“สวัสดีครับ” นักศึกษาชายทั้งห้องทักตอบเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงเดียวกับฉันอย่างเป็นมิตร พวกเขายิ้มกว้าง แต่นั่นไม่ได้ทำให้ฉันยิ้มตอบพวกเขาได้เลย เพราะทั้งห้องนั้นมีแต่นักศึกษาชาย
ใช่แล้ว นัก-ศึกษา-ชาย-ทั้ง-ห้อง และนั่นหมายความว่าไม่มีผู้หญิงเรียนในชั้นปีนี้ หัวใจของฉันตกไปอยู่ที่เท้าด้วยความตกใจ ไม่จริงใช่ไหม? ไม่!
แล้วนักเรียนชายตาสีฟ้าผมสีดำคนนั้นก็มองมาที่ฉัน
เวลาของฉันเหมือนหยุดหมุนไปชั่วขณะเพราะดวงตาคู่นั้น แต่แล้วนาฬิกาในตัวฉันก็กลับมาเดินช้าๆ เขาไม่ได้มองฉันเพราะสนใจเป็นพิเศษเสียหน่อย เขาก็แค่มองเพื่อนใหม่ที่ยืนพูดคนเดียวอยู่หน้าห้องเหมือนที่เพื่อนทุกคนในชั้นปีกำลังทำเท่านั้น ที่สำคัญดวงตาสีฟ้าของเขาเหมือนไม่ได้ตั้งใจจะซึมซับภาพที่เห็นเข้าไปในสมองหรือหัวใจเลย ต่างจากแววตาของเพื่อนชายหน้าตาดีข้างๆ วินาทีนั้นเป็นอีกครั้งที่หมอนั่นมองฉันด้วยสายตาแปลกที่แฝงความดุดัน
และไม่ว่าจะเพราะอะไรฉันก็ไม่ชอบทั้งนั้น! ไม่ชอบเลย!
หลังเลิกเรียนฉันวิ่งหอบแฮ่กๆ ตามอาจารย์ที่ปรึกษาขายาวไป
“มิสเตอร์มายฮิลล์คะ”
“เป็นไง สบายดีเหรอวิคกี้”
“ปีสามมีนักศึกษาหญิงคนอื่นอีกหรือเปล่าคะ วันนี้หนูยังไม่เจอสักคนเลยค่ะ”
“อืม ดูเหมือนจะไม่มีนะ”
“แล้วปีอื่นล่ะคะ? ”
“ไม่มีหรอก”
“อะ..อะ...อะไรนะคะ!? ทำไมล่ะคะ!? ”
อาจารย์ยิ้มกว้าง “ยินดีด้วยนะวิคกี้ เธอเป็นนักศึกษาหญิงคนแรกและคนเดียวของวิทยาลัยนี้”
“แต่ที่นี่เปลี่ยนจากวิทยาลัยชายล้วนเป็นวิทยาลัยสหะได้สองสามปีแล้วไม่ใช่เหรอคะ แล้วทำไมเป็นแบบนี้” ฉันร้องเสียงหลง
“ก็เราไม่มีนักศึกษาหญิงมาสมัครเลยนี่ ช่วยไม่ได้ สงสัยยังไม่ค่อยมีคนรู้ข่าว เมืองของเราก็เล็กแค่นี้“
แล้วมิสเตอร์มายฮิลล์ก็ตบไหล่ฉันดังตุบๆ “ไม่เป็นไรหรอกน่า เธอต้องอยู่ได้ มาเป็นนักศึกษาหญิงคนแรกของที่นี่เถอะนะ” แล้วอาจารย์ขายาวก็ยิ้มก่อนจะเดินตัวปลิวจากไป
“และขอให้ภูมิใจที่ได้อยู่ในวิทยาลัยที่งดงามแห่งนี้ เข้มแข็งไว้ แล้วก็อย่าลาออกเสียล่ะวิคกี้”
หลังจากมิสเตอร์มายฮิลล์เดินลับไปฉันก็ไหล่ตก ฉันเดินกลับบ้านด้วยอาการลากขา รู้สึกเหมือนอยู่ๆ แม้แต่ขาเรียวๆ ของตัวเองก็กลายเป็นภาระขึ้นมา แต่ที่สำคัญฉันประหม่าสายตาห้าร้อยคู่ของนักศึกษาชายที่นี่มาตั้งแต่เช้าแล้ว ดวงตากลมแป๋วพวกนั้นมองฉันเหมือนเป็ตัวประหลาด
“หยุดมองเสียทีสิยะ!” ฉันเกือบจะพูดแบบนั้น แต่กลับแค่ยิ้มแห้งๆ เพื่อที่จะเดินตัวลีบออกมา “แหะ แหะ หวัดดีจ้า”
ฉันรู้สึกโล่งเหมือนยกภูเขาไฟออกจากอกเมื่อลากขามาถึงประตูทางออกของอาคาร
กึก...
ฉันชะงัก สันหลังเย็นวาบเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าคู่หนึ่งเดินตามฉันมา แล้วเมื่อเหลียวข้างเก้าสิบเก้าองศาหางตาหางตาของฉันก็ปะทะเข้ากับร่างสูงไร้สุ้มเสียงด้านหลัง เขาคือนักศึกษาชายหน้าหล่อมาดเข้มเหมือนกาแฟดำไม่ใส่ครีมและน้ำตาลที่เป็นเพื่อนของนักศึกษาชายผมสีดำตาสีฟ้าคนนั้น และถึงจะผ่านมาเกินครึ่งวันแล้วเขาก็ยังมองฉันด้วยสายตาดุดันและไม่เป็นมิตรอยู่ดี
ที่สำคัญตรงนี้มีแต่ฉันกับเขา เพราะฉะนั้นฉันไม่สามารถจะร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้เลย! ฉันเริ่มเหงื่อแตก สับสน กังวล ปอดแหกกับคนโรคจิตขึ้นมาจับใจ!
ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเขาเดินตามฉันมาทำไม!
Shocking First Day!
หลังจากมั่นใจว่าตัวเองถูกสะกดรายตามฉันมาฉันก็เตรียมวิ่งหนี
“เฮ้!” แต่เขาเรียกฉันจนสะดุ้งตัวลอย
“ระ...เรียกฉันเหรอ” ฉันหันไปถามหวั่นๆ
“เธอนั่นล่ะ หรือตรงนี้มีคนอื่น” เขาพูดห้วน นัยน์ตาสีน้ำตาลแกมแดงเหมือนใบเมเปิ้ลในฤดูใบไม้ร่วงมองฉันด้วยสายตาเรียบนิ่ง “ฉันจะไปส่ง”
“หะ...หา?! ” ฉันอ้าปากค้าง จากที่กลัวอยู่ฉันกลับหรี่ตาอย่างดูแคลน เขาไม่ได้มาลักพาตัวฉัน แต่แค่มาจีบผู้หญิงสวยอย่างฉัน แต่ด้วยวิธีการเข้าหาที่ไม่มีศิลปะเอาเสียเลยฉันก็สะบัดหน้า “ไม่ล่ะ ขอบใจ”
ฉันเดินตัวลอยออกไปและปล่อยให้เขามองตามมาข้างหลังอย่างนั้นเอง เพราะฉัน วิคกี้ ไม่ใช่ผู้หญิงที่จะยอมคบกับใครง่ายๆ!
แต่พอฉันเดินออกประตูและเลี้ยวไปสุดโค้งตึกเท่านั้นฉันก็รู้ว่าทันทีว่าที่หมอนั่นอาสาจะไปส่งฉันไม่ใช่เพราะเขาประสงค์ร้าย และถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันจะเดินตามเขาไปเหมือนลูกหมาเชื่องๆ แต่ถ้ามีใครสงสัยว่าเพราะอะไรก็เชิญดูข้างหน้าเอาเอง สิ่งที่เห็นไม่กี่เมตรข้างหน้าคือกลุ่มแก๊งอันธพาลสูบบุหรี่ควันขโมงอยู่กลุ่มใหญ่ และตอนนี้พวกมันก็หันมามองฉันเป็นตาเดียว เห็นแล้วอยากร้องไห้!
“เฮ้ คนสวย” พวกมันยิ้มร้าย
“นักศึกษาหญิงคนเดียวของวิทยาลัยเราเหรอ น่าสนใจนี่ มีแฟนหรือยังจ๊ะ”
“มานี่สิที่รัก ทำตัวง่ายๆ กับพวกเราไว้เดี๋ยวก็ดีเอง”
พูดแล้วพวกมันก็เดินเข้ามาใกล้ แต่พอฉันจะถอยหลังก็ถูกพวกมันคนหนึ่งคว้าแขนไว้
ตุ้บ!! พล่อก!!
“โอ๊ย!! ”
ไม่ใช่พระเอกที่ไหน แต่เป็นฉันเองที่หวดเป้ใส่หน้าพวกมันด้วยโฟร์แฮนด์แล้วตีเข่าซ้ำ
“เฮ้ย ยัยหน้าสวยมันฟาดเราว่ะ”
สาบานเลยว่าฉันไม่ใช่พวกใจกล้า แค่ไม่รู้จะทำอะไรที่เรียกว่าฉลาดเท่านั้น
“หนอย! ” พวกมันรุมเข้ามาใหญ่แล้ว!