บทนำ

2682 Words
@ คฤหาสน์ตระกูล ศาตนันท์กาล "นนท์ไปไหน...."เสียงเรียบเย็นเอ่ยถามขึ้นท่ามกลางบรรยายกาศกดดันอันเงียบสงัดของห้องทำงานสไตย์ลาสสิคสีเข้ม ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหล่าคมคายผู้มีผมสีดำเงานัยน์ตาสีนิลเข้มดุดัน จับจ้องสายตาไปที่มือซ้ายลูกน้องคนสนิทของตนด้วยสีหน้าที่นิ่งเรียบ น้ำเสียงที่ใช้ยังแฝงความดุดันของอำนาจที่มองไม่เห็นให้คนฟังได้เพียงนิ่งเงียบกับคำถาม เมื่อเจ้าของคำถามที่พูดถึงก็คือมือขวาคนสนิทของเจ้าตัวที่หายหน้าไปได้หลายเดือนแล้วนั้นเอง "...." "กูถามไม่ได้ยินหรือไง?" 'พิภพ'เอ่ยเข้นถามคนตรงหน้าอีกครั้งด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง เมื่อเจ้าตัวเอาแต่เงียบไม่ตอบคำถามของเขาสักที ".....เหมือนว่าเขากำลังเคลียร์งานที่นายสั่งไว้อยู่ ช่วงนี้คงยากที่เจ้าตัวจะปริ่กตัวออกมาเจอได้" ชายหนุ่มพยักหน้ารับคำตอบเล็กน้อย... ".....ฝากบอกมันด้วยว่า กูจะไป'มาเก๊า'อาทิตย์หน้า ให้มันมาค่อยตามประกบข้างกู" "ครับนาย..." "ส่วนมึงเมฆ ช่วงนี้ค่อยตามดูน้องกูหน่อย กิจการบ่อนคาสิโนที่มาเก๊ายอดดีเกินคาดเลยปีนี้ เดียวมันก็ต้องมีไอ้พวกลอบกัดเข้ามาสร้างเรื่องอีกแน่" "นายจะให้ผมตามดูนายน้อยคนไหนครับ"ภูเมฆถามขึ้นด้วยความสงสัย เมื่อนายของเขานั้นไม่ได้มีน้องชายแค่เพียงคนเดียวให้เขาได้ตามไปดูแลความปลอดภัย "ไอ้สมุทรไม่ต้อง กูส่งไอ้ทิศไปให้มันในเรือแล้ว เดือนหน้านุ่นละมั้ง มันถึงจะขึ้นบก" 'สมุทร'หรือน้องชายคนรองของนายที่ตอนนี้ตามเรือสินค้าของตระกูลฝั่งพ่อไปลงสินค้าที่ท่าเรือ'สิงคโปร์'ได้เป็นอาทิตย์แล้ว อยู่กลางทะเลคงไม่ต้องกลัวอันตรายจากพวกไหน ที่ต้องกลัวคงมีแค่เพียงลมฟ้าอากาศ ที่ไม่สามารถคาดเดาได้เท่านั้น "ส่วนไอ้พายแค่ส่งคนไปเพิ่มให้ก็พอแล้ว พวกมันคงไม่ถ่อไปไกลถึงภาคเหนือหรอก" 'พระพาย'น้องชายคนที่สองของนายที่ตอนนี้อยู่แม่ฮ่องสอน ดูแลกิจการไร่ชา กาแฟ และไม้ยืนต้น นับพันไร่บนดอยห่างไกลผู้คน ที่เป็นสมบัติตกทอดฝั่งแม่ที่เจ้าตัวอาสาคอยอยู่ดูแลต่อ เจ้าตัวรักสงบ จึงแทบไม่เคยได้เห็นหน้าเขาเลยมานานหลายปี "คอยตามดูไอ้เพลิงพอ....กูให้นนท์ส่งคนไปเพิ่มให้มันแล้ว ส่วนมึงต้องตามไปดู คอยสอดส่องอยู่ข้างมันจนกว่ากูจะเรียกกลับแล้วกัน" คนสุดท้ายพระเพลิงแฝดน้องของพระพาย ด้วยนิสัยที่ต่างจากแฝดพี่มาก ทำให้เขาเป็นคนรักสนุกชอบสังสรรค์ เปิดผับและทำธุรกิจสิ่งบันเทิงอีกหลายอย่างเล่น แต่มันกลับรุ่งจนขยายไปไกลหลายสาขา ทำให้เจ้าตัวได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย และแน่นอนว่าศัตรูเยอะไม่แพ้นายเขาเลย..... "...ครับ'' ''มึงออกไปได้แล้ว...'' ภูเมฆโค้งรับคำสั่งและหันหลังจากไป เหลือไว้เพียงชายหนุ่มท่าทางเคร่งขรึมในชุดสูทสีเทานั่งสูบซิการ์ในมือ ปล่อยควันสีขาวออกกลางอากาศ สายตาจับจ้องมองไปยังรูปครอบครัวที่เหลือกันอยู่สี่พี่น้องด้วยสายตานิ่งเรียบ Rrrrr... เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เรียกความสนใจให้ได้เป็นอย่างดี เมื่อชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอเป็นคนที่เขาใช้งานมันหนักจนไม่ได้เจอหน้ามันนานหลายเดือน 'อานนท์' "....ว่า"น้ำเสียงคมเอ่ยรับสายเสียงทุ้ม ลดความเข้มของเสียงลงไปสามส่วนอย่างที่เจ้าตัวเองก็คงไม่รู้ตัว "((.....ผมสั่งคนจัดการเรียบร้อยแล้วครับ))"เสียงนุ่มลึกอันคุ้นเคยตอบกลับมาหาเขา ทำให้ใบหน้าที่เคยเฉยชาและตึงเครียด ค่อๆ. อ่อนลง ก่อนจะมีรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าแทนที่ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน "หึ.....ตายมั้ย?"น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามถึงคนที่เขาสั่งให้เจ้าตัวไปจัดการเก็บ ซึ่งตัวเขาเองก็จำไม่ได้แล้วว่าเป็นคนไหนด้วยซ้ำ เพียงเอ่ยถามไปตามบทสทนาเพื่อได้คุยต่อกับอีกฝ่ายเท่านั้น "((ก่อนรถจะระเบิด เจ้าตัวกระโดดออกมาทัน แต่โดนสะเก็ดระเบิดกับแรงกระแทกตอนกระเด็นออกจากรถ อาการสาหัส))"คำตอบจากปลายสายไม่ได้สร้างความยินดีให้เขามากนัก แต่ก็ไม่ได้แย่ที่อีกฝ่ายโทรมารายงานผลให้ฟังด้วยตัวเอง "นี่ถือว่ามึงทำงานพลาด?..." นาน ๆ จะได้ยินรายงานที่เจ้าตัวทำไม่สำเร็จ เขาจึงแกล้งเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองเหมือนจะไม่พอใจ "((ให้ผมไปยิงซ้ำที่โรงบาลดีมั้ยครับ...))" "กวนตีนกูหรือไง......" "((.......))" "ไม่ต้อง.....ไม่ตายก็ช่างมัน ส่วนมึงไอ้เมฆบอกแล้วใช่มั้ยว่าอาทิตย์หน้ามึงมีงานอะไรต้องทำ" "((ผมจะส่งคนไปแทนให้ครับ....))"เพียงคำตอบที่ได้รับกลับทำให้คนปลายสายต้องขมวดคิ้วขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ "มึงส่งใครมาแต่ละคน....ไม่กลัวกูตายเลยหรือไง?"น้ำเสียงจากที่ดุดันกลับอ่อนลงอย่างหน่ายใจต้องเอ่ยถามปลายสายด้วยความสงสัย "((ผมยังมีงานด่วนที่นายสั่งไว้ต้องรีบจัดการครับ เข้าใจกันด้วยครับ ถึงพวกมันจะเป็นเด็กใหม่แต่ผมฝึกมาเองกับมือ ไว้ใจได้ นายจะไม่เป็นอันตราย))"แต่เสียงตอบกลับที่เฉยเมยจากปลายสายไม่ได้เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกตอนนี้ของเขาเลยแม้แต่น้อย "หึ.....กูเชื่อ" เอาเถอะ.... ใช่ว่ามันเคยส่งคนมาให้เขาใช้งานบ่อยที่ไหน นี่คงมีงานสำคัญบางอย่างที่เจ้าตัวต้องไปทำ เลยส่งคนมาติดตามแทนให้ช่วงคราวอีกตามเคย "((งั้นผมวางสายก่อนนะครับ...))" "อย่าพึ่ง....กูอยากรู้ว่ามึงจะว่างเมื่อไร"คิ้วหนาเริ่มขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจ ทุกวันนี้สั่งงานมันผ่านโทรศัพท์จนชิน รูปร่างคร่าตาไม่ได้เห็นกันมาเป็นเดือนๆ ยังจะมีหน้ามาบอกวางสายอะไรกับเขากัน นี้คิดจะโผล่มาให้เห็นหน้าเพียงงานสำคัญที่ต้องมาด้วยตัวเองเท่านั้นหรือยังไง "((ก็ต่อเมื่อนายไม่สั่งงานผมเพิ่ม...))" "กวนตีน..." "((......))" "กูอยากเจอ.." "((ครับ?...))" "ไม่มีอะไรแล้ว.....ไปทำงานมึงต่อเถอะ" "((....))" เขากดวางสายลงเมื่อปลายสายไร้เสียงตอบรับก่อนจะหลับตาสูบซิการ์ในมือเข้าไปเต็มปอดพร้อมปล่อยควันออกมาจากริมฝีปาก "เข้ามาก็หัดเคาะประตูบ้าง..." เขาเอ่ยพูดเสียงเข้ม หันไปมองคนมาใหม่ ชายหนุ่มวัยยี่สิบห้าปี รูปร่างสมส่วน ที่มีใบหน้าเรียวสวยคมคายและมีเค้าโครงใบหน้าที่เหมือนกับเขาอยู่ถึงสี่ส่วน นัยน์ตาสีนิลยืนยิ้มกริ่มมองเขาอยู่นานแต่ไร้ซึ่งเสียงเรียก คงเพื่อที่จะแอบฟังบทสนทนาเมื่อครู่ของเขากับใครอีกคน "ก็ถ้าเคาะ....ผมก็ไม่ได้ฟังอะไรสนุก ๆ แบบเมื่อกี้สิ"มันพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มกวนประสาทประจำตัวที่มาพร้อมสายตาที่ดูมีเลศนัยอยู่ตลอดเวลา ใบหน้าแบบนี้เห็นแล้วขัดตาจริงๆ... "เสือก....." "ไม่เอาน่ะเฮีย....เสียชื่อจักรพรรดิแห่งวงการมาเฟียหมด"มันเดินตรงไปนั่งบนโซฟาพร้อมไขว่ห้างมองตรงมาทางเขาด้วยรอยยิ้ม นั้นทำให้รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายมาทำอะไร "มึงต้องการอะไร...เพลิง" "ร้อยวันพันปีจะโผล่มาให้เห็นที...ผมคิดถึงบ้างไม่ได้เหรอ เหมือนที่เฮียอยากเจอพี่นนท์ไง " "ปากมากระวังจะไม่มีให้กินข้าว" "น่ากลัวจัง" "มีอะไรก็พูดมา...อย่ามัวมาเล่นลิ้น กูมีการมีงานต้องทำอีก"เพียงแค่จบประโยคนี้ เจ้าตัวก็กรอกตาทิ้งร่างลงโซฟาตรงข้ามเขาด้วยใบหน้าหงุดหงิดและไม่พอใจ "ผมมาขอคนเพิ่มว่ะเฮีย ช่วงนี้เป็นเหี้ยไรกันไม่รู้พากันมารุมผมอย่างกับขี้ คนของผมเสียไปก็ตั้งเยอะ"เขาปราดสายตามองคนพูดบ่นพึมพำ ก่อนจะยิ้มขำออกมากับคำพูดนั้นของมัน "คนของมึงหรือของกูกันแน่"อีกฝ่ายเบิกตากว้างทำเป็นตกใจเมื่อเขาเล่นเอ่ยจี้จุดกลับ "จะโทษผมไม่ได้นะ รอบนี้พวกมันเล่นผมแรง ๆ กันทั้งนั้น"มันพูดพร้อมทำหน้าเบื่อหน่ายเต็มทน ก่อนจะหยิบเอาซิการ์ราคาแพงระยับบนโต๊ะมาจุดไฟ สูบแบบไม่ได้ขอเขาสักคำ เขามองภาพนั้นพร้อมส่ายหัวเอือมระอา มารยาทมันเสียมาตั้งแต่ไหนแต่ไรจนเริ่มจะชินชากันไปแล้ว "รอบนี้โดนอะไรมาบ้างละ..."เขาถามมันก่อนจะกวาดสายตามองมันทั่วร่างก็ไม่เห็นว่าจะเจอแม้แต่รอยขีดข่วนอะไร "ล่าสุดกราดยิงเข้ามาในห้องทำงานผมที่สาขารังสิต เรียกว่าพังยับทั้งผับเลยดีกว่า ดีที่เล่นงานกันช่วงร้านปิด ไม่งั้นคงสยองขวัญคนทั้งกรุงเทพแน่"พระเพลิงเป่าควันออกจากริมฝีปากแผ่วเบา ก่อนจะยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเหตุการณ์นั้นขึ้นมา อีกฝ่ายเล่นกันแรงขนาดนี้ ไม่คิดถึงตอนโดนเอาคืนบ้างหรอ? ถึงกล้าแหย่กันถึงถิ่นแบบนี้? ชายหนุ่มขมวดคิ้วขึ้นเมื่อได้ฟังน้องชายเล่ามาแบบนั้น.... "แล้วที่ยืนคุยกับกูนี่คือผี?" "เสียใจด้วย....ผมไม่ได้อยู่ในนั้น"พระพลิงหัวเราะออกมากับคำเอ่ยเย้าของพี่ชายตัวเอง เพราะชะลอกำหนดการทุกอย่างจากเดิมทำให้ตอนนั้นตัวเขาอยู่ในรถคันหรูของตัวเองที่จอดห่างจากผับที่เกิดเหตุไม่กี่กิโล ถือว่ารอดตายมาได้เพราะดวงล้วน ๆ และอาทิตย์นี้เขาคงใช้ดวงไปหมดแล้ว "หึ เหลี่ยมเยอะแบบมึง...ไม่ต้องเอาคนเพิ่มหรอก"มันขมวดคิ้วมองมาเหมือนไม่พอใจกับประโยคคำพูดเมื่อกี้ของเขานัก "ผมก็คนมั้ยเฮีย ตายเป็นนะ....นั้นก็ศัตรูฝ่ายเฮียทั้งนั้น" "ไม่มีฝ่ายมึงเลยว่างั้น?.."พระเพลิงชะงักไปเล็กน้อยกับคำพูดนั้นของเขา มันยิ้มพร้อมพยักหน้ารับเบา ๆ "ก็มีบ้าง...."คำว่าก็มีบ้างของมันเชื่อถือได้ที่ไหนกัน นี่คงจะไปลงทุนทับถิ่นใครมาอีกละสิ ถึงได้โดนกราดยิงขนาดนั้น แต่ดูเจ้าตัวจะไม่ทุกข์ร้อนอะไรเท่าไร ถึงยังมีหน้ามายิ้มให้เขาอยู่แบบนี้ นี้คงกะจะมาตะล่อมเอาคนเพิ่มจากเขาเหมือนเคย "กูสั่งให้พี่มึงส่งคนไปเพิ่มให้มึงแล้ว และส่งไอ้เมฆไปดูมึงด้วย พอใจมึงมั้ย?"มันพยักหน้ารับอีกครั้ง ก่อนที่รอยยิ้มบนใบหน้าของมันจะกว้างขึ้นแทบฉีกถึงหู แต่ประโยคต่อมาของมันทำเขาหน้ากระตุกขึ้นมาทันควัน "ผมขอพี่นนท์แทนได้มั้ย" "มึงจะฆ่ากูทางอ้อม?" "อะไรจะขนาดนั้น..."มันพูดขึ้นพร้อมหัวเราะออกมาอย่างขบขำ "เอามันไปก็เหมือนตัดมือตัดตีนกูไปนั่นแหละเพลิง" "ผมละสงสารพี่นนท์จริง ๆ..." "ยังมีหน้ามาพูดนะ...แอบใช้งานคนของกู อย่าคิดว่ากูไม่รู้" "หือ~"มันทำหน้าประหลาดใจเล็กน้อย...ก่อนจะยกรอยยิ้มประจำตัวออกมาอีกครั้ง "ก็พี่นนท์เป็นคนของ 'ศาตนันท์กาล' ไม่ใช่คนของเฮียคนเดียวซะหน่อย เฮียนั่นแหละยืดไปใช้งานคนเดียว" "พูดเหมือนมันเป็นสิ่งของเลยนะมึง" เขาปราดตาเตือนน้องตัวเอง ให้พอรู้ว่าคำพูดบางอย่างที่ไม่ควรพูดก็ให้เก็บปากไว้กินข้าวบ้างก็ได้ เพลิงยักไหล่รับแรงสายตาที่เขาส่งไปแบบไม่สะทกสะท้าน ก่อนจะมองกลับด้วยใบหน้ายิ้มปริ่ม "แล้ว ช่วงนี้เฮียสั่งงานฆ่าบ่อยเหรอ..."เขาชะงักเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้ามองน้องตัวเองอย่าระแวง เมื่ออยู่ ๆ ก็มาสนใจงานของเขาขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย "ไม่.....กูมีศัตรูเยอะ สั่งเก็บแค่ตัวสำคัญเท่านั้นแหละ" เขาตอบกลับมันด้วยแววตาสงสัย "ทำไม...มีอะไรที่กูยังไม่รู้งั้นเหรอ" "ก็ไม่...."มันตอบเขาหน้ายิ้มๆ "ผมอิจฉาเฮียอยากได้แบบพี่นนท์มาช่วยงานทางผมบ้าง ท่าผมไปขอพี่นนท์เอง เจ้าตัวคงปฏิเสธผมไม่ลง" "กูส่งไอ้เมฆไปให้แล้ว...." "เมฆ?.. มือซ้ายเฮียที่ชอบทำหน้าเหม็นเบื่อเฮียอะนะ เก่งเท่าพี่นนท์ผมปะละ" "อย่าดูถูกละ....นั้นมือซ้ายกู" "......ก็ไม่ได้ดูถูก แต่เฮียเอาไว้ใช้งานเองไม่ดีกว่าหรือไง"ได้ชื่อว่ามือซ้าย ก็คงจะมีดีอยู่ที่มันสมอง แต่ถ้ามาอยู่กับเขาจะมีประโยชน์อะไรได้ นอกจากพากัน ฝ่ากระสุนไปวัน ๆ แต่จากที่ได้สังเกตเจ้าตัวมา รูปร่างหน้าตาถือว่าสมบูรณ์แบบ พอเป็นไม้กันหมาให้ได้บ้างไม่มากก็น้อยแหละ "ถ้ามึงหมดธุระแล้วก็ออกไป...กูมีงานมีการต้องทำ" "ครับ ๆ...ว่างก็มาหากันบ้างนะเฮีย" พระเพลิงแหงนหน้ามองพี่ชายตัวเองด้วยรอยยิ้มกริ่ม ก่อนจะลุกออกจากโซฟาช้าๆ แล้วหันมาสบตาพูดกับเขาให้ได้ยินแผ่วเบา "เผื่อได้เปิดหูเปิดตา.." 'กูอยากเจอ' คำ ๆ หนึ่งติดค้างคาใจของเขา แล้วยังคงหาคำตอบนั้นไม่ได้ ถ้าจะให้เดาก็คงมีงานอะไรอยากจะสั่งเพิ่มและสำคัญมากขนาดที่บอกผ่านทางโทรศัพท์ไม่ได้ แต่อะไรบางอย่างในหัวบอกกับเขาว่าไม่ใช่แบบนั้น "(หัวหน้า ได้เวลาแล้วครับ)" ".....กำลังไป" เขาตอบกลับผ่านหูฟังรักษาความปลอดภัย ตอนนี้เขาอยู่ในภารกิจสำคัญบางอย่าง เพื่อนร่วมภารกิจครั้งนี้ได้เตรียมพร้อมทุกอย่างไว้ให้แล้ว เขามีหน้าที่เพียงเดินขึ้นบันไดมาชั้นบนสุดของตึกเท่านั้น ลมเย็น ๆ พัดกระทบเข้าใบหน้าของเขา ก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดเข้าปอด ปลดปล่อยควันกระจายกลางอากาศ ฝืบๆๆๆๆ เขาเงยหน้ามองขึ้นบนฟ้า เมื่อมีเฮลิคอปเตอร์ขนาดเล็กบินข้ามหัวไป ส่งเสียงกังวานสร้างความน่ารำคาญไม่น้อย เขาปล่อยควันออกจากริมฝีปากสวยอีกครั้งอย่างช้า ๆ ก่อนจะดับบุหรี่ในมือ ทิ้งมันลงชั้นล่างของตึกกว่าร้อยชั้น เพื่อทำลายร่องรอยที่จะเหลือต่อจากนี้ "(เป้าหมายเสื้อขาว....พิกัดอยู่ทางทิศเหนือ 90 องศา ตึก 'Heaven welcomes' ชั้นดาดฟ้า จะลงจากเครื่องในอีก 5 นาที เตรียมตัว)" เขาทิ้งตัวลงนอนแนบไปกับพื้นที่เย็นเฉียบ มือทั้งสองข้างประคองอาวุธอันตรายที่มีความยาวกว่าหนึ่งเมตร ตาข้างหนึ่งเล็งเข้าไปในเลนส์กล้องที่สามารถซูมได้ไกลข้ามไปหลายตึก สายตาเล็งไปที่ตึก ๆ หนึ่งที่อยู่ห่างจากตึกที่เขาอยู่ไปประมาณ 5 ตึก เป็นตึกที่มีเฮลิคอปเตอร์ลำที่บินผ่านหัวเขาไปเมื่อกี้ลงจอด เห็นชายชุดสูทสีขาวเดินลงมาท่ามกลางบอดี้การ์ดหลายสิบคน มีไปก็เท่านั้น... ".....เล็งเป้า" ปัง!!!! ลูกกระสุนปักลงกลางศีรษะของเป้าหมาย ฝูงชนแตกตื่นเหมือนมดแตกรัง เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในสายตาของเขา และมันเป็นภาพที่เจอบ่อยจนชินชาไปเสียแล้ว "(ภารกิจสำเร็จ...)" สิ้นเสียงประกาศทางสายข้างหูซ้าย เขาหลับตาลงทั้งสองข้าง พร้อมพูดตอบกลับไปแผ่วเบา... ".....จบงาน"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD