเป็นเจ้าเพื่อนร่วมงานสุดห่วยที่กำลังจะโดดงานอีกตามเคย เขายอมวางหวีและรับสายอีกฝ่ายในที่สุด “เออว่าไง” ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งตอบปลายสายทั้งที่ตายังมองจ้องหน้าหล่อๆ ของตัวเองในกระจก พลางพ่นสเปรย์จัดแต่งทรงผมไปพลาง “วันนี้กูลานะเว้ย พาเมียไปหาหมอ มันบ่นเจ็บๆ ท้องเหมือนจะคลอดน่ะ” ไอ้หนู เพื่อนยามที่อายุแก่กว่านิมสามปีบอก “อย่ามาตอแหล เมียมึงเพิ่งท้องได้4เดือน แล้วนี่วันศุกร์ด้วย มึงคิดว่ากำลังหลอกใครห๊ะ” “แม่… รู้ทันอีกแล้ว แต่วันนี้กูขอนะเพื่อน นัดไว้แล้ว” หนูว่าเสียงอ่อน “นัดใคร?” “มึงจะเป็นแม่กูอีกคนหรือไง บอกลาก็ลาสิวะ” ปลายสายเริ่มหัวเสีย “แล้วแต่ละกัน บอกไว้ก่อน ถ้าเงินไม่พอแดกอย่ามายืมกู” “เออ” ไอ้หนูว่าแล้วรีบวางสายไป นิมส่ายหน้าระอา แม่ง ลูกเมียก็มี แต่ทำตัวไม่เอาอ่าว ไม่เอาห่าเอวเหวอะไรเลย หาเงินแค่พอมีชีวิตไปได้แค่เดือนๆ ผมล่ะสงสารลูกเมียมันจริงๆ ไม่รู้ไม่ทำเวรทำกรรมอะไรไว้ ถึงได้มาเจอผัวเฮงซวยขนาดนี้ ชายหนุ่มมองเข็มบอกเวลาที่นาฬิกาข้อมือ เขาทิ้งความสนใจจากชีวิตเพื่อนร่วมโลกไว้ตรงนั้นแล้วรีบจัดการธุระตัวเองต่อ ถึงจะไม่ได้ไปโชว์ตัวที่ไหน แต่ตามนิสัยรักหล่อห่วงหน้าตาตามประสาวัยรุ่น ทำให้เขาเป็นคนที่ดูดีทีเดียว คนเราก็ต้องให้เกียรติตัวเองใช่ไหมล่ะครับ เมื่อแต่งตัวเรียบร้อยดีแล้ว นิมก็เก็บของแล้วปิดล็อกเกอร์ ก่อนจะเดินไปประจำที่ตู้ยามหน้าบริษัท สัปดาห์นี้เขาต้องอยู่เวรดึก แอบห่วงยายเหมือนกันนะครับที่ต้องนอนอยู่บ้านคนเดียว แต่ทำไงได้ล่ะ ใครใช้ให้ครอบครัวเราเกิดมาจน เสียงวิทยุเล่นเพลงไทยเดิมดังชัดขึ้นทุกทีที่นิมเข้าใกล้เจ้ากล่องสี่เหลี่ยมหน้าบริษัท ลุงหมาย แกเป็นยามเก่าแก่วัยใกล้เกษียณของที่นี่ ถ้าวันไหนนิมมาต่อกะแก ก็มักจะได้ยินเพลงแนวๆ นี้เสมอ “มาเร็วจริงนะ” ลุงหมายทักผมเหมือนทุกที แกพูดไม่เก่ง เอาแต่ยิ้มอย่างเดียว ประมาณว่า ถ้าเห็นกินข้าว แกก็จะทักว่า กินข้าวหรือ แล้วก็จบแค่นั้น แบบนี้ล่ะครับ “เก็บของรอตอกบัตรเลยลุง ผมเฝ้าต่อให้เอง” ผมบอกลุงแกเพราะจะได้เข้ามาเปลี่ยนเพลงด้วย “เออๆ ขอบใจ” ลุงหมายยิ้มให้ ก่อนจะหยิบหมวกเข้าชุดสีหม่น ขึ้นมาสวมที่หัวเกือบล้านของแกแล้วเดินออกไปอย่างร่าเริง นาย นิมนต์ โอบอุ้ม ผมชื่อนิมครับ อายุ20ปีแล้ว ที่จริงผมควรกำลังเรียนอยู่ในมหาลัยที่ไหนสักแห่งในตอนนี้ แต่ก็นะ ที่บ้านผมไม่มีเงิน เพราะพ่อแม่ผมเสียตั้งแต่ผมยังเด็ก ผมจึงอยู่กับยายมา2คนมานับแต่ตอนนั้น โดยได้รับน้ำใจที่ไม่ค่อยเต็มใจนักของน้า ที่คอยส่งเงินมาให้ พอผมเรียนจบม.6 น้าแกก็เลิกส่ง ก็ได้เวลาที่ผมจะโตพอหาเลี้ยงตัวเองแล้วนี่นะ ตอนนี้ผมทำงานเป็นยามที่บริษัทแห่งหนึ่งโดยการชักชวนของไอ้หนู เพื่อนแถวบ้านที่โตมาด้วยกัน งานก็ง่ายๆ กะเช้าก็คอยเช็กคนเข้าคนออก และบริการอื่นๆนิดหน่อย กะดึกแค่เดินตรวจความเรียบร้อยภายในอาคาร ผลัดกันนั่งผลัดกันเดิน ทำงานเป็นทีม กะละ4คน แต่วันนี้คู่หูผมไม่มา อย่างที่รู้นั่นล่ะ คืนนี้ผมคงต้องเดินเวรคนเดียว แต่อย่าห่วง มันก็เหมือนเดินเล่นในบ้านตัวเองล่ะครับ ไม่มีอะไรน่ากังวล เดินมาเป็นปีแล้ว ผีสักตัวยังไม่เคยเห็น อย่างมากก็ยุ่งกัดเท่านั้นแหละครับ เนอะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD