นิวส์จ้าวเล่อเยียน

3057 Words
“อืม…” เรียวปากงดงามขยับพึมพำบางอย่างออกมาแต่ยังจับใจความมิได้เพราะน้ำเสียงนั้นแสนจะแหบแห้งเกินไปจากนั้นอีกครู่หนึ่งกายอรชรได้ผ้าห่มผืนหนาหนักจึงค่อยเริ่มขยับ แขนเรียวสองข้างยกขึ้นประสานกันเอาไว้เหนือศีรษะก่อนที่เจ้าของร่างบอบบางจะบิดตัวเพื่อขับไล่ความเหมื่อยขบที่ตนเองนอนอยู่กิริยาท่าทางเดียวนานเกินไป   “ทำไมวันนี้แอร์มันถึงหนาวขนาดนี้แค่ก…แค่ก…แค่ก”   ยังไม่ทันลืมตาตื่นแต่คนถูกความหนาวเย็นอันไม่คุ้นเคยกัดกินไปจนถึงกระดูกก็อดจะบ่นงึมงำพึมพำออกมาอีกครั้งเสียมิได้ ทว่าในคราวนี้พอพันวารีเปล่งเสียงออกมากลับแหบแห้งราวกับคนเป็นไข้หวัดใหญ่กระนั้น เสียงแหบแห้งไม่พอเธอยังไอติดกันออกมาจนแสบลำคอระหงไปหมดราวกับตนเองเพิ่งจะจมน้ำมาอย่างไรอย่างนั้นแต่เซียนว่ายน้ำอย่างเธอนะหรือจะไปจมน้ำที่ไหนได้?   ซึ่งอาจเป็นเพราะเสียงไอนั้นจึงปลุกให้สาวใช้คนสนิทเช่น’ ฟางหรู’ ตื่นขึ้นมาจากการที่นางเผลอหลับไปกับพื้นหน้าเตียงของ’ ฮูหยินจวนคุณชายใหญ่’ ของสกุลมู่หรงที่ตนเองเลี้ยงดูมากับมือจนอีกฝ่ายถึงเวลาออกเรือนในวัยเพียงสิบเจ็ดปีเท่านั้นเมื่อราวสองเดือนก่อน   “คุณหนู…คุณหนูรองท่านเร่งฟื้นขึ้นมาเถิดนะเจ้าค่ะ…”   สาวใช้วัยสามสิบปีเรียกผู้เป็นนายพร้อมกับใช้สองมือของตนเองบีบนวดไปตามแขนและขาของนางบอบบางที่บัดนี้ยังคงนอนแน่นิ่งมาร่วมสามวันแล้วนับจากที่คนภายนอกเข้าใจเพียงว่านางนั้นพลัดตกบึงบัว ทว่าความจริงที่มีเพียงสาวใช้เช่นนางที่รู้แจ้งว่าคุณหนูจ้าวเล่อเยียนของตนนั้นตั้งใจที่จะกระโดดหวังจบวีชิตตนเองลงในวันแต่งงานของชายอันเป็นที่รักกับสตรีซึ่งเป็นสหายสนิทกันเช่นคุณชายรองมู่หรงฮ่าวหรานและเสวียนเหม่ยอิง   “??? …”   …ใครคือคุณหนูรอง? …   นั่นคือสิ่งแรกที่สมองที่ยังมึนงงและสับสนได้รับฟังแล้วถึงกับต้องนิ่งฟังอีกครั้งว่านี่ตนเองเปิดทีวีทิ้งเอาไว้แล้วเกิดเผลอหลับไปอีกแล้วใช่หรือไม่?   “คุณหนูเล่อเยียนเจ้าค่ะตื่นขึ้นมาสักคราเถิดนะเจ้าค่ะฟางหรูใจจะขาดตามคุณหนูไปอยู่แล้วนะเจ้าค่ะ”   “นี่ฉันเผลอหลับทั้งที่ดูซีรีส์ค้างเอาไว้อีกแล้วเหรอเนี่ย”   เจ้าของร่างงดงามทนไม่ไหวจึงกระชากหนังตาลืมพรึบขึ้นพร้อมกับเด้งกายลุกขึ้นมานั่งพลางเริ่มควานมือไปหารีโมตแอร์ที่ปกติจะวางอยู่ตรงโต๊ะข้างหัวเตียงพร้อมกับพวกมือถือและรีโมตทีวีเพราะขณะนี้เธอหนาวมากก่อนจะปิดทีวีขอปิดแอร์ช่วยชาติก่อนย่อมดีกว่า   “คุณหนู!!!”   ฟางหรูตกใจจนล้มก้นกระแทกหงายหลังลงไปกับพื้นเพราะไม่คิดว่าร่างที่นอนหายใจรวยรินจนท่านหมอทั้งหลายพากันส่ายหน้าว่ายากจะมีความหวังให้นางตื่นขึ้นมาอีกครั้งคงต้องนอนเป็นผักเน่าเหี่ยวเฉาไปจนกว่าร่างกายนี้จะทนไม่ไหวแล้วสิ้นใจไปเองเนื่องจากกว่าจะช่วยนางขึ้นมาจากน้ำได้นั้นใช้เวลานานเกินไป แต่บัดนี้ที่อยู่หน้าของนางนี้ตกลงคือผีหรือคนกันแน่!?   “เธอเป็นใคร?”   “คุณหนูรองฟื้นแล้ว!!?”   ไม่ใช่เพียงแค่ฟางหรูที่ตกใจ ทว่าพันวารีเธอเองก็ตกใจเช่นกันที่ในห้องนอนของตนเองมีคนแปลกหน้าไม่พอยังแต่งกายแปลกราวกับคนจีนในยุคโบราณที่เธอเคยเห็นในซีรีส์อีกด้วย ยิ่งเด็กสาวเป็นพวกโลกส่วนตัวสูงนอกจากเก็บกวาดทำความสะอาดภายในห้องแล้วที่จะให้สาวใช้มาอยู่ร่วมในห้องยิ่งเป็นไปไม่ได้ไปใหญ่และถึงบ้านเธอจะรวยมากมีสาวใช้กับเหล่าคนงานนับสิบแต่เธอก็แน่ใจว่าไม่เคยเห็นคุณน้าตรงหน้านี้มาก่อนเลย   “คุณหนูรองท่านฟื้นแล้วจริงๆ เสี่ยวชุ่ย เสี่ยวหาน เร่งไปแจ้งแก่เหล่าฮูหยินว่าสะใภ้ใหญ่นางฟื้นแล้ว”   …เหล่าฮูหยิน!? …สะใภ้ใหญ่!? …   พันวารีมอง’ คุณน้า’ ที่ดูตื่นเต้นดีใจราวกับบุตรสาวฟื้นจากความตายวิ่งวุ่นวายส่งเสียงเอ็ดอึงร้องเรียกเด็กสาวกับเด็กชายวัยคงราวสิบสามถึงสิบสี่ปีเข้ามาภายในห้องแล้วก็รัวคำสั่งจนสมองของเธอเรียบเรียงไม่ทันนี่มันอะไรกันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่?   สาวน้อยนั่งนิ่งในท่าเทพธิดาอยู่กลางเตียงไม่ได้ขยับไปทางใดเพราะกำลังเรียบเรียงเรื่องราวต่างๆ ก่อนที่ตนเองจะหลับไปแล้วจึงมาตื่นในที่ประหลาดกับคนแปลกหน้าเช่นนี้   …!!!…   แล้วภาพสุดท้ายก่อนที่สติของเธอจะมืดสนิทลงไปก็ค่อยๆ ย้อนหวนคืนมาอย่างเชื่องช้าเธอนอนอยู่บนเตียงแล้วจึงตื่นไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมออกไป’ แรด’ กับสองเพื่อนสนิท แต่ระหว่างการเดินทางเธอจะขับรถลงจากทางด่วนแต่เบรคของรถหรูราคาแพงดันใช้งานไม่ได้   …ฆาตกรรม…   ใช่แล้วเธอต้องถูกวางแผนฆาตกรรมแต่จะเป็นใครอันนี้เธอไม่รู้เพราะบรรดาเหล่าเมียน้อยของบิดาตนเองไม่ได้มีเพียงคุณนายรองกับคุณนายสามที่อยู่ในเขตรั้วบ้านเดียวกันเอาเป็นว่าบัดนี้เธอตายสนิทแม้แต่ศพก็ยังไม่เหลือรูปร่างเดิม พอคิดมาถึงตรงนี้เด็กสาวที่เพิ่งผ่านพ้นความตายก็ก้มลงมือสำรวจร่างกายนี้ทันที   มือเรียวเล็กราวลำเทียนขาวผ่องบอกได้เป็นอย่างดีว่าผู้เป็นเจ้าของร่างนี้เป็นลูกคนมีอันจะกินในระดับคนร่ำรวยไม่น้อยผู้หนึ่งแขนสองข้างกลมกลึงก่อนที่เธอจะเหยียดปลายเท้าออกไปจนสุดก็ต้องห่อปากเป็นรูปตัวโอกับความงดงามสลักเสลาแม้แต่ปลายเล็บเท้าก็ยังหาที่ติไม่เจอแม่คุณเอ๋ย…   …แต้มบุญต้องมหาศาลขนาดไหนถึงได้เกิดมาเป็นสตรีงดงามได้ถึงปานนี้!? …   แล้วภาพจากภายในหัวนี้ที่คาดว่าจะเป็นความทรงจำสุดท้ายก่อนที่เจ้าของร่างจะจากไปก็ค่อยๆ ผุดสว่างไสวขึ้นมาเป็นฉากเป็นตอน นับจากร่างนี้ในวัยเด็กมีบิดาและมารดาเป็นใครไปจนถึงสัญญาหมั้นหมายจวบจนถึงงานวันแต่งงานที่พันวารีคิดว่าตนเองนั้นดันฝันเป็นตุเป็นตะไปเองนั้นที่แท้ทั้งหมดล้วนเป็นความจริงของเจ้าของร่างนี้คุณหนูรอง’ จ้าวเล่อเยียน’ บุตรีในท่านแม่ทัพจ้าวแห่งเมืองรั่วหยางของอาณาจักรเทียนสุ่ยนั่นเอง   นางยังมีพี่ชายและน้องชายกับน้องสาวอีกหลายคนแต่ก็ต่างมารดากันทั้งสิ้นมีเพียงนางที่กำเนิดมาจากฮูหยินเอกของท่านแม่ทัพจ้าวดังนั้นที่ต้องแต่งกับสกุลมู่หรงจึงต้องเป็นนางเท่านั้นทว่าช่างน่าเสียดายที่จ้าวเล่อเยียนมีสัญญาหมั้นหมายกับคนพี่แต่ดันไปหลงรักคนน้อง   เมื่อราวร่วมสองเดือนก่อนนางเพิ่งแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้ใหญ่ซึ่งเป็นของคุณชายใหญ่เช่นใต้เท้ามู่หรงฮ่าวเฉินผู้ดำรงตำแหน่งท่านรองเจ้ากรมอาญาที่มีวัยเพียงยี่สิบห้าปีเท่านั้น ทว่าจากที่อดีตจ้าวเล่อเยียนคิดว่าตนเองจะทนอยู่ร่วมชายคาอาณาเขตเดียวกับชายคนที่ตนแอบรักก็พึงใจแล้ว มิคาดหนึ่งเดือนต่อมาข่าวที่เขานั้นกำลังจะตบแต่งฮูหยินเอกเข้ามาเป็นสะใภ้รองให้แก่จวนสกุลมู่หรงเสียแล้วซึ่งจ้าวเล่อเยียนคงจะยังอดทนได้หากสตรีนางนั้นจะมิใช่สหายสนิทที่อีกฝ่ายหลอกใช้อาศัยนางเป็นสะพานมาเชื่อมสัมพันธ์จนได้ตบแต่งกับมู่หรงฮ่าวหรานในสี่วันก่อน   …เจ็บใดไหนเล่าจะเจ็บเท่าคนที่วางใจมาทรยศกัน…   ดังนั้นในวันวิวาห์ของทั้งสองจ้าวเล่อเยียนจึงถือเป็นวันจบชีวิตของตนเองลงเช่นกัน แต่ยังดีว่าคนเป็นสามีเช่นมู่หรงฮ่าวเฉินมาพบและลงไปงมร่างของนางขึ้นมาได้ทัน ทว่าถึงจะนับว่าช่วยได้แต่คงช้าไปหน่อยวิญญาณของจ้าวเล่อเยียนจึงจากไปเสียแล้ว   …เผียะ!…   “โง่เขลาสิ้นดีจบชีวิตเพราะผู้ชายคนเดียวกับอีเพื่อนสารเลวได้อย่างไรกันช่างโง่นัก!…โง่แบบอันลิมิเตดมากกกกก”   “!!!…” จู่ๆ คุณหนูของนางก็ยกเข่าขึ้นมาหนึ่งข้างแล้วตบลงไปบนต้นขาอีกข้างเสียงดังฉาดใหญ่แถมยังพ่นภาษาอะไรที่นางเองก็ฟังแล้วมึนลงไปหมดหรือว่า??? …   …คุณหนูจะถูกปีศาจเข้าสิงร่าง!!!…   พอคิดได้ดังนั้นฟางหรูก็ถึงกับตาเหลือกลานแล้วลุกขึ้นวิ่งหกล้มก็ยังคงมีแก่ใจคลานต่อไปจนถึงเรือนของเหล่าฮูหยินและนายท่านผู้เฒ่ามู่หรงจนได้   “เหล่าฮูหยิน!…เหล่าฮูหยินเจ้าค่ะเกิดเรื่องใหญ่แล้วเจ้าค่ะ!”   ฟางหรูล้มลุกคุกคลานจนไปถึงหน้าเรือนหลังใหญ่ที่บัดนี้นั้นหนึ่งหญิงสูงวัยอายุคงราวห้าสิบปีกับบุรุษในวัยหกสิบปีกำลังนั่งละเอียดดื่มน้ำชาหลังมื้ออาหารอยู่ที่ภายในโถงกลางเรือนจนฝ่ายสตรีแทบทำถ้วยน้ำชาพลัดหลุดมือเข้าเสียแล้ว   “โอ๊ย!...ฟางหรูเจ้าเสียสติไปแล้วหรือไรจึงเอ็ดอึงเช่นนี้หรือว่า…สะใภ้ใหญ่!...สะใภ้ใหญ่ของข้านางเป็นอันใดไปเร่งกล่าวมา!”   หลวนชิวเหนียงผู้เป็นฮูหยินเอกในท่านอัครมหาเสนาบดีมู่หรงฮ่าวหนานถึงกับผวาเร่งวางถ้วยน้ำชาในมือลงทันใดเพราะสำหรับนางแล้วสะใภ้ใหญ่ผู้เห็นกันมาแต่เล็กแต่น้อยนางเอ็นดูยิ่งนักนั้นสำคัญอย่างยิ่ง   “ปีศาจ…ปีศาจเจ้าค่ะสะใภ้ใหญ่คงถูกปีศาจร้ายเข้ามาสิงร่างแล้วเป็นแน่!”   “ห๊า…เจ้ากล่าวว่าอย่างไรนะ!?”   คราวนี้มิใช่เหล่าฮูหยินมู่หรงแล้วที่แตกตื่นตกใจแม้นแต่ท่านอัครมหาเสนาบดีมู่หรงเองก็แตกตื่นตกใจไม่แพ้ภรรยาของตนเองจึงร้องถามแทรกขึ้นโดยที่หลวนชิวเหนียงยังมิทันได้ขยับปากเลยด้วยซ้ำ   “สะใภ้ใหญ่นางฟื้นคืนสติขึ้นมาแล้วทว่า…ทว่า…”   ฟางหรูนั้นมิทราบว่าตนเองจะอธิบายอย่างไรเพราะที่คุณหนูของนางนั้นฟื้นคืนสติมาราวกับปฏิหาริย์ตนย่อมดีใจอย่างยิ่ง ทว่าพอฟื้นคืนสติกลับมากิริยาเรียบร้อยนุ่มนวลพลันมลายหายไปจนสิ้นไม่พอจ้าวเล่อเยียนยังพูดจาภาษาอันแปลกประหลาดจนนางเกรงไปเสียแล้วว่าที่ฟื้นขึ้นมาอาจมิได้เป็นคุณหนูของตนเองหากแต่อาจเป็นภูตผีหรือเหล่าปีศาจมาแฝงกายของจ้าวเล่อเยียนเสียแล้ว   สองผู้เฒ่าซึ่งยังคงมีอำนาจที่สุดในจวนสกุลมู่หรงแห่งนี้ต่างมองหน้ากันแล้วเลิกจะสอบถามเอาความจากสาวใช้ของสะใภ้ใหญ่เช่นฟางหรูแล้วต่างวางถ้วยน้ำชากับขนมแล้วเร่งก้าวฝีเท้าไปยังเรือนจันทราส่องของจ้าวเล่อเยียนได้ดูด้วยสายตาของพวกเขากันเองทันที   ฝ่ายทางคนเพิ่งข้ามภพข้ามมิติหรือข้ามอันใดก็ช่างเถอะรู้เพียงตนเองตื่นขึ้นมาในร่างของผู้หญิงที่สวยบรรลัยเอิ่ม…งามล่มบ้านล่มเมืองนั่นจึงถูกต้องสินะ…ติดตกเสร็จแล้วพันวารีหรือบัดนี้ขอเป็นจ้าวเล่อเยียนอย่างเต็มกายและเต็มวิญญาณก็ก้าวเท้าลงจากเตียงนอนหลังโตทรงโบราณแต่งดงามปราณีตกว่าที่นางเคยเห็นในฉากตามซีรีส์จีนพีเรียดที่ชอบติดตามบ่อยเพราะผู้หล่องานดีนั่นเอง   คนที่อยู่ในเสื้อแขนยาวเนื้อบางกับกางเกงที่คาดว่าคงมีเอาไว้สวมนอนเพียงเท่านั้นเพราะเนื้อบางและนุ่มนิ่มแนบเนื้อมากคล้ายกับชุดนอนที่บ้านของตนเองเลยเดาไปอย่างนั้น สาวน้อยผลักบานหน้าต่างก่อนเป็นสิ่งแรกเพราะอยากมองเห็นสภาพทิวทัศน์ภายนอกห้องบ้าง แล้วนางก็ต้องห่อปากอีกครั้งเมื่อแลเห็นมิหะสีขาวสะอาดจับไปตามกิ่งไม้ใบหญ้าจนทั่วไปแม้แต่พื้นดิน   …นี่เองเสื้อผ้าบางขนาดนี้เลยหนาวไปจนลำไส้จะแข็งเช่นนี้…   คนที่หนาวจนสั่นจึงหันไปหยิบผ้าห่มผืนโตมาห่อกายแล้วจึงเดินลากมันไปกับพื้นทั้งอย่างนั้นเพราะต้องยอมรับนั่นแหละว่าตนเองกำลังอาลัยอาวรณ์ชีวิตเดิมก็ใครบ้างที่จะทำใจได้เพียงชั่วเวลาอันแสนสั้นไปได้ที่ตนเองถึงแก่ความตายลงไปอย่างไม่ทันตั้งเนื้อตั้งตัว ยังคิดถึงคุณแม่ผู้ใจดีอ่อนหวานคิดถึงบิดา