หมับ! แต่เจ้าของมือถือก็คว้าภาพล้ำค่าของเธอกลับไปก่อนที่ฉันจะคิดหาคำตอบได้ ฉันทำหน้ายู่ ออกจะผิดหวังที่พอเห็นใกล้ๆ ก็รู้ว่าเธอกับเพื่อนไม่ใช่นักศึกษาที่นี่ แต่เป็นนักเรียนมัธยมที่ไหนก็ไม่รู้
“รูปยังอยู่หรือเปล่า?! เฮ้อ ดีจังที่รูปไม่เป็นอะไร” นักเรียนสาวมัธยมเจ้าของมือถือถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ไหนๆๆ เอารูปพี่เขามาให้ฉันดูเดี๋ยวนี้นะ! ”
หลังจากนั้นน้องมัธยมก็เปิดศึกชุลมุนแย่งดูรูปนักศึกษาชายคนนั้น ก่อนที่อีกอึดใจพวกเธอชะงัก ร้องจ๊าก และวิ่งหนีไปแบบไม่เห็นเงา
“อ้าว เดี๋ยวสิน้อง! ” ฉันร้องเรียกและชูรองเท้าหรา “วิ่งจนรองเท้าหลุดแล้ว! จะรีบไปไหน!? “
แล้วฉันก็ได้คำตอบเมื่อโยนรองเท้าทิ้งข้ามหัว กลับหลังหันออกเดิน แล้วก็ชนกับร่างสูงร่างหนึ่งเข้าให้
ปึ้ก!
“อ๊ะ ขอโทษค่ะ” ฉันกล่าวทันที และมันคงดีถ้าทุกอย่างจะจบแค่นั้น แต่ไม่เลย “ยะ...ยะ...แย่แล้ว”
ฉันพบว่าที่ระดับสายตาของฉันคือเสื้อสีขาวสุดเนี้ยบบนแผ่นอกราบของใครคนหนึ่ง และบนนั้นมีคราบลิปสติกของฉันประดับอยู่อย่างโดดเด่น!
“ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ค่ะ จะรีบเช็ดให้นะคะ!”
แต่ฉันยิ่งเช็ดเสื้อเชิ้ตข้างหน้าก็กลับยิ่งเลอะ ในขณะที่เสียงนุ่มหูแบบที่รู้ว่าเจ้าของเสียงต้องหล่อแน่นอนก็ลอยมาเหนือหัวของฉัน
“ไม่เป็นไร”
และเมื่อแหงนหน้าขึ้นไปสบตากับเจ้าของเสียงเท่านั้นฉันก็ต้องตกใจ เพราะเขาคือเจ้าชายที่ถูกน้องมัธยมแอบถ่ายรูปนั่นเอง! ตอนนี้ฉันได้แต่กลัวว่าแฟนคลับของเขาอาจจะฆ่าฉันตายฐานที่ทำเสื้อของเขาเปื้อน
“โชคร้ายเกินไปแล้ว ฉันจะพาไปล้างนะคะ” ฉันรีบดึงแขนเสื้อเจ้าชายแล้วลากเขาไปห้องน้ำ
“ตรงไปสุดทางแล้วเลี้ยวซ้าย” เขาบอกทางไปห้องน้ำให้ฉันเมื่อเห็นว่าฉันที่เดินนำกลับไม่รู้ทาง
แต่เมื่อมาถึงห้องน้ำฉันก็ต้องชะงัก ห้องน้ำแบ่งเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งเป็นห้องน้ำชาย และอีกฝั่งเป็นห้องน้ำหญิง จริงอยู่ห้องน้ำแบบนี้เหมือนห้องน้ำทั่วไปในโลก แต่สำหรับฉันมันบ้าสิ้นดี ฉันได้แต่ยืนลังเลว่าจะพาเขาเข้าห้องน้ำไหน เพราะไม่ว่าจะพาเขาเข้าห้องน้ำหญิงกับฉันหรือเดินตามเขาเข้าไปไหนห้องน้ำชายก็ดูจะเป็นทางเลือกที่บ้าทั้งนั้น!
“ฉันจัดการเอง อย่าห่วงเลย” แล้วเจ้าชายชาร์มมิ่งผู้โชคร้ายก็เดินเข้าไปในห้องน้ำชายคนเดียว
หนึ่ง...สอง...สาม... ฉันนับก่อนจะหันไปดูเขาว่าทุกอย่างเรียบร้อยไหม
เขาถอดเสื้อออกหมด...
ขวับ! ฉันรีบหันกลับมาก่อนจะวิ่งหนีออกไปจากตรงนั้นทันที “ลาก่อนค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ”
วิ่งหนีมาได้หลายก้าวฉันก็พ้นออกมาถึงตึกอีกช่วง แต่จนป่านนี้แล้วฉันก็ยังเห็นแต่นักศึกษาชาย เวลาปฐมนิเทศที่งวดเข้ามาทำให้ฉันรู้ว่าต้องรีบมองหาเพื่อนผู้หญิงให้เจอแล้ว
ฉันเหลียวซ้ายแลขวา แล้วทันใดนั้นดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของฉันก็ต้องหยุดกึกเหมือนถูกแช่แช็ง นิ่งราวกับถูกสาปเมื่อมองตรงไปข้างหน้า ห่างออกไปสิบเมตรนักศึกษาชายคนหนึ่งกำลังเดินใกล้เข้ามา และเขาเป็นนักศึกษาชายอีกคนที่ดูดีมาก...มากจนน่าประหลาดใจ ร่างสูงนั้นดูโดดเด่นอย่างไม่น่าเป็นไปได้ และที่สำคัญเขาไม่เหมือนใครที่ฉันเคยเห็นเลยแม้แต่คนเดียว
ร่างสูงที่ยิ่งกว่าไร้ที่ติเดินใกล้เข้ามาแล้ว เมื่อนั้นเขาได้เปิดเผยใบหน้าที่หล่อเหลาถึงขั้นงดงามต่อสายตาของฉัน เส้นผมของเขามีสีดำสนิทตัดกับผิวที่ขาวจัดราวกับหิมะ คิ้วสีเดียวกันคมสวยเหมือนวาดโดยท่านเซอร์ลอว์เรนซ์ ทาเดมา ตัดกับนัยน์ตาสีฟ้าที่ออกจะโตและสวยจนเหลือเชื่อของเขา...ดูราวกับทะเลสาบที่ล้ำลึกและน่าหลงใหล
…แล้วชั่วขณะนั้นเองหัวใจของฉันก็หยุดเต้นไป ฉันไม่เข้าใจตัวเองเลย ฉันไม่ใช่พวกที่สนใจมองผู้ชายที่หน้าตา และที่จริงฉันไม่เคยสนใจมองใครมาก่อนเลย...
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นราวกับภาพสโลว์โมชั่น ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาดังก้อง ลมหายใจก็สะดุดไปเมื่อเขาเดินมาถึงตรงหน้า บางทีฉันอาจจะแค่กำลังฝันไป
แต่เขาไม่เห็นฉันด้วยซ้ำ นั่นก็เพราะเขากำลังเดินคุยมากับเพื่อนชายหน้าตาดีระดับนายแบบอีกคนข้างๆ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าวิทยาลัยเล็กๆ อย่างอาร์เธอร์นี่เป็นวิทยาลัยแบบไหนกัน ทำไมถึงมีผู้ชายที่หน้าตาดีหลายคนพร้อมๆ กันแบบนี้ได้ และฉันขอสาบานว่าที่ฉันพูดแบบนี้ได้ไม่ใช่เพราะฉันเป็นพวกบ้าผู้ชาย! พวกเขาแค่หน้าตาดีเกินไปเท่านั้น!
เขากำลังจะเดินผ่านฉัน และเขาไม่เห็นฉันเลย แต่วินาทีนั้นเพื่อนของเขาที่มาดเข้มราวกับกาแฟดำลากสายตามาที่ฉัน ดวงตาสีเข้มนั้นที่หล่อเหลาอย่างไม่เป็นรองใครดูแข็งและดุดัน เขามองฉันอย่างไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย
อีกวินาทีชายเจ้าของดวงตาสีฟ้าและเส้นผมสีดำที่ก็เดินผ่านฉันไป
วิ้ว... ฉันรู้สึกถึงสายลมพัดผ่าน และมวลอากาศที่เคลื่อนไหวที่ข้างกาย...
แล้วฉันเหลียวหลังมองตามชายสง่างามในเสื้อนอกสีดำสนิทนั้นไป ครั้งนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมาที่ฉันเหลียวหลัง…หัวใจของฉันสั่นไหว...
...ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเพราะอะไร...
ฉันนั่งลงในห้องปฐมนิเทศเมื่อถึงเวลาแปดโมงตรง นักศึกษาชายเดินคุยกันเข้ามาในห้อง แล้วทั้งที่ก้มหน้าอยู่กับหนังสือที่ไม่ได้อ่าน หูของฉันกลับได้ยินเสียงหนึ่งที่ทุ้มและดังปานกลางจากข้างหลัง ความรู้สึกบางอย่างทำให้ฉันเชื่อว่าอาจจะเป็นเสียงของเขาคนนั้น
แล้วเมื่อทำหน้านิ่งและหันไปก็เห็นว่าเป็นเขาจริงๆ ชายผมสีดำตาสีฟ้านั่งลงที่เก้าอี้ด้านหลังฉันพร้อมกับเพื่อนของเขา ฉันแปลกใจที่ที่ได้รู้ว่าเขาอยู่ชั้นปีเดียวกับฉัน
“เทอมปีสามของเรามีเพื่อนใหม่ เชิญนักศึกษาใหม่ออกมาแนะนำตัวด้วยครับ” อาจารย์หน้าห้องเรียกฉัน
“อ๊ะ...เอ่อ..ค่ะ” ฉันลุกออกไปยืนข้างหน้า ก่อนจะแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษสไตล์แคนาดา
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อวิกกี้ วัตสัน มาจากโทรอนโตค่ะ”