ตอนที่ 1 เสียงของหัวใจ
ตอนที่ 1
“นี่เธอ! เธอคนนั้น! เดี๋ยวก่อน..” เสียงเสียงหนึ่งเอ่ยเรียกอยู่ทางด้านหลังของหญิงสาว ดูท่าทางแล้วอีกฝ่ายน่าจะเป็นผู้หญิงวัยกลางคน ซึ่งคาดเดาได้ไม่ยากจากสรรพนามที่ใช้เรียกใยไหม ว่าคนคนนี้คงไม่พ้นเป็นอาจารย์ภายในมหาวิทยาลัยอย่างแน่นอน
“หนูเหรอคะอาจารย์?” ขาเรียวหยุดชะงักพร้อมกับร่างบางที่หันกลับไปเพื่อสบตากับคนด้านหลังและเอ่ยถาม
“ใช่ เธอนั่นแหละ มานี่หน่อยสิอาจารย์มีเรื่องจะให้ช่วย” อาจารย์ผกาเอ่ยพร้อมกับฝ่ามือของเธอที่ดันขาแว่นให้ขยับเข้าที่
“ช่วยเอาเอกสารกับแฟ้มรายงานพวกนี้ไปไว้ที่ห้องทำงานของอาจารย์หน่อยได้ไหม” อาจารย์ผกาเอ่ย พร้อมกับยื่นปึกเอกสารรวมทั้งแฟ้มรายงานจำนวนหลายเล่มให้แก่ใยไหม
นี่คงไม่ใช่คำขอร้องแต่เป็นคำสั่งสินะ… บางทีอาจารย์ผกาก็คงแค่ถามไปตามมารยาทอย่างนั้นเอง นักศึกษาชั้นผู้น้อยอย่างเธอจะปฏิเสธได้อย่างไรเล่า
“มะ..หมดนี่เลยเหรอคะ..”
“จ้ะ หมดนี่เลย”
“ดะ..ได้ค่ะอาจารย์” เธอยิ้มรับทั้งๆ ที่ในใจไม่ได้รู้สึกอยากจะทำเลยสักนิด
ก็นะ..แฟ้มเอกสารที่อาจารย์ผกายื่นมาให้มันไม่ได้มีเพียงแค่เล่มสองเล่มเท่านั้นน่ะสิ เพราะหากว่าจะให้นับรวมๆ ทั้งหมดแล้วคงเกินสิบเล่มได้
หลังจากที่รับเอกสารทั้งหมดมาจากอาจารย์ผกาแล้ว ใยไหมจึงได้แต่ถอนหายใจให้หลังผู้เป็นอาจารย์ที่เดินจากไปโดยไม่สนใจว่าเธอจะถือไหวหรือไม่ หญิงสาวหมุนกายเดินกลับไปตามทางเดินซึ่งสามารถเชื่อมไปยังห้องพักครูได้
นักศึกษามากมายเดินสวนกับเธอเพราะนี่เป็นเวลาเปลี่ยนคลาสเรียน คงจะมีเพียงเธอเท่านั้นแหละมั้งที่ต้องเดินกลับไปยังห้องพักครูซึ่งอยู่ลึกสุดของทางเดินชั้นสี่ในตึกสอง
ใยไหมคือนักศึกษาปีสาม ของคณะบริหารธุรกิจ เธอเป็นสาวหวานๆ หน้าตาน่ารัก และมีนิสัยอ่อนโยนซ้ำยังอ่อนน้อมถ่อมตน จึงไม่แปลกเลยหากเมื่อถูกใครไหว้วานให้ไปทำอะไรให้ใยไหมจะไม่รู้จักการปฏิเสธ
“เฮ้ยไอ้วิน! เมื่อไหร่มึงจะมีแฟนวะ” เตนล์เอ่ยถามเพื่อนสนิทของตนอย่างกวิน
“มึงจะอยากรู้ไปทำไมไอ้เตนล์” กวินได้แต่ส่ายหัวยังหน่ายใจกับเพื่อนสนิทคนนี้ เพราะมันถามเขาแทบจะทุกวันว่าเมื่อไหร่เขาจะมีแฟนสักที
“ก็มันแปลกนี่หว่า หน้าตามึงก็ดี เรียนก็เก่ง ฐานะทางบ้านก็รวย สาวๆ มาจีบตั้งเยอะแยะแต่มึงไม่เห็นจะสนใจควงใครเลยสักคน นี่อย่าบอกนะว่ามึงเป็น…” เตนล์กล่าวพร้อมกับโน้มกายเข้าไปหากวินจนใบหน้าของเขาแทบจะติดกับผู้เป็นเพื่อน
“เฮ้ย เล่นเชี่ยอะไรของมึงเนี่ย!” กวินผลักใบหน้าของเพื่อนตนเองออกด้วยความรู้สึกขนลุก
“เอาน่า บอกกูมาเถอะ ถ้านั่นเป็นรสนิยมของมึงกูก็ไม่รังเกียจหรอกนะ ฮ่าๆๆๆ” เตนล์หัวเราะร่วน
“อะ..แย่แล้ว! เฮ้ย!!” ยังไม่ทันที่กวินจะได้พูดอะไรต่อร่างของชายหนุ่มก็เซถลาไปทางด้านหลังพร้อมกับชนเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งที่เดินผ่านมาเข้า
พลั่ก!
“อะ..โอ๊ย!” ใยไหมร้องออกมาด้วยความตกใจ ถึงแม้การที่เธอโดนใครก็ไม่รู้ชนเมื่อครู่มันจะไม่ได้เจ็บมากเท่าไหร่ก็ตามแต่ความตกใจของเธอนั้นทำให้ร้องออกมาอย่างไม่รู้ตัว
กระดาษเอกสารภายในมือของใยไหมปลิวว่อน พร้อมทั้งแฟ้มรายงานอีกหลายเล่มร่วงกราวลงพื้นจนกระจัดกระจายไปหมด
“นี่! เป็นอะไรไหม ขอโทษทีนะพอดีเพื่อนฉันมันเล่นไม่รู้เรื่อง ก็เลยเผลอเซมาชนเธอ” กวินรีบเอ่ยขอโทษหญิงสาวที่ลงไปนั่งล้มก้นจ้ำเบ้าอยู่บนพื้นทางเดิน
“มะ…ไม่เป็นไรค่ะ อ๊ะ! แย่แล้ว เอกสารของอาจารย์!!” เธอตอบอีกฝ่ายก่อนที่จะนึกขึ้นมาได้ ว่าตอนนี้เอกสารและการรายงานที่อาจารย์ผกาฝากให้เธอนำเอาไปเก็บไว้ที่ห้องทำงานร่วงกระจัดกระจายเต็มพื้นไปหมด
“เดี๋ยวฉันช่วยเก็บนะ ไอ้เตนล์! มึงก็มาช่วยด้วยสิวะ” กวินหันไปเอ็ดเพื่อนตัวเองที่เอาแต่ยืนมองไม่ยอมเข้ามาช่วยสักที
“อะ..เออๆ”
“ขอบคุณนะคะ”
“ว่าแต่..หน้าไม่คุ้นเลย อยู่ปีไหนเหรอเรา?” เตนล์เอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย ตามสไตล์ชายหนุ่มเฟรนลี่
“ปีสามค่ะ” ใยไหมตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร
“อ้อ ไม่แปลกใจเลยทำไมไม่คุ้นหน้า เป็นรุ่นน้องเราปีหนึ่งนี่เอง”
“มึงไปเก็บทางนู้นไปไอ้เตนล์” กวินไล่เพื่อนของตนเองเมื่อเห็นว่าเตนล์นั้นวุ่นวายกับผู้หญิงตรงหน้ามากจนเกินไป เพื่อนของเขามักจะเฟรนลี่แบบนี้เสมอ แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าทุกคนจะชอบ เขาจึงคิดว่าเพื่อนของเขาอาจจะทำให้รุ่นน้องคนนี้กลัวได้
“ยังเหลืออีกเล่มหนึ่งตรงนี้..” กวินเหลือบไปเห็นแฟ้มเอกสารที่อยู่ตรงปลายเท้าของใยไหมเข้าพอดี เขาจึงได้ก้มลงไปเก็บ พอดิบพอดีกับที่หญิงสาวนั้นก้มลงมาเช่นกัน ทำให้ใบหน้าของทั้งคู่อยู่ห่างกันเพียงแค่คืบเดียว
“อ๊ะ!” เธอร้องออกมาด้วยความตกใจ ใบหน้าหวานแดงซ่านอย่างรู้สึกเขินอาย ความจริงแล้วใยไหมนั้นแอบปลื้มกวินมานาน เธอได้แต่แอบมองอีกฝ่ายอยู่จากที่ไกลๆ ไม่กล้าที่จะเข้าไปทำความรู้จัก ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะต้องมาสบตากันในระยะที่ทำให้หัวใจเต้นรัวเช่นนี้
“ขอบคุณมากนะคะ” เธอเอ่ยคำขอบคุณออกมาอีกครั้งก่อนที่จะรีบหันหลังซ่อนใบหน้าแดงๆ ของตนเองเอาไว้แล้วเดินจากไปเพื่อที่จะเอาแฟ้มเอกสารนั้นไปส่งยังห้องทำงานของอาจารย์ผกา
“เดี๋ยวก่อนสิ..ให้พี่ช่วยเป็นการไถ่โทษแล้วกัน เยอะขนาดนี้แบกไปคนเดียวไม่ไหวหรอก เดี๋ยวก็ได้หล่นอีกรอบพอดี” กวินเอ่ยพร้อมกับเข้าไปแย่งแฟ้มรายงานจากมือของหญิงสาวมาถือไว้เอง เหลือเพียงแค่เอกสารปึกเล็กๆ กับกระเป๋าสะพายข้างของใยไหมเอาไว้ให้เธอถือเท่านั้น
“ขอบคุณค่ะ” ใยไหมไม่วายเอ่ยขอบคุณไปอีกครั้ง หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นระส่ำ รู้สึกทั้งเขินอายและตื่นเต้นไม่หายทำเอาเธอทำตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว เนื่องจากคนที่เธอแอบปลื้มมาแสนนานนั้นเข้ามาช่วยถือของซ้ำยังจะเดินไปส่งที่ห้องพักครูอีกต่างหาก
หลังจากนั้นทั้งคู่จึงเดินไปด้วยกันตามทางเดินที่เต็มไปด้วยผู้คน ใยไหมได้แต่ก้มหน้างุดมองเอกสารในมือของตนเอง ไม่กล้าที่จะสบตาของกวินอีก ส่วนกวินเองก็ไม่เข้าใจว่าเขานั้นกำลังเป็นอะไรอยู่ทำไมถึงได้ใจเต้นตึกตักในตอนที่ได้สบตากับรุ่นน้องผู้หญิงคนนี้
ใช้เวลาเพียงไม่นานก็เดินมาถึงห้องพักครูจนได้ ทั้งคู่จึงเดินเข้าไปเพื่อนำเอกสารและแฟ้มรายงานไปวางไว้บนโต๊ะของอาจารย์ผกาให้เรียบร้อย..