ที่ต่อให้จะชอบแสดงความรักด้วยเงินและเงินแต่คุณป๊าของนางก็ไม่เคยตีหรือดุด่าตนเองเลย   ไหนจะสองเพื่อนสนิทที่วาดฝันร่วมกันถึงชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย ว่าพวกตนจะใช้มันอย่างสุดเหวี่ยงในเวลาสี่ปีและถึงร่างกายเก่าจะไม่ได้งดงามเฉิดโฉมดังร่างกายใหม่นี้แต่อย่างไรคนเราย่อมอาลัยอาวรณ์ชีวิตเดิมที่ใช้มาถึงสิบแปดปีวิถีทางเดิม สภาพแวดล้อมเดิมสีสันรวมไปถึงความคุ้นเคยเดิมมันยังฝังลึกอยู่ภายในดวงวิญญาณของพันวารีมิได้จางหายไปดังกับร่างกายที่แตกสลายไปแล้ว   ดวงตาคู่สวยทอดมองทิวทัศน์ที่มีเพียงสีขาวของหิมะกับสีน้ำตาลของต้นไม้ใหญ่มองไปจนสุดสายตาก็มีเพียงเท่านี้ขนาดบนยอดหลังคาก็ยังมีหิมะเกาะติดอยู่หนาแน่น จนจ้าวเล่อเยียนคนใหม่ถึงกับถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายและเบื่อหน่ายจนอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ไม่หมดจริงๆ   สุดท้ายนางก็รู้สึกถึงความเย็นที่กำลังกลิ้งลงมาจากดวงตาทั้งสองข้างนางจึงยกมือขึ้นแตะสัมผัสดูจึงค่อยพบว่ามันคือน้ำตา…นี่นางกำลังร้องไห้อยู่สินะ? …หนึ่งชีวิตจบลงแล้วอีกหนึ่งชีวิตกำลังจะเริ่มต้นขึ้นใหม่   เด็กสาวคิดมาถึงตรงนี้จึงยกสองมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้มันแห้งไปเสียในเมื่อมิอาจเลือกได้นางก็คงมีเพียงก้มหน้ายอมรับมันและดำเนินชีวิตต่อไปจบสิ้นไปแล้วกับชีวิตของคุณหนูพันวารีจบลงไปแล้วนี่คือเรื่องจริง และอีกหนึ่งชีวิตของคุณหนูรองจ้าวเล่อเยียนก็ได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่ที่นางลืมตาขึ้นมาเมื่อครู่ใหญ่   …ผ่าง!!!…   “!!!”   เสียงของประตูเรือนถูกผลักเข้ามาจนบังเกิดเสียงดังสะเทือน จนจ้าวเล่อเยียนที่กำลังนั่งทอดอาลัยตายอยากกับชีวิตใหม่ที่ได้มาอย่างงุนงงพลันสะดุ้งเฮือกพอเห็นหนึ่งสตรีสูงวัยที่ยังงามสง่ากับบุรุษท่าทางภูมิฐานที่มีคนซึ่งในความทรงจำของจ้าวเล่อเยียนคนเก่าว่าเป็นสาวใช้คนสนิทนามว่า’ ฟางหรู’ ที่ติดตามมาจากรั่วหยางบ้านเดิมของเจ้าของกายนี้เป็นผู้ติดตามมาแต่ยืนอยู่ด้านหลังของทั้งสองออกไปราวหนึ่งช่วงแขน   …งานลงวะนางพันซ์…   คนที่ยังไม่ทันตั้งตัวและเตรียมใจจะพบผู้คนแต่เห็นทีสวรรค์จะทดสอบนางเร็วไวเข้าแล้ว จ้าวเล่อเยียนหลับดวงตาทบทวนว่าสองคนซึ่งมาใหม่นี้เป็นใครเกี่ยวข้องกับนางเช่นไรและเพียงครู่คำตอบก็สว่างวาบขึ้นภายในความทรงจำ…มู่หรงฮ่าวหนานพ่อสามีของนาง…หลวนชิวเหนียงแม่สามี…เอ็นดูและรักใคร่ร่างกายนี้อย่างยิ่ง!   “Hi…ท่านพ่อสามี…Hi…ท่านแม่สามี”   “!!!”   “!!!”   “!!!”   ทั้งสามร่างถึงกับเหงื่อกาฬไหลซึมใบหน้าเมื่อคนที่เคยย่อกายเรียบร้อยทำความเคารพบิดาและมารดาสามีทุกครั้งที่พบหน้ากลับลุกขึ้นมาโบกมือไหวๆ แล้วก็กล่าวคำประหลาดที่ฟังเข้าใจกึ่งไม่เข้าใจเสียอีกกึ่งหนึ่ง ฝ่ายจ้าวเล่อเยียนคนใหม่ที่คิดว่าตนเองก็ทักทายบิดาและมารดาสามีออกไปไม่ถูกต้องกระมังพวกเขาจึงตะลึงพรึงเพริดกันไปทั่วหน้าเช่นนั้น   …สงสัยภาษาอังกฤษจะไม่โอเค? …   “เช่นนั้นสะใภ้กราบเจ้าคุณพ่อเจ้าคุณแม่สามีนะเจ้าค่ะ”   มิเพียงกล่าวด้วยปากเท่านั้นแต่หญิงไทยใจงามที่มีมารดากิริยามารยาทงดงามแล้วนางยังมีพี่เบลล่าเป็นต้นแบบจึงเร่งสลัดผ้าห่มผืนหนาให้พ้นกายแล้วก้มลงไปกราบพวกท่านทั้งสองด้วยท่าเบญจางคประดิษฐ์ที่ได้ร่ำเรียนรำไทยเป็นวิชาเสริมมาด้วยคะแนนสูงพอสูสี20ซ่อมแล้วซ่อมอีกอยู่สองเทอมจึงผ่านแล้วจึงเงยหน้าขึ้นไปฉีกยิ้มหวานหวาดเยิ้มที่สุดเท่าที่นางเคยยิ้มมาตลอดสิบแปดปี   “ฟางหรู!”   เป็นหยวนชิวเหนียงที่ได้สติก่อนผู้เป็นสามีจึงร้องเรียกหาสาวใช้คนสนิทของสะใภ้ใหญ่เสียงเอ็ดอึง จนขนาดจ้าวเล่อเยียนคนใหม่ยังถึงกับสะดุ้งผวาถอยหลังไปเสียอีกหลายช่วงแขน   …ตรูเริ่มอะไรผิดไปเหรอ? …   นั่นคือความคิดของหญิงสาวที่ลงไปนั่งพับเพียบเรียบร้อยเก็บมือเก็บเท้าระวังกิริยาอย่างสุดความสามารถโดยที่จ้าวเล่อเยียนคงจะหลงลืมว่าบัดนี้ตนมิได้ย้อนไปในยุคของแม่หญิงการะเกดกับพี่หมื่นของนางแต่ตนเองนั้นมาอยู่ในสถานที่กึ่งคล้ายจีนโบราณต่างหาก!   “เร่งให้ท่านพ่อบ้านใหญ่จวงไปเชิญนักหลวงจีนและซินแสมาเดี๋ยวนี้!!!”   …ซินแสกับหลวงจีนนี่ใช่แปลว่าหมอผีหรือไม่???? …  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD