ตอนที่ 1 สูญเสีย

2171 Words
  1…สูญเสีย             กลิ่นแก้ว พุทธาไสย มองควันไฟที่ลอยอ้อยอิ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าตราบจนจางหายไปในที่สุด ความเจ็บปวดถาโถมเข้าหาหัวใจจนชาหนึบ เธอต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปภายในเวลาไล่เลี่ยกัน เดือนที่แล้วเธอสูญเสียมารดาจากอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำทั้งครอบครัว มาเดือนนี้เธอสูญเสียบิดาจากโรคหัวใจล้มเหลว             “แก้วกลับบ้านเถอะ เย็นมากแล้วนะ” นิก เลิศสำราญตระกูลชัย เพื่อนรักเพื่อนซี้ดึงแขนเรียวให้ออกเดินแต่เธอปักหลักยืนนิ่ง เม้มปากแน่นเหมือนเด็กดื้อ             “อย่าร้องอีกนะเว้ย วันนี้ฉันไม่ได้เอาเสื้อมาเปลี่ยน” เขาไม่อยากเห็นน้ำตาเธออีกครั้ง             “ไอ้บ้า แกยุ่งอะไรด้วยวะ” หญิงสาวนัยน์ตาบวมช้ำหันไปตวาดแว้ดใส่เพื่อนแถมยังสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมแต่เพื่อนรักก็ไม่เลิกตอแย “เกี่ยวไม่เกี่ยวอกล่ำๆ ของฉันต้องเปียกโชกเพราะน้ำตาแกทุกวัน” เขาแหย่ให้เธอคลายเศร้า ใครบ้างจะไม่ร้องไห้เมื่อต้องสูญเสียบิดามารดาในเวลาไล่เลี่ยกัน             “ถ้าอย่างนั้นก็ไปให้ไกลตีน เลิกคบกันไปเลยแมร่ง... หวงกระทั่งอกเหี่ยวๆ “             “อกเหี่ยวๆ นี่แหละที่ให้แกซบเวลาอกหักจากสาวๆ ”             “ไอ้บ้าฮึก... ฮื่อๆๆๆ ” หญิงสาวทุบไหล่เพื่อนด้วยกำปั้นเล็กสูดจมูกฟืดฟาดถอนสะอื้นพลางร้องไห้ต่อ เธอซึ้งในน้ำใจของเพื่อน รู้ดีว่านิกแหย่เพราะอะไร             “ร้องเหอะวะถ้ามันทำให้แกดีขึ้น” ภิคเนศแตะไหล่เพื่อนสาวใจชายเป็นเชิงปลอบ พวกเขาห้าคนเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่สมัยเรียน ภิคเนศ ทีฆาวุท นิก ทิม กลิ่นแก้ว คบกันมานานมากความสัมพันธ์เปรียบเสมือนพี่น้องก็ว่าได้             “ไอ้ภิคฉันไม่เหลือใครแล้วว่ะฮือๆ ๆ ๆ ๆ ” กลิ่นแก้วโผเข้าหาภิคเนศทันที ทำให้อีกฝ่ายจำต้องอ้าแขนรับด้วยใจบริสุทธิ์ เพราะถือว่าเพื่อนกันทำให้ทิมและทีฆาวุทที่ยืนมองได้แต่ส่ายหน้ากับสภาพของเพื่อนสาว แต่ในทันใดนั้นเองนิกที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก็กระชากร่างเล็กไปกอดไว้เสียเองทำให้เพื่อนๆ ที่ยืนมองต้องกังขาว่าเขาเป็นอะไร             “มานี่เลยไอ้ตัวแสบ” ชายหนุ่มทำเสียงดุจนกลิ่นแก้วตกใจหยุดร้องไห้ไปชั่วขณะ และเงยหน้าคนที่ล็อคร่างเธอไว้อย่างงงๆ             “เป็นอะไรวะไอ้นิก ไม่กลัวเสื้อเปียกรึไง”  ทิมลอบสังเกตสีหน้านิกเพราะสงสัยกับท่าทีหวงแหนเพื่อนสาวหรือว่าจะชอบทอมเข้าให้แล้ว             “มึงจะให้ไอ้แก้วร้องไห้จนน้ำตาท่วมวัดหรือไงวะ” นิกโอบกอดร่างเล็กที่สั่นเทาถอนสะอื้นเป็นระยะแล้วต้องขบกรามแน่น เขาไม่ชอบเห็นเธอในยามร้องไห้เลยผับผ่าสิ มันรู้สึกยังไงก็ไม่รู้บอกไม่ถูกรู้สึกจี๊ดๆในหัวใจ             “มึงทำให้ไอ้แก้วหยุดร้องได้หรือไงวะ กูกอดกับมึงกอดต่างกันตรงไหน” ภิคเนศถามงงๆ             “กูกอดของกูมาตั้งแต่อยู่เนอสเซอรี ส่วนมึงไอ้ทิมและไอ้ทีเพิ่งได้เป็นเพื่อนไอ้แก้วตอนประถม เพราะฉะนั้นกูต้องพิเศษกว่ามึงสองคน”             “ไอ้นี่เป็นเอามาก มึงคิดกับไอ้แก้วเกินเพื่อนหรือเปล่าวะ” ทีฆาวุทซึ่งยืนมองเหตุการณ์มานานถามโต้งๆ ตามประสาคนตรง             “ไอ้บ้า พวกมึงก็รู้ว่าไอ้แก้วเป็นทอม” นิกหน้าแดงก่ำเมื่อโดนเพื่อนๆ จับตามองส่วนหญิงสาวในอ้อมแขนตัวแข็งขึ้นมาทันทีจนชายหนุ่มรู้สึกได้             “ฉันไม่ได้คิดอะไรกับแก อย่าฟุ้งซ่านตามไอ้พวกนั้นนะ” ชายหนุ่มก้มลงไปพูดกับหญิงสาวในอ้อมแขนจนจมูกชิดแก้มเพราะความสูงที่ไล่เลี่ยกันเนื่องจากเธอสวมรองเท้าส้นสูงเขาก้มลงมาเธอเงยหน้าขึ้นไปดูไกลๆ ก็เหมือนหอมแก้มกัน นิกเองก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากพวงแก้มสาว             “ให้ฉันหายเศร้าก่อนนะแก” ดวงตากลมโตวาววับราวลูกแก้วฉ่ำด้วยหยาดน้ำตาเปล่งประกายโกรธเคือง บวกกับน้ำเสียงเข้มทำให้นิกยิ้มจืดๆ ก่อนจะรีบแก้ตัว             “ถึงฉันไม่พูดแกก็ต้องพูด ดีไม่ดีหาว่าฉันหลอกแต๊ะอั๋งเอาอีก โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง” นิกเอาตัวรอดได้อย่างสวยงาม             “เถียงกันอยู่ได้ กูว่าช่วยกันคิดก่อนดีกว่าว่าจะให้ไอ้แก้วพักที่ไหนก่อนที่คุณป้ามหาภัยจะลากมันกลับบ้าน” ภิคเนศเหลือบไปเห็นนุชนารถแม่เลี้ยงของเพื่อนเดินตรงมา เขามองด้วยความสงสัยว่าทำไมไม่มีลูกชายตามมาด้วย             ทรงพลแต่งงานกับกนิกาแม่ของกลิ่นแก้วได้แค่สองปีก็ต้องเลิกรากันเพราะเข้ากันไม่ได้ แต่ทุกอย่างไม่ได้เลวร้ายเพราะทั้งคู่มีความรู้สึกเหมือนกันว่าเป็นเพื่อนดีกว่าเป็นผัวเมีย ทรงพลแต่งงานใหม่ไปกับนุชนารถแม่ม่ายลูกติดเพื่อนรักของกนิกาภายในเวลาอันรวดเร็ว ส่วนกนิกาก็แต่งงานกับชาวต่างชาติซึ่งเป็นเพื่อนของเพื่อนอีกต่อหนึ่ง เวลานั้นกลิ่นแก้วมีอายุได้หนึ่งขวบ เธอต้องกลายเป็นเด็กเร่ร่อนอยู่กับพ่อบ้างแม่บ้างแล้วแต่ความต้องการของผู้ใหญ่ ทรงพลกับนุชนารถไม่มีลูกด้วยกัน เธอจึงอยู่กับพ่อมากกว่าแม่ซึ่งตั้งท้องมีลูกใหม่ทันทีที่แต่งงานไปเพียงห้าเดือน กลิ่นแก้วอายุได้สิบห้าปีก็อ้อนพ่อกับแม่ขอให้ซื้อคอนโดให้อยู่ โดยอ้างว่าอึดอัดไม่อยากอยู่กับพ่อเลี้ยงหรือแม่เลี้ยง เหตุผลนั้นทำให้บิดามารดาไม่อาจขัดใจได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องอยู่คอนโดในโครงการใหม่ของทรงพลผู้เป็นบิดาที่เพิ่งสร้างเสร็จ โดยมีแม่นมที่เลี้ยงกันมาตั้งแต่เล็กๆ ตามไปอยู่ด้วย หญิงสาวไม่ปฏิเสธนับแต่นั้นมาจึงได้ออกมาอยู่คอนโด   โลกของกลิ่นแก้วเปลี่ยนไปนับแต่ออกมาใช้ชีวิตตามลำพัง พ่อกับแม่ไม่เคยมีเวลาให้มาค้างด้วยเดือนละครั้งถือว่ามากที่สุด พอเธอพูดก็อ้างงานยุ่งไม่มีเวลา นานเข้าเธอก็ไม่พูดกลายเป็นความเคยชิน มีแต่แม่นมและเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้าง             “ไม่ทันแล้วว่ะโน่นเดินมาโน่นแล้ว” ทีฆาวุทบุ้ยใบ้ให้ทุกคนหันไปดูหญิงสาวผู้เป็นแม่เลี้ยงของกลิ่นแก้วซึ่งกำลังเดินตรงมายังจุดที่พวกเขายืนอยู่             “ไอ้แก้ว พี่ชายแกหายไปไหนวะไม่เห็นเลยนี่หว่า” ทิมอดสงสัยไม่ได้ว่าพงศ์พชรพี่ชายต่างบิดาของกลิ่นแก้วลูกติดนุชนารถหายไปไหน เพราะงานสำคัญอย่างนี้ผู้ชายคนนั้นไม่น่าจะพลาด             “พี่ชอนไปเมืองนอก น้านุชไม่ได้ส่งข่าวไปบอก” กลิ่นแก้วดึงตัวเองออกจากอ้อมแขนของนิก เมื่อนุชนารถผู้เป็นแม่เลี้ยงเดินมาถึง             “แก้ว น้าจะกลับแล้วนะไปอยู่กับน้าเถอะ” สตรีสาววัยห้าสิบที่ยังคงความสวยจนดูเหมือนเพิ่งจะสามสิบพูดกับลูกเลี้ยงแต่ตากลับจ้องมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ชิดกว่าคนอื่น อย่างพินิจพิจารณาเป็นพิเศษด้วยสายตาคมกริบ นิกถึงกับหน้าตึงด้วยความไม่พอใจอย่างไม่มีเหตุผล อันที่จริงคนอย่างนิก เลิศสำราญตระกูลชัย คุ้นเคยกับการที่ต้องตกเป็นเป้าสายตาของบุคคลอื่นเสมอ แต่เขาก็ไม่เคยที่จะไม่พอใจเหมือนกับที่โดนผู้หญิงคนนี้มอง เขารู้สึกไม่กินเส้นซะงั้น             “ไม่ค่ะ แก้วก็อยู่ของแก้วมาจนชินแล้วนี่คะ” เธอไม่มีความจำเป็นที่จะต้องย้ายกลับไปอยู่บ้าน ยิ่งสิ้นผู้เป็นบิดาก็ยิ่งไม่เห็นความจำเป็น หากแม่เลี้ยงเธอตายก็ว่าไปอย่าง ไม่มีใครเป็นบุคคลที่สามสี่ของครอบครัว เธอคงได้อยู่กับพ่ออย่างมีความสุข ยิ่งคิดก็ยิ่งฟุ้งซ่านหญิงสาวคว้ามือคนใกล้ตัวจับไว้จนแน่น ข่มใจไม่ให้ร้องไห้ออกมาอีก นิกเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนรัก เขาจึงบีบมือตอบและดึงไหล่เล็กเข้าไปโอบกอดไว้ โดยไม่สนใจสายตาของนุชนารถ             “แต่คุณพ่อท่านสั่งไว้ น้าจัดการเรื่องพินัยกรรมเสร็จเมื่อไหร่ก็จะย้ายออก แก้วเข้าไปอยู่ได้ทันที อันที่จริงน้าอยากให้ย้ายกลับไปอยู่ตอนนี้เสียด้วยซ้ำ”             “น้านุชเคยอยู่ยังไงก็อยู่ไปเถอะค่ะ อย่าให้เรื่องมันยุ่งเลย แก้วยืนยันว่าจะไม่กลับบ้านคุณน้าห้ามย้ายออกนะคะ”             “แก้วจ๋า แต่คุณพ่อท่านสั่งว่า...” นุชนารถหยุดพูดเมื่อเจอสายตาขุ่นเขียวของลูกเลี้ยง             “แก้วไม่แต่งงานกับพี่ชอน ต่อให้โดนตัดจากกองมรดกก็ตามและขอย้ำว่าน้านุชอย่าพูดเรื่องนี้อีก”             “เอาเถอะ เราค่อยพูดกันวันหลังก็ได้ ตอนนี้แก้วกำลังเสียใจ” นุชนารถยอมผ่อนปรนเมื่อเห็นท่าทีต่อต้านของหญิงสาว กลิ่นแก้วเม้มปากแน่น สะบัดหน้าใส่โดยไม่รักษามารยาทกับอีกฝ่ายเพราะกำลังโกรธ เธอโกรธที่โดนมัดมือชกให้แต่งงานกับพงศ์พชรตามพินัยกรรมที่พ่อเธอทำไว้ก่อนตาย             “ไม่จำเป็นค่ะ แก้วขอย้ำว่าไม่แต่งได้ยินมั้ยคะว่าไม่แต่ง” หญิงสาวตะโกนใส่หน้าผู้เป็นแม่เลี้ยงทำให้ทุกคนที่ยืนอยู่บริเวณนั้นถึงกับสะดุ้งหันไปมองพร้อมๆกัน             “แก้วระงับสติอารมณ์หน่อยสิ” นิกเขย่าร่างบางในอ้อมแขนเป็นเชิงเตือนสติ             “น้าบอกแล้วไงว่าค่อยคุยกัน เรื่องหนุ่มสาวน้าเข้าใจเรามาคุยกันดีๆ ตอนที่ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจะดีกว่า ระหว่างนี้แก้วสมควรอยู่ห่างๆ พ่อหนุ่มคนนี้ไว้ให้มาก อดใจรออีกไม่กี่วันก็เสร็จเรื่องหลังจากนั้นพวกเธอจะอยู่กันยังไงน้าไม่ว่า” นุชนารถตวัดสายตาใส่นิก เพราะคิดว่าชายหนุ่มคือคนรักของกลิ่นแก้ว กลิ่นแก้วกำลังยืนซบอยู่กับแผงอกล่ำๆ ของนิกแถมยังเล่นปูไต่เหมือนกับว่าเผลอตัวเนื่องจากทั้งรักและหลง หญิงสาวมีความคิดดีๆ เต้นเร่าอยู่ในสมองและเธอตื่นเต้นที่จะใช้มันแก้ปัญหา             นิกกำลังมีปัญหากับเพื่อนรักต่างเพศและแม่เลี้ยงของเธอ เขาขนลุกเมื่อโดนทอมลูบๆ คลำๆ ไหนจะโดนเข้าใจผิดจากแม่เลี้ยงของเธอเข้าอีก เล่นเอาเขาหัวหมุนคิดอะไรไม่ค่อยออก             “คุณ... โอ๊ย! ” นิกอ้าปากจะอธิบายให้แม่เลี้ยงกลิ่นแก้วเข้าใจเสียใหม่แต่โดนหญิงสาวเหยียบเท้าจนต้องร้องออกไปเสียงดัง             “เกี่ยวอะไรกับการมีแฟนของแก้วคะ” กลิ่นแก้วส่งสายตาเป็นเชิงข่มขู่ให้เพื่อนชายหุบปากนิกจำเป็นต้องยืนนิ่ง             “น้าไม่อยากให้เจ้าสาวของชอนมีตำหนิ ทุกอย่างยังไม่แน่นอนเกิดเธอเปลี่ยนใจยอมเป็นเมียลูกชายน้าในภายหลังก็เท่ากับว่าเขาได้ของมือสองไปครอบครอง”             “พ่อของแก้วก็ใช้ของมือสอง” กลิ่นแก้วโกรธจนเลือดขึ้นหน้าแต่ยังมีสติย้อนอีกฝ่ายกลับไป             “อย่าปากจัดกับน้านะกลิ่นแก้ว” นุชนารถไม่คิดว่าลูกเลี้ยงเธอจะปากจัดถึงขนาดนี้             “น้านุชพูดไม่ดีกับแก้วก่อนนี่คะ จะบอกอะไรให้นะ แก้วกับผู้ชายคนนี้เป็นสามีภรรยากันแล้วค่ะ”             “ไอ้แก้ว! ” เพื่อนๆ รวมทั้งนิกอุทานประสานเสียงกันโดยมิได้นัดหมายโดยเฉพาะนิกถึงกับมึนตึ๊บ กูไปเป็นผัวไอ้แก้วตอนไหนวะ ทำไมถึงจำไม่ได้             “ยัยแก้ว” นุชนารถแทบไม่เชื่อเพราะตั้งแต่แม่นมเสียชีวิตเนื่องจากโรคมะเร็ง ทรงพลก็ได้จ้างผู้ติดตามดูแลหญิงสาวอยู่ห่างๆ เหมือนเงาตามตัวโดยที่หญิงสาวไม่มีโอกาสรู้             ไม่เคยมีรายงานว่ากลิ่นแก้วทำตัวเหลวไหลให้สามีของเธอต้องเป็นห่วง แม้กระทั่งก่อนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ทรงพลก็ย้ำเสมอว่ากลิ่นแก้วเป็นเด็กดี ดูแลตัวเองได้ เขาไม่ต้องห่วงอะไรอีกแล้วหากแม้จะตายก็ตายตาหลับ             “ทีนี้น้านุชก็มั่นใจได้ว่า แก้วไม่มีวันเปลี่ยนใจทิ้งสามีกลับไปหาพี่ชอนเด็ดขาด เพราะสามีแก้วคนนี้เขารักแก้วมาก มากกว่าคนอื่นและแก้วก็รักเขามากด้วย หากเป็นพี่ชอนคงไม่ใจกว้างให้แก้วมีกิ๊กเป็นผู้หญิงหรอกค่ะ” กลิ่นแก้วส่งยิ้มหวานให้นุชนารถ ขณะที่อีกฝ่ายยืนอ้าปากพะงาบๆ พูดอะไรไม่ออกเพราะมัวแต่ตกตะลึง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD