1. จุดเริ่มต้นของคำว่า เพื่อน
"นี่เธอ ลูกสาวใครเนี๊ย น่าตาจิ้มลิ้มเชียว" หญิงสาวคนหนึ่งในกลุ่มเอ่ยขึ้นมา เมื่อเห็นเด็กน้อยวัย 9 ขวบ ยืนอยู่ตรงหน้า
"ลูกสาวของเลขาสามีฉันเอง น่าสงสารนะเด็กคนนี้อยู่กันแค่สองคนพ่อลูกเอง" อีกฝ่ายตอบกลับ
"อ้าว แม่ของเด็กไปไหนซะหละ ทำไมปล่อยให้พ่อเลี้ยงคนเดียว" หญิงสาวอีกคนกล่าวขึ้นมาอย่างสงสาร
"แม่ตายตั้งแต่คลอด เห็นว่าครรภ์เป็นพิษแต่ก็ยื้อชีวิตลูกให้ได้เกิดมา ส่วนตัวเองมาตายแทน" หญิงสาวตอบเพื่อนๆที่หันไปสนใจเด็กสาววัยกำลังน่ารัก
"ดูแล้วท่าทางอายุจะไล่ๆกันกับเจ้าแสบทั้งสามของพวกเรานะ พวกเธอว่ามั๊ย" หญิงสาวอีกคนเอ่ยขึ้นมา
"พูดถึงก้อมาเลย เจ้าแสบทั้งสามมาแล้ว" แม่ๆของลูกชายทั้งสามคนมองไปยังลูกชายของตนเองที่กำลังเดินมาจากการเล่นที่สนาม
"เรายังไม่รู้ชื่อหนูเลย" หญิงสาวเพื่อนของเจ้านายพ่อของเด็กเอ่ยถาม
"หนู ชื่อ เขียนฟ้า ค่ะ" เด็กหญิงตอบออกไปอย่างมั่นใจ
"ชื่อแปลกดี มารู้จักกับลูกชายพวกป้ากันนะคะ" หญิงสาวเอ่ยบอกกับเด็กสาว
"คิมหันต์ ภูผา วายุ มารู้จักกับเพื่อนใหม่กันค่ะ" แม่ๆของเด็กชายทั้งสามเรียกลูกชายของตนให้มารู้จักกับเพื่อนใหม่
"ผมไม่อยากมีเพื่อนผู้หญิง ผู้หญิงเล่นต่อสู้ไม่ได้" เด็กชายวายุ เอ่ยขึ้นมาอย่างไม่เกรงใจเด็กสาววัยเดียวกันที่ยิ้มให้ จนเด็กหญิงสีหน้าสลดลงเมื่อได้ยินประโยคนั้นของอีกฝ่าย
"สวัสดี เราชื่อ ภูผา เธอชื่ออะไรเหรอ" เด็กชายภูผา เดินเข้ามาแนะนำตัวเองพร้อมกับถามเด็กหญิงวัยเดียวกันอย่างเป็นมิตร จนทำให้เด็กสาวเริ่มมีรอยยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง
"หนูชื่อ เขียนฟ้า ค่ะ" เด็กหญิงเขียนฟ้า แนะนำตัวเองกับอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม
ทำให้เป็นที่หมั่นไส้ของเด็กชายวายุ ที่ไม่อยากมีเพื่อนผู้หญิง จึงเดินเข้าไปชนเธออย่างแรง แต่โชคดีที่ เด็กชายคิมหันต์ ยืนอยู่ตรงนั้น จึงรับเด็กหญิงไว้ ไม่ทำให้ล้มลงไปกระแทกกับพื้น
"อะ" เด็กหญิงร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ
"เกะกะ" เด็กชายวายุพูดขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าคนตรงหน้าอย่างไม่ชอบหน้านัก
"ขอโทษค่ะ" เด็กหญิงเขียนฟ้ากล่าวขอโทษอย่างรู้สึกผิด
"พวกเราไปเล่นที่บ้านร้างนั้นอีกมั้ย" เด็กชายวายุเอ่ยชวนเพื่อนๆ
"เฮ้ย เอาดิ เย็นนี้ดีมะ ว่าไงคิมไปกันมั้ย" เด็กชายภูผาเสนอความคิดเห็น
"อืม เอาดิ" เด็กชายคิมหันต์บอกกับเพื่อนอีกสองคน
"หนูไปด้วยได้มั้ย" อยู่ๆเด็กหญิงเขียนฟ้าก็พูดแทรกขึ้นมา แล้วมองหน้าเพื่อนใหม่อีกสามคนด้วยสายตาขอร้อง
"เป็นผู้หญิงก็ไปเล่นตุ๊กตาไป อันนี้ผู้ชายเค้าเล่นกัน ผู้หญิงอย่างเธอพาไปด้วยก็คอยเป็นตัวถ่วง" เด็กชายวายุพูดออกมาเพื่อไม่ให้เด็กหญิงไปด้วย
"หนูเขียนจะไม่เป็นตัวถ่วง พาหนูเขียนไปด้วยนะ หนูเขียนอยากมีเพื่อนบ้าง" เด็กหญิงมองหน้าเด็กชายทั้งสามอย่างอ้อนวอน
"ให้เค้าไปด้วยเถอะ" เด็กชายภูผาบอกแกมขอร้องเพื่อนอีกสองคน
"แล้วใครจะดูยัยนี่ ถ้าพาไปด้วย" เด็กชายวายุพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ และไม่อยากให้เอาเด็กหญิงไปด้วย
"เดี๋ยวเราดูเด็กคนนี้เอง" เด็กชายคิมหันต์พูดขึ้นมา เมื่อเห็นเพื่อนสองคนยังเถียงกันไม่จบ
"จะพาไปด้วยก็พาไป แต่บอกไว้ก่อนนะ ห้ามเป็นตัวถ่วง" เด็กชายวายุยอมอย่างเสียไม่ได้ แต่ก็ยังจ้องหน้าเด็กหญิงอย่างเอาเรื่อง แต่เจ้าตัวกลับยิ้มตอบกลับอย่างดีใจ
"ขอบคุณนะ" เด็กหญิงเขียนฟ้ากล่าวขอบคุณเด็กชายสามคนอย่างดีใจ
"ตอนเย็นมาเจอกันที่นี่นะ" เด็กชายภูผาบอกเด็กหญิงเขียนฟ้า ก่อนจะแยกกันกลับไปทานข้าวเย็น เพื่อมาเจอกันอีกครั้ง
เวลา 18.30 น. @สวนหลังบ้านพักต่างอากาศของคิมหันต์
"กว่าจะมาได้" เด็กชายวายุบ่นออกมา ในขณะที่รอเด็กหญิงเขียนฟ้าเพียงคนเดียว
"ขอโทษที่ทำให้รอนาน" เด็กหญิงเขียนฟ้ากล่าวคำขอโทษอย่างรู้สึกผิด
"สมาชิกครบแล้ว พวกเราไปกันเถอะ" เด็กชายภูผาบอกทุกคน พร้อมกับเดินนำไปก่อน ตามด้วยเด็กชายวายุ และเด็กชายคิมหันต์ที่เดินไปจับมือเด็กหญิงเขียนฟ้าไว้
"อย่าปล่อยมือเรานะ เดี๋ยวจะกลับบ้านไม่ได้" เด็กชายคิมหันต์บอกกับเด็กหญิงเขียนฟ้าพร้อมกับเดินจูงมือกันไป และเดินตามหลังเด็กชายวายุที่เดินนำไปก่อนไม่ห่าง
เวลาต่อมา
"นี่ ยัยเปี๊ยก" เด็กชายวายุตั้งสรรพนามใหม่ให้กับเด็กหญิงเขียนฟ้า
"เรียกหนูเขียนเหรอคะ" เด็กหญิงเขียนฟ้าหันหน้าไปถามคนที่เอ่ยขึ้นคนแรกเมื่อมาถึง
"แล้วจะให้ฉันเรียกใคร ถ้าไม่ใช่เธอ ยัยตัวถ่วง" เด็กชายวายุทำเสียงดุใส่เด็กหญิงเขียนฟ้าที่ยังทำหน้างงๆอยู่
"เธอ ต้องเดินนำพวกเราเข้าไปก่อน" เด็กชายวายุชี้หน้าเด็กหญิงเขียนฟ้าแล้วพูดขึ้นมา ทำให้เด็กชายคิมหันต์และเด็กชายภูผามองหน้าเด็กหญิงเขียนฟ้าพร้อมๆกัน
"ถ้าเธอกล้าจะเดินนำพวกเราเข้าไปก่อนฉันจะยอมรับเธอเป็นเพื่อนในกลุ่ม ว่าไง กล้ารึเปล่า" เด็กชายวายุพูดขึ้นพร้อมกับจ้องหน้าเด็กหญิงเขียนฟ้านิ่ง
"จะดีเหรอ เขียนฟ้าเป็นผู้หญิง ตัวนิดเดียวเองนะ" เด็กชายภูผาเอ่ยขึ้นมากับเพื่อน ส่วนเด็กชายคิมหันต์ไม่พูดอะไรออกมา ทำเพียงจับมือเด็กหญิงไว้ข้างตน
"ก็บอกแต่แรกแล้วว่าไม่ให้มาด้วย แต่ยังอยากจะมา ถ้าอยากเป็นเพื่อนกับพวกเรา งั้นแสดงให้ดูสิว่าเธอไม่เป็นตัวถ่วงของพวกเรา" เด็กชายวายุพูดท้าทายเด็กหญิงตรงหน้่า ที่ยืนอยู่ตรงกลางข้างเด็กชายภูผาและเด็กชายคิมหันต์
"ถ้าหนูเขียนยอมทำตามที่วายุบอก พวกเธอทุกคนจะยอมรับหนูเขียนเป็นเพื่อนใช่ไหม" เด็กหญิงเขียนฟ้าเอ่ยถามอย่างกล้าๆกลัวๆ
"ใช่ ถ้าเธอยอมเข้าไปในนั้นคนแรก พวกเราจะยอมรับเธอเป็นเพื่อนในกลุ่มเลย จริงมั้ยภู คิม" เด็กชายวายุหันไปถามเพื่อนสอง
"อืมม" เด็กชายภูผาและเด็กชายคิมหันต์ตอบรับออกมาพร้อมกัน
"อือ หนูเขียนจะเข้าไป" จากนั้นเด็กหญิงเขียนฟ้าจึงเดินไปเปิดประตูบ้านร้างที่เด็กชายทั้งสามเรียกกัน
เมื่อเด็กหญิงเดินเขียนฟ้าเดินเข้าไปในบ้านได้สามก้าว
ปัง ปัง ปัง (เสียงประตูกระแทกแล้วปิดลง)
"อร๊ายยยย" เสียงเด็กหญิงเขียนฟ้าร้องขึ้นมา ทำให้เด็กชายทั้งสามที่อยู่ด้านพากันตกใจ แล้ววิ่งออกจากบริเวณนั้นทันที
"แฮก แฮก เฮ้ย พวกมึงวิ่งกันทำไมวะ" เด็กชายภูผาถามขึ้นมา เมื่อเด็กทั้งสามวิ่งออกจากบริเวณบ้านร้างได้สักพัก
"ก็มึงวิ่งมาก่อนไม่ใช่รึไง กูก็วิ่งตามมาสิ แล้วมึงก็วิ่งตามกูมาทำไมไอ้คิม" เด็กชายวายุพูดขึ้นแล้วหันไปถามเด็กชายคิมหันต์ที่ยืนหอบอยู่ข้างๆ
"ก็พวกมึงวิ่ง กูจะอยู่ทำไมหละ" เด็กชายคิมหันต์ตอบเพื่อนทั้งสองคนที่มองหน้าเขา
"เออ แล้วยัยเปี๊ยกหละ" เด็กชายวายุถามขึ้นมา เมื่อไม่เห็นแม้แต่เงาของเด็กหญิงที่พวกเขาพามาด้วย
"ซวยแล้ว" เด็กชายคิมหันต์พูดจบก็วิ่งกลับยังบ้านร้างหลังนั้นทันที
"เฮ้ย คิม รอกูด้วย" เด็กชายภูผาพอเห็นเพื่อนวิ่งออกไปแบบนั้น จึงร้องตะโกนเรียกพร้อมกับวิ่งตามไปทันที
"เฮ้อ ยัยตัวถ่วง" พอเห็นเพื่อนรักทั้งสองวิ่งตามกันไปแบบนั้น เด็กชายวายุก็วิ่งตามไปด้วยทันที
"เขียนฟ้า ได้ยินเรามั้ย" เด็กชายคิมหันต์ร้องตะโกนถามเด็กหญิงที่พวกเขาพามาด้วย เมื่อเข้ามาในบ้านร้างที่มีเพียงแสงเพียงน้อยนิดแทบจะมองไม่เห็น
"คิม เจอเขียนฟ้ามั้ย" เด็กชายภูผาถามเพื่อนเมื่อเดินเข้ามาในตัวบ้านร้าง พร้อมกับพยายามมองรอบๆภายในบ้านร้าง ที่มีแสงเพียงน้อยนิด
"พวกมึง ไม่รอกันเลย" เด็กชายวายุเดินเข้ามาพร้อมกับต่อว่าเพื่อนอีกสองคนที่วิ่งมาก่อน
"ยัยเปี๊ยกไปไหนแล้ว" เด็กชายวายุพูดขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่พยายามมองรอบๆภายในบ้านร้างเพื่อมองหาเด็กหญิงที่มากับพวกเขา
"เขียนฟ้า อยู่ในนี้มั้ย ถ้าได้ยินเราตอบด้วย" เด็กชายคิมหันต์ร้องตะโกนเรียกเด็กหญิงอีกครั้ง
"หนูเขียนอยู่นี่" เด็กหญิงเขียนฟ้าส่งเสียงมาจากหลังประตู
"เธออยู่ตรงไหน พวกเรายังมองไม่เห็นเธอเลย" เด็กชายภูผาร้องถามออกมาก พร้อมกับพยายามมองไปรอบๆ
"อยู่หลังประตู" พอเด็กชายทั้งสามได้ยินแบบนั้น จึงรีบวิ่งมาดูที่ประตู พร้อมกับช่วยกันดันเพื่อเปิดบานประตูที่ผุพังออก
"ยัยเปี๊ยก" เสียงเด็กชายวายุเรียกชื่อเด็กหญิง เมื่อเห็นสภาพของเด็กหญิงเต็มไปด้วยฝุ่น
"โอ้ย เจ็บ" เด็กหญิงร้องออกขึ้นมา เมื่อเด็กชายคิมหันต์ดึงแขนเธอเพื่อให้เธอลุกขึ้นยืน
"ขาเธอเป็นแผล มีเลือดออกด้วย" เด็กชายภูผาพูดขึ้น แล้วเอาผ้าเช็ดหน้าของตัวเองที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมาพันแผลที่ขาให้เด็กหญิง
"ต้องช่วยกันยกไปแล้วหละ" เด็กชายภูผาพูดขึ้นหลังจากพันแผลให้เด็กหญิงเสร็จ
"มาขี่หลังฉันแล้วกัน" เด็กชายวายุพูดจบก็เดินมาย่อตัวให้เด็กหญิงแีนขึ้นมาขี่หลัง โดยมีเด็กชายคิมหันต์และเด็กชายภูผาช่วยกันพยุงขึ้น
หลังจากนั้น พวกเด็กๆทั้งสี่คนก็เดินออกจากบ้่านร้างไป โดยเด็กหญิงเขียนฟ้าขี่หลังเด็กชายวายุ ส่วนเด็กชายคิมหันต์และเด็กชายภูผาเดินขนาบข้างเด็กชายวายุที่แบกเด็กหญิงไว้บนหลัง
"หนูเขียนได้เป็นเพื่อนพวกเธอหรือยัง" เด็กหญิงเขียนฟ้าอดที่จะถามความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเด็กผู้ชายสามคนไม่ได้
"อืมม เธอเป็นเพื่อนผู้หญิงแรกและคนเดียวของกลุ่มเรา" เด็กชายภูผาตอบเด็กหญิง ขณะที่ทั้งสี่กำลังเดินกลับบ้าน
"จริงนะ สัญญานะว่าพวกเราจะเป็น เพื่อนกัน ตลอดไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะไม่เลิกเป็น เพื่อนกัน" เด็กหญิงเขียนฟ้ายื่นมือออกมาเพื่อทำสัญญากับเด็กชายทั้งสามคน
"ได้ / ได้ / อืมม" เด็กชายทั้งสามขานรับพร้อมกัน
เพื่อเป็นการแสดงคำขอโทษเด็กหญิง ที่พวกเขาทำให้เธอต้องมาเจ็บตัวเพราะพวกเขา และพวกเขายังทิ้งเธอไปอีก ทั้งสามจึงยื่นมือออกมาจับวางทับกันทั้งสี่คน จากนั้นเด็กชายทั้งสามคนก็พูดออกมาประโยคเดียวกันกับเด็กหญิงออกมา
"พวกเราจะไม่มีวันทิ้งเธอไปไหน"